นอนดึกแก้แค้น! ง่วงแต่ไม่ยอมนอน พฤติกรรมแบบนี้คืออะไร มีผลเสียยังไง?

ช่วงนี้มีใครกำลังเป็นมั้ย...ที่เวลากลางคืนมาถึงทีไร ก็จะไม่ยอมนอนทุกที ทั้ง ๆ ที่ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ถึงเวลาจะนอนเท่านั้นแหละ ก็ขอใช้ชีวิตสักหน่อย หาอะไรทำไปเรื่อย รู้มั้ยว่าจริง ๆ แล้ว พฤติกรรมเหล่านี้เค้ามีชื่อเรียกด้วยนะ และยังมีผลเสียด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง วันนี้เราจะมาเล่าให้ทุกคนฟังกัน

นอนดึกแก้แค้น...พฤติกรรมกลางคืนไม่ยอมนอน 😔 

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าจริง ๆ แล้ว พฤติกรรมง่วงแต่ไม่นอน เหนื่อยก็ไม่หลับ ขอใช้ชีวิตเวลากลางคืนหน่อยละกัน เค้ามีชื่อเรียกว่า “การนอนดึกเพื่อล้างแค้น ภาษาอังกฤษเรียก Revenge Bedtime Procrastination” หรือจะเรียกว่า Bedtime Procrastination ก็ได้ครับ แล้วพฤติกรรมนี้เป็นการศึกษาของ Dr. Floor Kroese นักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งบอกก่อนว่าเค้าไม่ใช่โรคนะ เป็นแค่พฤติกรรมเท่านั้น

เช็กหน่อยเราเป็นอยู่รึเปล่า 🤔

อย่างแรกเลยนะถ้าตอนกลางวันทำงานมาทั้งวัน ไม่มีเวลาพัก จนทำให้รู้สึกเหนื่อย เครียดกับงานในทุก ๆ วันวนลูปไปเรื่อย ๆ จนต้องมาใช้เวลาตอนกลางคืน (ที่เราควรจะนอน) หากิจกรรมต่าง ๆ ทำเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น หาความสุขจากสิ่งที่ชอบ มาทดแทนความเครียดที่มี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง/ซีรีส์ ตั่งต่าง ไปเจอเพื่อนไปหาอะไรกิน หรือหาอะไรทำที่เราชอบ เพื่อหวังว่าจะคลายเครียดได้บ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ควรกระทบการนอนน่ะสิ

แต่ก็จะมีอีกโรคหนึ่งนะที่จะมีพฤติกรรมบางอย่างคล้าย ๆ กันนั่นคือ “โรคร่าเริง (Lychnobite)” ซึ่งในความเหมือนก็ยังมีความต่างนะ เพราะโรคร่าเริงกลางวันจะนอนยาว ๆ ไม่ยอมตื่นจนทำให้ตื่นสายมาก! และจะเริ่มใช้ชีวิตในเวลากลางคืน (เป็นมนุษย์นกฮูกไปแล้ว) คือบางคนอาจจะชอบทำงานเวลากลางคืน เพราะรู้สึกว่าสมองแล่นมากกว่า คิดงานได้ดีกว่านั่นเองฮะ อย่างชาวฟรีแลนซ์นี่จะเป็นกันเยอะเลย ซึ่งจะต่างกับ Revenge Bedtime Procrastination ตรงที่กลางวันก็ไม่ได้นอน กลางคืนก็ยังไม่ยอมนอนอีกนี่แหละ!

มีผลเสียยังไงบ้าง

บอกเลยว่าการอดนอนตอนกลางคืนเนี่ย มีผลเสียหลายอย่างมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น 

1. รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรง เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้
2. ภูมิคุ้มกันลดลง อาจจะทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้น สุขภาพไม่แข็งแรง
3. มีอาการสมองเบลอ คือเวลาคิดอะไรก็จะช้าลง จำอะไรก็ไม่ค่อยได้
4. อารมณ์แปรปรวนง่าย จากที่เครียดอยู่แล้ว ก็ยิ่งจะเครียดมากกว่าเดิมได้
5. แล้วยิ่งถ้าเล่นโทรศัพท์นาน ๆ นะ แสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจอ จะไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่เป็นฮอร์โมนทำหน้าที่ควบคุมการหลับและการตื่น

แล้วเราจะปรับพฤติกรรมยังไงได้บ้างนะ? ✨

• อย่างแรกถ้าเรารู้สึกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว และรู้สึกง่วงนอนมาก ก็ให้ลองนอนเลย เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอ ดีต่อสุขภาพที่สุดแล้ว
• ก่อนนอนลองหยุดเล่นโทรศัพท์ บางทีจากที่ง่วงอยู่ก็จะทำให้หายง่วงนอนได้ เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอไปกระตุ้นให้ร่างกายตื่นครับ
• ฝึกการเข้านอนให้เป็นเวลาก็สำคัญเหมือนกัน พยายามทำให้ร่างกายจำได้ว่าเรา นอนกี่โมง และตื่นกี่โมง
• ใครเป็นสายชอบดื่มชา กาแฟ หรือที่มีส่วนผสมคาเฟอีน ขอให้หยุดเลย! แต่แนะนำให้ดื่มเป็น นมอุ่น ๆ ก่อนนอนแทนครับ
• สภาพแวดล้อมในการนอนก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด หรือแสงไฟที่ไม่ควรเปิดไว้ หรือสว่างเกินไป เพราะจะไปรบกวนการนอนของเราได้

จริง ๆ การหาอะไรทำอย่าง ดูหนัง/ซีรีส์ จริง ๆ ก็ไม่ผิดหรอกแต่ว่าจะปล่อยให้ตัวเองดูจนนอนน้อย หรือไม่ได้นอนเลยไม่ได้ หรือถ้าการฟังเพลง หรือฟัง Podcast ช่วยให้เรานอนหลับได้ก็ไม่เสียหายอะไรนะ แต่ถ้าเมื่อไหร่รู้สึกว่าลองทำทุกอย่างแล้ว ก็ยังรู้สึกเครียด เหนื่อย จนนอนไม่หลับเลย แนะนำว่าให้ลองไปหาผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็น นักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์กันได้น้า 

👉🏻อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.pro/3Zqkpl2 , https://ppro.pro/3Ly8dZV , https://ppro.pro/3Ly8dZV https://ppro.pro/3Ly8dZV , https://ppro.pro/4507pnC