Marigold ร้านอาหารใต้(แท้ๆ) ใจกลางอารีย์

MARIGOLD หรือเรียกเป็นชื่อไทยแสนเก๋ว่านางดาวเรือง ร้านอาหารใต้ต้นตำรับดั้งเดิมจากสมุยแท้ๆ ยกมา(รสชาติ)จัดจ้านใจกลางอารีย์ เป็นอีกร้านที่เหมาะมากถ้ามากันทั้งครอบครัว นัดแก๊งค์เพื่อนสังสรรค์ หรือนัดเดท...เราว่าเวิร์ค!

Marigold อยู่โซนทางขวาของ Josh Hotel โรงแรมสุดชิคกลางอารีย์ ที่นี่เราชอบความมีสตอรี่ในทุกๆ มุมของเค้ามาก ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นแค่ที่พัก แต่เค้ามีตัวตนจริงๆ ทำให้อยากไปค้นหาต่ออีกว่าที่นี่เค้ายังมีอะไรให้เราได้รู้อีกมั้ยนะ?

อย่างตัวร้านอาหารที่เราจะพาไปวันนี้ ก็ตั้งชื่อตามสาวใต้ที่ Mr.Josh ตกหลุมรัก (ชื่อสมมติที่มีคาแรคเตอร์เป็นนักเดินทางชาวต่างชาติ) และมีอีกความหมายซ่อนอยู่ คือช่วงที่โรงแรมเปิดให้เข้าพัก เป็นเดือนธันวาคม ปี 60 ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยร่วมใจกันปลูกดอกดาวเรือง ทางร้านเลยถือเป็นสัญลักษณ์ระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9

การตกแต่งของทางร้านคือลืมความคิดแรกที่นึกถึงว่าร้านอาหารไทยจะเป็นแบบโบราณๆ ไปได้เลย เพราะที่นี่เค้ามีการตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างความวินเทจยุค 80s และความโมเดิร์น ด้วยการเลือกทาผนังแบบปูนเปลือย ใช้เก้าอี้แบบนั่งสบายๆ อย่างโซฟา เก้าอี้หวาย มีของตกแต่งน่ารักๆ เช่น กรอบรูปชายทะเล ผ้าม่านลายขวางฟ้าอ่อน ฯลฯ  รวมไปถึงการจัดแสงภายในร้าน ทำให้ดูอบอุ่นเหมือนกับนั่งกินข้าวชิลๆ อยู่ที่บ้าน

รสชาติของนางดาวเรือง

จุดเด่นรสชาติอาหารใต้ของที่นี่ มีความเผ็ดเปรี้ยวเค็มหวาน เรียกว่าครบทุกรสและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะทุกเมนูเป็นสูตรลับเฉพาะ! แถมมีการครีเอทกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเข้าไปอีก อย่างเมนูแกงเลียงใส่กะทิ (ปกติจะเคยกินแต่แบบน้ำใสกันใช่มั้ยล่ะ) คือน่าลองมากก แถมวัตถุดิบที่ร้านเลือกใช้อย่าง พริกแกง, ผักพื้นบ้าน ฯลฯ ก็เดินทางส่งตรงมาจากสมุยกันเลย แสดงถึงความใส่ใจและละเมียดละไมเป็นที่สุด

Punpro Trick : ทางร้านแนะนำเรามาว่า ให้ลองสั่งแบบบาลานซ์เมนู ประมาณว่ามีเผ็ดแล้วก็ต้องมีหวานด้วย เพื่อให้รสชาติไม่หนักไปที่รสใดรสหนึ่ง ความอร่อยก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเลย  :)

เมนูแรกมาเริ่มกันที่ ชุดขนมจีนน้ำยาปูใบชะพลู (ราคา 280.-) ที่มีส่วนผสมของกะปิเคยปลาผสมกับเครื่องแกง และเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีกด้วยการใส่เนื้อปลาทูเพื่อให้ตัวน้ำยามีความเข้มข้น พร้อมด้วยเครื่องเคียงเป็น มะละกอดอง ให้รสเปรี้ยวหวาน ไว้กินตัดกับความเผ็ด แถมผักเอกลักษณ์ของทางใต้อย่างใบเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ยอดเสม็ดแดง ฯลฯ ก็ถูกจัดใส่จานใหญ่มาเสิร์ฟแบบเน้นๆ กันในชุดนี้ด้วยนะ

ต่อด้วยความจัดจ้านของ คั่วกลิ้งหมู (ราคา 180.-) เมนูซิกเนเจอร์ของทางใต้ เวลากินเราแนะนำให้กินพร้อมกับพริกไทยอ่อน เพราะมีความหอมและเข้ากันได้แบบว้าวมาก

ไข่พะโล้หมูหวานหัวไชเท้า (ราคา 190.-) เมนูทานง่าย ทานเพลิน(จนหมด)แบบไม่รู้ตัว ด้วยความหวานกลมกล่อมจากหัวไชเท้า และความนุ่มละมุนของหมูหวานสามชั้นที่ถูกต้มจนเปื่อย เป็นเมนูที่เราขอออกตัวเลยว่าต้องสั่ง! เพราะช่วยดับความเผ็ดร้อนของ 2 เมนูก่อนหน้าได้ดีมากๆ

สวัสดีนักดื่ม

หลังจากกินมื้อหนักจนอิ่มท้องแล้ว ก็ต้องแวะ Pool Bar อีกมุมไฮไลท์รูปแบบสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งชิลที่ริมหาดสมุย แถมมาแล้วรับรองได้รูปลงไอจีอีกเป็นสิบเลยล่ะ เพราะนอกจากมุมจะสวยแล้ว ยังมีการใช้โทนสีแบบ Wes Anderson (ผู้กำกับหนังชื่อดัง The Grand Budapest Hotel,2014 ) ให้ความสบายตา สบายใจ ดูสนุกและผ่อนคลาย ที่สำคัญบรรยากาศเหมาะมานั่งจิบค็อกเทลเพลินๆ กับแก๊งค์เพื่อนหรือคนรู้ใจช่วงเย็นมากๆ

เมนูซิกเนเจอร์น้องใหม่ของ Marigold อย่าง Tropical Samui (ราคา 150.-) ก็สามารถสั่งมานั่งชิลตรง Pool Bar ได้ด้วยนะ ตัวนี้เป็นน้ำม็อกเทล ที่มีการเอากะทิมาเป็นส่วนประกอบ ดูเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่บอกเลยว่ารสชาติดีมาก ให้ความแปลกใหม่ สามารถดื่มได้เรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีคือหมดแก้วแล้ว! 

หรือจะเป็นเมนูดื่มง่ายแบบสายเฮลตี้  Sunrise (ราคา 160.-)  น้ำผลไม้แบบ Cold press (ผลไม้สดสกัดเย็น) มีส่วนผสมของ แครอท, เสาวรส, สัปปะรด รสชาติดื่มง่าย เหมาะกับฟีลอยากสุขภาพดีก่อนกลับบ้านซะหน่อย~

ใครจะไปรู้ว่าโรงแรมไซซ์เล็กอย่าง Josh Hotel จะมีอะไรน่าสนใจให้มาตามฮ็อปปิ้งได้เยอะขนาดนี้! วันหยุดยาวช่วงนี้ไม่รู้จะไปไหน แนะนำให้มาที่นี่เลย ครบทุกอย่างที่เราต้องการในวันหยุด :P

[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d3874.9192406805387!2d100.54172351483084!3d13.783741790326767!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x0%3A0xf91124653d5f46d8!2sMarigold!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1543936092558&w=600&h=450]