ทำไมคนเราถึงกลัว "อายุ 30" หรือเพราะเรากำลังเผชิญกับ Mid Life Crisis ?

avatar writer
โดย : waranggg
avatar writer19 พ.ย. 2564 avatar writer3.2 K
ทำไมคนเราถึงกลัว "อายุ 30" หรือเพราะเรากำลังเผชิญกับ Mid Life Crisis ?

 

ใช้ชีวิตยังไม่ทันไร แปปๆ ก็จะย่างเข้าสู่อายุ 30 แล้ว ทำไมเวลาถึงหมุนไปเร็วแบบนี้นะ หันไปมองเพื่อนรอบกาย คนนั้นก็แต่งงานแล้ว คนนี้ก็เจริญเติบโตอย่างดีในหน้าที่การงาน คนโน้นก็มีบ้านมีรถ กินหรูอยู่สบาย แล้วตัวชั้นคนนี้ล่ะ มีอะไร ? คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในใจของคนใกล้วัย 30 อย่างพวกเรา อาจจะเป็นเพราะอายุมากขึ้น เวลาเริ่มเหลือน้อยลง จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้ อาจทำให้เรากลัววัย 30 กันอยู่ลึกๆ ในใจก็เป็นไปได้ 

 

อายุ 30 มันก็แค่ตัวเลข ทำไมเราถึงกลัวมันนักนะ ?!

หรือเพราะเรากำลังจะเผชิญกับ Mid Life Crisis

 


 

ทำไมเราถึงกลัวอายุ30-1

 

Mid Life Crisis หรือ วิกฤตชีวิตวัยกลางคน 

 

เป็นคำที่ถูกคิดค้นในปี 1964โดย Elliot Jaques นักจิตวิทยาชาวเยอรมัน  ได้ให้ความหมายของคำนี้ไว้ว่า อาจจะเกิดจากการที่เราเริ่มมีความคิดและตระหนักในเรื่องของความไม่ยั่งยืน ความเป็นความตายที่เราพบเห็นได้จากรอบตัว ทำให้เราเกิดการตั้งคำถามกับตัวเองเพื่อค้นหาสิ่งที่ขาดหายไป และค้นพบตัวเองให้มากขึ้น

 

ในอีกมุมหนึ่งก็สามารถอธิบายได้ว่า Mid Life Crisis อาจจะเกิดจากการที่เรามีเป้าหมาย มีความฝัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงอายุหนึ่ง เรายังไม่สามารถทำตามเป้าหมายหรือความฝันนั้นได้ ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจกับชีวิต เกิดความกดดันว่าทำไมชีวิตยังไม่ประสบความสำเร็จซักทีก็เป็นไปได้เช่นกัน 

 

ทำไมเราถึงกลัวอายุ30-2

 

พออ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่าอายุ 30 เนี่ยยังไม่เข้าวัยกลางคนแบบเต็มตัวเลยนะ นับว่าเป็นวัยรุ่นปลายๆ ก็ยังได้อยู่ จะสามารถเกิด Mid Life Crisis ได้เลยหรอ ก็ต้องขอตอบตรงนี้เลยว่า ได้ซิคะ !

 

นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยค่านิยมของสังคมสมัยนี้ และคำถามจากครอบครัว ญาติผู้ใหญ่หรือคนรอบตัว อย่างเช่น เมื่อไหร่จะเรียนจบบ้างล่ะ, เรียนจบแล้วเมื่อไหร่จะทำงานบ้างล่ะ, จะ 30 แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟน หรือจะแต่งงานเมื่อไหร่ หรือแม้กระทั่งเมื่อไหร่จะซื้อบ้านซื้อรถเป็นของตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็เหมือนการสร้างความกดดันให้คนเราต้องประสบความสำเร็จในช่วงอายุที่น้อยลงทุกวันๆ  จน Mid Life Crisis ที่เราคิดว่าอาจจะเกิดขึ้นกับช่วงวัย 45-60 ปี ที่เป็นวัยกลางคนที่แท้จริง ขยับใกล้เข้ามาหาเราเรื่อยๆ

 

และที่สำคัญ...

ทุกการเปลี่ยนแปลงในชีวิต อาจทำให้เราเผชิญกับ Mid Life crisis ได้ในทุกช่วงวัย

 

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเผชิญกับวิกฤตชีวิตกลางคนไปซะทั้งหมดหรอกนะ ขึ้นอยู่กับมุมมองและความคิดของแต่ละคนด้วยมากกว่า และถึงแม้ว่าเรากำลังจะเผชิญหน้ากับมันอยู่ จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่วิกฤตที่เป็นปัญหาในชีวิตที่ร้ายแรงอะไรเลย 

 

Midlife crisis ไม่ได้มีเพียงข้อเสียเท่านั้นแต่ก็ยังมีข้อดีซ่อนอยู่ด้วย จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Behavioral Development ได้บอกว่า วิกฤตชีวิตวัยกลางคน จะทำให้เราเกิดความสงสัยเกี่ยวกับตัวเอง อยากค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมากขึ้น และยังทำให้บางครั้งเราเปิดใจให้กับแนวคิดใหม่ๆ รวมไปถึงการทำความเข้าใจกับปัญหาได้อย่างลึกซึ้งขึ้นด้วย

 


 

ทำไมเราถึงกลัวอายุ30-4

 

❓ หรือที่เรากลัวอายุ 30 เพราะเรากลัวต้องพบเจอกับความเหงา

 

แต่เอ๊ะ! วัยไหนๆ  ถ้าไม่มีคนข้างกายยังไงก็เหงาได้เหมือนกันไม่ใช่หรอ ซึ่งนั่นก็จริงเราไม่เถียง แต่ความเหงาของเราในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่ยังรวมไปถึง ความเศร้าที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างของความสัมพันธ์ทางสังคมที่ต้องการกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่จริงต่างหาก ที่จะทำให้เราเกิดความอ้างว้างในใจมากกว่าเดิม 

 

จากงานวิจัยของดร. ดิลิป เจสเตอ ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารด้านจิตวิทยาผู้สูงอายุ International Psychogeriatric ได้บอกเอาไว้ว่า ความเหงาจะเกิดกับเราได้ใน 3 ช่วงอายุหลักๆ  ได้แก่ ช่วงอายุ 20 ปลาย, ช่วงอายุ 50 กลางๆ  และช่วงอายุ 80 ปี

 

ในช่วงอายุ 20 ปลายๆ งานวิจัยได้บอกเอาไว้ว่า สิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกอ้างว้างในใจมากกว่าเดิมนั่นก็เป็นเพราะ ช่วงวัย 20 ปลายๆ ที่กำลังจะหมดช่วงวัยรุ่น และกำลังจะย่าง 30 เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เป็นวัยที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญหลายอย่างในชีวิต เราเลยมักจะกลัวว่าสิ่งที่เราได้ตัดสินใจลงไปแล้วมันจะไม่ดี เกิดความรู้สึกกลัวผิดพลาดจากการตัดสินใจของตนเอง และพอมองไปที่เพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน กลับรู้สึกว่าเพื่อนตัดสินใจได้ดีกว่าเรา จึงทำให้เกิดความเครียดและเพิ่มความอ้างว้างในใจให้ทวีคูณไปอีก

 


 

ทำไมเราถึงกลัวอายุ30-3

 

ข้อดีของการก้าวเข้าสู่วัย 30 เราจะแก่แบบไม่นอยด์ไปด้วยกัน !

 

😎  อายุ 30 ทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น 

 

การที่เราใช้ชีวิตมาจนถึงวัยที่จะย่างเข้าเลขสาม ก็เท่ากับว่าเราได้ผ่านโลกมาประมาณหนึ่งแล้ว การมองโลกและมุมมองต่อเรื่องราวต่างๆ ของเราก็ยิ่งมากขึ้นตามประสบการณ์ของแต่ละคน อะไรที่เราคิดว่ามันน่ากลัว ก็อาจจะไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว หนังที่ตอนเด็กๆ เคยดูแล้วไม่เข้าใจ ไม่เก็ทว่าหนังต้องการจะสื่ออะไร ถ้านำกลับมานั่งดูใหม่ในตอนนี้ เราอาจจะเข้าใจสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารอย่างชัดเจนแจ้มแจ่งเลยก็ได้นะ 

 

😎 อายุ 30 อาจทำให้เห็นตัวตนที่ชัดเจนขึ้น 

 

แน่นอนว่าพอเริ่มโตขึ้นเราจะเริ่มหันมาโฟกัสกับตัวเองมากขึ้น สนใจเรื่องของผู้คนรอบข้างน้อยลง หรือไม่แยแสกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง (เพราะลำพังเรื่องของตัวเองก็ปวดหัวมากพออยู่แล้วยังไงล่ะ) รวมไปถึงการไม่สนใจกับสิ่งที่คนภายนอกจะมองเข้ามาว่าเราจะเป็นยังไง คือเรียกง่ายๆ ว่าเริ่มจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นนั่นแหละ นอกจากจะได้ค้นพบตัวตนที่ชัดเจนขึ้นแล้ว การที่เราเป็นตัวเองเนี่ยแหละ ทำให้คนวัย 30 ดูมีสเน่ห์ในแบบของตัวเองเป็นที่สุด

 

😎 อายุ 30 คือช่วงเวลาแห่งความสวยแซ่บ

 

ก็จริงอยู่ว่าที่สังขารคนเรานั้นไม่เที่ยง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายมันก็ต้องร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่! มันก็ยังไม่ได้แก่ลงขนาดนั้นซักหน่อยนี่เนอะ เราว่าวัย 30 เนี่ยคือวัยแห่งความแซ่บ วัยแห่งความสวยสะพรั่งของสาวๆ เลยล่ะ เหมือนคำพูดที่ว่าผู้หญิงจะสวยที่สุดในช่วงอายุ 30 นั่นก็เพราะว่าผิวพรรณร่างกายเราอาจจะไม่ได้ฟิตเหมือนตอนช่วงอายุ 20 แล้ว เราเลยต้องหันมาใส่ใจดูแลตัวเองและสุขภาพมากขึ้น

 

บอกแล้วว่า 30 ก็แค่ตัวเลข ก็ไม่ได้กลัวเท่าไหร่หรอกนะ เราก็ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นเรานี่แหละ ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลย ทำตามความฝันแบบค่อยเป็นค่อยไป เดินไปทีละก้าวพร้อมความสบายใจและไม่ต้องกดดันตัวเอง ดีกว่าตั้งเยอะ!

 


 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : voathai.com, wellsanfrancisco.com, verywellmind.com

แสดงความคิดเห็น