วันชาสากลทั้งที มาย้อนรอยเรื่องชากันหน่อย ว่าแท้จริงแล้วมีที่มาจากอะไร?

  

  [สรุปฉบับย่อ]

 

• ที่มาของชาตำนานบอกไว้ว่า ถูกจักรพรรดิเสินหนงของจีนเจอด้วยความบังเอิญ ตั้งแต่ประมาณ 5 พันปีก่อนนู่นเลย 
• แล้วรู้ปะชาเกือบทุกแบบ มีต้นกําเนิดมาจากพืชชนิดเดียวกันคือ Camellia Sinensis (เคมีเลียซิเนนซิส)
• ก่อนจะมาเป็นเมนูน้ำสุดฮิตแบบทุกวันนี้ ชาเคยถูกจัดให้เป็นยามาก่อน เพราะมีสารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายหลายชนิด
• ล่าสุดเมนูชาไทย ติดอันดับที่ 8 จากลิสต์ Top 100 Non-alcoholic Beverages in the World 2024 จากเว็บ Tasteatlas
• ตอนนี้มีหลายแบรนด์เลยที่เด่นเรื่องชา นอกจากชาตรามือ และชาการันแล้ว ยังมีแบรนด์ ARAN TEA จากดอยวาวี จ.เชียงรายอีกเจ้า ที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะไปชนะการประกวดเวที World Green Tea Contest ถึง 3 ปี

 

---

 

  [บทความฉบับเต็ม]

 

 

ใครชอบกินชายกมือขึ้น! วันที่ 15 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันชาสากล เราเลยจะพามาดูสตอรี่ของชากันสักหน่อย ว่ามีที่มาที่ไปยังไง ทำไมถึงขึ้นแท่นเป็น 1 ในเครื่องดื่มยอดฮิต และแน่นอนว่าเราจะไม่พูดถึงชาแบรนด์ไทยก็คงจะไม่ได้ บางแบรนด์มีรางวัลการันตีด้วย ว่าแต่จะมีแบรนด์ไหนบ้างไปดูกันเลย

 

---

ชา เครื่องดื่มที่เกิดมาจากความบังเอิญ

🍵 

 

เริ่มกันที่ประวัติต้นกำเนิดของชากันก่อนเลย โลกเรารู้จักกับชามานานนับพันปีแล้ว ซึ่งตำนานเค้าเล่าไว้ว่า จักรพรรดิเสินหนงของจีน ท่านได้ไปเจอชาโดยบังเอิญ จากการไปเดินเล่นในสวน แล้วจังหวะนั้นมีลมพัดมา ทำให้ใบไม้แถวนั้นร่วงใส่แก้วน้ำร้อน ที่ท่านกินอยู่ นี่เลยกลายเป็นเครื่องดื่ม ที่เรียกว่าชาก็ได้ถือกำเนิดขึ้นไปแบบงง ๆ

 

แต่ถ้าจะยึดตามที่มีหลักฐาน ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ก็คงจะเป็นตอนที่เจอบันทึก ที่เขียนถึงการส่งชาไปเป็นเครื่องบรรณาการกับจักรพรรดิ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว(1,099 ปีก่อนคริสตกาล) เท่ากับว่าโลกเรารู้จักกับชามาแล้วตั้ง 3,123 ปี เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่เรามาแทบจะทุกช่วงทุกยุคแล้ว

 

คัมภีร์ฉาจิง คัมภีร์ชาเล่มแรกของโลก

 

---

ชาเกือบทุกแบบมาจากพืชชนิดเดียวกัน

🍵 

 

 

ทุกวันนี้เราจะเห็นว่ามีชาหลายแบบมากไม่ว่าจะเป็น ชาขาว, ชาเขียว, ชาอู่หลง, ชาดำ หรือชาหมักตั่งต่าง แต่ทุกคนรู้ไหมว่า ชาเกือบทุกแบบที่ว่ามา มีต้นกําเนิดมาจากพืชชนิดเดียวกัน นั่นคือ Camellia Sinensis (เคมีเลียซิเนนซิส) ที่แบ่งได้ 2 สายพันธ์ุตามนี้ 

 

• Camellia sinensis vav. Sinensis คือชาจีน
• Camellia sinensis vav. Assamica คือชาอัสสัมที่มาจากอินเดียนั่นเอง 

 

 

---

ชาเคยถูกจัดเป็นยามาก่อน

🍵

 

ก่อนที่จะถูกครีเอทมาเป็นเครื่องดื่มหลากหลายแบบให้เรากินกัน ชาเคยถูกใช้เป็นยามาก่อนนะ ตรงนี้ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะเคยมีงานวิจัยบอกไว้ว่า ชามีสารหลายอย่างที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น…

 

• มีสารต้านอนุมูลอิสระ : พบได้มากในชาขาว ที่ช่วยเรื่องต้านความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ต้องวงเล็บว่าเป็นชาเพียว ๆ ไม่ผสมนมนะ
• มีสาร Flavonoids : ที่จะเจอในชาเขียว ช่วยเรื่องหัวใจ, คอเลสเตอรอล รวมไปถึงการแข็งตัวของเลือด แถมยังช่วยลดแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ด้วย เค้าถึงเอามาเป็นส่วนผสมทำยาสีฟันกัน

 

อันนี้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ แต่ ๆ เตือนไว้ ถ้าเรากินมากเกินไปสารบางตัวเช่น คาเฟอีน, ฟลูออไรด์, สารแทนนิน ก็ทำร้ายร่างกายเราได้นะ ยิ่งพวกชานมไข่มุกยิ่งต้องกินแค่พอดี ๆ เพราะมีน้ำตาลสูงมาก

 

---

ชาแบรนด์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

🥇

 

พูดถึงที่มาและข้อดีของชาไปแล้ว ทีนี้มาพูดถึงชาไทยฝั่งไทยเรากันบ้าง ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูน้ำที่ฮิตมาก ๆ ขึ้นชื่อของไทยเลย  แล้วล่าสุดชาไทยก็ติดอันดับ 8 ในลิสต์ Top 100 Non-alcoholic Beverages in the World 2024 จากเว็บ Tasteatlas นอกจากนี้มีชาแบรนด์ไทยหลายร้านเลย ที่แมสทั้งในและต่างประเทศ วันนี้เลยขอยกตัวอย่างชาแบรนด์ไทยที่น่าสนใจ 3 แบรนด์ตามนี้…

 

 

ขอบคุณรูปจาก : aran_tea_organic

 

 

 ✨ ชาตรามือ : ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมานานมาก แถมเป็นขวัญใจชาวต่างชาติด้วยโกอินเตอร์ไป 10 กว่าประเทศ แล้วปี 2566 เค้าทำรายได้รวม 2,000 กว่าล้านบาท  

 

 ✨ Karun : แบรนด์ชาไทยน้องใหม่ ที่ถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เปิดตัวแค่ 5 ปี แต่ยอดขายคือไม่ธรรมดาเลย อย่างปี 2566 มีรายได้รวม 100 กว่าล้านบาท แถมตอนนี้เค้าเตรียมไปเปิดสาขาที่ฮ่องกงแล้วนะ

 

 ✨ ARAN TEA : แบรนด์ชาป่าจากดอยวาวี จ. เชียงราย ที่ส่งชาขาวไปประกวด World Green Tea Contest จนได้รางวัล Gold Prize ในปี 2021 และได้ Grand Gold Prize ในปี 2022-2023 เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่น่าจับตามองมาก ๆ เลยนะ

 

---

 

และนี่ก็คือเรื่องราวของชา จะเรียกว่าเป็นเมนูที่เกิดจากความบังเอิญก็ได้นะ ใครจะไปคิดว่าแค่ใบไม้ที่ร่วงจากต้นลงมาตกบนถ้วยน้ำร้อน จะกลายมาเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต แถมยังครีเอทเมนู ไปได้อีกหลายชา ส่วนฝั่งไทยเราก็มีชาดี ๆ เยอะเลย อย่างชาไทยเมนูน้ำสุดฮิต ที่รู้จักกันไปทั่วโลก แล้วแมสจนติดโพลเครื่องดื่มเกือบทุกปี แบบนี้จะเรียกว่าเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ก็ได้ ว่าแล้วก็ไปหาชาไทยกินดีกว่า

 

 

 

*อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 13/12/67

---

 

💙  อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

• Tea Time การเดินทางของ "ชา" เครื่องดื่มยอดฮิต แท้จริงแล้วเริ่มต้นมาจากไหนกันนะ ? 
• เปิดประวัติ พร้อมไขคำตอบชื่อเรียกที่ถูกต้องของ "ชาสีส้ม" ไปกับ History of THAI TEA
• Karun (การัน) จากชาที่เสิร์ฟให้คนในบ้าน สู่ชาไทยขึ้นห้าง..ที่หลายคนยอมรอคิว!
• 5 ผงมัทฉะไทยแท้ ขอเข้าวงการชงตามแม่ตุ๊ก!

---

📌 แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://ppro.pro/49DDtle /https://ppro.pro/401odvj /https://ppro.pro/49zVErH /https://ppro.pro/49HTtTe /https://ppro.pro/4gvl8ZJ

•