เชียงราย-แม่สลอง วิวสวยดีย์ต่อใจ ได้เที่ยวแล้วจะหลงรัก
โดย : ชลลี่
อยากหนาวให้ไปเชียงราย แต่ถ้าอยากได้คนข้างกายให้มาหาพี่ ครั้งนี้จะพาไปเที่ยวที่ "เชียงราย-แม่สลอง" เป็นสถานที่ที่จะได้เจอกับธรรมชาติแบบ Unseen Thailand ทั้งได้เจอกับพระขี่ม้าบิณฑบาต ที่วัดถ้ำป่าอาชาทอง แวะจิบชาที่ไร่ชาฉุยฟง ซื้อของฝากที่โล้ชิงช้าอาข่า ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่ไร่ชา101 และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่คาเฟ่ทุ่งเคียงดอย สายชิลล์ ชอบเสพย์ธรรมชาติก็ต้องมานะจ๊ะ
มาเริ่มกันที่แรก วัดถ้ำป่าอาชาทอง หรือ พระขี่ม้าบิณฑบาต เป็นอีกหนึ่ง Highlight ของเชียงราย และเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand เลยด้วยนะ การเดินทางไปวัดไม่ยากเลย แค่เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายมายังดอยแม่สลอง ทางไปวัดจะอยู่ไม่ไกลจาก ภูใจใส รีสอร์ทเก๋ชื่อดังที่หลายคนรู้จักดี ซึ่งระหว่างทางที่ไปจะได้เห็นบรรยากาศทุ่งนายามเช้า สีเขียวสวยสด ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา วิวดีได้ฟีลมากๆ
พระจะออกบิณฑบาตช่วง 08.00 น. สามารถเตรียมของมาใส่บาตรเองได้หรือจะมาซื้อที่วัดก็ได้เหมือนกันนะ เมื่อถึงเวลาใส่บาตรพระจะขี่ม้ามายังลานทำบุญ เป็นภาพที่หาดูยากมาก เอาจริงๆ คือไม่เคยเห็นแบบนี้ ที่ไหนมาก่อน พระขี่ม้าดูสง่ามากๆ วันที่ไปมีเณรตัวน้อยๆ เดินตามมาบิณฑบาตด้วย เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นท่ามกลางอุณหภูมิเย็นสบาย บนเขาสูงที่น่าประทับใจมากจริงๆ ใครอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำให้ไปก่อนเวลาตักบาตร และถามเส้นทางจากคนที่วัด ถึงทางที่พระจะขี่ม้าลงมาจากเขาได้ เพื่อไปดักรอเก็บภาพสวยๆ ของพระขี่ม้าบิณฑบาตแห่งวัดถ้ำป่าอาชาทองได้อีกด้วย
เดินทางต่อไปกันที่ ไร่ชาฉุยฟง จะอยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำป่าอาชาทอง ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 15-20 นาที ก็จะเจอกับไร่ชาฉุยฟงแล้ว ไร่ชาที่ดังเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลย แถมยังเป็นโลเคชั่นสุดฮิตที่ใช้ถ่ายทำละครดังๆ หลายเรื่องอีกด้วย
ไร่ชาฉุยฟง เป็นพื้นที่ปลูกชาที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเชียงราย ทางไร่มีการผลิตชาส่งโรงงานเจ้าดังหลายที่ ที่สำคัญยังเป็นเหมือนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเชียงราย เป็นจุดรองรับนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งเลย มีทั้งร้านขายของฝาก ร้านอาหาร คาเฟ่ขนมหวานแสนอร่อย ให้เลือกเดินช้อปและชิมเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ
ตรง คาเฟ่ เป็นโซนใหม่ ที่มีความชิคและเก๋มาก ตัวอาคารมีการออกแบบเหมือนสถาปัตยกรรมของเมืองนอกเลย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ
ส่วนถ้าใครที่ชอบความสงบ ความร่มรื่น แบบตั้งใจมาเสพธรรมชาติเน้นๆ ที่นี่อาจจะพลุกพล่านไปหน่อย เพราะไร่ชาฉุยฟงแทบจะเป็นแลนด์มาร์คหนึ่งของดอยแม่สลอง ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาแวะก็ว่าได้
ระหว่างทางจาก ไร่ชาฉุยฟง ไป ไร่ชา 101 จะมีที่ประดิษฐานของ พระสยามเทวาธิราช ซึ่งก่อนวันที่เราไปไม่กี่วัน เพิ่งมี พิธีโล้ชิงช้า ประจำปีของชาวเขา เผ่าอาข่า เขาบอกว่าเป็นเทศกาลประจำปี เหมือนเป็นปีใหม่ของชนเผ่า จะมีการรวมตัวจากหลายๆ หมู่บ้านมาจัดงานกัน และจะมีการโล้ชิงช้ากันที่นี่
ชิงช้าเป็นเชือกเส้นใหญ่ๆ มีคานไม้ไว้สำหรับยืนหรือนั่ง ถ้าเป็นผู้ชายจะนิยมยืนแล้วโล้ ส่วนผู้หญิงมักจะนั่งกันมากกว่า ไปลองมา มีน้องๆชาวเขามาชวนไกวชิงช้าให้ เสียวก็เสียว แอบมีเวียนหัวหน่อยๆ แต่ก็สนุกดีนะ น้องๆ ที่นี่น่ารักมาก แถวนี้มีร้านค้าเล็กๆ ที่ขายเครื่องดื่ม กาแฟ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาสักการะพระสยามเทวาธิราช และมีเครื่องประดับ เสื้อผ้าฝีมือชาวเขาขายด้วย
ออกเดินทางไปกันต่อเลยที่ ไร่ชา 101 ซึ่งใช้เวลาเดินจากไร่ชาฉุยฟงมาประมาณ 25 นาที ใครที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ชอบความสงบร่มรื่นของไร่ชา ขอแนะนำให้มาที่นี่เลย ไร่ชา 101 อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ หรือมีคาเฟ่เก๋ไก๋ แต่เรื่องบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ คือชนะเลิศ รู้สึกถึงวิถีแบบสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง มีร้านขายชาขายของฝากเหมือนกับไร่ชาฉุยฟง แต่ต่างที่ไร่ชา 101 จะไม่ได้ดูเป็น Tourist attraction มากนัก มีสาธิตวิธีการชงชา ชิมชา และมีร้านค้าเล็กๆของชาวเขาที่มาตั้งซุ้มขายของ ได้ฟีลใกล้ชิดธรรมชาติ และวัฒนธรรมคนพื้นเมืองมากๆ
โดย ชลลี่