ชมพู่ อารยา เบื้องหลังความ Perfect ของคุณแม่ลูกแฝด
โดย : น้องหลุมดำ
ชมพู่ อารยา คุณแม่สุดแซ่บที่วันแม่ 2020 นี้ต้องพูด!
💥 นอกจากค่าตัวคุณแม่ชมจะสูงลิ่ว 💥
แต่คุณแม่ก็ยังมีกิจการส่วนตัวอีก จะเป็นอะไรตามมาดูค่า
วันแม่แห่งชาติ 2020 นี้ ดาราเซเลปคนดังควบตำแหน่งคุณแม่ ที่ปันโปรจะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ “ชมพู่ อารยา” นั่นเองค่ะ ยิ่งช่วงหลังทำอะไรนิดหน่อยก็เป็นเทรนด์ไปหมด แถมลูก ๆ สายฟ้า พายุ ตัวโตขึ้นแล้วยิ่งน่ารัก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ยิ่งจับตามอง แถมสามีโปรไฟล์ดีน่าอิจฉาาา!
ซึ่งนอกจาก ชมพู่ อารยา จะเป็นดาราดังที่มีค่าตัวแพงระดับแถวหน้า มีค่าตัวในการเล่นละครประมาณ 7.5 หมื่นบาท / ตอน, ค่าตัวในการออกงานอีเวนท์ประมาณ 1.2 แสนบาท / ครั้ง และค่าโฆษณาประมาณ 7.5 ล้านบาท / ชิ้น (การสำรวจเมื่อต้นปี 2557) แล้ว คุณแม่ชมยังมีธุรกิจมากมาย ที่ธุรกิจบางตัวเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน บางอย่างก็ล้มไปแล้ว แต่ก็ล้มแม่ชมที่จะยืดหยัดสู้ธุรกิจอื่น ๆ ต่อไม่ได้ ไม่มีผลอะไรใด ๆ กับแม่จ้าาา วันนี้มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
จุดเริ่มต้นธุรกิจของ ชมพู่ อารยา ที่มีทั้งขึ้นและลง
ถ้าพูดถึงธุรกิจของ ชมพู่ อารยา นอกจากอาหารสุขภาพเต้าหู้ตราลูกสาวที่ปันโปรคิดว่าหลาย ๆ คนรู้จักแล้ว ก่อนหน้านั้น แม่ชมพู่ ก็ลงทุนธุรกิจเปิดร้านทำผมชื่อ “Celeb'Room” ย่านสุขุมวิท 24 ค่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้เพราะร้านดันตั้งอยู่ในซอย และจากนั้นก็เปิดร้านขายตุ๊กตาบลายธ์ ชื่อ “The Dolls House” ภายใต้ร้านขายสินค้าเก๋ ๆ “Q Concept Store” (คิว คอนเซ็ปต์ สโตร์) ภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับเพื่อนนอกวงการค่ะ โดยทุบกระปุกลงขันไปคนละ 7 หลัก
หลัก ๆ คือร้านจะเป็นตัวแทนจําหน่ายตุ๊กตาบลายธ์ในประเทศไทย ทั้งรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และรุ่นอื่น ๆ พร้อมทั้งเครื่องประดับของตุ๊กตาบลายธ์อีกเพียบ ในช่วงนั้นถือว่ารุ่งมาก เพราะฮิตกันทั่วเมือง ใครมีน้องคืออินเทรนด์ แล้วราคาที่ร้านแม่ชมพู่ก็พอ ๆ กับในตลาด ไม่ได้แพงเกินไป แต่แน่นอนว่าเมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีใครเล่นน้องบลายธ์แล้ว ธุรกิจนี้ก็ได้ปิดตัวหายไปค่ะ
ซึ่งสมัยช่วงที่ ตุ๊กตาบลายธ์ (Blythe) กำลังดังทั่วบ้านทั่วเมือง แม่ชมอาจเรียกได้ว่า
เป็นนักแสดงที่เป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องของตุ๊กตาบลายธ์ แม่อยู่ที่ไหน ตุ๊กตาก็อยู่ที่นั่น!
แบรนด์สินค้าชิ้นแรกของสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”
สำหรับน้ำหอม Pretty Doll by Chom นั้น แม่ชมพู่ได้มีส่วนร่วมคัดเลือกกลิ่นที่ชอบให้กับทางบริษัท เบล เพอร์ฟูมส์ร่วมผลิต ซึ่งที่มาของชื่อ Pretty Doll by Chom ก็ง่าย ๆ เลย เพราะหลาย ๆ คนมองว่าแม่ชมพู่เหมือนตุ๊กตา เลยตั้งชื่อด้วยคำที่เรียกง่ายจำง่าย เน้นความเป็นผู้หญิง ในเรื่องของราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับน้ำหอมแบรนด์ต่างประเทศ สามารถไปอุดหนุนกันได้ตามแผนกน้ำหอมตามห้างทั่วไป หรือทาง App Shopping ก็สามารถซื้อได้เช่นกันค่ะ
ซึ่งธุรกิจนี้เมื่อมองรวม ๆ ก็จะเห็นว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัด เพราะราคาไม่สูงมาก คุณภาพกับราคาไปในทิศทางเดียวกัน กลิ่นถือว่าหอมเทียบแบรนด์ แต่ความติดทนอาจจะไม่สู้ โดยรวมก็ถือว่าแบรนด์นี้ของแม่ชมพู่ก็ตีตลาดกลุ่มเป้าหมายได้สำเร็จค่ะ
จุดสูงสุดของธุรกิจแม่ชมพู่
ธุรกิจที่ ชมพู่ อารยา ได้วางรากฐานไว้เป็นอย่างดีแบบที่เห็นได้ชัด ก็คือ ธุรกิจเต้าหู้เพื่อสุขภาพแบรนด์ “Daughter Brand (ตราลูกสาว)” ที่แม่ชมพู่ได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนสมัยเรียน (ซึ่งมูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทเลยจ้าาา) ซึ่งการลงทุนตัวนี้ คือผลิตภัณฑ์เต้าหู้ไข่พร้อมทาน เป็นโปรเจกต์ใหญ่ใส่ใจรายละเอียดเลือกผลิตภัณฑ์อย่างดี กระป๋องบรรจุภัณฑ์ก็คัดสรรชนิดอย่างดีปลอดสารก่อมะเร็ง ในจุดนี้ถือว่าแม่ชมประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว เพราะธุรกิจอาหารถือว่าเป็นปัจจัยสี่ที่คนต้องการหาซื้อมาดำรงชีวิต และจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นถ้าคุณภาพที่ได้รับนั้นดีไม่มีตก คนบริโภคเขาจะซื้อเอง และกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการจดจำ
โดยสินค้าได้วางจำหน่ายแล้วตามซูเปอร์มาร์เกต ไม่ว่าจะเป็น 7-11 (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) Tops super, Tops market, The Mall, Paragon, Terminal21, Emporium, Villa Market, Max Value และ Max Value ทันใจ, Big C, Lotus, Makro ,เถ้าแก่น้อยแลนด์, ตั้งฮั่วเส็ง, ร้านสหกรณ์ในกรุงเทพ และร้านผลผึ้งหลวง
นอกจากในประเทศไทยแล้ว แม่ชมพู่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าธุรกิจเต้าหู้ไข่ไปได้ดี
สามารถตีตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย
บทบาทใหม่ ธุรกิจสร้างแบรนด์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์
และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้แม่ชมพู่จะเพิ่มหน้าที่ความเป็นแม่ แต่ก็ไม่หยุดเพิ่มธุรกิจให้กับตัวเองจ้าาา เพิ่มบทบาทใหม่เป็นผู้บริหารเปิดตัวธุรกิจ “บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด” (KOL Management Co., Ltd.) บริษัทที่ทำหน้าที่วางกลยุทธ์ดิจิทัลมีเดียให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ในโลกโซเซียล ซึ่ง อาลี ซาอานี จากค่ายแมส กรุ๊ป คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทร่วมกับ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต
ปัจจุบัน KOL มีอินฟลูเอนเซอรที่เป็นสมาชิกแล้ว 20 คน เช่น กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง,หลุยส์ สก๊อต, แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด, พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ และก็อต จิรายุ ตันตระกูล เป็นต้น
ธุรกิจตัวนี้จะเริ่มจากการวางกลยุทธ์ หา Celebrities หรือบุคคลมีชื่อเสียงที่ตอบโจทย์ ไปจนถึงการวางแผนการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตอบโจทย์แบรนด์ โดยแบ่งเป็นห้าประเภท ได้แก่ Entertainment, Lifestyle, Fashion, Health และ Commercial ในจุดนี้ถือว่าแม่ชมพู่ และอาลี ซาอานี มีจุดแข็งที่ชัดมาก ในแบบที่ Agency อื่น ๆ สู้ไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของ Connection และ Inside ของดาราเซเลปที่แม่ชมนั้นรู้ คนไหนเหมาะกับแบรนด์อะไร ตอบโจทย์มากขนาดไหน ส่วนอาลี ซาอานี ก็เป็นนักธุรกิจผู้คร่ำหวอดในวงการนี้มานาน แค่ส่วนนี้ถือว่ากินขาดมาก ๆ แล้วค่ะ
ถึงแม้ว่าในบางช่วงที่ธุรกิจต้องล้มลงไปเพราะสถานการณ์บ้านเมือง เทรนด์ตกกระแส การบริหารที่ไม่ตรงจุด แต่แม่ชมพู่อารยาก็ไม่เคยหยุด พร้อมสู้เพิ่มธุรกิจใหม่ที่ตัวเองมีความสนใจ สู้ต่อไปไม่หยุดนิ่ง ในจุดนี้ปันโปรชอบมากที่แม่ไม่เคยหยุดพร้อมพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ธุรกิจ จะเห็นได้เลยว่าธุรกิจที่แม่ชมพู่ทำสเกลใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับใครที่ทำธุรกิจแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ให้ดูแม่ชมพู่เป็นตัวอย่าง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจก็สู้ต่อไปค่ะ :)
โดย น้องหลุมดำ
I'm coming when food's coming
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ