"พิลาทิส vs. โยคะ" ความเหมือนที่แตกต่าง อยากสร้าง Eleven Line สุดเซ็กซี่ เล่นอันไหนดี ?
โดย : waranggg
อยากเข้าวงการออกกำลังกาย แต่ไม่ใช่สายใช้พลังอย่างบ้าคลั่ง ไม่ถนัดเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงกระแทกเยอะ มองๆ พิลาทิส กับ โยคะ ไว้เป็นทางเลือก แต่ก็อดมีความสงสัยและลังเลใจไม่น้อยว่าควรจะเลือกเล่นอันไหนดี สาวๆ หลายคนอาจจะคิดว่าการออกกำลังกายทั้ง 2 ชนิดนี้ มีท่าบริหารคล้ายๆ กัน ต้องควบคุมการหายใจเหมือนกัน เล่นอันไหนก็ได้ ไม่น่าจะแตกต่างกันมากหรือเปล่า แต่คุณกำลังคิดผิด !!
จริงๆ พิลาทิสและโยคะนั้นมีข้อแตกต่างกันอยู่หลายจุดเลยล่ะ มาหาคำตอบไปพร้อมกัน แล้วเลือกเล่นให้ตรงสภาพร่างกายและความต้องการของเรากันเถอะ !
พิลาทิส การออกกำลังกายที่เน้นการ "สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง"
พิลาทิส เป็นการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่สาวๆ ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Joseph Hubertus Pilates และได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในช่วงที่ Pilates ยังเป็นทหารประจำการอยู่ในค่ายกักกัน เพื่อเป็นท่าสำหรับทำกายภาพบำบัดให้กับเหล่าทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม ฟื้นฟูสภาพร่างกายและกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลงจากการนอนติดเตียง ให้กล้ามเนื้อกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
❤️ จุดเด่นของพิลาทิส
พิลาทิสเป็นการออกกำลังกาย ที่โฟกัสไปที่กล้ามเนื้อแกนกลางของร่างกาย เน้นการสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหวของร่างกาย ประโยชน์ของพิลาทิสที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือ เล่นแล้วช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือคลายความเมื่อยล้าได้ จึงเป็นการออกกำลังกายที่คนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังอย่าง ออฟฟิศซินโดรม นิยมเล่นกันเพื่อบำบัดอาการปวดนั่นเอง
จุดเด่นสำคัญอีกหนึ่งอย่างของการเล่นพิลาทิส คือ การควบคุมลมหายใจ ฟังดูเหมือนจะคล้ายกับการเล่นโยคะที่ต้องควบคุมการหายใจเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วการควบคุมการหายใจของการออกกำลังกายทั้ง 2 แบบแตกต่างกันอย่างชัดเจน พิลาทิสจะหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปาก โดยระหว่างการฝึกต้องเกร็งหน้าท้องไว้ตลอดเวลา ข้อดีของการควบคุมลมหายใจเช่นนี้ นอกจากจะช่วยให้เราได้มีสมาธิจดจ่อกับการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นตัวส่งให้ร่างกายเคลื่อนไหวในแต่ละท่าได้ดีมากยิ่งขึ้น
❤️ อุปกรณ์สำหรับฝึกพิลาทิส
ความจริงแล้วมีเพียง เสื่อโยคะ ใบเดียวก็สามารถเล่นได้แล้ว เพราะท่าพิลาทิสดั้งเดิมที่ Joseph Pilates ได้คิดไว้ มีเพียงแค่ 34 ท่าเท่านั้น ในภายหลังพิลาทิสได้ถูกนำไปประยุกต์มากมาย จนเกิดเป็นพิลาทิสให้เลือกเล่นหลากหลายรูปแบบ มีการเพิ่มอุปกรณ์ในการเล่นมากขึ้น ไม่ว่าจะ ห่วงพิลาทิส ลูกบอล เครื่องรีฟอร์มเมอร์ และเตียงคาดิแลค เพื่อเพิ่มความแอดวานซ์ในแต่ละท่าทางมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเลือกเล่นพิลาทิสแบบไหน ในช่วงแรกของระยะเริ่มเล่น อาจจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเล่นให้ถูกท่าทางและถูกหลักของพิลาทิสก่อนเสมอ
❤️ พิลาทิส เหมาะกับใคร ?
พิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่ เหมาะกับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะกับคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือคนที่ต้องทำกายภาพบำบัดเท่านั้น แต่เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากจะสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เราจะเห็นได้ว่าไอดอลเกาหลี หรือแม้แต่นักกีฬาหลายๆ คน ที่ต้องออกกำลังกันเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เลือกเล่นพิลาทิสเป็นการออกกำลังกายเสริมอีกทางหนึ่งเพราะต้องการสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อนั่นเอง
โยคะ เน้น "ฝึกจิตใจ" ให้เป็นองค์รวมกับร่างกาย
โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สันนิษฐานกันว่าโยคะเป็นศาสตร์ความรู้โบราณ มีต้นกำเนิดมาจากทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ตั้งแต่ 5,000 ปีที่แล้ว เป็นศาสตร์ที่มีความผูกพันอยู่กับปรัชญาและศาสนาฮินดู จะเห็นได้จากรากคำศัพท์ของคำว่าโยคะ ที่มาจากคำว่า ยุจ แปลว่า รวมหรือองค์รวม
❤️ จุดเด่นของโยคะ
โยคะ คือ การสร้างสมดุลให้จิตใจและร่างกายเป็นหนึ่งเดียว เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะช่วยฝึกจิต ฝึกสมาธิ และร่างกายให้จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก การเล่นโยคะมีหัวใจหลักในการฝึกอยู่ทั้งหมด 3 ข้อ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ พร้อมจดจ่อสมาธิไปกับการเคลื่อนไหว และต้องมีจิตที่สงบนิ่งในขณะเคลื่อนไหวทุกท่วงท่า
ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง โยคะเป็นเหมือนการหาสมดุลของชีวิตมากกว่าการออกกำลังกาย เน้นการฝึกจิตและสมาธิให้จดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะฉะนั้นการควบคุมลมหายใจเข้าออกระหว่างฝึกจึงมีความสำคัญมากๆ การควบคุมลมหายใจของโยคะจะแตกต่างจากพิลาทิส คือ โยคะจะหายใจเข้า - ออกผ่านทางจมูกเท่านั้น หลักการที่ถูกต้อง คือ หายใจเข้า-ท้องป่อง หายใจออก-ท้องแฟบ โดยต้องหายใจให้สอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกับท่าฝึกแต่ละท่าด้วย
❤️ ประโยชน์ของการเล่นโยคะ
นอกจากจะได้ฝึกจิตและสมาธิให้แน่วแน่แล้ว การเล่นโยคะยังส่งผลกับการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อด้วย เพราะท่าบริหารของโยคะเป็นท่าในลักษณะยืดและเหยียด จึงช่วยคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อได้ดี ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ และยังช่วยสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับผู้เล่นได้อีกด้วย
❤️ สำหรับอุปกรณ์ฝึกโยคะ
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี คือ เสื่อโยคะ สามารถหาได้ง่ายและสะดวก ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ มีแค่เสื่อผืนเดียวก็สามารถเล่นได้แล้ว เช่นเดียวกับพิลาทิสเลย หรือถ้าหากว่าอยากเพิ่มความสนุกหรือความแอดวานซ์มากกว่าเดิมก็อาจจะเลือกเล่นโยคะประยุกต์ที่มีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามาอย่างเช่น ลูกบอลโยคะ ใช้เชือก หรือเล่นกับผ้าแบบโยคะฟลายก็ได้เช่นกัน
❤️ โยคะ เหมาะกับใคร ?
โยคะก็เป็นการออกกำลังกายอีกชนิดที่สามารถ เล่นได้ทุกเพศทุกวัย เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้แรงกระแทกหรือเคลื่อนไหวร่างกายมาก เหมาะกับคนที่ต้องการฝึกสมาธิให้จดจ่อกับเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้น อยากบำบัดจิตใจและอยากออกกำลังกายไปในตัว ฝึกคนเดียวเงียบๆ ไม่อะไรกับใคร การเล่นโยคะถือว่าเป็นอีกตัวที่ตอบโจทย์อยู่นะ
"พิลาทิส vs. โยคะ" เลือกเล่นแบบไหนดีนะ ?
บอกเลยว่าทั้งพิลาทิสและโยคะเป็นตัวเลือกที่สูสีกันมาก เราไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะทั้งคู่เล่นแล้วล้วนส่งผลดีกับผู้เล่นทั้งนั้น อาจจะต้องให้ความชอบหรือข้อจำกัดส่วนตัวของแต่ละตัวเป็นข้อตัดสิน...
- ถ้าอยากให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ดูเฟิร์มขึ้น หรือ อยากปั้นหน้าท้องให้ขึ้น Six-Pack หรือ Eleven Line สุดเซ็กซี่ ส่วนตัวมองว่าพิลาทิสจะตอบโจทย์กว่า
- แต่ถ้าหากว่าอยากยืดเส้นยืดสาย เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ และคลายความเครียดจากงานระหว่างวัน แต่ไม่ต้องการให้กล้ามเนื้อขึ้นเป็นลายเส้นอย่างชัดเจน ก็ไปทางโยคะกันได้เลย
❤️ บทความที่เกี่ยวข้อง
- พิลาทิส ตัวช่วยปั้นหุ่นให้สวยสับ แถมแก้ปวดหลัง-ออฟฟิศซินโดรม
- เปิด 8 คลิปโยคะบำบัด สุขภาพดีสร้างได้ที่บ้าน!!
- 10 ท่าออกกำลังกาย แก้หลังค่อม เสริมบุคลิกให้ดียิ่งขึ้น!!
- ออฟฟิศซินโดรมโรคฮิตวัยทำงาน เป็นแล้วรักษาได้!
ขอบคุณข้อมูลจาก : thaicam.go.th, samitivejhospitals.com, rushreform.com, wefitnesssociety.com
โดย waranggg
thaitealism