ชมพู่ อารยา เบื้องหลังความ Perfect ของคุณแม่ลูกแฝด

avatar writer
avatar writer19 ส.ค. 2563 avatar writer3.3 K
ชมพู่ อารยา เบื้องหลังความ Perfect ของคุณแม่ลูกแฝด

ชมพู่ อารยา คุณแม่สุดแซ่บที่วันแม่ 2020 นี้ต้องพูด!
💥 นอกจากค่าตัวคุณแม่ชมจะสูงลิ่ว 💥 
แต่คุณแม่ก็ยังมีกิจการส่วนตัวอีก จะเป็นอะไรตามมาดูค่า


 

วันแม่แห่งชาติ 2020 นี้ ดาราเซเลปคนดังควบตำแหน่งคุณแม่ ที่ปันโปรจะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ “ชมพู่ อารยา” นั่นเองค่ะ ยิ่งช่วงหลังทำอะไรนิดหน่อยก็เป็นเทรนด์ไปหมด แถมลูก ๆ สายฟ้า พายุ ตัวโตขึ้นแล้วยิ่งน่ารัก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ยิ่งจับตามอง แถมสามีโปรไฟล์ดีน่าอิจฉาาา!

 

 

ชมพู่ อารยา

 

ซึ่งนอกจาก ชมพู่ อารยา จะเป็นดาราดังที่มีค่าตัวแพงระดับแถวหน้า มีค่าตัวในการเล่นละครประมาณ 7.5 หมื่นบาท / ตอน, ค่าตัวในการออกงานอีเวนท์ประมาณ 1.2 แสนบาท / ครั้ง และค่าโฆษณาประมาณ 7.5 ล้านบาท / ชิ้น (การสำรวจเมื่อต้นปี 2557) แล้ว คุณแม่ชมยังมีธุรกิจมากมาย ที่ธุรกิจบางตัวเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน บางอย่างก็ล้มไปแล้ว แต่ก็ล้มแม่ชมที่จะยืดหยัดสู้ธุรกิจอื่น ๆ ต่อไม่ได้ ไม่มีผลอะไรใด ๆ กับแม่จ้าาา วันนี้มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 

 


จุดเริ่มต้นธุรกิจของ ชมพู่ อารยา ที่มีทั้งขึ้นและลง


 

ถ้าพูดถึงธุรกิจของ ชมพู่ อารยา นอกจากอาหารสุขภาพเต้าหู้ตราลูกสาวที่ปันโปรคิดว่าหลาย ๆ คนรู้จักแล้ว ก่อนหน้านั้น แม่ชมพู่ ก็ลงทุนธุรกิจเปิดร้านทำผมชื่อ “Celeb'Room” ย่านสุขุมวิท 24 ค่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้เพราะร้านดันตั้งอยู่ในซอย และจากนั้นก็เปิดร้านขายตุ๊กตาบลายธ์ ชื่อ “The Dolls House” ภายใต้ร้านขายสินค้าเก๋ ๆ “Q Concept Store” (คิว คอนเซ็ปต์ สโตร์) ภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับเพื่อนนอกวงการค่ะ โดยทุบกระปุกลงขันไปคนละ 7 หลัก

 

 

หลัก ๆ คือร้านจะเป็นตัวแทนจําหน่ายตุ๊กตาบลายธ์ในประเทศไทย ทั้งรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และรุ่นอื่น ๆ พร้อมทั้งเครื่องประดับของตุ๊กตาบลายธ์อีกเพียบ ในช่วงนั้นถือว่ารุ่งมาก เพราะฮิตกันทั่วเมือง ใครมีน้องคืออินเทรนด์ แล้วราคาที่ร้านแม่ชมพู่ก็พอ ๆ กับในตลาด ไม่ได้แพงเกินไป แต่แน่นอนว่าเมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีใครเล่นน้องบลายธ์แล้ว ธุรกิจนี้ก็ได้ปิดตัวหายไปค่ะ

 

ชมพู่ อารยา

ซึ่งสมัยช่วงที่ ตุ๊กตาบลายธ์ (Blythe) กำลังดังทั่วบ้านทั่วเมือง แม่ชมอาจเรียกได้ว่า
เป็นนักแสดงที่เป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องของตุ๊กตาบลายธ์ แม่อยู่ที่ไหน ตุ๊กตาก็อยู่ที่นั่น!

 


แบรนด์สินค้าชิ้นแรกของสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”


 

สำหรับน้ำหอม Pretty Doll by Chom นั้น แม่ชมพู่ได้มีส่วนร่วมคัดเลือกกลิ่นที่ชอบให้กับทางบริษัท เบล เพอร์ฟูมส์ร่วมผลิต ซึ่งที่มาของชื่อ Pretty Doll by Chom ก็ง่าย ๆ เลย เพราะหลาย ๆ คนมองว่าแม่ชมพู่เหมือนตุ๊กตา เลยตั้งชื่อด้วยคำที่เรียกง่ายจำง่าย เน้นความเป็นผู้หญิง ในเรื่องของราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับน้ำหอมแบรนด์ต่างประเทศ สามารถไปอุดหนุนกันได้ตามแผนกน้ำหอมตามห้างทั่วไป หรือทาง App Shopping ก็สามารถซื้อได้เช่นกันค่ะ

 

 

ซึ่งธุรกิจนี้เมื่อมองรวม ๆ ก็จะเห็นว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด เพราะราคาไม่สูงมาก คุณภาพกับราคาไปในทิศทางเดียวกัน กลิ่นถือว่าหอมเทียบแบรนด์ แต่ความติดทนอาจจะไม่สู้ โดยรวมก็ถือว่าแบรนด์นี้ของแม่ชมพู่ก็ตีตลาดกลุ่มเป้าหมายได้สำเร็จค่ะ

 

 


จุดสูงสุดของธุรกิจแม่ชมพู่


 

ธุรกิจที่ ชมพู่ อารยา ได้วางรากฐานไว้เป็นอย่างดีแบบที่เห็นได้ชัด ก็คือ ธุรกิจเต้าหู้เพื่อสุขภาพแบรนด์ “Daughter Brand (ตราลูกสาว)” ที่แม่ชมพู่ได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนสมัยเรียน (ซึ่งมูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทเลยจ้าาา) ซึ่งการลงทุนตัวนี้ คือผลิตภัณฑ์เต้าหู้ไข่พร้อมทาน เป็นโปรเจกต์ใหญ่ใส่ใจรายละเอียดเลือกผลิตภัณฑ์อย่างดี กระป๋องบรรจุภัณฑ์ก็คัดสรรชนิดอย่างดีปลอดสารก่อมะเร็ง ในจุดนี้ถือว่าแม่ชมประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว เพราะธุรกิจอาหารถือว่าเป็นปัจจัยสี่ที่คนต้องการหาซื้อมาดำรงชีวิต และจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นถ้าคุณภาพที่ได้รับนั้นดีไม่มีตก คนบริโภคเขาจะซื้อเอง และกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการจดจำ

 

ธุรกิจ ชมพู่ อารยา

 

โดยสินค้าได้วางจำหน่ายแล้วตามซูเปอร์มาร์เกต ไม่ว่าจะเป็น 7-11 (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) Tops super, Tops market, The Mall, Paragon, Terminal21, Emporium, Villa Market, Max Value และ Max Value ทันใจ, Big C, Lotus, Makro ,เถ้าแก่น้อยแลนด์, ตั้งฮั่วเส็ง, ร้านสหกรณ์ในกรุงเทพ และร้านผลผึ้งหลวง

 

ธุรกิจ ชมพู่ อารยา

ธุรกิจ ชมพู่ อารยา

นอกจากในประเทศไทยแล้ว แม่ชมพู่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าธุรกิจเต้าหู้ไข่ไปได้ดี
สามารถตีตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย

 


บทบาทใหม่ ธุรกิจสร้างแบรนด์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์


 

และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้แม่ชมพู่จะเพิ่มหน้าที่ความเป็นแม่ แต่ก็ไม่หยุดเพิ่มธุรกิจให้กับตัวเองจ้าาา เพิ่มบทบาทใหม่เป็นผู้บริหารเปิดตัวธุรกิจ “บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด” (KOL Management Co., Ltd.) บริษัทที่ทำหน้าที่วางกลยุทธ์ดิจิทัลมีเดียให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในโลกโซเซียล ซึ่ง อาลี ซาอานี จากค่ายแมส กรุ๊ป คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมกับ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต

 

ธุรกิจ ชมพู่ อารยา

 

 

ปัจจุบัน KOL มีอินฟลูเอนเซอรที่เป็นสมาชิกแล้ว 20 คน เช่น กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง,หลุยส์ สก๊อต, แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด, พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ และก็อต จิรายุ ตันตระกูล เป็นต้น

 

 

ธุรกิจตัวนี้จะเริ่มจากการวางกลยุทธ์ หา Celebrities หรือบุคคลมีชื่อเสียงที่ตอบโจทย์ ไปจนถึงการวางแผนการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตอบโจทย์แบรนด์ โดยแบ่งเป็นห้าประเภท ได้แก่ Entertainment, Lifestyle, Fashion, Health และ Commercial ในจุดนี้ถือว่าแม่ชมพู่ และอาลี ซาอานี มีจุดแข็งที่ชัดมาก ในแบบที่ Agency อื่น ๆ สู้ไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของ Connection และ Inside ของดาราเซเลปที่แม่ชมนั้นรู้ คนไหนเหมาะกับแบรนด์อะไร ตอบโจทย์มากขนาดไหน ส่วนอาลี ซาอานี ก็เป็นนักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการนี้มานาน แค่ส่วนนี้ถือว่ากินขาดมาก ๆ แล้วค่ะ

 

 

ถึงแม้ว่าในบางช่วงที่ธุรกิจต้องล้มลงไปเพราะสถานการณ์บ้านเมือง เทรนด์ตกกระแส การบริหารที่ไม่ตรงจุด แต่แม่ชมพู่อารยาก็ไม่เคยหยุด พร้อมสู้เพิ่มธุรกิจใหม่ที่ตัวเองมีความสนใจ สู้ต่อไปไม่หยุดนิ่ง ในจุดนี้ปันโปรชอบมากที่แม่ไม่เคยหยุดพร้อมพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ธุรกิจ จะเห็นได้เลยว่าธุรกิจที่แม่ชมพู่ทำสเกลใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใครที่ทำธุรกิจแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ให้ดูแม่ชมพู่เป็นตัวอย่าง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจก็สู้ต่อไปค่ะ :)

 

แสดงความคิดเห็น