ไขข้อสงสัย ทำไมเกาหลีใต้ถึงเป็นดินแดนแห่ง Sneaker ?

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer2 มิ.ย. 2566 avatar writer4.2 K
ไขข้อสงสัย ทำไมเกาหลีใต้ถึงเป็นดินแดนแห่ง Sneaker ?

 

Statista หรือเว็บไซต์เก็บสถิติยอดนิยม ได้ระบุข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ว่า ปี 2023 ตลาดสินค้าประเภทรองเท้าผ้าใบในเกาหลีใต้คาดว่าจะสามารถทำรายได้เป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากสหรัฐ) ซึ่งอิทธิพลที่ว่านี้เราสามารถใช้คำว่า ไม่ธรรมดา กันได้ และยิ่งเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีจุดแข็งด้านการขับเคลื่อน Soft Power ของตัวเองอยู่แล้วด้วย ตำแหน่งประเทศแห่ง Sneaker อันดับ 2 ของโลก และที่ 1 ของเอเชียก็น่าจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วจริง ๆ

 

 

แล้วมีเหตุผลอะไรบ้าง ที่สามารถผลักดันให้เกาหลีใต้ เป็นดินแดนแห่ง Sneaker ขึ้นมาได้ ?

 

 


 

 

อิทธิพลแห่งการเลียนแบบ มี Damage รุนแรงกว่าที่คิด !

 

เราต่างรู้จักกับอุตสาหกรรมแฟชั่นเกาหลีกันมานานนับสิบปี ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจมากว่า เกินกว่าครึ่ง  ของการรู้จักมักจะเป็นการรู้จักผ่านอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะวงการบันเทิงเกาหลี ที่เป็นแรงขับเคลื่อนทั้งทางตรงและทางอ้อม จากซีน ๆ หนึ่งในซีรีส์ หรือจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์คอลเลกชันเสื้อผ้าของไอดอลเกาหลีแถวหน้า หรือต่อให้จะไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ตาม แต่ก็จะมีแฟนคลับตาดีที่สามารถล้วงลึกไปจนถึงดีเทลของเสื้อผ้าที่ดาราหรือไอดอลคนนั้นใส่ ว่ามาจากแบรนด์อะไร สามารถหาซื้อได้ที่ไหน

 

และไม่ใช่แค่อิทธิพลจากดาราไอดอลเกาหลีเท่านั้น แต่อิทธิพลจากคนธรรมดา ก็สามารถทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเราลองมาพินิจพิจารณารูปแบบแฟชั่นการแต่งตัวของคนเกาหลี จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้ว การแต่งตัวหรือการเลือกใช้ไอเทมต่าง ๆ มักจะมีความเป็น Pattern หรือสามารถพบเห็นลักษณะการแต่งตัวแบบนี้ได้ในคนเกาหลีอีกหลาย ๆ คน (นี่ยังไม่นับรวมนักท่องเที่ยวที่เลียนแบบการแต่งตัวของคนเกาหลีอีกด้วยนะ)

 

อย่างภาพที่เรามีโอกาสพบเห็นกันได้ทั่วไปก็น่าจะเป็น Colortone ของเสื้อผ้า  ที่ค่อนไปทางสีขาวดำซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเน้นการใส่เสื้อผ้าที่มีสีสัน หรือลวดลายจี๊ดจ๊าดอะไรมาก จนทำให้นักท่องเที่ยวถึงกับให้คำนิยามประเทศเกาหลีใต้ว่าเป็น ประเทศแห่งการคุมโทน  ซึ่งรูปแบบการแต่งตัวที่มี Pattern ไม่ว่าจะเป็นโทนสีของเสื้อผ้า หรือบรรดาไอเทมต่าง ๆ ถือว่าเป็นนัยยะที่น่าสนใจ และเราสามารถนำมา Crack หาเหตุผลอธิบายกันต่อได้ 

 

 

เพราะการที่คนเกาหลีมี Pattern การแต่งตัวไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้

" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ "

แต่มันเป็นการแสดงออกถึงสัญลักษณ์บางอย่าง

ที่เชื่อมโยงคนเกาหลีใต้เข้าไว้ด้วยกัน

 

 

เราขอให้คำอธิบายความหมายของคำว่า Pattern โดยใช้คำที่คนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจกันง่ายกว่าอย่างคำว่า การเลียนแบบ โดยการเลียนแบบปกติแล้วจะเกิดขึ้นจากกระบวนการทางจิตวิทยาและสังคม ที่ทำให้ คนเลียนแบบแสดงออกไปในทิศทางเดียวกันกับตัวแบบ  ที่สำคัญกระบวนการเลียนแบบไม่ใช่การเห็นปุ๊บ แล้วเลียนแบบตามปั๊บ แต่มันยังต้องผ่านกระบวนการคิด และต้องอาศัยตัวแปรร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อและความศรัทธาในตัวแบบ ทัศนคติและค่านิยมที่มีต่อตัวแบบ รวมไปถึงตัวแปรด้านอื่น ๆ ที่แต่ละคนล้วนมีสัดส่วนของตัวแปรที่ใช้ในการตัดสินใจที่แตกต่างกัน อย่างที่เราอาจจะเคยได้ยินคนพูดประมาณว่า คนนี้เป็นคนคิดเยอะ คนนี้เป็นคนคิดน้อย

 

โดยตัวแบบที่ว่าสามารถเป็นได้ทุกอย่าง ไม่ใช่แค่คนเพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถเป็นสัตว์ก็ได้ เป็นตัวละครในหนังสือ ภาพยนตร์ หรือว่าจินตนาการของเราก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการเลียนแบบของแต่ละคน ต่อให้จะมีตัวแบบเป็นคน สัตว์ หรือว่าสิ่งของอย่างเดียวกัน แต่การเลียนแบบที่ออกมานั้น อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้

 

 

 

 

ดังนั้นเมื่อเรานำมาเปรียบเทียบกับลักษณะการแต่งตัวที่มี Pattern ของคนเกาหลี ที่สามารถแพร่กระจายไปสู่สังคมส่วนใหญ่ได้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ต่อให้เราจะไม่รู้จักหรือใกล้ชิดกับตัวแบบคนนั้นเลย แต่มันก็สามารถก่อให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบที่แพร่ถึงกันได้ (อาจจะผ่านตัวกลางไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง) ซึ่งนี่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็น Unity ของสังคมที่ได้ทำงานแบบลับ ๆ โดยอาศัยอิทธิพลของ บางอย่าง  ที่ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมก่อนจะสะท้อนภาพออกมาในแบบเดียวกัน

 

แต่ทั้งนี้อย่างที่เราบอกไปว่ามันไม่ใช่แค่การเห็นปุ๊บแล้วคนจะเลียนแบบตามปั๊บ แต่คนเลียนแบบเหล่านั้นจะต้องมั่นใจในตัวแบบก่อน ถึงค่อยตัดสินใจยอมรับและแสดงออกในทิศทางเดียวกันได้ แล้วยิ่งถ้าตัวแบบคนนั้นดัน มีอิทธิพลต่อคนส่วนมาก  อย่างดารา ไอดอล แบรนด์สินค้าเบอร์ใหญ่ ๆ หรือแม้กระทั่ง Influencer ที่มีคนติดตามหลักแสนขึ้นไป ย่อมมีความสามารถในการสร้างการเลียนแบบได้มากกว่าอิทธิพลจากคนทั่วไปอย่างแน่นอน

 

 


 

แต่ทั้งนี้ Loyalty ก็สำคัญมาก ในเมื่อได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่รักคนยาก

 

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำเปรียบเปรยถึงเกาหลีว่าเป็นประเทศชาตินิยมกันมาบ้าง ซึ่งความเป็นชาตินิยมที่ว่านี้มันเลยทำให้เมื่อใดก็ตามที่เกิดกระแสความนิยม หรือสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งเกิดบูมขึ้นมา ก็มีแนวโน้มว่าจะแผ่อิทธิพลไปยังคนกลุ่มใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 

 

 

 

 

ยกตัวอย่างเช่นกระแสของ Nike Dunk Panda ที่มีอยู่ช่วงหนึ่งคนเกาหลีนิยมใส่กันเยอะมาก ไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ในวัยรุ่น วัยทำงาน พ่อแม่ หรือลูกเด็กเล็กแดงตัวเล็ก ๆ จนเราสามารถเรียกปรากฎการณ์นี้กันได้ว่า แพนด้าครองเมือง  ซึ่งถ้าให้เทียบกับบ้านเราที่ว่าคลั่งเป็นเอามากแล้ว แต่ก็ยังสู้คนในบ้านเขาไม่ได้อยู่ดี

 

ซึ่งเราขอยกตัวอย่าง 2 เหตุผล ที่คาดว่าน่าจะอยู่เบื้องหลังที่ทำให้ Nike Dunk Panda ได้รับความสนใจขึ้นมา โดย 2 เหตุผลที่ว่า ก็ได้แก่

 

  • ความ Loyalty ในโทนสี  อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้ว่าเกาหลีใต้ได้ชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการคุมโทน โดย Nike Dunk รุ่นนี้ ได้หยิบเอา 2 โทนสีที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเกาหลีใต้เป็นทุนเดิมอย่าง ดำและขาว  มาผสมเป็นสีหลักของรองเท้า เลยทำให้รองเท้ารุ่นนี้ได้รับความสนใจมากกว่ารองเท้าในโทนสีอื่น ๆ 

  • ความ Loyalty ในต้นแบบ ที่สามารถเป็นได้ตั้งแต่แบรนด์ Nike (ที่อาจจะมีคนเกาหลีส่วนใหญ่ชื่นชอบกันอยู่แล้ว) ไปจนถึงคนธรรมดาตามท้องถนน รุ่นพี่ หรือดาราไอดอลที่ได้หยิบเอารองเท้าคู่นี้ขึ้นมาใส่ ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้เอ่ยปากขายรองเท้ากันโครม ๆ แต่มันก็เหมือนเป็นการบอกต่อ แนะนำต่อเป็นนัย ๆ

 

อิทธิพลแห่ง Loyalty เหล่านี้เลยทำให้จากรองเท้า Nike Dunk Panda 1 คู่ก็ได้ลามไปยัง 100 คู่ จากแพนด้า 100 คู่ก็ได้ลามไปเป็นพัน ๆ คู่ มันเลยทำให้ช่วงที่กระแส Nike Dunk Panda บูมหนัก เรามักจะเห็นภาพคนใส่รองเท้ารุ่นนี้กันจนชินตา แถมคนเกาหลีใต้เองกลับมองว่ามันเป็นอะไรที่ น่าภูมิใจ  ไม่ได้รู้สึกว่าเกลื่อน หรือคนใส่เยอะแล้ว เราไม่ใส่ดีกว่าอะไรทำนองนั้น

 

 

ไหนว่าเป็นประเทศชาตินิยม

แล้วทำไมแบรนด์รองเท้าจากต่างประเทศ ถึงอยู่รอดในประเทศเกาหลีใต้ได้ ?

 

 

G-Dragon หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการ Sneaker ในประเทศเกาหลีใต้

 

 

ไม่ใช่แค่ Nike แบรนด์เดียวที่ประสบความสำเร็จหรือ ขายออก  ในประเทศเกาหลีใต้ แต่แบรนด์รองเท้าจากต่างประเทศแบรนด์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น adidas, NewBalance, Converse หรือ PUMA ต่างก็ประสบความสำเร็จจากการตีตลาดในประเทศเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน

 

เหตุผลส่วนใหญ่ก็ต้องยกเครดิตให้ การทำการตลาดของแบรนด์ ที่ปกติแล้วมักจะชอบดึงตัวคนดัง ไม่ว่าจะเป็นดารา ไอดอล หรือ Influencer ที่มีคนเกาหลีติดตามอยู่เยอะ ในการมา Tie-In สินค้า ต่อให้เป็นแค่ภาพนิ่งภาพเดียว แต่ถ้ามีไม้แขวนเป็นดาราระดับท็อปของวงการ โอกาสที่แบรนด์สินค้า รวมไปถึงสินค้าชิ้นนั้น ๆ จะเป็นที่รู้จัก ย่อมมีโอกาสมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ที่ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ตัวเองให้คนเกาหลีได้รู้จัก นั่นแปลว่ากว่าแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศสักแบรนด์จะได้รับการยอมรับจากคนเกาหลีใต้ได้ ล้วนต้องผ่านการพรีเซนต์ตัวเองมาแล้วนับไม่ถ้วน !

 

 

แต่แบรนด์รองเท้าต่าง ๆ จะโตในเกาหลีไม่ได้

ถ้าหากคนเกาหลีใต้ไม่ได้มีพฤติกรรมคลั่งไคล้รองเท้ากันเป็นทุนเดิม

 

 

ความนิยมและคลั่งไคล้รองเท้า Sneaker ของคนเกาหลีใต้ ได้ทำให้ประเทศเกาหลีสามารถผลักดันตัวเองให้เป็นดินแดนแห่ง Sneaker ได้ง่ายและเร็วขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะแบรนด์ไหนที่คนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เทใจให้อยู่แล้ว เมื่อมีกระแสอะไรออกมา หรือมีไอเทมอะไรใหม่ ๆ โอกาสที่คนเกาหลีจะเปิดใจและยอมรับ ย่อมมีโอกาสมากกว่าตามไปด้วย

 

ดังนั้นถ้าเราจะบอกว่าอิทธิพลแห่งการเลียนแบบเป็นจุดแข็งที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้เป็นที่น่าจับตาในเรื่องของ Sneaker เพียงอย่างเดียว เราคิดว่าคงจะไม่ได้ แต่มันต้องมาควบคู่ไปกับสิ่งที่เรียกว่า Loyalty (แบบ Organic) ด้วย

 

 


 

 

การเข้าถึงง่าย เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อิทธิพลของ Sneaker ขยายวงกว้างได้เร็ว

 

ต่อให้ Nike Dunk Panda จะเป็นที่ต้องการมากแค่ไหน แต่ถ้าขาดการเข้าถึงรองเท้า อิทธิพลนั้นก็แลดูจะไปต่อได้ยาก เพราะฉะนั้นการเข้าถึงรองเท้าจึงเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่ทำให้เกาหลีใต้สามารถผลักดันอิทธิพลของ Sneaker ในบ้านตัวเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้

 

นั่นก็เพราะว่าช็อปรองเท้าในประเทศเกาหลีใต้นั้นมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นช็อปของทางแบรนด์เอง หรือจะเป็นช็อปรองเท้ามัลติแบรนด์เอง อย่างช็อปบางแห่ง (โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ในย่านช็อปปิง) อาจจะตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน 3-4 ร้านเลยก็มี แถมแต่ละแห่งก็เนืองแน่นไปด้วยบรรดา Sneakerhead ทั้งคนเกาหลีใต้ ไปจนถึงบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ ชนิดที่ว่าออกจากร้านนู้นมา ร่างกายก็บังคับให้พุ่งตัวเข้าร้านนี้ต่อโดยอัตโนมัติ

 

 

 

 

ข้อได้เปรียบเรื่อง การเข้าถึงง่าย เลยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทั้งคนเกาหลีรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าถึงแหล่งของ Sneaker ได้แบบสะดวกและรวดเร็ว ทำให้เกิดการซื้อ-ขายได้ไว บางแห่งอาจจะมีโปรโมชันลดแลกแจกแถม หรือต่อให้เป็นร้านค้าในชื่อเดียวกัน แต่ไลน์ของสินค้ากลับแตกต่างกันก็มี

 

เราเลยมองว่ามันเป็นเหมือน ลูกเล่น ที่ทำให้คนอยากจะเดินเข้าช็อปทุก ๆ ร้าน อีกทั้งยังเปิดโลก Sneaker ในอีกหลาย ๆ ด้าน อย่างบางรุ่นที่ไม่เคยอยู่ในความสนใจของเรากันมาก่อน แต่เรากลับได้รู้จักและถูกชะตามันที่นี่ ดังนั้น ต่อให้ได้ชื่อว่ามีความเป็นชาตินิยมสูง แต่ทว่าเกาหลีใต้ก็อ้าแขนรับความแตกต่างใหม่ ๆ แถมยังมีทักษะการพรีเซนต์ตัวเองที่ดี แล้วแบบนี้จะไม่ให้ชื่อว่าเป็น (ว่าที่) เบอร์ 1 ของเอเชียได้ยังไง ?

 

 

 

 

กระแสในเกาหลีใต้ปกติแล้วมักจะมาไวไปไว  วันนี้เราอาจจะเห็นคนใส่รองเท้า Sneaker ยี่ห้อหนึ่งกันจนเกลื่อน ตัดภาพมาที่เดือนต่อมา คนอาจจะเปลี่ยนไปใส่ยี่ห้ออื่นกันแล้วก็ได้ แต่ข้อดีของกระแสที่มาไวไปไวนี้ มันทำให้เกาหลีใต้มีโอกาสเปิดรับอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

 

แล้วเดี๋ยวนี้วงการ Influencer ของเกาหลีใต้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะกว่า 90% ของคนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ Connect กับ Internet อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Instagram และ YouTube มันเลยทำให้โอกาสที่ Influencer หน้าใหม่จะสามารถแจ้งเกิดได้ไว และมีโอกาสได้รับการติดต่อจากแบรนด์ต่าง ๆ ก็ย่อมมีมากตามไปด้วย (ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงอิทธิพลจากบรรดา Influencer หน้าใหม่เหล่านั้นด้วย)

 

ส่วนคนไทยอย่างเรารวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ เป็นเหมือน ผลพลอยได้  จากอิทธิพลนี้กันอีกที ซึ่งผลพลอยได้ที่ว่านี้มันได้ทำให้เราอยากเข้าหาและยอมเสียเงินให้กับบ้านเขาอยู่เรื่อย ๆ 

 

 

 

 

อิมแพคของประเทศเกาหลีใต้นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่คิดมาก ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับอุตสาหกรรมบันเทิง รวมไปถึงการท่องเที่ยวเกาหลี ที่ปูรากฐานและผลักดันให้คนชาติอื่น ๆ ได้รู้จัก แถมยังดันหลังให้ประเทศของตัวเองเดินหน้าเข้าสู่ความเป็น Global แบบเต็มตัว อีกทั้งยังมีอีกหลาย ๆ เหตุผล ที่หล่อหลอมรวมกันจนกลายเป็น กำแพงเหล็ก ยากที่จะใครหน้าไหนจะโค่นล้ม 

 


 

💭  แล้วเพื่อน ๆ คิดว่านอกจากบรรดาเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว  ยังมีเหตุผลอื่น ๆ อีกไหมที่ทำให้เกาหลีใต้เป็นดินแดนแห่ง Sneaker ที่แข็งแกร่งเบอร์ต้น ๆ  สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้ เผื่อจะได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับเรารวมถึงเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านคอนเทนต์นี้กันด้วย 😎 

 

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง : The Theory of Imitation in Social Psychology, hypebeast, streetsense และ statista

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น