‘ยาดม’ ไอเทมติดกระเป๋าที่ขาดไม่ได้ มีแค่เฉพาะ Thailand Only

avatar writer
โดย : waranggg
avatar writer25 มี.ค. 2565 avatar writer4.1 K
‘ยาดม’ ไอเทมติดกระเป๋าที่ขาดไม่ได้ มีแค่เฉพาะ Thailand Only

 

ไม่ว่าจะอาการวิงเวียน ปวดหัว หรือมีเรื่องหัวจะปวด สิ่งแรกที่หลายคนทำ คือ การหยิบยาดมออกมาแล้วสูดแบบเต็มปอด เพื่อเพิ่มความสดชื่นและลดอาการมึนหัว ปวดหัว แต่พูดก็พูดเถอะนะ สูดยาดมฟื้ดเดียวมันดีขึ้นจริง ! แล้วไม่ใช่แค่กับวัยผู้ใหญ่เท่านั้นที่พกยาดม แต่เดี๋ยวนี้เหล่าวัยรุ่นก็พกยาดมติดกระเป๋ากันให้ควั่ก เรียกได้ว่ายาดมคือไอเทมที่ขาดไม่ได้ของคนไทยในทุกยุคทุกสมัยจริงๆ  จนต่างชาติก็พากันขนานนามว่า การดมยาดมกันจนติดเป็นนิสัยนั้น มีแค่ Thailand Only 

 

ก่อนจะย้อนกลับไปถึงที่มาของยาดม เรามาทำความรู้จักยาดมกันให้มากขึ้นดีกว่า ยาดมหรือที่ต่างชาติรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า Inhaler นั้น คือ ยาน้ำสำหรับไว้สูดดมเมื่อมีอาการวิงเวียนศีรษะ รู้สึกหน้ามืด หรือจะเป็นลม จัดเป็นยารักษาที่ใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy) และยังถูกจัดให้เป็นยาสามัญประจำบ้าน ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขไทย พ.ศ. 2550 ด้วย 

 


เปิดที่มา 'ยาดม' ไอเทมติดกระเป๋าของคนไทยทุกยุคทุกสมัย


 

เครื่องหอมถูกใช้เป็นยารักษามานานกว่า 6,000 ปี 

 

ก่อนที่จะมาเป็นยาดมให้เราสูดดมกันในปัจจุบัน เพื่อจะให้ทุกคนได้รู้จักที่มาของยาดมได้มากยิ่งขั้น เปย์เป้ต้องขอพาทุกคนย้อนกลับไปถึงยุคอียิปต์เมื่อประมาณ 6,000 ปีที่แล้ว ชาวอียิปต์มักจะใช้วิธีเผาสมุนไพรต่างๆ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมมาบูชาเทพเจ้า และยังใช้กลิ่นหอมของสมุนไพรต่างๆ เพื่อบำบัดโรคด้วย จากนั้นศาสตร์ความรู้เรื่องกลิ่นบำบัดก็ได้แพร่หลายไปยังชาวโรมัน และนิยมมากขึ้นในช่วงสงครามครูเสด 

 

ตัดภาพกลับมาที่ฝั่งเอเชียเราบ้าง แน่นอนว่าประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างประเทศจีน ก็รู้จักการใช้กลิ่นหอมๆ ในการบำบัดอาการต่างๆ มายาวนานไม่แพ้กับฝั่งอียิปต์เช่นกัน 

 

คนไทยกับอยู่กับเครื่องหอมมานานตั้งแต่สมัยสุโขทัย

 

สำหรับพี่ไทยเรานั้น เริ่มรู้จักเครื่องหอมกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้มีหลักฐานระบุไว้แน่ชัด แต่จากข้อมูลที่เปย์เป้ได้ลองสืบค้นดูบ้านเราก็รู้จักมักจี่ คุ้นเคยกับสมุนไพรมาก็นานนมแล้ว ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเลยก็ว่าได้ และถ้าหากเราลองสังเกตประเทศไทย ยังมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหอมอยู่หลายประเพณี ไม่ว่าสรงน้ำพระ ปลงผมนาค หรือแม้แต่พิธีรดน้ำศพ ก็ต้องมีน้ำอบ น้ำปรุงอยู่ด้วยเสมอ นี่อาจจะเป็นหลักฐานว่าคนไทยคุ้นเคยกับพวกเครื่องหอมเป็นอย่างดีมานานแล้ว

 

ถ้ำยาดม

 

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ได้ถือกำเนิดยาดมชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ยาดมส้มโอมือ ซึ่งคิดค้นขึ้นโดยเจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์ เป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องหอมที่เจ้าจอมสดับทำขึ้นเพื่อใช้ดมแก้วิงเวียน ปวดหัว หรือบรรเทาอาการคัดจมูกเมื่อเป็นหวัด ทำจากเปลือกของต้นส้มโอมือมาผสมกับเครื่องเครา แล้วบรรจุลงในถ้ำยาดม ที่ลักษณะเป็นกระปุกเหล็กเล็กๆ สีเงินหรือสีทอง เจาะรู้ด้านบนไว้สำหรับสูดดมพร้อมฝาปิด นอกจากนี้ยังมีตราสัญลักษณ์รูปซอสามสายและชฎาคู่กันด้วย ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายทางการของยาดมส้มโอมือสูตรเจ้าจอมสดับ บอกเลยนี่แหละคือยาดมต้นตำรับชาววังแท้

 

ต้นกำเนิดแบรนด์ยาดมยี่ห้อแรกในไทย ฮิตติดใจคนไทยตลอดกาล

 

ยาดมโป๊ยเซียน

 

นอกจากยาดมส้มโอมือจะถือกำเนิดขึ้นในรัชกาลที่ 5 แล้ว  ต่อมาใน ปี 2479 มียาดมตราโป๊ยเซียนวางขายเป็นครั้งแรก แต่เดิมก็เป็นร้านขายสมุนไพรย่านเยาวราช จากนั้นก็ผันตัวมาทำยาดมขาย ซึ่งยาดมแบบแรกที่วางขายมีชื่อว่า 'พีเป็กซ์' หลังจากนั้นอีก 10 ปีต่อมา พีเป๊กซ์ได้อัปเกรดตัวเองจากยาดมที่มีไว้แค่ดมธรรมดามาเป็นยาดมที่ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียว และใช้ชื่อใหม่ว่า 'ยาดมตราโป๊ยเซียน' 

 

หลังจากนั้นยาดมตราโป๊ยเชียนก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยฟังก์ชันล้ำๆ ทั้งดม ทั้งทา เสียเงินซื้อ 1 ใช้ได้ถึง 2 แบบ ไหนจะเรื่องของแพ็กเกจแบบหลอดเล็ก พกพาง่าย ก็ทำให้ยาดมตราโป๊ยเซียนเป็นไอเทมติดกระเป๋าของคนในยุคนั้นได้อย่างง่ายดาย 

 

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยาดมตราโป๊ยเซียนอยู่คู่กระเป๋าคนไทยมานานกว่า 86 ปีแล้ว แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแพ็กเกจความเป็นยาดมแบบ 2 in 1 และที่สำคัญยังคงครองความนิยมในใจของคนไทยไว้ได้เหมือนเดิม 

 

หัวจะปวดแค่ไหน เราคนไทยก็ขอสูดยาดม  ไว้ก่อน

 

 

เปย์เป้ขอบอกเลยว่าการติดยาดมของคนไทยไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถึงขนาดที่ว่ามีรายการจากประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทำและสัมภาษณ์ว่าไอแท่งๆ ที่คนไทยเอาไว้ยัดจมูกมันคืออะไรกันนะ ?! จนตอนนี้ยาดมได้กลายเป็นของฝากยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวไปแล้ว บอกแล้วว่า พกยาดม คือ Thailand Only จริงๆ  😂

 


 

ยาดม ไอเทมคู่ใจ ถ้าเสพติดมากไปก็เป็นอันตรายได้เหมือนกัน 

 

ดมยาดม

 

ติดยาดมมาก เป็นอันตรายมั้ย ?

 

เปย์เป้บอกเลยว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่คาใจคนชอบพกยาดมและติดการดมยาดมเป็นชีวิตจิตใจอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุของการที่เสพติดชอบสูดยาดม แม้ว่าจะไม่ได้มีอาการวิงเวียน นั่นก็เป็นเพราะว่า เราเกิดอาการเสพติดสารบางอย่างที่ใช้ผลิตยาดม อย่าง การบูร เมนทอล น้ำมันหอมระเหย เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้ถ้าหากสูดดมเข้าไปมากๆ ก็ส่งผลต่อกับร่างกายจนทำให้เราเกิดอาการเสพติดได้นั่นเอง แต่ก็ถือว่าเป็นการเสพติดด้วยนิสัยมากกว่า ยังไม่นับเป็นอาการทางจิต  

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการสูดยาดมมากเกินความจำเป็นก็อาจส่งผลต่อโพรงจมูกของเราได้ ถ้าเพื่อนๆ ติดยาดมหนักมาก ลองเปลี่ยนวิธีดมยาดมตามนี้ดูเพื่อเซฟจมูกของเรากัน ! 

 

การสูดยาดมที่ถูกวิธี คือ ให้เปิดฝาแล้วแกว่งยาดมไปมา ไม่สูดยาดมใกล้จนเกินไป ยิ่งใครที่ชอบสอดแท่งยาดมเข้าจมูก ต้องหยุดเดี๋ยวนี้  หยุดทันทีก่อนที่เยื่อบุจมูกจะพัง แถมยังจมูกบานแบบไม่รู้ตัว !

 


 

ไมว่าจะเหตุการณ์ใด ต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวแค่ไหน ขอแค่ได้สูดยาดมซักฟื้ดให้ชื่นใจก็พร้อมสู้ต่อ ไม่ใช่เรื่องเกินจริง แรกๆ เปย์เป้เองก็ไม่ใช่คนติดยาดมหรอกนะ แต่พอมีเรื่องปวดหัวทีไรได้ยาดมช่วยไว้ทุกที จนตอนนี้ขาดยาดมแทบไม่ได้เลย ใครที่ติดยาดมแบบเปย์เป้ ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าใช้บ่อยจนเกินความจำเป็น สูดดมแต่พอดีก็จะมีแต่ประโยชน์นะ 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : bangkokbiznews.com, marketthink.co, goodlifeupdate.com, sanook.com

แสดงความคิดเห็น