ขอคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า เริ่มวันที่ 25 มี.ค. 63 เป็นต้นไป
โดย : MilD
วิธีลงทะเบียนรับสิทธิ์
เงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า สูงสุด 6,000 บาท
เริ่มวันที่ 25 มี.ค. 63 เป็นต้นไป และรับเงินคืนได้ตั้งแต่ 31 มี.ค. 63
ไม่ต้องรีบ ไม่มีกำหนดหมดเขต แจกจนกว่าจะครบทุกราย
Highlight ของการลงทะเบียนขอรับเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
• ขอเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 300.-สูงสุดถึง 6,000.- แล้วแต่ขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ สำหรับบ้านที่พักอาศัยส่วนใหญ่แล้ว จะได้รับเงินอยู่ที่ 2,000.- ต่อครัวเรือน มีหลายบ้านก็ได้รับตามจำนวนเลย แต่ต้องไปลงทะเบียน!
• สามารถดำเนินการลงทะเบียน ขอเงินประกันคืนได้ที่สำนักงานสาขาการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นที่กำลังพัฒนาเพื่อรองรับอยู่จ้า
• เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 และจะคืนเงินให้หลังจากวันที่ 31 มี.ค. เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะคืนในรูปแบบใด เงินสด โอนเงินเข้าบัญชี หรือเป็นส่วนลดค่าบริการไฟฟ้า
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีประชุมเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 ได้มีมติอนุมัติโครงการคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก เพื่อช่วยลดกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังสร้างวิกฤติให้กับสภาพเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ได้รับผลกระทบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนก็คงจะเตรียมตัวไปขอเงินคืนกันแล้วแน่ๆ เลย เหมือนแจกเงินฟรี แต่ความจริงแล้วเราจ่ายส่วนนี้ไปก่อนตอนสมัครใช้ไฟฟ้า รัฐก็เลยคืนเงินส่วนนี้มาให้ก่อนกำหนด ไม่เหมือนกับโครงการ "ชิมช้อปใช้" ที่เป็นการแจกเงินให้เปล่าแบบนั้นนะ
เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังสงสัยเกี่ยวกับค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้ากันอยู่ไม่น้อย แล้วจะลงทะเบียนรับสิทธิ์ขอเงินคืนได้ยังไง ต้องไปทำเรื่องที่ไหน แล้วจะได้เงินคืนเมื่อไหร่ทั้งหมดนี้มีคำตอบให้แล้วจ้าาา~
เงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า คืออะไร?
เงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า จะถูกเรียกเก็บในตอนที่ผู้ใช้งานมาติดต่อเพื่อขอใช้มิเตอร์ไฟฟ้าและดำเนินการจ่ายไฟในครั้งแรก เนื่องจากการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันนี้เป็นแบบ Post-Paid ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง ลักษณะคล้ายกับค่าบริการเบอร์มือถือแบบรายเดือน แล้วค่อยเรียกเก็บเงินในภายหลัง เป็นใบแจ้งการชำระเงินส่งไปยังที่อยู่ที่ลงทะเบียน แล้วค่อยชำระเงินตามวันที่กำหนด การเรียกเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจึงเป็นหลักประกันการใช้ไฟฟ้า ถ้าหากผู้ใช้ไฟฟ้าเกิดเบี้ยวล่ะ ไม่ยอมชำระค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจะทำยังไง? ก็เลยมีการเรียกเก็บค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าไว้ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของภาครัฐที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ชำระค่าไฟฟ้านั่นเอง ปกติเราจะได้รับเงินคืนก้อนนี้ก็ต่อเมื่อติดต่อขอยกเลิกการใช้มิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว ซึ่งน่าจะต้องใช้ไปยาวๆ จะได้เงินส่วนนี้คืนเป็นส่วนน้อยมากๆ จ้า โดยมิเตอร์แต่ละขนาดก็จะเสียเงินค่าประกันไม่เท่ากันเน้อ มิเตอร์ยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งจ่ายเยอะตามไปด้วย
• มิเตอร์ขนาด 5(15) เหมาะสำหรับบ้านพักขนาดเล็ก เงินค่าประกัน 300 บาท
• มิเตอร์ขนาด 15(45) บ้านเรือนทั่วไปจะใช้มิเตอร์ขนาดนี้ เงินค่าประกัน 2,000 บาท
• มิเตอร์ขนาด 30(100) เหมาะสำหรับบ้านพักขนาดใหญ่ เงินค่าประกัน 4,000 บาท
• มิเตอร์ขนาด 15(45) 3 เฟส เป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์หรือธุรกิจ เงินค่าประกัน 6,000 บาท
พูดง่ายๆ ก็คือเหมือนกับทางภาครัฐจะคืนเงินประกันค่ามิเตอร์ไฟฟ้าส่วนนี้มาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าก่อนกำหนด เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะใช้งบประมาณรวม 30,000 ล้านบาท มีผู้ที่รับสิทธิ์รวมกว่า 20 ล้านคนเลยทีเดียว ได้เงินไปแล้วก็นำมาใช้จ่ายกันน้า ซื้อของจำเป็นก็ได้
3 ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงินคืนง่ายๆ
การขอเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากเลยจ้า เพียงลงทะเบียนกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ใช้เวลาไม่นาน เราก็จะได้เงินคืนมาแล้ว ถ้าเน้นเร็วสุดก็อยากให้ผู้จดทะเบียนมิเตอร์ไฟฟ้าดำเนินการด้วยตัวเองจะไวกว่าเน้อออ~
กรณีผู้จดทะเบียนมิเตอร์ดำเนินการด้วยตัวเอง จะต้องใช้ข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนทั้งหมด 3 อย่างได้แก่
• หมายเลขบัตรประชาชน
• ชื่อ-นามสกุล
• เลขที่สัญญาที่อยู่ในบิลค่าไฟฟ้า (กรอบสีแดง)
(ขอบคุณภาพประกอบจาก การไฟฟ้านครหลวง)
ซึ่งถ้าหากข้อมูลถูกต้องทั้งหมดถึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนนะ และจะเริ่มจ่ายเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืนให้ ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 63 เป็นต้นไป แต่ไม่ต้องรีบลงทะเบียนก็ได้ เพราะยังไงก็ได้เงินคืนแน่นอนถ้ามาทำเรื่องจ้า
กรณีผู้จดทะเบียนมิเตอร์ไมได้ดำเนินการด้วยตัวเอง
• กรณีเป็นทายาทเจ้าของมิเตอร์ หรือกลุ่มนิติบุคคลรับมอบอำนาจมาดำเนินการ จะต้องเตรียมระบบเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องว่าผู้ได้ที่รับเงินเป็นตัวจริง
• กรณีซื้อบ้านมือสองและชื่อยังเป็นเจ้าของเดิม ก็อยู่ที่ตกลงกันว่าจะเป็นเจ้าของเดิมที่มีชื่อจดทะเบียน หรือเจ้าของคนใหม่ ใครเป็นคนทำเรื่องรับเงินค่าประกันไปนั่นเอง
ช่องทางในการลงทะเบียนรับเงินคืน
ในเบื้องต้นทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้กำหนดแนวทางในการขอรับเงินคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าของประชาชน เพื่อความเข้าใจง่ายจะขอแยกการลงทะเบียนรับสิทธิ์ของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแยกออกจากกันก่อนเน้อ
การไฟฟ้านครหลวง
สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้าได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ผ่าน 3 ช่องทางตามนี้จ้า
(1) ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ (ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง) ช่องทางนี้ถือว่าสะดวกสบายที่สุดแล้วจ้า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อเอง เพียงแค่กรอกข้อมูลออนไลน์ก็รอรับเงินคืนได้เลย สามารถลงทะเบียนได้เลยที่ http://measy.mea.or.th และผ่านช่องทางอื่นๆ อีกมากมายจ้า
• แอปพลิเคชั่น MEA Smart Life
• เว็บไซต์ http://www.mea.or.th
• Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA
• Twitter : @mea_news
• LINE : @meathailand
• สแกน QR Code บนใบแจ้งค่าบริการไฟฟ้า (เฉพาะใบแจ้งค่าไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63)
(2) ลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์ (วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-15.30 น.) สามารถโทรไปได้เลยที่หมายเลข 02-256-3333 จำนวน 50 คู่สาย
(3) ลงทะเบียนที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต (ตามเวลาทำการ) สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางที่ทำการไฟฟ้าตั้งแต่เดือน พ.ค. 63 เป็นต้นไป
ส่วนเงินคืนก็จะเริ่มจ่ายให้หลังจากวันที่ 31 มี.ค. 63 เป็นต้นไป โดยผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินผ่านช่องทางใด
(1) บัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้วางหลักประกัน ซึ่งสามารถผูกกับบัญชีธนาคารอะไรก็ได้เลย
(2) บัญชีเงินฝากที่มีชื่อบัญชีตรงกับผู้วางหลักประกันที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกสิกรไทย
(3) รับเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา
สำหรับการดำเนินการรับสิทธิ์ กรณีไม่สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เช่น เสียชีวิต โอนสิทธิ์ จะเริ่มดำเนินการได้วันที่ 3 พ.ค. 63 เป็นต้นไปเน้อออ
วิธีการลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับบุคคลธรรมดา
กรณีไม่พบข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน
กรณีไม่พบข้อมูลหมายเลขบัตรประชาชน และไม่ทราบเลขบัญชีแสดงสัญญา
วิธีการลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับนิติบุคคล
วิธีตรวจสอบข้อมูลการรับสิทธิ์
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกรอกชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าให้ครบถ้วน และส่งเอกสารหลักฐานผ่านทางระบบได้ทั้งหมด 6 ช่องทาง ได้แก่
• เว็บไซต์ http://dmsxupload.pea.co.th/cdp
• สแกน QR Code ท้ายใบแจ้งค่าใช้ไฟฟ้าของเดือน มี.ค. 63
• Facebook : การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA
• LINE : @peathailand
• แอปพลิเคชั่น PEA Smart Plus
• สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพื้นที่ และสำนักงานใหญ่ > จะยังไม่เปิดให้ลงทะเบียนจนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลาย
เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันผลการลงทะเบียน และจะเริ่มคืนเงินให้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. เป็นต้นไป ผ่านหลากหลายช่องทางตามนี้จ้า
• Prompt Pay ที่ผูกบัญชีกับหมายเลขบัตรประชาชน
• บัญชีเงินฝากธนาคาร กรุงไทย กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทย หรืออิสลามแห่งประเทศไทย
• เคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยแสดงบัตรประชาชน และ PIN Code ในการรับเงิน
สถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้ อยากแนะนำทุกคนใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อน แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์จะดีที่สุดแล้ว เพราะถ้าหากว่าแห่กันไปที่สำนักงานการไฟฟ้าฯ ก็มีความเสี่ยงจากคนจำนวนมากอยู่ด้วยกันในสถานที่พื้นที่จำกัด อาจจะหลีกเลี่ยงไปก่อนช่วงนี้ เป็นห่วงสุขภาพทุกคนจ้า รอติดตามข่าวสารอัปเดตเรื่อยๆ นะ
แม้ว่าเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้านี้ จะให้ความรู้สึกว่ามีเงินใช้มากขึ้น
แต่ความจริงแล้วเป็นเงินที่เราจ่ายไปก่อน อยากให้ใช้เงินก้อนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สู้ไปด้วยกัน!
SaveForMore #Saveเงินในกระเป๋า
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ