YETI แก้วเก็บความเย็นระดับโลก ที่มีจุดกำเนิดมาจากถังน้ำแข็งไทย!
โดย : imnat
9 พ.ย. 2566 
779 
พูดถึงแก้วเก็บความเย็น หลายคนน่าจะนึกถึง "แก้วเยติ (YETI)" กันเป็นชอยซ์แรก ๆ เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกวงการแก้วเก็บความเย็นเลยก็ว่าได้ อย่างบรรดาแก้วเก็บความเย็นที่วางขายอยู่ตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็ได้ต้นแบบมาจากแก้วเยติกันนี่แหละ แต่หารู้ไม่ว่าจริง ๆ แล้ว เยติเค้ามีต้นแบบมาจาก "ถังน้ำแข็งไทย" ว่าแต่...เค้าไปจับพลัดจับผลูเจอกันได้ยังไงล่ะเนี่ย? 🤔
ถังน้ำแข็งไทยคือไอดอล!
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับแบรนด์นี้กันก่อนคร่าว ๆ จะบอกว่าเยติเค้าเป็นแบรนด์สินค้าเอาต์ดอร์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2006 แล้วนะ สำหรับจุดเริ่มต้นเรียกได้ว่ามาจากประสบการณ์ของสองพี่น้องไซเดอร์ส (รอย และ ไรอัน) ที่คลุกคลีกับกิจกรรมเอาต์ดอร์มาแต่ไหนแต่ไร จนวันนึงขณะที่กำลังล่องเรือตกปลา สองพี่น้องดันประสบกับปัญหา "น้ำแข็งในกระติกละลายเร็ว" จนเริ่มคิดหาทางออก ก่อนจะไปเจอเข้ากับ "ถังน้ำแข็งจากประเทศไทย" ที่งานแสดงสินค้าแห่งหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นถังน้ำแข็งที่เก็บความเย็นได้ดีที่สุดในตลาดตอนนั้น พวกเค้าเลยตัดสินใจขอเป็นผู้จัดจำหน่ายถังน้ำแข็งดังกล่าวนี้ซะเลย แต่ด้วยภาพลักษณ์ของตัวถังที่อาจจะยังไม่ดึงดูด นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจผลิตถังเก็บความเย็นออกมาวางขายเอง
รอย และ ไรอัน ไซเดอร์ส สองพี่น้องผู้ก่อตั้งแบรนด์เยติ ภาพจาก yeti.com
ชื่อ YETI มาจากอะไร?
ทีนี้อาจจะมีคนสงสัยกันบ้างว่า YETI หรือเยติเนี่ย มีที่มาจากอะไร? จริง ๆ แล้วเยติเป็น "สัตว์ประหลาดในตำนาน" ที่มีลักษณะเหมือนลิงตัวใหญ่ยักษ์เดิน 2 ขา แถมยังมีคนเคยเจอบนเทือกเขาหิมาลัยด้วย 😱 ก็เลยคาดว่าที่เอาชื่อนี้มาใช้นั่นก็เป็นเพราะ...สินค้าของเยติมีความแข็งแรง ทนทาน และชอบความเย็นเหมือนกับเจ้าสัตว์ประหลาดเยตินั่นเอง!
หน้าตาของเยติ หรือสัตว์ประหลาดในตำนาน
ราคาเอาเรื่อง แต่ทำไมขายดี?
จะบอกว่าสินค้าแทบจะทุกชิ้นของเยติถือว่าราคาแรงเอาเรื่องเลยนะ ต่อให้ทุกวันนี้เราจะเจอกับแก้วเก็บความเย็นราคาหลักพันกันเป็นปกติ แต่เมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน บอกเลยว่าราคาหลักพันอาจจะทำให้เกิดคำถามตามมาได้ "ว่าจ่ายแพงกว่าแล้วได้อะไร?" ซึ่งนั่นเป็นคำถามที่เคยเกิดขึ้นกับแบรนด์เยติกันมาแล้ว สำหรับที่มาของราคาที่แพงเอาเรื่องนี้ หลัก ๆ จะวัดกันได้จากคุณภาพของสินค้า เพราะเยติมีความเชื่อว่าต่อให้จะขายสินค้าในราคาที่แพงกว่าคนอื่น แต่ถ้าคุณภาพดี คุณภาพก็จะเบนเข็มทำให้ลูกค้าตัดสินใจยอมจ่ายได้
ซึ่งแก้วเยติถูกผลิตขึ้นมาโดยคำนึงถึงความสามารถในการเป็น "แก้วเก็บความเย็นในอุดมคติ" ที่คนส่วนใหญ่คาดหวังอยากจะให้เป็น บวกกับคุณภาพที่นอกจากความแข็งแรงและทนทานแล้ว มันยังจะต้องมีคุณสมบัติในการเก็บความร้อนและเย็นได้ดีด้วย ซึ่งแก้วเก็บความเย็นเยติ สามารถเก็บความเย็นได้ตั้งแต่ 12-48 ชม. (น่าจะเป็นยี่ห้อเดียวในตลาดที่ทำได้ในตอนนั้น) ในส่วนของการเก็บความร้อนก็สามารถเก็บได้นานถึง 12 ชม. ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าใคร เลยกลายเป็นต้นแบบให้กับแก้วเก็บความเย็นแบรนด์อื่น ๆ ที่เรารู้จักกันในตอนนี้ด้วย
ต่อให้ราคาแรง แต่ก็ทำรายได้แตะหมื่นล้าน!
แม้ว่าเยติจะเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของราคาที่แพง (ขนาดกระบอกใส่น้ำธรรมดายังสตาร์ตที่หลักพัน!) แต่ยอดขายเค้าก็เอาเรื่องเหมือนกัน ทุกคนเชื่อไหมว่าตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์มา ยอดขายของเยติมีแต่จะขึ้นเอา ๆ ไหนเราลองมาดูกันดีกว่าว่ายอดขายของเยติมีความน่าสนใจยังไงบ้าง?
- ปี 2009 - เยติสามารถทำยอดขายอยู่ที่ 5 ล้านดอลลาร์ สืบเนื่องมาจากการเป็นแบรนด์ที่นีช แถมยังมีราคาแพง เลยทำให้คนส่วนใหญ่อาจจะยังเข้าไม่ถึง
- ปี 2014 - ไต่ระดับขึ้นมาเป็น 147 ล้านดอลลาร์ เหตุผลก็เพราะว่าแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก และมีการทำการตลาดมากขึ้น
- ปี 2015 - ภายในปีเดียวเยติสามารถทำยอดขายได้มากถึง 450 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นมา 303 ล้านดอลลาร์จากปีก่อนหน้า สาเหตุของยอดขายนั้นมาจากกลยุทธ์ปากต่อปาก ประกอบกับการได้นายทุนเป็น Cortec Group ที่ช่วยดันเรื่องยอดขายให้กับแบรนด์ได้ดี
- ปี 2020 - ยอดขายของเยติแตะระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
- ปี 2023 - แม้ว่าจะยังไม่ครบปีดี แต่ตอนนี้เยติสามารถทำยอดขายได้อยู่ที่ 1,580 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 56,295 ล้านบาท!
ซึ่งที่มาของยอดขายในช่วงหลัง ๆ นี้ มาจากยอดขายของแก้วเก็บความเย็นซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเหตุผลส่วนตัวเรามองว่าแก้วเก็บความเย็นเป็นสินค้าที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าถังเก็บความเย็น ที่ดูจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคนขนาดนั้น แต่แก้วเก็บความเย็นเป็นอะไรที่ไม่ว่าใครก็ใช้ได้ โดยเฉพาะพักหลัง ๆ มา (ยกตัวอย่างเช่นในบ้านเรา) มองไปทางไหนก็เจอแต่คนใช้แก้วเก็บความเย็นเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เยติหรือว่าแบรนด์อื่น ๆ ก็ตาม
ไม่เสียชื่อแบรนด์เอาต์ดอร์รุ่นบุกเบิก!
หลังจากที่เปิดตัวสินค้าตัวแรกอย่างถังเก็บความเย็นไป ในปีต่อ ๆ มาเยติก็ได้เปิดตัวสินค้าอื่น ๆ อย่างเก้าอี้สนาม กระเป๋าสะพาย ผ้าห่ม เครื่องครัว รวมไปถึงแก้วเก็บความเย็น สินค้าที่น่าจะเป็นตัวชูโรงของแบรนด์ในตอนนี้ ส่วนวิธีสังเกตแก้วเยติแท้-เยติเทียม หลัก ๆ เลยจะดูกันที่ "ราคา" เพราะแก้วเยติแท้เค้าจะมีราคาตั้งต้นอยู่ที่หลักพันปลาย ๆ ส่วนที่เห็นวางขายกันเกลื่อนในราคาหลักร้อย อันนั้นเห็นทีว่าจะไม่ใช่นะ เอาเป็นว่าใครที่อยากสนับสนุนแบรนด์เยติจริง ๆ แนะนำให้ไปหาซื้อสินค้าแบบถูกลิขสิทธิ์มาใช้งานกันดีกว่า 😉
ใครจะไปเชื่อว่า เยติ แบรนด์แก้วเก็บความเย็นระดับโลกจะมีที่มาจากถังใส่น้ำแข็งในบ้านเรา แต่ก็ใช่ว่าเจอปุ๊บ แล้วจะทำให้เยติเกิดไอเดียในการผลิตสินค้าของตัวเองกันเลยนะ แต่เค้ายังมีการวางโจทย์โดยหยิบเอาคำว่า "ในอุดมคติ" มาเป็นมาตรฐาน จนท้ายที่สุดก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า ต่อให้เยติจะเป็นแบรนด์ที่ขายสินค้าในราคาสูง แต่ทว่าลูกค้าหลายคนกลับยอมจ่าย จนทำรายได้แตะหมื่นล้านได้สำเร็จ!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่
- พาส่องรองเท้าเดินป่า คู่ไหนใส่แล้วร่วง คู่ไหนใส่แล้วรอด ?
- ASICS สลัดคราบรองเท้าวิ่ง สู่รองเท้าไลฟ์สไตล์ที่ใคร ๆ ก็ใส่ได้
- Foot Locker ขาใหญ่แห่งวงการราคาป้าย ขวัญใจสายสนีกเกอร์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://ppro.onl/4af4veb9, https://ppro.onl/2p8t5zs2, https://ppro.onl/2p8mkjze, https://ppro.onl/yckkztmw และ https://ppro.onl/mr2ve94c
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ