เรื่องเล่าของ " ถุงเท้าแสนสวย " ที่มีนัยยะมากกว่าคำว่าแฟชั่น
โดย : Ying
อีกไม่นานเมืองไทยก็จะเข้าหน้าหนาวแล้ว (รึเปล่า?) ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็เริ่มทยอยออกคอลเล็กชันฤดูหนาวมาให้เห็นกันบ้างแล้ว เสื้อเอย กางเกงเอย ถุงเท้าเอย มีเยอะแยะมากมายชนิดที่ว่า ถ้าซื้อทุกแบบเงินเดือนต้องหมดแน่ๆ ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกจังหวัดในประเทศไทยจะได้สัมผัสอากาศหนาว และบางคนอาจจะไม่ได้ซื้อเครื่องกันหนาวใหม่ หรืออาจจะไม่ได้ใส่เลยก็ได้ แต่ก็จะมีไอเทมหนึ่งที่ต่อให้ไม่ใช่หน้าหนาวคนก็มักจะใส่อยู่ทุกวันนั้นก็คือถุงเท้านั่นเอง
ถุงเท้าอาจจะดูเหมือนเป็นแฟชั่นที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วถุงเท้าอยู่คู่กับโลกใบนี้มานานนับพันปีเลยนะ มีประวัติการค้นพบว่ามนุษย์เราใช้ถุงเท้ากันมาตั้งแต่ 8 ศตวรรษก่อนคริสตกาล คือเกิดก่อนเสื้อยืดซะอีก
ถุงเท้าอายุ 1,700 ปีถูกค้นพบที่ประเทศอียิปต์ในปี 1913-1914 จะมีลักษณะคือช่องหนึ่งสำหรับใส่หัวแม่เท้า
และอีกช่องใหญ่สำหรับอีกสี่นิ้วที่เหลือ คาดกันว่าเพื่อให้ใส่รองเท้าแตะได้สะดวก
ปัจจุบันถุงเท้าคู่นี้ถูกเก็บไว้ที่ British Museum of London
ถุงเท้ากับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน
🧦
ถ้าดูจากรูปด้านบนความเก่าแก่ของถุงเท้าทำให้เราเห็นว่า ถุงเท้าต้องมีความสำคัญต่อมวลมนุษยชาติอย่างมากแน่ๆ ซึ่งพอย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเจ้าถุงเท้าก็พบว่า ถุงเท้าถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว ซึ่งในแต่ละยุคถุงเท้าจะถูกนำมาใช้งานโดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้เลย
- ช่วง 8 ศตวรรษก่อนคริสตกาล : ค้นพบว่ามีการพูดถึงถุงเท้าในวรรณกรรมของนักปรัชญาชาวกรีก นามว่า Hesiod ในงานวรรณกรรมชิ้นนั้นเรียกถุงเท้าว่า “piloi” ซึ่งเขาอธิบายลักษณะว่าเป็นสิ่งที่สวมใส่ที่ทำมาจากขนสัตว์ที่นำมาขมวดเป็นปมก่อนใส่รองเท้าทับอีกทีหนึ่ง
ภาพ udones จาก nluxesocks
- คริสต์ศตวรรษที่ 2 : เรื่องเกิดจากว่าชาวโรมันนิยมจะนำแผ่นหนังหรือผ้าทอมาพันเท้าก่อนที่จะสวมรองเท้าจึงนำไปสู่การนำผ้าทอมาเย็บเป็นถุงเท้าและจะเป็นยุคแรกๆ ที่เย็บให้พอดีกับเท้าด้วยนะ พวกเขาให้ชื่อเสียงเรียงนามว่า “udones”
- ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 5 : ถุงเท้าถูกนำมาใช้แทนสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ นั่นจึงทำให้กลุ่มคนที่ใส่ถุงเท้าจะเป็นพระและแม่ชีซะส่วนใหญ่
ภาพของบุคคลที่คาดว่าจะเป็นขุนนาง สังเกตจากการใส่ถุงเท้า ภาพจาก crazysocks
- คริสต์ศตวรรษที่ 1000 : การสวมใส่ถุงเท้ากลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะความเป็นชนชั้นสูงและขุนนาง
- ต่อมาในปี 1566 : ที่ลอนดอนจริงจังกับเรื่องถุงเท้าบ่งบอกสถานะจนถึงขั้นจัดตั้ง “sock police” เพื่อคอยตรวจสอบว่า ผู้คนใส่ถุงเท้ากันถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งกฏหมายที่ว่านี่ก็คือ กฎหมายว่าด้วยเครื่องแต่งกายที่จำกัดสิทธิ์เครื่องแต่งกายบางอย่างไว้สำหรับคนบางกลุ่ม
- ปี 1939 หรือ พ.ศ. 2482 : ประเทศไทยเริ่มมีถุงเท้าปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจน จากการมีพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน ในพระราชบัญญัตินี้มีการระบุให้นักเรียนใส่ถุงเท้าขาวหรือดำด้วย ในช่วงนั้นถุงเท้าจัดว่าเป็นสินค้าราคาแพง จึงไม่ใช่นักเรียนทุกคนจะหามาใส่กันเป็นประจำ
แต่พอเวลาล่วงเลยมาจนปัจจุบัน ถุงเท้าจัดเป็นสิ่งที่เห็นกันได้โดยทั่วไป ถุงเท้าไม่เพียงแต่ถูกระบุเป็น 1 ในเครื่องแบบนักเรียนเท่านั้น แต่กลับเป็นไอเทมที่คนทำงานมักใส่เพื่อแสดงความสุภาพ เป็นไอเทมที่นักกีฬาใส่เพื่อลดแรงเสียดสีของเท้ากับรองเท้า หรือกลิ่นเหม็น เป็นส่วนหนึ่งของบรรดาแฟชั่นนิสต้า และในบางครั้งถุงเท้ากลับสื่อความหมายอื่นได้มากกว่าความสวยงามอีกด้วย
ถุงเท้าไม่ใช่เพียงแค่สินค้าแฟชั่น
แต่แสดงถึงทัศนคติส่วนตัวและการเมือง
เมื่อไม่นานมานี้มีภาพของนายกเศรษฐา ทวีสิน ของไทยเข้าพบวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งภาพนั้น ผู้คนต่างให้ความสนใจไปที่ถุงเท้าชมพูหวานแหววของนายกเศรษฐา ทวีสิน บ้างมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควร บ้างก็มองว่าเป็นเรื่องน่ารักดี เป็นความชอบส่วนบุคคล ซึ่งหลังจากเรื่องนี้เป็นกระแสได้เพียงไม่กี่วัน นายกเศรษฐา ทวีสิน ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นความชอบส่วนตัวของเขาเอง และก็ใส่แบบนี้มานานมากแล้ว ซึ่งถ้าตัดกลับไปที่มุมมองของฝั่งกูรูแฟชั่นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้สึกว่าผิด และมองว่าเป็นเรื่องน่ารักดี ถือเป็นสีสันในวันทำงานไป
นอกจากนายกของไทยเราที่เป็นกระแสเพราะถุงเท้าแล้ว ยังมีนายกอีกท่านที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องของการมักจะเลือกใส่ถุงเท้าแบบตามใจ๋...ตามใจ นั่นก็คือ นายกจัสติน ทรูโด จากประเทศแคนาดา สำหรับท่านจัสติน ทรูโด ต้องเรียกว่า ขั้นกว่า เพราะท่านไม่เพียงแค่ใส่ถุงเท้าสีสันสวยงามเท่านั้น แต่ลายถุงเท้าก็เรียกว่า "สุดจัดในสภา " ซึ่งการเลือกใส่ถุงเท้าของนายกจัสติน ทรูโด นั้นไม่เพียงแค่ใส่ตามชอบเลือกตามใจเพียงเท่านั้น มีหลายครั้งเลยที่การเลือกใส่ถุงเท้าของเขาสื่อความหมายอยากลึกซึ้งไปในตัวด้วย ยกตัวอย่างเช่น
รูปภาพจาก edtimes
- นายกจัสติน ทรูโดใส่ถุงเท้าสตาร์วอร์สในวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งวันนั้นเป็นวันสตาร์วอร์สจริงๆ รู้เลยนะคะว่าเป็นแฟนหนังตัวยง
รูปภาพจาก edtimes
- หรือเมื่อครั้งไปประชุมนาโต เขาก็สวมถุงเท้าข้างละสีไปเลย วันนั้นเราจะเห็นว่าข้างหนึ่งสีชมพู ข้างหนึ่งสีฟ้า ที่สำคัญมีลวดลายธงนาโตประดับอยู่ที่ถุงเท้าด้วย ตรงนี้บรรดาสื่อต่างตีความหมายว่า นายกจัสติน ทรูโด กำลังส่งสัญญาณให้นาโตสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน
รูปภาพจาก gqthailand
- อย่างตอนที่เขาได้ร่วมงาน Gay Pride เขาก็สวมถุงเท้าลายทางสีรุ้ง เราทราบกันดีว่า นายกผู้ใจกว้างคนนี้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เขาใส่ลายทางสีรุ้งที่มีคำว่า "Eid Mubarak" (วันอีด) ด้วย เป็นการส่งเมสเสจการเฉลิมฉลองสองเรื่องในถุงเท้าคู่เดียว
รูปภาพจาก Fine Gael
- มีอีกครั้งตอนที่เขาไปพบกับเอนดา เคนนี อดีตผู้นำไอร์แลนด์ ซึ่งผู้นำไอร์แลนด์ก็รับทราบดีถึงความจัสติน ทรูโด ว่าเขาชอบแสดงออกผ่านถุงเท้า นายกไอร์แลนด์จึงสวมถุงเท้าลายใบเมเปิ้ลสีแดง ซึ่งเป็นลายในธงชาติแคนาดามาด้วยซะเลย ถือเป็นสีสันของการทูตเลยก็ว่าได้
ยังมีอีกหลายครั้งที่นายกจัสติน ทรูโด มักจะแสดงออกอะไรบางอย่างผ่านถุงเท้าของเขา จนได้รับฉายาว่า Sock Diplomacy หรือ ถุงเท้าการทูต การใส่ถุงเท้าของนายกจัสติน ทรูโด ถือว่าเป็นที่กล่าวขานโดยทั่วกันจนบางครั้งเวลาเขาไปเยี่ยมประเทศไหน ผู้คนก็มักจะถามถึงถุงเท้าของเขาเสมอ ซึ่งตัวเขาเองก็มักจะตอบแบบเป็นกันเองไม่ถือตัวเลยสักครั้ง หรือจะกรณีนายกไอร์แลนด์ที่ก็เล่นกับเขาด้วย นี่ยังรวมไปถึงเมื่อครั้งที่เขาออกรายการ Live with Kelly and Ryan ที่ 2 พิธีกรพิมพ์หน้าตัวเองลงถุงเท้าข้างละคน แล้วนำมาให้นายกจัสติน ทรูโด และอีกมากมายที่ถุงเท้าของเขาสร้างเรื่องที่น่าประทับใจไว้ ซึ่งกระแสตอบรับเหล่านี้มันทำให้เห็นว่า ได้ผล ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เหมารวมด้านการทูตทั้งหมด แต่ก็ได้ผลในเรื่องของการสร้างบรรยากาศที่ดี และช่วยให้เป็นการพูดคุยที่เข้าถึงง่ายนั่นเอง
ถุงเท้าที่สั่งทำมาเพื่อนายกจัสติส ทรูโด
มัดรวม 5 ถุงเท้า ลายสวย เก๋ แถมราคาไม่ถึงร้อย
ฝั่งทางบ้านเราเองก็มักจะพบเห็นผู้คนใส่ถุงเท้ากันทุกวันไม่เว้นแม้ในหน้าร้อน และก็ไม่ใช่แค่นายกจัสติน ทรูโด เท่านั้นที่หยิบจับถุงเท้าลวดลายสวยงามมาใช้ เพราะบ้านเราก็ใช่ย่อยนะโดยเฉพาะในกลุ่มแฟชั่นนิสต้า ที่ต่างพากันแมทช์ถุงเท้าหลากหลายให้ออกมาชนิดที่ว่า อยากจะวิ่งไปถามว่าซื้อมาจากร้านไหน แน่นอนว่าเราก็มีร้านถุงเท้าที่ใครเห็นก็ต้องรู้สึกถึงลวดลายกับสีสันอันสดใส มาป้ายยากันเช่นเคย บอกเลยว่าแต่ละร้านคือใส่ได้ทุกเพศทุกวัยเลยจ้า มีร้านอะไรกันบ้างไปดูกันเลย
- ร้าน Home_socks
🏷️ ราคา 52 บาท (ราคา ณ 5/11/66)
📌 พิกัด : https://shope.ee/6Ux0RS9DDJ
- ร้าน Finetoo Official Store
🏷️ ราคา 24 บาท (ราคา ณ 5/11/66)
📌 พิกัด : https://shope.ee/AK9j0asCAL
- ร้าน Dohight.store
🏷️ ราคา 24 บาท (ราคา ณ 5/11/66)
📌 พิกัด : https://s.lazada.co.th/l.3ZjR
- ร้าน QT.STORE
🏷️ ราคา 89 บาท (ราคา ณ 5/11/66)
📌 พิกัด : https://s.lazada.co.th/l.3Zjj
- ร้าน Verve For Life
🏷️ ราคา 89 บาท (ราคา ณ 5/11/66)
📌 พิกัด : https://shope.ee/508Cf4elE4
💙 อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่
- ลายขวาง จากสัญลักษณ์แห่งพันธนาการ สู่อิสรภาพที่ได้รับการปลดปล่อย
- รวมเรื่องหลอนจาก The Ghost Radio ถึงชื่อจะดูน่าอีส แต่ฟังแล้วกรี๊ดไม่รู้ตัว!
- Ray-Ban จะผ่านมากี่ปี “แว่นกันแดดรุ่นพ่อ” แบรนด์นี้ก็ยังยืนหนึ่ง !
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : wellnessth/ edtimes/ allthatsinteresting
โดย Ying
ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨