วีซ่านักเรียนฉบับอัปเดต แต่ละประเทศมีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง มาดู!

avatar writer
โดย : Ying
avatar writer28 ก.ย. 2566 avatar writer193
วีซ่านักเรียนฉบับอัปเดต แต่ละประเทศมีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง มาดู!

 

ช่วงนี้มีโอกาสได้เห็นโปสเตอร์งาน OCSC International Education Expo 2023 มหกรรมศึกษาต่อต่างประเทศ ครั้งที่ 18 ผ่านตาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้คิดถึงสมัยวัยรุ่นที่มักจะนัดเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวงานลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ ถึงแม้ตอนนั้นจะไม่ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่การไปเดินงานนี้ก็ได้ความรู้จากพี่ๆ ประจำสถาบัน และช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในการเรียนอยู่ไม่น้อยเลย 

 

 

เมื่อใดที่เราจะต้องเก็บกระเป๋าไปเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากเรื่องสถาบัน สาขาวิชา ที่พักอาศัย ที่เราต้องสนใจแล้ว เรื่องวีซ่าก็เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสนใจไม่แพ้กัน เมื่อเราไปในฐานะนักเรียน วีซ่าที่เราจะต้องถือจะเรียกว่า วีซ่านักเรียน ซึ่งจะแตกต่างจากวีซ่าประเภทอื่นโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเอย เงื่อนไขเอย หรือข้อบังคับเอย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสถานทูตของประเทศนั้นๆ ต้องใช้เวลาพิจารณาวีซ่าประเภทนี้นานมาก

 


อีกประเด็นที่เรามักจะสนใจกันก็คือ อยากจะเรียนไปพร้อมกับทำงานพิเศษเพื่อหารายได้ไปด้วย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องย้อนกลับไปดูพวกข้อบังคับของวีซ่านักเรียนในประเทศนั้นๆ ว่าสามารถให้เราทำงานไปด้วยได้ไหม ทำได้กี่ชั่วโมง และบทความนี้จะพาไปดูกันว่าตอนนี้วีซ่านักเรียนของแต่ละประเทศมีอัปเดตข้อกำหนดอะไรบ้าง

 

 


วีซ่านักเรียนฉบับอัปเดต
เรียนต่อประเทศไหนให้สิทธิ์ทำงานนอกเวลาได้

 

 

ประเทศสุดฮิตที่คนไทยมักจะเลือกไปเรียนต่อก็คือ อเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย ทางฝั่งเอเชียก็จะมีประเทศญี่ปุ่น ประเทศเหล่านี้จะทำการออกวีซ่านักเรียนให้กับผู้ที่จะไปศึกษาต่อ แต่จะมีความแตกต่างกันก็ตรงเงื่อนไขของวีซ่าบางประเทศอาจจะอนุญาตให้ทำงานแบบเต็มเวลา บางประเทศอาจจะไม่อนุญาตให้ทำงานเลย และบทความนี้เราจะพามาดูกันว่า ในปัจจุบันนี้แต่ละประเทศมีการอัปเดตเรื่องวีซ่านักเรียนอย่างไรกันบ้างแล้ว

 

เรียนต่อประเทศอเมริกา

 

 

 

อเมริกาเป็น 1 ในประเทศยอดฮิตตลอดกาล ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็พากันปักหมุดมาที่นี่ ประเทศอเมริกามีมหาวิทยาลัยระดับปริญญาให้เลือกมากกว่า 4,000 แห่ง และมีหลายหลักสูตรอีกด้วย อีกทั้งยังมีโรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนมัธยมกระจายไปตามรัฐต่างๆ ทั่วอเมริกา สำหรับวีซ่านักเรียนในอเมริกาจะมีด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

 

  1. วีซ่า F-1  : สำหรับคนที่ไปเรียน"หลักสูตรเต็มรูปแบบ" เต็มรูปแบบในที่นี้ก็คือ ลงคอร์สเรียนภาษา เรียนวิทยาลัย เรียนมหาวิทยาลัย แต่ต้องลงเรียนเกิน 18 ชม./สัปดาห์ วีซ่า F-1 จะมีข้อกำหนดดังนี้

  • สามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชม./สัปดาห์ แต่ต้องเป็นการทำงานภายในสถานศึกษานั้นๆ 
  • **คนที่ถือวีซ่า F-1 และลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ (language training program, ESL) ไม่สามารถทำงานได้ในทุกกรณี

 

  2. วีซ่า J-1 คือวีซ่าของนักเรียนทุน นักเรียนแลกเปลี่ยน หรือคนที่ไป Work and Travel วีซ่าชนิดนี้จะมีอายุตามกำหนดของโครงการนั้นๆ เช่น ถ้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนมากจะมีอายุ 1 ปี เป็นต้น และจะมีข้อกำหนดดังนี้

  • สามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชม./สัปดาห์ แต่ต้องได้รับอนุมัติจากโครงการก่อน
  • อาจจะได้รับอนุญาตให้มีผู้ติดตามอย่าง สามี ภรรยา ลูก ได้ โดยผู้ติดตามจะได้เป็นวีซ่า J-2

 

  3. วีซ่า M-1 สำหรับคนที่ลงเรียนและฝึกอบรมหลักสูตรวิชาชีพ เช่นหลักสูตรทำอาหาร หลักสูตรกราฟฟิกดีไซน์ เป็นต้น วีซ่านักเรียนประเภท M-1 จะมีอายุ 1 ปี และจะมีข้อกำหนดดังนี้

  • สามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชม./สัปดาห์
  • สามารถต่ออายุได้ โดยจะต่ออายุได้ตามระยะเวลาจริงของหลักสูตร

 


เรียนต่อประเทศอังกฤษ 

 

 

 

เมืองผู้ดีที่ฉันใฝ่ฝัน ประเทศอังกฤษก็เป็นประเทศยอดฮิตของนักเรียนเช่นกัน ด้วยประเทศอังกฤษนั้นมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น Oxford, Cambridge, Imperial College และ Durham ซึ่งนอกจากจะมีมหาวิทยาลัยชื่อดังแล้ว ยังมีโรงเรียนสอนภาษาเป็นจำนวนมากอีกด้วย สำหรับวีซ่านักเรียนของอังกฤษเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียกไป ตอนนี้จะแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

 

 

  1. วีซ่า Student route (เดิมเรียกว่า tier 4 General Student Visa) สำหรับนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป สามารถพูด อ่าน เขียน และเข้าใจภาษาอังกฤษ คนที่จะได้วีซ่าประเภทนี้ต้องได้รับเสนอจากสถาบันที่สมัครไปก่อนว่าสามารถเข้าเรียนได้ อายุของวีซ่าประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับคอร์สที่เรียน แต่จะอยู่ได้สุงสุดถึง 5 ปี วีซ่าประเภทนี้จะมีข้อกำหนดคือ 

  • สามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชม./สัปดาห์ แต่ไม่สามารถทำงานบางประเภทเช่น นักกีฬา โค้ช ได้

 

  2. วีซ่า Child Student Route (เดิม Tier 4 หรือก็คือ Child Student Visa) สำหรับนักเรียนอายุ 4-17 ปี ที่ลงเรียนในโรงเรียนเอกชน หากอายุน้อยกว่า 16 ปีจะอยู่ในอังกฤษได้นานสุด 6 ปี กับอีก 4 เดือนหลังจากเรียนจบ แต่ถ้าอายุ 16-17 ปีจะอยู่ในอังกฤษได้นานสุด 3 ปี กับ 4 เดือนหลังจากเรียนจบ วีซ่าประเภทนี้จะมีข้อกำหนดคือ 

  • ทำพาร์ทไทม์ได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ และแบบเต็มเวลาในช่วงปิดเทอม
  • ฝึกงานระหว่างเรียนได้โดยต้องไม่เกิน 50% ของการเวลาเรียน

 

  3. วีซ่าแบบ Short-term Student Route จะเป็นวีซ่าระยะสั้นสำหรับผู้ที่มาเรียนคอร์สภาษาระยะเวลา 6-11 เดือน เท่านั้น อายุวีซ่าก็จะเป็นไปตามระยะเวลาของคอร์สเรียน แต่จะต้องไม่เกิน 11 เดือน วีซ่าประเภทนี้จะมีข้อกำหนดดังนี้ 

  • ห้ามทำงาน
  • ห้ามเปลี่ยนคอร์สเรียน
  • ห้ามพาสมาชิกครอบครัวมาอยู่ด้วย

 


เรียนต่อประเทศแคนาดา

 

 

 

ประเทศแคนาดาจัดเป็นประเทศที่ระบบการศึกษามีคุณภาพในระดับสูง อีกเหตุผลหนึ่งประเทศแคนาดาเป็นเป้าหมายของใครหลายคนคือยอดอาชญากรรมต่ำมาก เพราะฉะนั้นใครเดินทางไปเรียนตัวคนเดียวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย การจะไปเรียนต่อที่แคนาดาจะต้องขอทั้งวีซ่านักเรียนและ STUDY PERMIT เพื่อใช้เข้าประเทศไปเรียน ซึ่งก่อนจะได้ STUDY PERMIT นักเรียนจะต้องได้รับ Offer Letter จากสถาบันการศึกษาที่เราสมัครก่อน อายุของ STUDY PERMIT จะเป็นไปตามระยะเวลาของหลักสูตรที่เรียนเท่านั้น แต่ถ้าใครที่เรียนคอร์สระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือนไม่ต้องยื่นขอ STUDY PERMIT สำหรับการเรียนต่อแคนาดามีข้อกำหนดดังนี้

  • มีประกาศออกมาว่า แต่วันที่ 15 พ ย 2565 ถึง 31 ธ ค 2566 นักเรียนที่ลงเรียนแบบเต็มเวลา สามารถทำงานนอกเวลาได้ไม่จำกัดจำนวนชั่วโมง
  • วันที่ 1 ม.ค. 2567 จะกลับมาใช้ข้อบังคับเก่าที่ว่า ให้ทำงานนอกเวลาได้ไม่เกิน 20 ชม./สัปดาห์


เรียนต่อประเทศออสเตรเลีย  

 

 

 

ออสเตรเลียแดนจิงโจ้ หมีโคอาล่า ประเทศที่มีกิจกรรมมันส์ให้ทำเยอะ และด้วยระบบการศึกษาของออสเตรเลียนั้นมีคุณภาพสูง จึงเป็นประเทศที่ผู้คนจากทั่วโลกมักจะเลือกมาเรียนต่อกัน วีซ่านักเรียนออสเตรเลียหรือ Subclass 500 มีอายุมากถึง 5 ปี แต่ถ้าเป็นเด็กนักเรียนระดับชั้นปฐมวัยวีซ่าจะมีอายุ 3 ปี วีซ่านักเรียนจะออกให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป วีซ่านักเรียนของออสเตรเลียจะมีข้อกำหนดดังนี้ 

  • ทำงานนอกเวลาได้สูงสุด 48 ชม./2 สัปดาห์
  • ต้องมีประกันสุขภาพนักศึกษาต่างชาติ (Overseas Student Health Cover: OSHC)


เรียนต่อประเทศฝรั่งเศส

 

 

 

ประเทศฝรั่งเศสนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องคอร์สเรียนทำอาหาร ทำขนมแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่อง ภาษา รัฐศาสตร์การปกครองอีกด้วย ถ้าพูดถึงเรื่องบรรยากาศในฝรั่งเศสจะเต็มไปด้วยตึกเก่าสวยงาม มีงานศิลปะ มีพิพิธภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่างลูฟวร์ สำหรับวีซ่าของฝรั่งเศสจะมีอยู่ 3 แบบโดยแบ่งตามระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศสดังนี้

  1. วีซ่า Short-stay  สำหรับอยู่อาศัยไม่เกิน 3 เดือน

  2. วีซ่า Temporary Long-stay สำหรับอยู่อาศัยตั้งแต่ 3-6 เดือน

  3. วีซ่า Long Stay คือพักอาศัยอยู่ระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป แต่จะไม่เกิน 1 ปี วีซ่าแต่ละแบบจะอนุญาตให้ เรียนได้ เที่ยวได้ และทำงานนอกเวลาได้ แต่จะมีวีซ่าแบบ Long Stay ที่จะความพิเศษเพิ่มเติมคือ 

  • สามารถต่อเวลาวีซ่าได้โดยการยื่นขอ Residence Permit ในเขตที่อาศัยอยู่
  • ใช้เป็นวีซ่าเพื่อติดตามครอบครัวมาอาศัยที่ฝรั่งเศสได้

 


เรียนต่อประเทศญี่ปุ่น 

 

 

 

ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่เด่นชัดเรื่องวัฒนธรรม และความเป็นระเบียบสูง คนที่ไปศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นการไปเรียนภาษาญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีวีซ่าลักษณะคล้ายๆ กับฝรั่งเศสคือ เป็นวีซ่านักเรียนที่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่อาศัย โดยอายุวีซ่าจะมีระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึงสูงสุด 2 ปี ขึ้นอยู่กับคอร์สที่ลงเรียนด้วย สำหรับวีซ่านักเรียนญี่ปุ่นนั้นจะมีข้อกำหนดคือ 

  • สามารถทำงานนอกเวลาได้ไม่เกิน 28 ชม./สัปดาห์ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อน
  • ห้ามขาดเรียนเพื่อทำงานพิเศษเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะต่อวีซ่าไม่ได้
  • ไม่อนุญาตให้นักศึกษาทำงานพิเศษในสถานบันเทิง เช่น ไนท์คลับ , บาร์ , บ่อนการพนัน หรือแม้แต่จะเป็นแค่งานทำความสะอาดหรือล้างจานก็ไม่สามารถทำได้
  • นักเรียนระยะสั้นที่มาเรียนโดยไม่ได้ถือวีซ่านักเรียน จะไม่สามารถทำงานพิเศษได้

 


 

ใครที่จะไปเรียนพร้อมทำงานนอกเวลาที่ต่างประเทศควรจะต้องคอยติดตาม และอัปเดตข้อกำหนดของวีซ่าอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เป็นการทำผิดกฎหมายประเทศเขา ในปัจจุบันเรามักจะพบข่าวเรื่องการใช้วีซ่าผิดประเภท การหนีวีซ่าอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหากโดนจับได้ก็จะถูกดำเนินคดี และส่งกลับประเทศต้นทาง และอีกผลกระทบหนึ่งก็คือทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย อย่างประเทศออสเตรเลียที่ปรับระดับประเทศไทยจากเลเวล 2 ลงมาเป็นเลเวล 3 คนรุ่นหลังๆ ก็จะขอวีซ่าก็จะยากขึ้น และใช้เวลาพิจารณานานขึ้นไปอีก

 

 

นอกจากเรื่องวีซ่าที่ต้องคอยอัปเดตแล้ว ก็จะมีเรื่องชีวิตและความเป็นอยู่ที่ต้องคอยอัปเดตตาม  ซึ่งตรงนี้สามารถหาได้ภายในงาน OCSC International Education Expo 2023 มหกรรมศึกษาต่อต่างประเทศ ครั้งที่ 18  เพราะแต่ละสถาบันมักจะหนีบรุ่นพี่มาคอยให้คำแนะนำ และแชร์ประสบการณ์สุดมันส์กับน้องๆ เกือบทุกบูธ เรียกว่าว่าไปงานเดียวได้ครบทุกอย่างเลย

 

 

  • avatar writer
    โดย Ying
    ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨
แสดงความคิดเห็น