เงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายทุกเดือน ให้สิทธิประโยชน์อะไรกับเราบ้างนะ?
โดย : waranggg
เงินสมทบ 750 บาทที่จ่ายให้ประกันสังคมกันทุกเดือน
รู้มั้ยว่าเอาไปใช้อะไรได้บ้าง เรามีคำตอบมาให้แล้ว~
"ประกันสังคม" สวัสดิการพื้นฐานของเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย แล้วรู้กันมั้ยว่า เงินสมทบจำนวน 750 บาทที่โดนหักไปทุกเดือน มีสิทธิประโยชน์มากกว่าการไปหาหมอหรือทำฟันฟรีนะ แต่ยังครอบคลุมไปถึงในกรณีว่างงานหรือกรณีคลอดบุตร เค้าก็ยังจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ให้เราด้วยน้า นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ดีๆ อีกเพียบ จะมีอะไรบ้าง เราสรุปไว้ให้ที่นี่แล้ว!
กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ
เมื่อเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาฟรีกับโรงพยาบาลที่เลือกไว้ แต่ถ้าหากเข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลอื่น โดยมีการสำรองจ่ายไปก่อน สามารถเบิกคืนได้ตามอัตราต่อไปนี้
เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ กรณีผู้ป่วยใน เบิกค่าห้องและค่าอาหารเบิกไม่เกินวันละ 700 บาท
เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชน เป็นผู้ป่วยนอก สามารรถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 1,000 บาท
สำหรับผู้ป่วยใน เบิกค่ารักษาได้ตามอัตราต่อไปนี้
- เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกิน 2,000 บาท (ยกเว้นรักษาในห้อง ICU)
- เบิกค่าห้องและค่าอาหารได้ไม่เกินวันละ 700 บาท
- กรณีรักษาในห้อง ICU เบิกค่าห้อง ค่าอาหาร และค่ารักษารวมแล้วได้ไม่เกินวันละ 4,500 บาท
- ค่าเอกซเรย์ เบิกได้ไม่เกิน 1,000 บาท
กรณีฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ
สามารถเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่งโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อผู้ป่วยพ้นเขตอันตราย จะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์เลือกไว้ต่อไป
ค่าบริการทางทันตกรรม
- ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และการผ่าตัดฟันคุด ให้ปีละไม่เกิน 900 บาท
- ใส่ฟันเทียมแบบถอดได้บางส่วน ให้ปีละไม่เกิน 1,500 บาท
- ใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ทั้งปาก ให้ไม่เกิน 4,400 บาท ในระยะเวลา 5 ปี
ตรวจสุขภาพประจำปี
- สามารถตรวจสุขภาพฟรีได้ทุกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับประกันสังคม ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลที่เราเลือกไว้เท่านั้น
เป็นโรคมะเร็ง รักษาฟรี
- สามารถรับการรักษาฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนเงินและจำนวนครั้งในการรักษา เงื่อนไขคือต้องเข้ารับการกับโรงพยาบาลตามสิทธิ์ที่เลือกไว้
- ครอบคลุมโรงคมะเร็ง 10 ชนิด ต่อไปนี้
1.โรคมะเร็งเต้านม 2.โรคมะเร็งปากมดลูก 3.โรคมะเร็งรังไข่ 4.โรคมะเร็งโพรงจมูก 5.โรคมะเร็งปอด 6. โรคมะเร็งหลอดอาหาร 7.รคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง 8.โรคมะเร็งตับ และท่อน้ำดี 9.โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 10.โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
คลินิกโรคจากการทำงาน
- สามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรคฟรีกับโรงพยาบาลประสังคมที่มีบริการ คลินิกโรคจากการทำงาน ถ้าหากสงสัยว่ามีอาการป่วยจากการทำงาน
กรณีคลอดบุตร
คุณแม่ที่มีสิทธิประกันสังคม จะได้รับค่าคลอดแบบเหมาจ่าย ครั้งละ 13,000 บาท และได้เงินค่าจ้างทดแทนในกรณีลาคลอด 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 90 วัน เช่น เงินเดือน 15,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนจำนวน 22,500 บาท (7,500 x 3) และยังสามารถเบิกค่าฝากท้องและตรวจครรภ์ ได้ตามนี้เลย
- ครั้งที่ 1: อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ (3 เดือน) จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500.-
- ครั้งที่ 2: อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ - 20 สัปดาห์ (3-5 เดือน) จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300.-
- ครั้งที่ 3: อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ - 28 สัปดาห์ (5-7 เดือน) จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200.-
คุณพ่อที่มีสิทธิประกันสังคม ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะได้รับเฉพาะค่าคลอดบุตรจำนวน 13,000 บาทเท่านั้น
กรณีสงเคราะห์บุตร
ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ที่เป็นบุตรตามกฎหมาย และต้องมีอายุไม่เกิน 6 ปี คราวละไม่เกิน 3 คน
กรณีทุพพลภาพ
เมื่อส่งเงินสมทบตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนทุพพลภาพจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ และเงินค่ารักษาพยาบาล ดังต่อไปนี้
- ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต ในกรณีทุพพลภาพสูญเสียรุนแรง
- หากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ รับค่ารักษาพยาบาลตามจริง แต่ถ้าหากเข้ารับการโรงพยาบาลเอกชน กรณีผู้ป่วยนอก จ่ายให้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท ผู้ป่วยในไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท
- กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และได้รับค่าเดินทางไปรักษา เหมาจ่ายไม่เกิน 500 บาท / เดือน
กรณีเสียชีวิต
เมื่อจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1 เดือน และมีการเสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพจำนวน 40,000 บาท และได้รับเงินสงเคราะห์ ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
- จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 เดือน แต่ไม่ถึง 120 เดือน ได้รับเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้างจำนวน 4 เดือน เช่น เงินเดือน 15,000 บาท จะได้รับ 30,000 บาท (7,500 x 4)
- จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ได้รับเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้างจำนวน 12 เดือน เช่น เงินเดือน 15,000 บาท จะได้รับ 90,000 บาท (7,500 x 12)
กรณีชราภาพ
ผู้ที่มีสิทธิประกันสังคมเมื่อเกษียณอายุจะได้รับเงินทดแทนกรณีชราภาพ แบ่งใน 2 แบบ คือ เงินบำนาญชราภาพและเงินบำเหน็จชราภาพ
เงินบำนาญชราภาพ
จะได้รับเมื่ออายุครบ 55 ปีและสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน โดยจะได้รับเป็นรายเดือนตลอดชีวิต จำนวนเงินที่ได้มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบและฐานเงินเดือน (จำนวนฐานเงินเดือนสูงสุดที่นำมาคำนวณคือ 15,000 บาท) แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
- ส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน หรือ 15 ปีพอดี จะได้รับเงินบำนาญ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย
เช่น ฐานเงินเดือน 15,000 บาท x 20% จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 3,000 บาท - ส่งเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน หรือ 15 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินบำนาญ 20% และบวกเพิ่ม 1.5%
วิธีคำนวณคือ 20% + (1.5% x (จำนวนปีที่ส่งเงินสมทบ - 15 ปี))
แล้วจึงนำจำนวนเปอร์เซนต์ที่ได้คูณกับฐานเงินเดือน จะได้เป็นจำนวนเงินบำนาญที่ได้รับในแต่ละเดือน
เช่น จ่ายเงินสมทบมา 25 ปี คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้ : 20% + (1.5% x (25-15)) = 35%
เงินบำนาญที่จะได้แต่ละเดือน 15,000 x 35% = 5,250 บาท
เงินบำเหน็จชราภาพ
การจ่ายเงินเป็นก้อนครั้งเดียว โดยเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ คือ จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน แบ่งได้ 2 กรณี คือ
- จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จเฉพาะส่วนที่เราจ่ายเงินสมทบ
- จ่ายเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จทั้งส่วนที่เราจ่ายสมทบทั้งหมด พร้อมกับเงินที่นายจ้างสมทบและผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ประกันสังคมกำหนด
กรณีว่างงาน
ในกรณีที่ว่างงานและต้องการขอใช้สิทธิ์กรณีว่างงาน เงื่อนไขคือ จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนในระยะเวลา 15 เดือน และว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป แบ่งได้ 3 กรณีดังนี้
- ถูกเลิกจ้าง
ได้รับเงินทดแทน 50% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน (ได้สูงสุดที่ประมาณ 7,500 บาท / เดือน เป็นระยะ 6 เดือน) - ลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามที่ตกลงไว้
ได้รับเงินทดแทน 30% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน (ได้สูงสุดที่ 4,500 บาท / เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน)
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- สำหรับใครที่ต้องการใช้สิทธิขอเงินทดแทน สามารถเข้าไปทำเรื่องได้ที่ สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ
- เราแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชั่น SSO Connect ติดมือถือไว้ เพราะในแอปสามารถเช็กเงินสมทบชราภาพ, เงินสมทบผู้ประกันตน รวมไปถึงเปลี่ยนสิทธิ์โรงพยาบาลได้ด้วยนะ สะดวกสุด
- ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม สามารถเปลี่ยนด้วยตนเองผ่านแอปและเว็บไซต์ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 63 นี้น้าา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประกันสังคม
โดย waranggg
thaitealism