ระวัง! โนโรไวรัส เชื้อไวรัสที่ไม่มีวัคซีนป้องกัน และกำลังแพร่ระบาดในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก
โดย : wacheese
🦠
ก่อนหน้านี้มีการรายงานข่าวของนักเรียนในจังหวัดชัยภูมิ ที่เกิดอาการท้องเสียและอาเจียนอย่างรุนแรง หลังจากทานอาหารกลางวันของโรงเรียน จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมากถึง 315 คน และจากการส่งตรวจหาเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ พบว่าเกิดจาก โนโรไวรัส ที่อาจปนเปื้อนในอาหาร หรือน้ำแข็ง
| รู้จัก โนโรไวรัส เชื้อไวรัสอันตรายที่พบได้ในเด็กและผู้ใหญ่ |
โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร พบได้ในเด็ก และผู้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน โนโรไวรัสสามารถติดต่อกันได้ง่ายจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสอาหาร น้ำดื่ม หรือการหายใจใกล้กับผู้ป่วยที่อาเจียน อีกทั้งโนโรไวรัสสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว แม้ร่างกายจะได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย จนทำให้บางครั้งอาจป่วยพร้อมกันทั้งครอบครัว หรือระบาดในโรงเรียน และสถานรับเลี้ยงเด็ก 👶🏻 ที่สำคัญยังทนต่อความร้อน และน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
" ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันเชื้อโนโรไวรัส "
สำหรับโนโรไวรัส ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า เป็นเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของการระบาดของการติดเชื้อท้องเสีย ที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และ พบบ่อยที่สุดในโลก
| อาการติดเชื้อ โนโรไวรัส
อาการที่พบได้บ่อย หากได้รับเชื้อโนโรไวรัส ภายใน 24-28 ชม.
- ถ่ายเหลวเป็นน้ำ
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- ไข้ต่ำ
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- อ่อนเพลีย
| วิธีป้องกันตนเองจาก โนโรไวรัส
1. ก่อนทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
2. การล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ โดยให้น้ำไหลผ่านไม่ต่ำกว่า 15 วินาที
3. ดื่มน้ำสะอาด และปรุงอาหารให้สุก
4. หลีกเลี่ยงการหยิบจับ หรือทำอาหารให้ผู้อื่น
5. ใช้ช้อนกลาง หากต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
| การดูแลที่พักอาศัย เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วย
การสัมผัสอุจจาระและอาเจียนของผู้ป่วย อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการติดต่อโนโรไวรัสได้ เพราะเชื้อโนโรไวรัสสามารถอยู่ในอุจจาระได้นานถึง 2 สัปดาห์ แม้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแล้วก็ตาม ดั้งนั้นเราจึงต้องป้องกันตนเอง และดูแลที่พักอาศัยอย่างเคร่งครัด หากต้องอยู่ร่วมกับผู้ป่วย
1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อย ๆ นานอย่างน้อย 20 วินาที
2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดขัดฟอกพื้นผิวทุกครั้งที่มีการสัมผัส
3. ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อน
4. สวมเสื้อคลุมและถุงมือทุกครั้ง เมื่อมีการสัมผัสอุจจาระและอาเจียนของผู้ป่วย
5. หากมีอาการป่วย ควรหยุดพักผ่อนอยู่บ้าน
👉🏼 บทความที่เกี่ยวข้อง
- อาหารติดคอเด็ก ภัยใกล้ตัว ผู้ปกครองควรปฐมพยาบาลอย่างไร มาดู ! คลิก
- ไม่รู้ ไม่ได้ | Child Grooming หรือพฤติกรรมการเข้าหาเด็กโดยมีจุดประสงค์ทางเพศ น่ากลัวยังไง ทำไมถึงต้องระวัง ? คลิก
🔗 ข้อมูลอ้างอิง กรมควบคุมโรค, โรงพยาบาลกรุงเทพ
โดย wacheese
[email protected] :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ