คัมภีร์มือใหม่! สอบใบขับขี่ง่าย 2562
โดย : sceneryp
7 ม.ค. 2562 14.7 K
ใครที่อยาก "สอบใบขับขี่" แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือเพิ่งเริ่มต้นขับรถแต่ไม่มีใบขับขี่ บอกเลยว่า...ผิดกฎหมายนะเออ แถมภายในเดือนมกราคมปีนี้ กรมขนส่งจะเริ่มใช้ 'ใบขับขี่ดิจิทัล' หากเจอตำรวจแล้วอ้างว่า ลืมหรือไม่ได้พกออกมา ไม่สามารถทำได้แล้วนะ!
รู้แบบนี้แล้ว เริ่มกังวลกันแล้วใช่มั้ยล่ะ!? เราแนะนำว่าให้ไปทำตามกระบวนการให้เรียบร้อยดีกว่า หากวางแผนตามขั้นตอนดีๆ ใช้เวลาไม่นานนะขอบอกกก พร้อมแล้วก็เริ่มกันได้เลย
1) เตรียมเอกสาร "สอบใบขับขี่"
ทำใบขับขี่หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยากใช้เวลานาน แต่ความจริงหากมีการวางแผนแบบเป็นระบบ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ที่สำคัญอายุต้องครบ 18 ปี สำหรับรถยนต์
เริ่มแรกก็เตรียมเอกสารให้พร้อม มีแค่ 3 รายการเท่านั้นเอง!
1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.ใบรับรองแพทย์สามารถขอได้จากโรงพยาบาล หรือคลินิก (ไม่เกิน 1 เดือน)
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการอบรมการขับขี่ปลอดภัย ซึ่งมือใหม่ที่คนต้องเข้าฟังข้อมูลพื้นฐานจากเจ้าหน้าที่กรมขนส่ง โดยสามารถจองคิวตามช่องทางต่อไปนี้จ้า
2) จองคิว
ใบรับรองการอบรมสามารถทำได้ 3 ช่องทางและสามารถรองรับไม่เกิน 100 คน/วัน/สถานที่นะ
1. จองคิวทางโทรศัพท์ ได้ที่กรมขนส่งทางบก ซึ่งในกรุงเทพฯ จะมีทั้งหมด 5 เขต
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
ติดต่อหมายเลข 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล)
ติดต่อหมายเลข ติดต่อหมายเลข 0-2415-7337 ต่อ 204-205
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน)
ติดต่อหมายเลข 0-2433-4773
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1)
ติดต่อหมายเลข 0-2333-0035
-สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก)
ติดต่อหมายเลข 0-2543-5512
2. จองคิวออนไลน์ : คลิก
3. อบรมกับทางเอกชนที่ผ่านการรับรองจากกรมขนส่งทางบก เช่น
-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โทรจองได้ที่ 02-613-3820
-มหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต เขตดุสิต โทรจองได้ที่ 086-998-0826, 099-320-9346, 02-244-5410-3
-มหาวิทยาลัยรามคำแหง บางนา โทรจองได้ที่ (02)3976298
PunPro's Tips : เพราะคิวน้อยกว่า ลดระยะเวลาไปได้เยอะ บางแห่งที่กรมขนส่งจัดอบรมต้องจองคิวเป็นเดือนเชียวนะ! แต่ของเอกชนบางแห่งจองปุ๊ปได้เลย)
นั่งฟังให้ครบ 4 ชม.ก็จะได้ใบรับรองการอบรม นำใบนี้พร้อมเอกสารข้อมูลทั้งหมดไปยื่นที่กรมขนส่งใกล้บ้านได้เลย3) ทดสอบร่างกาย
เริ่มแรกเราจะต้องทดสอบสมรรถนะทางร่างกาย จะมีทั้งหมด 4 ด่าน คือ
- ทดสอบตาบอดสี : ทางเจ้าหน้าที่จะชี้จุดสีบนกระดาน เราต้องโฟกัสดีๆ แล้วตอบให้ถูกนะ
- ทดสอบสายตาทางลึก : เราต้องเหยียบคันเร่งให้แท่ง เคลื่อนที่มาขนานกันกับแท่งที่ตั้งไว้ให้ได้ (ข้อนี้ยากนะ กว่าเราจะผ่าน ต้องไปต่อแถววน 2 รอบเลย/สะเทือนใจ)
- ทดสอบสายตาทางกว้าง (วางสายตาไว้กับเครื่อง จากนั้นจะมีแสงสีแดง เหลือง เขียว โผล่ขึ้นมาทางหางตา เราต้องตอบให้ถูกนะ)
- ทดสอบการตอบสนองของเท้า (เป็นการเหยียบเบรคคล้ายกับรถ แต่ต้องยกเท้าออกจากคันเร่งให้ทัน ห้ามเกินจุดสีแดง)
4) สอบข้อเขียน
ข้อนี้สำคัญสุดๆ ใครที่คิดว่ามาเลือกช้อยส์คำตอบเล่นๆ แล้วจะผ่าน บอกเลยคิดผิดชีวิตเปลี่ยนจ้า เพราะผิดปุ๊บ สอบตกได้ทันทีเลย! แล้วต้องมาสอบใหม่ถือว่าเสียเวลานะ ดังนั้นก่อนเข้าห้องสอบ ต้องตั้งใจอ่านคู่มือกฎระเบียบการขับขี่รถอย่างปลอดภัย ทำความเข้าใจกับสัญญาณการจราจรต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อน
ข้อต้องรู้ :
- ข้อสอบมีจำนวน 50 ข้อ มีให้เลือก ก-ง
- ผ่านเกณฑ์การสอบขั้นต่ำที่ 45 คะแนน ถ้าไม่ถึงต้องสอบใหม่สถานเดียวจ้าา
PunPro's Tips : เราแนะนำให้ฟังที่อาจารย์สอนให้ดีๆ ส่วนใหญ่คำตอบอยู่ในนั้นหมดแล้ว!
5) สอบภาคปฏิบัติ
ผู้ที่จะทำใบขับขี่ใหม่ต้องทดสอบโดยขับรถจริงและต้องผ่านด่านทดสอบทั้งหมดให้ได้ หากใครไม่มีรถยนต์หรือนำรถมา ทางกรมขนส่งก็มีบริการเช่ารถในพื้นที่ แล้วแต่อัตราค่าบริการ ซึ่งด่านทดสอบจะประกอบไปด้วย 3 ด่าน คือ
1. ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง : ห้ามโดนกรวยหรือชนสิ่งกีดขวาง ไม่งั้นปรับตกทันทีนะ
2. ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า : ข้อนี้ตรงมองเส้นขาวทึบดีๆ นะ บางคนขับเลยเส้นไปเลยก็ไม่ผ่านเลย
3. ขับรถถอยเข้าซอง : ตอนเดินหน้าตรงเป๊ะ แต่อย่าลืมดูให้หลังดีๆ ระวังกรวยไว้ด้วย!
หากสอบผ่านทั้งหมดแล้ว ก็เตรียมเงินจำนวน 205.- เป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว จากนั้นก็แต่หน้าทาปากสวยๆ แล้วถ่ายรูปติดบัตรใบขับขี่รถยนต์ใบแรกกันได้เลย
ที่สำคัญเคารพกฎจราจรและขับขี่ด้วยวินัย จะได้ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยนะ
โดย sceneryp
Extraordinary
แสดงความคิดเห็น