LUSH Cosmetics แบรนด์ออแกนิกจากอังกฤษ ที่ทำให้การอาบน้ำแป๊บไม่มีอยู่จริง
โดย : wacheese
🫧
เชื่อว่าบรรดาสาว ๆ ที่ชอบสิงร่างอยู่ในห้องน้ำแบบนานสองนาน คงอดใจไม่ไหวเวลาเดินผ่านร้าน LUSH Cosmetics ที่เต็มไปด้วย Bath Bomb สีสันสดใสสะดุดตา แถมดีไซน์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร จนเผลอใจซื้อกลับบ้านไปแช่ตัวแทบทุกครั้ง แต่รู้ไหมว่า ลัชเจ้าของแบรนด์บาธบอมบ์ที่ยืนหนึ่งในดวงใจ มีจุดเริ่มต้นมาจากร้านเล็ก ๆ เท่านั้น
LUSH Cosmetics แบรนด์ออแกนิกจากเกาะอังกฤษ
LUSH Cosmetics มีจุดเริ่มต้นมาจากร้านเล็ก ๆ ในเมือง Poole ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี 1995 ก่อตั้งโดย Mo Constantine, Mark Constantine, Rowena Bird, Helen Ambrosen, Liz Bennett และ Paul Greeves ลัชมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากมาย ทั้งสบู่ แชมพู น้ำหอม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ครีมทาผิว หรือ Bath Bomb กลิ่นหอมฟุ้งที่ขึ้นแท่นเป็นยาสามัญประจำอ่างอาบน้ำ
LUSH Cosmetics ปลดเปลื้อง ไร้บรรจุภัณฑ์
ลัชชูจุดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ Naked Products อย่างสบู่ แชมพูบาร์, ลิปสติก, บาธบอมบ์, บับเบิลบาร์, มาสสาจบาร์, หรือเฮนน่า (สีย้อมผม) ที่เป็นสินค้าเปลือยไร้บรรจุภัณฑ์ ซึ่งการไม่มีสิ่งห่อหุ้ม ถือเป็นข้อดีที่ทำให้ทางแบรนด์สามารถลดขยะ ลดการใช้พลาสติก ลดค่าใช้จ่ายในการทำฉลาก ขวด หรือฝาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าตัวสินค้าจริงมากถึง 2 เท่า แต่กลับกัน LUSH ได้นำต้นทุนส่วนนี้ไปลงทุนในการซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงแทน ถือเป็นนโยบายที่ดีต่อโลก และตัวลูกค้าที่ได้ของคุณภาพดีกลับไป
LUSH Cosmetics วีแกนตั้งแต่หัวจรดเท้า
ลัชเป็นอีกแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ต่อต้านการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ ลดขยะ และอาจเรียกได้ว่า เป็นมังสวิรัติ 100% และวีแกน เพราะใช้ส่วนผสมสดใหม่จากธรรมชาติ ไม่ใช้ไขมันสัตว์ และไม่ใช้ส่วนผสมจากไข่ไก่ ซึ่งผลิตภัณฑ์วีแกนของทางแบรนด์ไม่ได้มีแค่ 2-3 ประเภท หรือทำตามกระแสรักษ์โลกเท่านั้น แต่มีครบตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งแชมพู สบู่อาบน้ำ บาธบอมบ์ ครีมบำรุงผิว น้ำหอม ไปจนถึงเครื่องสำอาง ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ
นอกจากจะใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว LUSH ยังให้ความสำคัญในการใช้โซเชียลมีเดีย โดยในปี 2021 ได้หยุดการใช้งานโซเชียล ทั้ง Facebook, Instagram, Snapchat และ TikTok ที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ ที่แบรนด์ยอมสูญเสียรายได้กว่า 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 464 ล้านบาท และยอมเสียผู้ติดตามมากถึง 10 ล้านคนด้วย สำหรับลัช ประเทศไทย เหลือช่องทางโซเชียลออฟฟิเชียล คือ LINE, Twitter และ YouTube
LUSH Perfume Library สาขาแรกในไทย
ปัจจุบันลัชมีสาขามากกว่า 950 แห่งใน 50 ประเทศทั่วโลก โดยมีสาขาในไทยทั้งหมด 10 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, สยาม เซ็นเตอร์, เมกาบางนา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์, ไอคอนสยาม, เทอร์มินอล 21 อโศก, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, เทอร์มินัล 21 พัทยา, เซ็นทรัล ภูเก็ตฟลอเรสต้า และเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ล่าสุด! เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา ลัชได้เปิดตัว LUSH Perfume Library ห้องสมุดน้ำหอมสาขาแรกในไทย ยังเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งที่ 9 ของโลก ที่สยาม เซ็นเตอร์
สำหรับ LUSH Perfume Library เป็นพื้นที่จัดแสดงน้ำหอมคอลเลกชันพิเศษที่จะมีวางขายเพียง 9 ร้านจากทั่วโลก ทั้งน้ำหอมกว่า 43 กลิ่น สเปรย์น้ำหอมอเนกประสงค์ 15 กลิ่น เทียนหอมระเหย น้ำหอมแห้ง และเครื่องหอมในบ้านที่ใช้ในอ่างอาบน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมคอยให้คำปรึกษา สำหรับใครที่กำลังตามหากลิ่นน้ำหอมในแบบที่เป็นตัวเองด้วย
แม้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ LUSH จะไม่มีถุงหุ้ม แต่แบรนด์กลับสร้างยอดขายได้มากถึง 836 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 36,945 ล้านบาท สิ่งที่ทำให้ลัชครองใจคนทั่วโลกมาตลอด 28 ปี อาจมาจากการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความหอมฟุ้งของผลิตภัณฑ์ จนไปถึงการเป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดด้วย เรียกได้ว่าสมกับเป็นเจ้าของฉายา ที่ทำให้การอาบน้ำแป๊บไม่มีอยู่จริงเลยทีเดียว
*ข้อมูลยอดขาย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2022
🔗 ข้อมูลอ้างอิง : https://ppro.onl/sx73tedv, https://ppro.onl/mr2eca7a, https://ppro.onl/3tma9hz8, https://ppro.onl/2zd9fbn7
โดย wacheese
[email protected] :)