ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้ ! Nikola Tesla นักประดิษฐ์สุดอัจฉริยะในตำนาน ที่มาของชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา
โดย : imnat
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ รวมถึงนวัตกรรมที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันของเรา ใช่ว่าแค่นอนหลับสักคืน ตื่นมาจะสามารถครีเอทเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ กันได้เลย 😅 เพราะของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ รวมถึงประสบการณ์ในด้านนั้น ๆ แถมสิ่งประดิษฐ์บางชิ้นก็ไม่ได้ใช้เวลางมกันอยู่แค่ปี-สองปี แต่อาจกินระยะเวลายาวนานเป็นสิบ ๆ ปีเลยก็มี ! เพราะแบบนี้ละมั้งถึงได้มีการอวยยศนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ รวมถึงวิศวกรกันมาตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์กันเลย
แต่กว่าจะได้รับการอวยยศ บอกเลยว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะสิ่งประดิษฐ์ รวมถึงนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นมาจะต้องเจ๋ง และจะต้องพิสูจน์ออกมาให้เห็นได้ด้วยว่า มันสามารถใช้งานได้จริง ๆ มีประโยชน์กับทุกคนจริง ๆ และสามารถต่อยอดในอนาคตข้างหน้าได้จริง ๆ
Nikola Tesla (นิโคลา เทสลา) คือ บุคคลที่ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ที่ตอนนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกไปแล้วเรียบร้อย แถมล่าสุดก็กำลังจะเข้ามาตีตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดรับสมัครพนักงานเป็นจำนวนมาก (ไหน มีใครในที่นี้ตบเท้าลงสนามแข่งขันกันแล้วบ้าง) ซึ่งใครจะไปรู้ว่า การมาของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ ถ้าไม่ได้มันสมองสุดอัจฉริยะของ Nikola Tesla คนนี้ เราอาจจะไม่มีโอกาสได้รู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้อย่าง Tesla ก็เป็นได้ 😎
รู้จัก Nikola Tesla อัจฉริยะสติเฟื่อง
ที่มาของชื่อ Tesla แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก !
Tesla Motors หรือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ถูกตั้งชื่อขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติให้กับวิศวกรและนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลอย่าง Nikola Tesla โดยในช่วงแรกที่ทางแบรนด์เปิดตัว ถึงขั้นมีการออกมาอวยยศที่มาของชื่อนี้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Tesla เลยว่า
"Without Tesla's Vision and brilliance, our car wouldn't be possible"
ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า หากไม่ได้วิสัยทัศน์และความเฉลียวฉลาดของเทสลา
รถยนต์ไฟฟ้าของเราก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ถ้าถามว่าวิสัยทัศน์รวมถึงความเฉลียวฉลาดของเทสลาที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้านี้คืออะไร บอกเลยว่าความสามารถพิเศษนี้ของเค้าไม่ได้มาเพราะโชคช่วยอย่างแน่นอน !
Nikola Tesla วิศวกร นักประดิษฐ์ และนักฟิสิกส์ชาวเซอร์เบีย - อเมริกัน เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของโลกที่ว่ากันว่าเค้านั้นเป็นผู้ที่บุกเบิกวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นคนแรก ๆ โดยสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างชื่อให้กับเค้านั้นมีเยอะมาก มีความหลากหลายมาก แถมยังดูมีความเป็นไปได้ยากมาก นั่นเลยทำให้เค้าถูกพูดถึงในอีกชื่อนึงว่า อัจฉริยะสติเฟื่อง
Nikola Tesla เกิดที่ประเทศเซอร์เบีย (ปัจจุบันคือโครเอเชีย) โดยเค้าจัดว่าเป็นเด็กหัวดีมาตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเค้ามักจะมีความคิดและจินตนาการที่ล้ำเกินกว่าเด็กทั่วไป แต่ว่ากันว่าสาเหตุที่ทำให้เค้ากลายเป็นเด็กที่มีความคิดความอ่านล้ำหน้าเกินกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันก็เพราะ เหตุการณ์ที่พี่ชายของเค้าเสียชีวิตลงในขณะที่เค้ายังมีอายุที่น้อยมาก ๆ ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจจะไปกระทบกระเทือนกับจิตใจของเค้า จนทำให้เกิดเป็นความผิดปกติทางจิตขึ้นมา
Nikola Tesla ขอบคุณภาพจาก BBC
แต่ต้องบอกเลยว่า ความผิดปกติทางจิตของเค้าที่ว่านี้ อาจมีผลในแง่ดีมากกว่าไม่ดีเสียด้วยซ้ำ เพราะมีข้อมูลระบุเอาไว้โดยคนใกล้ชิดที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับ Nikola Tesla โดยมีใจความว่า Nikola Tesla เป็นบุคคลที่มีความจำดีมาก เค้าสามารถทำงานทุกอย่างผ่านความคิดที่อยู่ในหัวได้ ซึ่งการทำงานที่ว่านี้ ก็ได้แก่การร่างภาพของสิ่งประดิษฐ์ ตั้งสมมุติฐาน รวมถึงทำการทดลองเบื้องต้นจากภาพที่อยู่ในหัว โดยที่ไม่ต้องอาศัยการจดบันทึกให้เสียเวลา
ยัง ยังไม่พอ เค้ายังมีความรู้ทางภาษาที่ดี สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา มีมารยาทและทักษะในการเข้าสังคมที่ดีมาก อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานติดต่อกันโดยไม่หยุดพักได้นานสูงสุด 84 ชั่วโมง แต่ข้อเสียที่ได้มาจากความขยันทำงานของเค้า ได้ทำให้เค้ากลายเป็นคนที่มีบุคลิกย้ำคิดย้ำทำ ไม่ว่าจะทำงาน ใช้ชีวิต หรืออะไรใดใดก็ตาม โดยอาการย้ำคิดย้ำทำที่ว่านี้ ทำให้ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร เค้าจะต้องทำมันซ้ำ ๆ เป็นจำนวน 3 ครั้ง และเชื่อหรือไม่ว่า การทำสิ่งต่าง ๆ ซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลา 3 ครั้งนี้ ได้ทำให้ตัวของเค้าคลั่งไคล้เลข 3 เป็นเอามาก มากเสียจนที่ว่า เวลาเดินทางไปเข้าพักตามโรงแรมต่าง ๆ ห้องพักที่เค้าเลือก จะต้องเป็นห้องพักที่หารด้วยเลข 3 ลงตัวเท่านั้น
และใช่ว่าความแปลกของเค้าจะสิ้นสุดอยู่แค่นี้ เพราะ Nikola คนนี้ ยังเกลียดการสุงสิงกับผู้หญิงที่สวมตุ้มหูเข้าไส้ แถมยังชอบขลุกตัวเองอยู่กับนกพิราบ ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลบันทึกเอาไว้ว่า เค้ารักความสะอาดอย่างกับอะไร แต่กลับสนใจในนกพิราบได้ นั่นแปลว่านกพิราบจะต้องมีอะไรบางอย่างที่จูนติดกับเค้าเป็นแน่ 😅
Nikola Tesla ขอบคุณภาพจาก wienerzeitung
พักจากเรื่องราวที่การันตีความสติเฟื่องของเค้า แล้วมาเข้าสู่โหมดของความอัจฉริยะกันบ้าง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้อวยยศความเฉลียวฉลาดของ Nikola Tesla ให้ทุกคนได้รู้จักกันไปคร่าว ๆ แล้ว ต้องบอกเลยว่า Passion ที่เค้ามีต่อสิ่งประดิษฐ์ รวมถึงนวัตกรรมต่าง ๆ นั้นมีอยู่ในตัวค่อนข้างมาก นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เค้าตัดสินใจเข้าเรียนต่อในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี กราซ ประเทศออสเตรีย ซึ่งที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของเค้ากับการศึกษา ไฟฟ้ากระแสสลับ เป็นครั้งแรกอีกด้วย ⚡
"ไฟฟ้ากระแสสลับ" หัวใจสำคัญของรถยนต์ EV
ในรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน จะมีองค์ประกอบสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจอยู่ 3 ส่วน ได้แก่
- แบตเตอรี
- อุปกรณ์แปลงไฟฟ้า
- มอเตอร์
หลังจากที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการชาร์จไฟเข้าไปในแบตเตอรีเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเป็นหน้าที่ของอุปกรณ์แปลงไฟฟ้า ที่จะต้องแปลงกระแสไฟฟ้าจากกระแสตรง ให้เป็นกระแสสลับ เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าสลับที่ได้นั้น เป็นพลังงานให้กับมอเตอร์ในการขับเคลื่อนรถยนต์คันนั้นต่อไป ซึ่งถือได้ว่าอุปกรณ์แปลงไฟฟ้าที่ว่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละคันเลยก็ว่าได้ เพราะกว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าจะได้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าคันนั้นจะต้องทำการแปลงกระแสไฟฟ้าให้เป็นกระแสสลับก่อนทุกครั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าถึงจะมีพละกำลังในการสร้างพลังงานให้กับรถยนต์ไฟฟ้าคันนั้นได้
และหลังจากที่ Nikola Tesla ได้ทำการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี กราซ อยู่ได้สักพักใหญ่ เค้ามีความคลั่งไคล้และอยากจะทำการทดลองในเรื่องของไฟฟ้ากระแสสลับเป็นอย่างมาก จนทำให้ Nikola ถึงขั้นยอมออกจากมหาวิทยาลัย แล้วตัดสินใจเดินตามความฝัน ด้วยการหาสถานที่ทำงานที่สามารถต่อยอดให้เค้าทำการทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้ากระแสสลับนี้ได้
Thomas Edison ขอบคุณภาพจาก ThoughtCo
Thomas Edison นักธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในยุคนั้น โดย Thomas Edison คนนี้ ได้กลายเป็นเจ้านายที่ทาง Nikola มีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า Thomas Edison จะให้การสนับสนุนและผลักดันให้เค้าทำการทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้ากระแสสลับนี้ได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
ซึ่งในระหว่างที่ทั้งสองคนได้ทำงานร่วมกัน Thomas กลับหันไปโฟกัสที่ไฟฟ้ากระแสตรงแทน แทนที่จะโฟกัสที่ไฟฟ้ากระแสสลับเหมือนกันกับเค้า และเพราะทัศนคติที่ไม่ตรงกันนี้ เลยทำให้ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองคนก็ได้แยกทางกันไป ก่อนที่ Nikola จะออกเดินทางตามหานายทุนคนใหม่ ที่จะช่วยสานฝันให้การทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้ากระแสสลับของเค้าเป็นจริงขึ้นมา
George Westinghouse ขอบคุณภาพจาก biography
George Westinghouse วิศวกร นักประดิษฐ์ และนักธุรกิจชาวอเมริกันที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาของ Thomas Edison จัดการคว้าตัวของ Nikola Tesla มาร่วมงานด้วยทันที มิหนำซ้ำเค้ายังสานฝันของ Nikola ให้เป็นจริงด้วยการสนับสนุนเงินทุนในการทดลอง พร้อมกับจดสิทธิบัตรของการทดลองนี้ในนามของ Nikola Tesla ให้เลยด้วย
โดยการศึกษาเรื่องไฟฟ้ากระแสสลับของ Nikola นี้ ต้องการมาหักล้างการศึกษาเรื่องไฟฟ้ากระแสตรงของ Thomas Edison โดยเฉพาะ เพราะ Nikola Tesla เห็นข้อดีในไฟฟ้ากระแสสลับมากกว่าไฟฟ้ากระแสตรง ทั้งในแง่ของการลดระยะเวลาในการส่งกระแสไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นกระแสไฟที่ตอบโจทย์กับแหล่งพลังงานใหญ่ ๆ อาทิเช่น กระแสไฟที่ใช้ในครัวเรือน รถยนต์ รวมไปถึงธุรกิจที่ต้องใช้ปริมาณไฟฟ้ามาก ๆ
เพราะข้อดีของไฟฟ้ากระแสสลับ คือความสามารถในการจ่ายไฟในระยะทางที่ไกล แถมยังเสถียรกว่าไฟฟ้ากระแสตรง มิหนำซ้ำไฟฟ้ากระแสสลับนี้ไม่มีขั้วบวก ขั้วลบ เพราะตัวพลังงานมีการไหลสลับไปมาตลอดเวลา เหมือนย่นระยะเวลาการเดินทางของไฟฟ้าลง ทำให้สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เป็นไฟฟ้ากระแสต่ำ หรือสูงได้ตามที่ต้องการ อย่างถ้าเป็นไฟฟ้ากระแสตรงจะไม่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงได้ แถมยังไม่สามารถส่งกระแสไฟในระยะทางที่ไกลได้ด้วย
ซึ่งสิ่งประดิษฐ์อย่างไฟฟ้ากระแสสลับนี้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถออกเดินทางในระยะทางที่ไกลขึ้น เนื่องจากตัวรถมีการแปลงพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา ช่วยซัปพอร์ตในแง่ของการใช้งาน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าเลยทีเดียว
Nikola Tesla (คนกลาง) ขอบคุณภาพจาก Nikola Tesla Universe
เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง ว่าครั้งนึง Nikola Tesla เคยคิดที่จะประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้ามาแล้ว !
ละไว้ในฐานที่เป็นไปได้ หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้ก็ได้ เพราะสิ่งประดิษฐ์ของ Nikola Tesla ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับความเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะความที่ชอบคิดอะไรในแบบที่สวนทางกับกรอบความคิดของคนส่วนใหญ่ เลยทำให้คำกล่าวอ้างนึงของ Arthur Matthews ผู้ช่วยคนสุดท้ายของ Nikola น่าเชื่อถือขึ้นมา โดย Arthur คนนี้ได้บันทึกเอาไว้ในหนังสือของเค้าอย่าง The Wall of Light : Nikola Tesla & the Venusian Space ตอนนึงว่า
อุปนิสัยส่วนตัวของ Nikola คือเค้ามักจะมองเห็นภาพที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้เค้ามีความแตกต่างจากคนทั่วไป แถม Arthur ยังบอกอีกด้วยว่า หนึ่งในภาพที่ Nikola มองเห็น ก็ได้แก่ภาพของรถยนต์ไฟฟ้า โดย Nikola ได้ประดิษฐ์รถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาครั้งแรกในปี 1897 ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Nikola นี้ มีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 151 กม. / ชม. สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จากมหานครนิวยอร์ก ไปยังเมืองบัฟฟาโลได้แบบสบาย ๆ
แถม Arthur ยังบอกอีกด้วยว่า Nikola เคยเดินทางไปยังประเทศแคนาดาเพื่อประดิษฐ์เครื่องส่งกำลังรถยนต์ ในระหว่างที่เค้าได้ทำการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ไปพร้อมกัน โดยเครื่องยนต์ในรถยนต์ไฟฟ้าของ Nikola นี้ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขนาดเล็ก สามารถทำงานด้วยความเร็ว 30,000 รอบ / นาที ก่อนจะลดลงเหลือ 18,000 รอบ / นาที โดยใช้ควบคู่กับเครื่องส่งกำลังที่ Nikola เป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมานั่นเอง
แต่ใดใดข่าวลือ ก็เป็นได้แค่เพียงข่าวลือ เพราะเราไม่สามารถหาหลักฐานอะไรมายืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้เลย เพราะด้วยอุปนิสัยของ Nikola ที่ชอบทำงานทุกอย่างผ่านสมองอยู่แล้ว เลยทำให้เราหาหลักฐานในเชิงลายลักษณ์อักษรมาประกอบคำกล่าวอ้างนี้ได้ยาก แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งประดิษฐ์อยู่อย่างนึงของเค้า ที่พิสูจน์ให้พวกเราได้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ได้มาเพราะคำกล่าวอ้างจากคนอื่น จน Elon Musk และผองเพื่อน ถึงขั้นนำชื่อของเค้ามาตั้งเป็นชื่อของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งความสามารถนั้นก็คือ ความสามารถในการคิดค้นไฟฟ้ากระแสสลับ หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าที่เราใช้งานกันในทุกวันนี้นี่เอง
Nicholas Hoult ในบทบาทของ Nikola Tesla ขอบคุณภาพจากภาพยนตร์เรื่อง The Current War
นอกจากสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Nikola Tesla อย่างไฟฟ้ากระแสสลับแล้ว จะบอกว่ายังมีผลงานการประดิษฐ์อื่น ๆ ของเค้าที่น่าสนใจอีกเพียบ นับตั้งแต่
- ลำโพงสำหรับโทรศัพท์ (ว่ากันว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์แรกของ Nikola Tesla)
- การค้นพบสนามแม่เหล็ก
- การคิดค้นสัญญาณวิทยุ
- การประดิษฐ์หลอดไฟ
รวมถึงงานประดิษฐ์ที่ถึงขั้นกลายเป็น Top Secret ที่ทางรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถเผยแพร่เอกสารฉบับนั้นได้ นั่นได้แก่ รังสีมรณะ ที่ทาง Nikola ตั้งใจจะให้เป็นอาวุธร้ายแรงในระดับสุดยอดของกองทัพ ในการใช้ล้างบางสงครามทั้งหมดนั่นเอง 😱
นอกจากงานประดิษฐ์ข้างต้นนี้ ยังมีงานประดิษฐ์อีกหลายชิ้นงานที่ ณ ตอนนั้น อาจจะยังไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากความล้ำเกินไป จนคนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้รวมไปถึงนายทุนด้วย เลยทำให้ในช่วงบั้นปลายชีวิตของ Nikola Tesla คนนี้ เค้าได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องพักหมายเลข 3327 ที่โรงแรม New Yorker เนื่องจากขาดเงินทุน พร้อมกับอาการสมองเสื่อมที่ค่อย ๆ กัดกินความทรงจำของเค้าทีละนิด จนกระทั่งเค้าได้เสียชีวิตลงในวัย 86 ปี ซึ่งก็เป็นระยะเวลาหลายปี กว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นอื่น ๆ ของเค้าจะได้รับความนิยมตามมา
ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลนี้สามารถพิสูจน์ความเป็นอัจฉริยะของ Nikola Tesla ได้ตรงที่ว่า แม้ว่าจุดเริ่มต้นของเค้าอาจจะไม่ได้มีอะไรที่เพียบพร้อมเหมือนอย่างคนอื่น ๆ แต่เค้ากลับมีมันสมอง และ Passion ในเรื่องที่ตัวเองสนใจมาก แถมยังมีความพยายามในการตามล่าหานายทุนด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้นำเงินทุนเหล่านั้นมาประดิษฐ์ รวมถึงจดสิทธิบัตรผลงานที่ตัวเองได้สร้างสรรค์ออกมาทีละชิ้น ๆ แม้ว่าสิ่งประดิษฐ์บางชิ้นของเค้าจะถูกปัดตกไปบ้าง อาจจะเพราะการเข้าไม่ถึงของคนในยุคนั้น
แต่ปัจจุบันนี้ ผลงานการประดิษฐ์หลายชิ้นของ Nikola Tesla กลับได้รับการยอมรับจากคนหมู่มาก จนทำให้เค้ากลายเป็นนักประดิษฐ์อีกหนึ่งคนที่มีความสำคัญมาก ๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ จนทำให้ได้รับรางวัล รวมถึงได้รับเกียรติให้เป็นชื่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีอิทธิพลกับคนทั้งโลกในทุกวันนี้อย่าง Tesla เข้าจนได้
💭 และสำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ Nikola Tesla, Thomas Edison รวมถึง George Westinghouse เพิ่มเติม ก็สามารถไปหาภาพยนตร์เรื่อง The Current War มาดูกันได้ เชื่อว่าพวกเราคงจะได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจในชีวิตของนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 คนนี้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่
- ชาร์จไฟผิด ชีวิตเปลี่ยน ! "หัวชาร์จรถยนต์ EV มีแบบไหนบ้าง?" แต่ละแบบต่างกันยังไง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะเวิร์ก
- ราคานี้มีที่มา ! ไขข้อสงสัย "ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพง ?"
- แจกพิกัด "จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทั่วไทย" ใกล้ที่ไหน เซฟเก็บไว้เลย
- เปิดขั้นตอน "ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สถานี" ยุ่งยากไหม มีอะไรที่มือใหม่ต้องรู้บ้าง ?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : getjerry, teslauniverse, fool, nytimes, wikipedia และ aaas
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ