ไฟป่า ตัวการทำค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงจนแดงแจ๋ไปครึ่งประเทศ!

 

 

‘PM 2.5’ ปัญหาระดับชาติที่หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แล้วฝุ่นร้ายพวกนี้ก็มีอยู่ทุกที่ ชนิดที่ว่าค่าฝุ่นขึ้นสีแดง (สภาพอากาศไม่ดีต่อสุขภาพ) เกือบทั้งแผ่นดิน จนต้องคอยใส่แมสก์ป้องกันแบบไม่มีเว้นวัน เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันว่า ฝุ่นที่มีขนาดเล็กจนแทบจะมองไม่เห็นเกิดขึ้นมาจากอะไร ? แล้วมีทางไหนที่พอจะแก้ไขเรื่องนี้ได้บ้าง

 

---

PM 2.5 เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง ?

😷 

 

นอกจาก PM 2.5 จะเกิดจากควันรถยนต์ ที่ใช้น้ำมันไม่ได้คุณภาพ หรือการก่อสร้างอาคารตั่งต่างแล้ว ยังเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราด้วย อย่างการทำอาหารด้วยเตาถ่าน การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เราใส่ ก็ทำให้เกิดฝุ่นได้ เพราะข้อมูลจาก “Loopers” แพลตฟอร์มเสื้อผ้ามือสองบอกว่า ส่วนมากเสื้อผ้าพวกนี้จะมีส่วนผสมของผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่เวลาเผาทำลายจะทำให้เกิดฝุ่นมลพิษได้เช่นกัน 

 

แล้วพอพูดถึงการเผาไหม้ จะไม่เอ่ยถึงปัญหาการเกิด “ไฟป่า” ก็คงจะไม่ได้ เพราะนี่เป็นสาเหตุหลักของการเกิด PM 2.5 ที่ทำเอาคนไทยป่วยไม่เว้นวันทั้ง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคเยื่อบุตาอักเสบ เป็นต้น เอาแค่ ม.ค. 68 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยจาก PM 2.5 มากถึง 5 แสนคนไปแล้ว! (ข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ สาธารณสุข)

 

 

---

 ไฟป่าเกิดจากอะไรล่ะ ?

🔥 🔥 

 

ในส่วนต้นเหตุของการเกิดไฟป่า ขอไล่เรียงไปทีละข้อ ตามนี้เลย…

 

1. เผาหน้าดินเพื่อทำการเกษตร 
2. เผาขยะตามบ้านเรือน
3. ลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และหาของป่า
4. ทิ้งก้นบุหรี่ที่ดับไม่สนิทบนพื้น ที่มีพวกใบไม้ใบหญ้า
5. การเสียดสีกันเองตามธรรมชาติของกิ่งไม้
6. การระเบิดของภูเขาไฟ 
7. ฟ้าผ่า

 

จะเห็นว่าเป็นฝีมือมนุษย์ไปแล้วกว่าครึ่ง แต่ที่ทำเอาอึ้งพอตัวก็คงเป็นข้อมูลจากปี 2567 ของ “มูลนิธิสืบนาคะเสถียร” ได้เน้นตัวหนา ๆ เอาไว้ว่า มนุษย์ได้จุดไฟเพื่อที่จะเข้าไปหาของป่าถึงร้อยละ 62.20! เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงเอาเรื่องเลยนะ

 

 

---

ไฟป่าสร้างสถิติอะไรไว้บ้าง ?

🔥

 

โดยปกติแล้ว ฤดูไฟป่าของไทยจะเป็นช่วง ม.ค. - พ.ค. เป็น 4-5 เดือนที่ทำให้เกิดความเสียหาย ได้มากถึง 177,825 ไร่ หลายคนอาจจะมองว่า ไทยมีพื้นที่มากถึง 321 ล้านไร่ ไฟไหม้ไปแค่นี้ จะทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นได้จริงหรอ ? คำตอบคือ…ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นได้จริงและเยอะมากด้วย เพราะสรุปข้อมูลจากกรมประชาสัมพันธ์บอกว่า ไฟป่าปี 2567 ทำให้ฝุ่น PM 2.5 ทางภาคเหนือเพิ่มขึ้นได้มากถึง 6 เท่า! จากปี 2566 

 

และในส่วนของปี 2568 เพิ่งผ่านไปแค่ 4 เดือน แต่ไทยพบจุดความร้อน จากไฟป่าไปแล้วกว่า 56,000 จุด มีพื้นที่ถูกไฟไหม้ไปแล้ว 162,174.23 ไร่ หลัก ๆ จะเป็นโซนภาคเหนือ เอาแค่แม่ฮ่องสอนที่เดียว ก็พบความร้อนสะสมมากถึง 4,000 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 68) นี่ยังไม่รวมกับที่เชียงใหม่และลำปาง ที่ไฟป่ากำลังโหมอยู่ตอนนี้ด้วยนะ แล้วถ้าดูข้อมูลใน Air4Thai (ข้อมูล ณ วันที่ 4 เม.ย. 68) จะพบว่าเกิดไฟป่าแค่ไม่กี่จังหวัด ก็ทำให้ไทยมีค่าฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่เกินมาตรฐาน (มาตรฐานต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) ถึง 40 จังหวัด ยิ่งถ้าเป็นจุดที่เกิดไฟป่า ค่าฝุ่นจะอยู่ในเกณฑ์อันตรายกับสุขภาพเลยทีเดียว 

 

 

---

 

คำถามต่อมา จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ? แน่นอนว่าปัญหาระดับชาติขนาดนี้ ภาครัฐจะต้องหาแนวทางแก้ไขดับไฟหน้างานที่เกิดเหตุให้ได้ แล้วก็ต้องหาทางป้องกันไฟป่า ที่จะมาตามนัดทุกปีอยู่แบบนี้ ในส่วนของพวกเราก็ช่วยลดปัญหานี้ได้นะ ง่ายที่สุดเลยก็คือ “ลดการเผาทุกประเภท” “หันมาใช้ขนส่งสาธารณะในการเดินทาง” อย่างน้อยก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดีนะ ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

 

ส่วนเรื่องการเผาป่า เราว่าควรจะมีหน่วยงานลงไปพื้นที่จริง ในการให้ความรู้ชาวบ้าน ว่าจะมีวิธีไหนบ้างในการทำหน้าดินการเกษตร แบบที่ไม่ต้องเผา และต้องมีมาตรการที่จริงจังสำหรับคนที่เผาป่าด้วย แล้วถ้าใครพบเห็นไฟป่า ก็โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่เบอร์ 1362 ได้ตลอด 24 ชม. เลยนะ อีกเรื่องที่อยากแนะนำคือ ไทยควรมีพวกแอปพลิเคชันรายงานค่าฝุ่นติดโทรศัพท์ไว้ด้วยนะ เพราะถ้าช่วงไหนที่มีค่าฝุ่นสูง จะได้หยิบหน้ากากอนามัยมาใส่ทันที เป็นอีกวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยรักษาสุขภาพของเรา ได้ดีที่สุดแล้วในตอนนี้