รีวิว 5 เฟรนช์ฟรายส์เจ้าดัง เอาใจสาวก French Fries Lover

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer19 เม.ย. 2566 avatar writer2.1 K
รีวิว 5 เฟรนช์ฟรายส์เจ้าดัง เอาใจสาวก French Fries Lover

 

เฟรนช์ฟรายส์ อีกหนึ่งเมนู Signature ที่เข้าร้าน Fast Food เมื่อไหร่ หลายคนเป็นต้องสั่งมากินกันตลอด เฟรนช์ฟรายส์สำหรับบางคนอาจจะไม่ใช่เมนูของกินเล่นที่เกิดมาเพื่อ 'แกล้ม'  เมนูอื่น ๆ แต่บางคนถึงขั้นยกเฟรนช์ฟรายส์ให้กลายเป็น 'เมนูหลัก'  ของอาหารมื้อนั้น ๆ กันเลยก็มี ซึ่งในบ้านเราตอนนี้ก็มีเฟรนช์ฟรายส์จากร้าน Fast Food หลายเจ้าให้ได้เลือกกิน

 

และหลังจากที่เราได้สำรวจความชอบในการกินเฟรนช์ฟรายส์ของหลาย ๆ คน ปรากฏว่านอกจากเฟรนช์ฟรายส์แมคโดนัลด์ที่ยืนหนึ่งแล้ว ยังมีเฟรนช์ฟรายส์เจ้าอื่น ๆ ที่หลายคนโปรดปรานกันอีกด้วย เราเลยทำการพุ่งตัวไปที่ร้าน Fast Food แล้วจัดการสั่งเฟรนช์ฟรายส์ของหลาย ๆ ร้านมารีวิวให้ดูกันไปเลยว่า เฟรนช์ฟรายส์แต่ละร้านที่เลือกมามีจุดเด่นยังไง มีเจ้าไหนไหมที่จะเป็นม้ามืดที่เรามองข้ามมาตลอด ไปดูกัน !

 

 

🚨 หมายเหตุ : รีวิวหลังจากนี้เป็นการอ้างอิงจาก 'ความเห็นส่วนบุคคล'

เป็นการรีวิวแบบ 1 by 1  ไม่เปรียบเทียบเจ้าไหนกับเจ้าไหน

ได้มาปุ๊บ รีวิวปั๊บ ที่สำคัญคือ No Dip  'Just มันฝรั่งทอดล้วน ๆ'

 

 


 

รีวิว 5 เฟรนช์ฟรายส์เจ้าดัง เอาใจสาวก French Fries Lover

 

 

🍟  McDonald's French Fries

 

ขอเริ่มต้นกันที่ World Famous Fries เพราะถ้าพูดถึงเฟรนช์ฟรายส์ ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของทุกคนก็น่าจะหนีไม่พ้นเฟรนช์ฟรายส์จาก McDonald's โดยตัวเฟรนช์ฟรายส์ของร้านนี้ ปกติแล้วจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 ไซซ์  ได้แก่  S (39.-) M (69.-) และ XL (89.-) อย่างช่วงที่เราไป มีการทำไซซ์พิเศษอย่าง XXXL ออกมาด้วย โดยราคาจะอยู่ที่ 99.- กับขนาดที่บอกเลยว่าใหญ่จุใจ เปิดตี้กับแก๊งเพื่อนได้สบาย

 

หลังจากได้เฟรนช์ฟรายส์มาแล้ว เราก็จัดการชิมเลยทันทีไม่รีรอ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยมีความทรงจำเกี่ยวกับเฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์มาก็เยอะอยู่ แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นว่าจะต้องมานั่งซึมซับความรู้สึกหลังจากการกินอะไรเบอร์นี้ 😅 และหลังจากที่ได้ลองกินเฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์แบบจริงจัง เราก็สามารถสรุปรสชาติของตัวเฟรนช์ฟรายส์ออกมาเป็นข้อ ๆ ได้ตามนี้

 

  • กฏ 7 นาทีของแมคโดนัลด์ไม่ได้ทำออกมาเล่น ๆ แต่มันคือเรื่องจริง ! - นี่คือสิ่งที่เราทำการพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง เพราะช่วง 7 นาทีแรกตัวเฟรนช์ฟรายส์จะยังกรอบ ๆ สามารถกินได้เรื่อย ๆ  แต่หลังจากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านั้น ตัวเฟรนช์ฟรายส์ก็จะค่อย ๆ นิ่ม บวกกับมันฝรั่งด้านในที่ปกติก็จะนิ่มอยู่แล้ว พอมาเจอนิ่ม + นิ่ม มันเลยให้อารมณ์ในการกินได้ไม่ฟินเท่าตอนแรก

  • เฟรนช์ฟรายส์ส่วนใหญ่ของแมคโดนัลด์มีรสชาติจืด - อันนี้ไม่รู้เป็นที่สาขาด้วยไหมนะ เพราะจากที่อ่านรีวิวมา หลายเสียงบอกกันเยอะมากว่าเฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์นั้นเค็ม แต่นี่เราสัมผัสถึงความเค็มได้ในบางชิ้น แต่ก็ไม่ถึงขั้นเค็มแบบ เค๊มมมมม  ขนาดนั้น ซึ่งก็ไม่ถึงกับว่าแย่ เพราะมันสามารถทำให้เรากินได้เรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าเค็มจัดจนต้องเบรกกลางทาง

  • กลิ่น คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์ดูน่ากินขึ้นมา - ถ้าใครได้อ่านบทความก่อนหน้านี้ของเรากันไปแล้ว คงจะพอรู้กันว่า เคล็ดลับความอร่อยของเฟรนช์ฟรายส์แมคโดนัลด์นั้น ได้เล่นกับระบบประสาทสัมผัสของมนุษย์เราได้ดีมาก  ซึ่ง 'กลิ่น'  ก็เป็นส่วนหนึ่งในเคล็ดลับความอร่อยที่ว่า แถมกลิ่นของเฟรนช์ฟรายส์แมคก็คือเตะจมูกมาก ได้เฟรนช์ฟรายส์มาปุ๊บ กลิ่นหอมก็ลอยออกมาปั๊บ ยั่วน้ำลายเป็นที่สุด 🤤 

 

ซึ่งจุดเด่นของเฟรนช์ฟรายส์แมคโดนัลด์ที่เราชอบนั่นก็คือ ความกรอบ (แต่ต้องกินภายใน 7 นาทีนะ) แต่ส่วนตัวอยากจะให้เค็มกว่านี้อีกหน่อย เพราะพอมันจืด เลยทำให้เรารู้สึกอิ่มกับมันได้เร็ว ซึ่งทุกคนก็สามารถแก้ปัญหานี้ด้วยบรรดาสารพัดดิปต่าง ๆ ที่ก็เป็นของขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างของแมคโดนัลด์ พอมีดิปเข้ามาก็จะทำให้เราเพลิดเพลินกับการกินเฟรนช์ฟรายส์ได้มากขึ้น รู้ตัวอีกทีอาจจะหมดกล่องแบบงง ๆ

 

 

 

 


 

 

🍟  KFC French Fries

 

สำหรับเฟรนช์ฟรายส์จากร้าน Fast Food เจ้าที่ 2 นี้ น่าจะเป็นร้านที่ก้ำกึ่งระหว่าง 'รักกับเกลียด'  คือบทจะชอบก็ชอบไปเลย บทจะไม่ชอบก็น่าจะไม่ชอบไปเลย แถมเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับ 'ความเหี่ยว'  ของเฟรนช์ฟรายส์ที่ทำให้หลายคนส่ายหน้าให้กับเฟรนช์ฟรายส์ของร้านนี้ไปตาม ๆ กัน เราเลยตัดสินใจไปพิสูจน์รสชาติที่ไม่ได้กินมาพักใหญ่ ๆ ของเฟรนช์ฟรายส์จากร้าน KFC นี้ดู !

 

  • ต่อให้เราจะไม่ปรารถนาการกินเฟรนช์ฟรายส์ แต่หลาย ๆ เซ็ตเมนูของ KFC ก็มักจะพ่วงของกินเล่นเมนูนี้ไปด้วยเสมอ - ซึ่งนี่ถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีมาก ๆ แถมพนักงานของร้านนี้ยังแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ตรงที่ มีการพูดแนะนำโปรโมชันด้วยการดึง Message อย่างการ 'จ่ายน้อยกว่า'  มาเชื้อเชิญให้เราตัดสินใจซื้อในแบบที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

    อย่างเฟรนช์ฟรายส์ที่เราสั่งมานี้ เป็นการจ่ายเพิ่มแค่ 10.- จากที่จะต้องจ่ายในราคาเต็ม 39.- (สำหรับไซซ์เล็ก ถ้าเป็นไซซ์กลางจะอยู่ที่ 49.- ไซซ์ใหญ่จะอยู่ที่ 59.-) แถมเรายังได้ลองเมนูอื่น ๆ ของ KFC ควบคู่ไปกับเมนูเฟรนช์ฟรายส์นี้ด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่า สำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการจะกินแค่เฟรนช์ฟรายส์กันอย่างเดียว

  • หลายคนบอกว่าเหี่ยวว่ายม แต่ทางเรากลับพบว่า มันก็ไม่ได้เหี่ยวไม่ได้ยมนี่น่า - อันนี้ไม่ได้จะมาอวยยศ หรือแก้ตัวให้ร้านแต่อย่างใด แต่มันคือความจริงที่เราพิสูจน์มากับตัวแล้วจริง ๆ ด้วยการลองปล่อยเฟรนช์ฟรายส์ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชม. ภาพในหัวเราก็คิดไปไกลแล้วว่ามันจะต้องเหี่ยว สภาพไม่ต่างจากคนคอตกแน่ ๆ  แต่พอถึงเวลามันกลับไม่เป็นอย่างนั้น คือจริงอยู่ที่มันอาจจะไม่ได้กรอบเหมือนตอนแรกที่ได้มา แต่มันก็ไม่ถึงกับขั้นคอพับคอตกจนน่าเกลียด ถามว่ายังกินได้ไหม ยังกินได้อยู่ แต่อาจจะไม่ได้อร่อยเหมือนตอนแรกที่ได้มา ซึ่งก็เป็นกฏตายตัวเหมือนกันกับทุกร้านนั่นแหละ

  • เฟรนช์ฟรายส์ของ KFC มีรสชาติบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกแตกต่าง - ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่ใครที่รู้สึกเหมือนกันช่วยคอมเมนต์มายืนยันหน่อยว่าจริงหรือไม่จริง คือมันไม่ใช่รสชาติที่แย่ แต่มันจะเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง แต่บอกก่อนว่ารสชาติของมันฝรั่งทอดเจ้านี้ ไม่ได้มีรสชาติที่ชัดเจนตั้งแต่แรก คือจะเป็นมันฝรั่งที่มีรสชาติค่อนไปทางจืด (สีของตัวเฟรนช์ฟรายส์ก็จืดด้วย) เนื้อสัมผัสตั้งแต่แรกที่ได้มาคือ กรอบนอกนุ่มใน ด้านในจะนุ่ม ๆ ด้านนอกจะกรอบ แต่ไม่ถึงกับกรอบมาก ส่วนตัวเราว่าเป็นรสชาติกลาง ๆ แต่ถ้าให้ดีควรกินคู่กับซอส หรือพวกดิปน่าจะเริ่ดกว่า

 

ในส่วนของจุดเด่นของเฟรนช์ฟรายส์ KFC เราขอให้คะแนนไปที่ รูปแบบการเสนอขาย ที่ทางร้านมักจะเสนอขายเฟรนช์ฟรายส์ควบคู่ไปกับเมนูหลักอื่น ๆ ไม่รู้ว่าต้องการจะลบภาพจำของเฟรนช์ฟรายส์ KFC แบบเดิม ๆ หรือเปล่า หรือเป็นเพราะเฟรนช์ฟรายส์ KFC ไม่ได้เป็นเมนู Signature ที่ใครก็นึกถึงแบบ McDonald's แต่ทางเราคิดว่ามันเป็นวิธีการที่ฉลาดมาก  แถมทางพนักงานก็เสนอขายแบบไม่ยัดเยียด แต่ก็ทำให้เราตัดสินใจพยักหน้าตอบตกลงแบบเต็มใจได้

 

 

 


 

 

🍟  Burger King French Fries

 

มาต่อกันที่เบอร์เกอร์คิงที่ปกติแล้วเราอาจจะไม่ได้นึกถึงเมนูเฟรนช์ฟรายส์กันเป็นเมนูแรก ซึ่งจะบอกว่าส่วนตัวเราก็เพิ่งมีโอกาสได้ลองกินเฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิงแบบจริง ๆ จัง ๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยว่า พลิกโผ พลิกกระดานกันสุด ๆ

 

  • ถ้าเพื่อน ๆ ชอบกินเฟรนช์ฟรายส์เนื้อแน่น ๆ เฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิงคือตอบโจทย์ - ซึ่งนี่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของเฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิงเลยนะ ร้านอื่น ๆ ต่อให้จะกรอบนอกนุ่มในก็จริง แต่สำหรับร้านนี้เราขอเปลี่ยนไปใช้คำว่า กรอบนอก แน่นใน  แทนจะชัดเจนกว่า คือตัวเนื้อเฟรนช์ฟรายส์ของเค้าจะเต็มชิ้นเต็มคำ มีความกรอบมาก ๆ เรียกได้ว่าไม่เสียชื่อการเป็นเฟรนช์ฟรายส์เลย

  • ถ้าเพื่อน ๆ ชอบกิน Hash Brown เป็นทุนเดิม บอกเลยว่าจะหลงรักเฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิง - ส่วนตัวเราว่าเฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิงคืออีกหนึ่ง ร่างโคลนนิ่ง  ของ Hash Brown เลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อสัมผัสแทบไม่ต่าง จะต่างกันก็ตรงรูปทรงของมันเท่านั้นแหละ

  • ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายประณีต เฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิงก็ตอบโจทย์เช่นกัน - เพราะในบรรดาเฟรนช์ฟรายส์ทั้งหมด เราขอยกให้เฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิง เป็นเฟรนช์ฟรายส์ที่เราสามารถปล่อยทิ้งไว้ แล้วกลับมากินต่อได้แบบไม่ต้องกลัวเสียอรรถรส อาจจะเป็นเพราะตัวเฟรนช์ฟรายส์ของเค้าแน่นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะแตกต่างจากบางเจ้าที่ถ้ายมแล้ว = ไม่กินต่ออีกต่อไป 😅 

 

แต่ก็มีอยู่จุดหนึ่งที่เราว่า ถ้าปรับลดได้ก็จะดีกว่านี้มาก ๆ นั่นก็คือ ความเค็ม คือช่วงแรก ๆ ที่กินไม่ค่อยอะไร แต่ถ้ากินไปเรื่อย ๆ จะสัมผัสได้ถึงความเค็มแบบตะโกน เค็มจนต้องวาง เค็มจนต้องเก็บใส่ถุง รอให้ร่างกายลืมรสชาตินั้นไปก่อน แล้วค่อยกลับมากินต่อ (อย่างที่บอกไปว่าเรายังสามารถเพลิดเพลินกับมันได้อยู่ เพราะต่อให้ยม แต่มันก็ยังอร่อย) สำหรับเฟรนช์ฟรายส์เบอร์เกอร์คิง จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 ไซซ์ ขอเรียกแบบง่าย ๆ ว่า เล็ก-กลาง-ใหญ่ สำหรับไซซ์เล็กมีราคาอยู่ที่ 99.- กลาง 109.- ใหญ่ 119.-

 

 

 


 

 

🍟  Texas Chicken French Fries

 

เดินทางมาถึงเจ้าที่ 4 อย่าง Texas Chicken ที่มีหน้าตาของเฟรนช์ฟรายส์ที่ 'แตกต่าง' จากเจ้าอื่นมากที่สุด มาว่ากันที่ราคาขายกันก่อน สำหรับเฟรนช์ฟรายส์ของ Texas มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 ไซซ์​ ได้แก่ S (39.-) M (57.-) และ L (69.-) โดยเฟรนช์ฟรายส์จะมีชิ้นใหญ่ + หนามาก ๆ ให้ความรู้สึกแตกต่าง แถมยังมีสีเหลืองทองแบบสะใจ ! ได้มาปุ๊บไม่สามารถกินเลยทันทีได้ เพราะว่ามันร้อนมากกกก 🔥 อะ มาว่ากันถึงสิ่งที่เราสัมผัสได้จากการกินเฟรนช์ฟรายส์ของร้านนี้กันบ้าง

 

  • กลิ่นของเฟรนช์ฟรายส์หอมเตะจมูก ชวนให้น้ำลายหก - ขนาดปิดถุงอยู่ กลิ่นหอมก็ยังโชยออกมาในแบบที่ไม่สามารถบังคับร่างกายให้ไม่กินได้ (แต่ก็ยังกินไม่ได้อยู่ดี เพราะร้อนเกินเบอร์ไปมาก ๆ ) ในส่วนของรสชาติค่อนไปทางจืดเลย ไม่สัมผัสถึงความเค็ม ให้รสชาติของมันฝรั่งเพียว ๆ สัมผัสของเฟรนช์ฟรายส์จะกรอบนอก นุ่มใน ต่อให้ทิ้งไว้สักพัก กลับมากินต่อก็รู้สึกว่ายังกรอบอยู่

  • ให้สั่งแต่พอดี เพราะขืนสั่งไซซ์ใหญ่ (แต่กินคนเดียว) อาจจะกินไม่หมด - เนื่องมาจากรูปทรงของน้องมีขนาดที่ใหญ่ + หนา ขนาดเราสั่งไซซ์กลางมากิน กินได้แค่ 5-6 ชิ้นก็เริ่มที่จะอิ่มแล้ว แถมตัวเฟรนช์ฟรายส์ก็ได้มาตรฐานเท่ากันทุกชิ้นด้วยนะ เพราะฉะนั้นใครจะสั่งมากิน อย่าลืมกะปริมาณกันให้ดี ๆ ก่อน เดี๋ยวจะกินไม่หมดเอา 😅 

  • ความร้อนของเฟรนช์ฟรายส์เจ้านี้ มีฤทธิ์ในการทำลายล้าง (ช่องปาก) สูงมาก - ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเขาเสิร์ฟมาในอุณหภูมิที่ร้อนกว่าร้านอื่น ๆ แบบเท่าตัว เพราะฉะนั้นได้มาแล้วไม่ต้องรีบกินเลย สามารถพักไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยกินได้ ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสขนาดนั้น

 

สำหรับจุดเด่นของเฟรนช์ฟรายส์ Texas Chicken จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก หน้าตา ที่น่าจะโดนใจคนที่ชอบกินมันฝรั่งทอดชิ้นใหญ่ ๆ เต็มปากเต็มคำกันเป็นอย่างดี แถมตัวรสชาติที่เรียกได้ว่า 'ไม่เค็มเลย'  เลยทำให้เราสามารถกินได้เรื่อย ๆ แต่จะหมดไหม อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณความหิว บวกปริมาณคนที่รายล้อมเราอยู่ตอนนั้น 😆 

 

 

 


 

 

🍟  Chester's French Fries

 

มาถึงร้านสุดท้ายที่มีความแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ตรงที่เค้าจะเสิร์ฟมาในจานไปเลย ไม่ได้มาในกล่องกระดาษแบบที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน (ในเคสที่กินที่ร้านนะ) แต่ก่อนที่จะไปรีวิวเฟรนช์ฟรายส์ของร้านนี้ เรามาว่ากันถึงราคากันก่อน โดยเฟรนช์ฟรายส์ Chester's จะวางขายกันแค่ 2 ไซซ์ คือ ไซซ์ปกติ (49.-) กับไซซ์ใหญ่ (59.-) นะ

 

  • ต่อให้เฟรนช์ฟรายส์จะมีสีค่อนไปทางเหลืองเข้ม ประหนึ่งว่าเพิ่งทอดใหม่ แต่เวลาเสิร์ฟจริงกลับไม่ได้ร้อนเบอร์นั้น - ทั้ง ๆ ที่เพิ่งได้มา แล้วทางเราก็รีบงับใส่ปากเลยด้วยนะ ในส่วนหน้าตาของเฟรนช์ฟรายส์ก็มาในแท่งเรียวยาวตามแบบฉบับของเฟรนช์ฟรายส์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน สัมผัสก็ไม่ต่าง มีความกรอบนอก นุ่มใน แต่เชื่อไหมว่ารสชาติของมันกลมกล่อมและพอดีที่สุดในความเห็นของเรา  คือไม่จืดไป ไม่เค็มไป แต่จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่....

  • รสชาติถือว่าผ่าน แต่ที่ไม่ผ่านคือความอมน้ำมัน - สังเกตได้ชัดเจนมาก เพราะทางร้านเลือกใช้ 'จานสีดำ' ในการเสิร์ฟ เลยทำให้เราเห็นความเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ ทั่วทั้งจานไปเลยจ้า 

  • เฟรนช์ฟรายส์มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว - คือปกติกลิ่นของเฟรนช์ฟรายส์ที่เราคุ้นกันมันจะเป็นกลิ่นหอม ๆ ของน้ำมันที่จะคล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ร้าน แต่สำหรับเฟรนช์ฟรายส์ของ Chester's เรากลับได้กลิ่นหอมที่แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ถามว่าเพิ่มอรรถรสในการกินได้ไหม ได้ ถ้าไม่มาสะดุดที่ตัวน้ำมันกันเสียก่อนนี่สิ

 

แต่ถ้าตัดเรื่องของการอมน้ำมันออกไป เราบอกเลยว่า รสชาติ ของเฟรนช์ฟรายส์จาก Chester's ถือว่าถูกจริตเรามากที่สุด คือมันไม่ได้เค็มไป ไม่ได้จืดไป กินเดี่ยว ๆ ก็รอด เป็นรสชาติที่อยู่ข้างใน ไม่ได้เป็นรสชาติของเกลือที่เคลือบอยู่ด้านนอก แม้ว่าหน้าตาจะธรรมดาทั่วไป แต่ในส่วนของรสชาตินั้นทางเราว่าอร่อยเลย 😋 

 

 

 

 

*ราคาอัปเดต ณ วันที่ 19 เมษายน 2566


 

💭 และทั้งหมดนี้ก็เป็นรีวิวเฟรนช์ฟรายส์ 5 ร้าน ที่เราคัดมาเอาใจสาวก French Fries Lover ส่วนตัวเพื่อน ๆ ชอบเฟรนช์ฟรายส์จากร้าน Fast Food เจ้าไหนกันบ้าง ทั้งในแง่ของรสชาติ และความคุ้มค่าเวลาจัดโปร หรือใครมีเจ้าไหนนอกเหนือจากนี้ ที่คิดว่าดีงามควรค่าแก่การลองไม่แพ้กัน  ก็สามารถคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลย 😋 🍟 

 

 

อ่านบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น