อยากผมสวยต้องลอง ! "หวีไม้นวดผม" ไอเทมลับของสาวญี่ปุ่น จุดเริ่มต้นของเส้นผมในอุดมคติ
โดย : imnat
เมื่อพูดถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเองของคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่ การดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งนอกจากอาหารการกินจะต้องพิถีพิถันกันสุด ๆ แล้ว ชาวญี่ปุ่นยังเน้นไปที่การกระตุ้นระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายด้วยการนวดกดจุด การบริหารอวัยวะ อย่างพวกเทคนิคการนวด หรือการยืดเส้นอะไรต่อมิอะไรต่าง ๆ ประเทศญี่ปุ่นเค้าก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน
รวมไปถึงเรื่องของเส้นผม คนญี่ปุ่นเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของเส้นผมที่สวยไม่แพ้ใคร อย่างพวกคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของบ้านเค้าก็ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นบรรดาแชมพู ครีมนวด (เปย์เป้เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่กำลังอ่านอยู่น่าจะต้องเคยใช้แชมพู หรือครีมนวดสัญชาติญี่ปุ่นกันมาแล้ว) รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในการดูแลเส้นผมอย่างพวก หวีไม้นวดผม ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ชาวญี่ปุ่นใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนคุณสมบัติของหวีไม้นวดผมนี้จะดียังไง จะแตกต่างจากหวีพลาสติกธรรมดา ๆ ที่เรารู้จักกันหรือเปล่า มาหาคำตอบกัน !
ก็แค่หวีไม้ธรรมดา จะดีกว่าหวีแบบอื่นยังไง ?
หวีไม้ที่ว่านี้ จริง ๆ แล้วมีหลายแบบให้เลือกมาก ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน ซึ่งแบบที่มีให้เลือกก็มีตั้งแต่หวีซี่เล็ก ซี่ใหญ่ แบบที่มีด้ามจับ รวมถึงไม้ที่ใช้ทำเป็นหวี ก็มีให้เลือกเยอะจนตาแตก แต่คุณสมบัติที่มีเหมือนกัน นั่นก็คือ คุณสมบัติในการ ช่วยกระจายน้ำมันตามธรรมชาติ ที่อยู่บนหนังศีรษะ เหมือนเป็นการนวดหนังศีรษะไปในตัว แถมยังช่วยให้เส้นผมแลดูเงาแบบเป็นธรรมชาติ แข็งแรง ไม่เกิดไฟฟ้าสถิตเหมือนเวลาที่เราใช้หวีพลาสติกธรรมดาทั่วไป
| แล้วหวีไม้ญี่ปุ่นต่างจากหวีไม้ธรรมดาตรงไหน ?
คำตอบ ก็คือ ต่างกันที่ชนิดของไม้นั่นเอง อย่างหวีไม้ที่ผลิตในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะทำมาจากไม้ Tsuge ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง นอกจากจะนิยมเอามาทำเป็นหวีแล้ว ยังถูกนำมาทำเป็นลูกคิด ตราประทับ (แสตมป์ฮันโกะ) ข้อดีของไม้ชนิดนี้ คือ เป็นไม้ที่แข็งแรงมาก มีความทนทาน ไม่แตกหักง่าย มีคุณภาพดีเยี่ยม เพราะกว่าไม้ชนิดนี้จะเติบโตจนมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการทำหวี ก็ใช้เวลาเกือบ ๆ 70 ปีเชียวนะ แถมงานนี้การันตีได้จากจุดเริ่มต้นของการนำไม้ชนิดนี้มาทำเป็นหวี ที่ต้องเท้าความไปไกลตั้งแต่สมัยเอโดะกันเลย 🤔
ในสมัยก่อนนั้นชาวญี่ปุ่นมักเชื่อกันว่า เส้นผมที่สวยงามจะช่วยเสริมให้เจ้าของเส้นผมแลดูสวยได้ (ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย) ซึ่งคำว่าผมสวยที่ว่านี้ก็ได้แก่ เส้นผมที่มีสีเข้มตามธรรมชาติ มีประกายเงางาม นี่แหละคือเส้นผมในอุดมคติความงามของชาวญี่ปุ่นสมัยโบราณ แถมคนสมัยก่อนจะให้ความสำคัญกับเส้นผมกันมาก คือเรียกได้ว่าก่อนที่จะทำอะไรกับเส้นผม จะต้องมั่นใจว่าสิ่ง ๆ นั้นจะต้องเป็นสิ่งที่คู่ควรต่อเส้นผมของเราจริง ๆ เพราะเชื่อว่า เส้นผมทุกเส้นมีพลังแห่งจิต การแปรงผม หรือหวีผมเป็นเหมือนการแสดงพิธีกรรมต่อเส้นผม ดังนั้นเส้นผมเลยถูกมองว่าเป็นของสูง ทุกอย่างที่จะนำมาใช้ร่วมด้วยเลยต้องให้ความสำคัญและการใส่ใจเป็นอย่างมาก
อย่างการเลือกไม้ที่จะใช้ทำเป็นหวีนั้น ก็ต้องเป็นไม้ที่มีคุณภาพ เลยเป็นที่มาของไม้จากต้น Tsuge ที่บอกไป สำหรับไม้ชนิดนี้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันค่อนข้างหาได้ยากแล้ว เลยนิยมนำเข้า หรือใช้เป็นไม้ชนิดอื่นแทน (คุณสมบัติไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องคุณภาพการใช้งาน ก็สามารถใช้แทนกันได้อยู่) แต่สำหรับใครที่อยากหาซื้อหวีไม้ชนิดนี้มาใช้งาน จะบอกว่าก็ยังคงมีวางขายในประเทศญี่ปุ่นกันอยู่นะ แถมยังเป็นของฝากยอดฮิตอีกหนึ่งอย่างเวลาคนมาเที่ยวญี่ปุ่นกันด้วย
| หวีจะทำหน้าที่ได้ดีมาก ถ้าหากมีตัวช่วย !
อันนี้เปย์เป้ขอบอกเป็นเคล็ด (ไม่) ลับก็แล้วกัน เผื่อใครอยากจะประยุกต์นำมาใช้กับหวีไม้บ้านเรา ก็สามารถใช้ได้เหมือนกันนะ เพราะปกติแล้วเวลาที่มีการวางขายหวีไม้ในประเทศญี่ปุ่นนั้น มักจะวางขายคู่กันกับ น้ำมันเมล็ดคาเมลเลีย โดยก่อนจะถูกวางขายก็จะมีการนำมาเคลือบด้วยน้ำมันชนิดนี้กันก่อนอยู่แล้ว แต่จะนิยมนำมาวางขายเพิ่มเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปเคลือบด้วยตัวเองทุก ๆ 3 เดือน หรือใครอยากจะเอามาใช้เป็นน้ำมันใส่ผมอะไรทำนองนี้ก็ได้เหมือนกัน
โดยน้ำมันเมล็ดคาเมลเลียนี้เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติที่ช่วยในการบำรุงเส้นผม ทำให้เมื่อหวีออกมาแล้วเส้นผมจะมีความเรียงตัวสวย เงางาม ขับให้เส้นผมดูโดดเด่นแม้ผ่านแค่การหวีผมมาเฉย ๆ และการใช้น้ำมันคาเมลเลียกับหวีไม้นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเวลาหวีได้แล้ว น้ำมันชนิดนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของหวี ทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
🗣️ เปย์เป้อยากบอก : เคล็ด (ไม่) ลับดูแลผมสวยแบบชาวญี่ปุ่น 🇯🇵
เราจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นในสมัยนี้มีความสนุกกับการทำผมของตัวเองมากไม่ว่าจะตัด ดัด ซอย หรือทำสี ดังนั้นการดูแลเส้นผมก่อนและหลังจากทำการเคมีมาอย่างหนัก คนญี่ปุ่นเค้าก็ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะบำรุงเองที่บ้าน หรือจะเข้าไปบำรุงแบบแอดวานซ์กันถึงร้านทำผม คือถ้าเลี่ยงการทำร้ายเส้นผมได้ เค้าก็จะพยายามหาวิธีใหม่ ๆ มาใช้งานกันอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น การทำสีผมแบบออร์แกนิก เป็นต้น
ซึ่งนอกจากการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ ในการดูแลเส้นผมกันแล้ว อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าชาวญี่ปุ่นเค้าจะเน้นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งบรรดาเคล็ดลับการดูแลเส้นผมของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะหนีไม่พ้น...
- แปรงผม / หวีผมบ่อย ๆ : หลายคนมักจะเข้าใจว่าการแปรงผมบ่อยจะทำให้เส้นผมขาดง่ายหรือเปล่า แต่จะบอกว่าคนญี่ปุ่นเค้าจะอินกับการแปรงผมกันมาก ๆ เพราะว่าการแปรงผมจะช่วยทำให้น้ำมันตามธรรมชาติที่อยู่บนหนังศีรษะเกิดการกระจายตัว ลดโอกาสของการเกิดผมมัน โดยหวีที่ใช้ควบคู่กันนั้นเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก....
- ใช้หวีไม้ทำมือของญี่ปุ่น : โดยหวีไม้ทำมือของญี่ปุ่นจะผลิตขึ้นมาจากไม้เนื้อดีที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติในการช่วยลดโอกาสของผมชี้ฟู รวมถึงไฟฟ้าสถิต แถมยังคงความเงางามของเส้นผมได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันคาเมลเลีย : ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวด หรือจะใช้น้ำมันเมล็ดคาเมลเลียเพียว ๆ ในการบำรุงผมตอนเปียกหมาด ๆ หรือจะชโลมลงบนหวีไม้ทุก ๆ 3 เดือนก็ได้
- สระผมทุกวัน : ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการสระผมทุกวันที่เรามองว่ามันจะเป็นการทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไปหรือเปล่า กลับเป็นวิธีที่สาว ๆ รวมถึงหนุ่ม ๆ ชาวญี่ปุ่นนิยมปฏิบัติกันเป็นเรื่องปกติ ข้อดีของการสระผมทุกวันนอกจากจะสะอาดแล้ว ชาวญี่ปุ่นเค้ายังมีวิธีการนวดระหว่างสระผม ซึ่งถ้าทำต่อเนื่องทุกวันจะเป็นการช่วยลดผมร่วงไปในตัว สำหรับวิธีการสระผมแบบญี่ปุ่น เปย์เป้เคยทำเป็นคอนเทนต์ไว้แล้ว สามารถตามไปอ่านต่อได้ที่ > คลิก
- ใช้แชมพูที่อ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ : โดยส่วนผสมยอดฮิตที่คนญี่ปุ่นคลั่งกันมาก ๆ ก็ได้แก่ สาหร่าย รวมถึงน้ำมันเมล็ดคาเมลเลียที่บอกไปนั่นแหละ !
ป้ายยา หวีไม้นวดผมที่น่าสนใจ
แถมหาซื้อง่ายในบ้านเรา !
💆🏻 Haxon หวีไม้นวดผมเบาะลม
- คุณสมบัติ : ทำมาจากไม้ธรรมชาติ มาพร้อมกับด้ามจับถนัดมือ ตัวซี่หวีมีปุ่มสามารถใช้นวดศีรษะได้ ตัวฐานมีรูระบายอากาศ ที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผมมีวอลลุ่ม ไม่ลีบแบน ลดโอกาสเกิดผมชี้ฟูได้
- ราคา : เริ่มต้น 119 บาท มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด
- ช้อปได้ที่ > คลิก
*ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565
💆🏻 AVEDA Wooden Paddle Brush
- คุณสมบัติ : หวีไม้ตัวดัง ฮิตมากในต่างประเทศ สำหรับคุณสมบัติเด่น ๆ ของตัวนี้ คือ ตัวปุ่มของหวีมีส่วนช่วยบำรุงหนังศีรษะตั้งแต่รากจรดเส้นผม มีช่องระบายอากาศ ทำให้เมื่อหวีไปแล้วจะให้สัมผัสที่สบาย ยกโคนของเส้นผม ผมไม่ลีบแบน ตัวไม้มีความแข็งแรงทนทาน ขนาดกำลังดี พกพาง่าย
- ราคา : 620 บาท (ขนาดพกพา)
- ช้อปได้ที่ > คลิก
*ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565
💆🏻 หวีไม้สักแท้จาก จ. น่าน
- คุณสมบัติ : ทำมาจากไม้สักแท้ 100% ช่วยรักษาเส้นผมไม่ให้ขาดง่ายระหว่างที่หวีผม ลดโอกาสเกิดไฟฟ้าสถิต เป็นการนวดเส้นผมและหนังศีรษะไปในตัว กระตุ้นการไหลเวียน และช่วยลดอาการเหนื่อยล้าบริเวณหนังศีรษะได้
- ราคา : 85 บาท (มีให้เลือก 4 แบบ)
- ช้อปได้ที่ > คลิก
*ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565
💆🏻 หวีไม้สไตล์ญี่ปุ่น
- คุณสมบัติ : ทำจากไม้ธรรมชาติที่มีคุณภาพ ตัวหวีมีความแข็งแรงทนทาน ช่วยรักษาและถนอมเส้นผมในระหว่างหวี ลดโอกาสเกิดผมชี้ฟู พร้อมเสริมสร้างรากเส้นผมให้แข็งแรงระหว่างหวี
- ราคา : 59 บาท (มีให้เลือก 3 แบบ)
- ช้อปได้ที่ > คลิก
*ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565
💆🏻 Yao หวีไม้นวดผมทรงรี
- คุณสมบัติ : ตัวแปรงทำมาจากไม้เนื้อดี เคลือบสารแอนตี้แบคทีเรีย ลดการเกิดผมฟู ไฟฟ้าสถิต มาพร้อมกับด้ามจับพอดีมือ บังคับหวีให้ไปในทิศทางต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ขนแปรงออกแบบมาให้ความรู้สึกเหมือนได้นวดหนังศีรษะไปในตัว สามารถใช้ได้ทั้งตอนผมแห้งและผมเปียก
- ราคา : 600 บาท
- ช้อปได้ที่ > คลิก
*ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565
ถึงแม้ว่าภาพจำของหวีไม้จะดูเป็นอะไรที่โบราณ เข้าถึงยาก แต่ทว่ามันได้กลายเป็นไอเทมที่คนญี่ปุ่นใช้กันมานานตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน จนตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกันไปแล้ว ถ้าหากเพื่อน ๆ มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็อย่าลืมไปตามหาหวีไม้ Tsuge นี้มาใช้งานกันดูนะ หรือใครอยากเริ่มด้วยการลองหาหวีไม้ที่วางขายในบ้านเรามาใช้กันดูก่อน ก็สามารถเลือกใช้งานกันได้เลย (ถ้าอันไหนดี อย่าลืมกลับมาป้ายยาเปย์เป้ต่อด้วยเด้อ)
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : fabbon, mainichi.jp, anything-from-japan และ advancedhairstudioindia
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)