คุณพ่อมือใหม่ เตรียมค่าใช้จ่าย & อัปเดตความรู้ก่อนมีลูกคนแรก
โดย : Belt
เตรียมความพร้อม
ก่อนรับบทคุณพ่อป้ายแดง
รู้ไว้ได้ใช้แน่นอนจ้าา
👶 เจ้าเบบี๋ในท้องกำลังดิ้นไม่หยุดจ้าา งานนี้คุณพ่อจะมัวแต่ดีใจออกนอกหน้าอย่างเดียวไม่ได้แล้วละน้าา ต้องเตรียมตัวให้พร้อมดูแลว่าที่คุณแม่ อย่าได้ขาดตกบกพร่องจ้าา จะมีอะไรบ้างเข้ามาดูกันได้เล้ยย
เลือกโรงพยาบาลทำคลอด
การเลือกโรงพยาบาลก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่เองจะต้องเลือกให้เป็น เช็คให้ดี บางครอบครัวก็จะมีโรงพยาบาลที่เชื่อถืออยู่แล้ว แต่หากยังไม่รู้จะเลือกอย่างไร และกำลังมองหาโรงพยาบาลที่สามารถใช้สิทธิ์ต่างๆ ก็ลองพิจารณาจากเกณฑ์เหล่านี้
| สามารถฝากครรภ์และทำคลอดในโรงพยาบาลเดียวกัน
ส่วนมากคุณแม่จะเลือกฝากครรภ์และทำคลอดในโรงพยาบาลเดียวกัน บางคนอาจจะคิดว่าฝากครรภ์กับสถานพยาบาลใกล้ๆ บ้านไปก่อน แต่อาจทำให้ยุ่งยากภายหลังได้ เพราะนอกจากจะไม่ต้องทำเรื่องย้ายไปคลอดที่อื่นให้เสียเวลาแล้ว คุณแม่จะมีความคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อถึงเวลาคลอด คุณแม่จะไม่รู้สึกเครียดอีกด้วย
| ทีมแพทย์ที่ไว้วางใจได้
การทำคลอดนั้นเป็นเคสที่เกิดขึ้นแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งในแต่ละโรงพยาบาลก็จะมีคุณหมอที่มีประสบการณ์การทำคลอดคอยดูแลให้อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้มั่นใจจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถตรวจสอบประวัติได้จากโรงพยาบาล หรือหาข้อมูลรายชื่อหมอสูติและหมอฝากครรภ์ ตามเว็บไซต์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจได้เลย
| เดินทางสะดวก
ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก เวลามีเหตุฉุกเฉิน ก็สามารถรพบแพทย์ที่ดูแลได้ทันที แต่บางคนอาจจะคิดว่า โรงพยาบาลดีแต่อยู่ไกลก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องอย่าลืมนะว่าคนท้องอย่างเรา ต้องดูแลเป็นพิเศษกว่าใครเลยล่ะ
ไหนจะเรื่องการจราจรบนท้องถนนอีก แถมทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็เวียนกันทำหลายโรงพยาบาลด้วยนะ ฉะนั้นเลือกใกล้ๆ ไว้ก่อนเป็นปลอดภัย แถมยังเซฟค่าเดินทางอีกด้วยนะ เพราะช่วงระหว่าง 12 เดือน เราต้องไปพบกับคุณหมออีกหลายครั้งเลยล่ะ
| ค่าใช้จ่าย
จากหัวข้อที่เราบอกว่ายุคนี้คุณพ่อหลายคนน่าจะต้องเซฟค่าใช้จ่ายในการคลอด การเลือกโรงพยาบาลรัฐก็เป็นหนทางที่ไม่แย่เสมอไป นอกจากจะได้ราคาถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนมาก การบริการและเครื่องมือก็มีคุณภาพ ได้มาตราฐานไม่แพ้กันเลยย ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะแล้วแต่บุคคลไป
คุณแม่บางคนสุขภาพดี ก็อาจรับยาน้อย บางคนสุขภาพไม่แข็งแรง ก็ต้องมีวิตามินบำรุงกลับมากิน จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการวินิฉัยของคุณหมอ อันนี้พูดถึงเคสที่เลือกโรงพยาบาลรัฐที่ไม่ได้อิงกับสิทธิ์ต่างๆ ก็ลดค่าใช้จ่ายไปได้มากแล้ว แต่หากสามารถเลือกคลอดกับโรงพยาบาลที่คุณแม่มีสิทธิ์ประกันสังคม หรือบัตรทอง ก็จะได้ลดค่าใช้จ่ายในอีกหลายส่วน ลองไปดูต่อในข้อต่อไปกันเลย
ประกันสังคม VS บัตรทอง
ประกันสังคม
| เงื่อนไขการรับสิทธิประกันสังคม
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 และ ม.39
- จ่ายเงินสมบทบครบ 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนคลอดบุตร
| ได้รับสิทธิอะไรบ้าง
- เบิกค่าคลอดได้ 13,000 บาท/ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง กี่ท้องก็จ่ายให้หมด
- ได้เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อทำคลอด 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นเวลา 90 วัน (คิดจากฐานค่าจ้างที่นำส่งประกันสังคม ฐานสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง)
- บุตรคนที่ 3 เป็นต้นไป คุณแม่จะไม่ได้รับเงินสงเคราะห์หยุดงานเพื่อทำคลอดน้าา
- เงินสงเคราะห์บุตร 600 บาท/เดือน ได้รับตั้งแต่แรกเกิด จนอายุครบ 6 ปี บริบูรณ์ คราวละไม่เกิน 3 คน
| คุณแม่ไม่ว่างให้คุณพ่อทำเรื่องเบิกได้ไหม?
- ถ้าคุณแม่ทำอาชีพอิสระหรือว่าเป็นแม่บ้าน และคุณพ่ออยู่ในเกณฑ์ผู้มีสิทธิตาม ม.33 และ ม39 จ่ายเงินสมทบครบ ก็สามารถเบิกค่าคลอด 13,000 บาท เหมือนคุณแม่ได้เลย
- แต่จะไม่ได้เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อทำคลอดนะจ๊ะ
เช็คสิทธิประกันสังคม >> คลิก
บัตรทอง 30 บาท
| เงื่อนไขการสมัครบัตรทอง
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย
- ไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ ได้แก่ สิทธิตามกฎหมายประกันสังคม สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ หรือสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของหน่วยงานรัฐอื่นๆ
| ฟรีอะไรบ้าง!! (คุณแม่เท่านั้น)
- ฝากครรภ์ฟรี 5 ครั้ง สัปดาห์ที่ 12, 18, 26, 32, 38
- ตรวจเช็คโรคโลหิตจาง, โรคธารัสซีเมีย ในหญิงตั้งครรภ์และสามี
- คัดกรองดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์ อายุ 35 ปี ขึ้นไป
- คัดกรองภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ในเด็กแรกเกิด
- ป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย
- การคุมกำเนิดกึ่งถาวรในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี
- การคุมกำเนิดกึ่งถาวรในหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป (กรณีหลังยุติการตั้งครรภ์)
- คัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เช็คสิทธิบัตรทอง >> คลิก
ตารางเปรียบเทียบ
ประกันสังคม และ บัตรทอง 30 บาท
กรณีคลอดบุตร
คุณพ่อสายซัพพอร์ต
ช่วยคุณแม่ยังไงได้บ้าง
ถ้าคุณพ่อจะอยู่เฉยๆ ให้กำลังใจคุณแม่อย่างเดียวไม่ได้น้าา ระหว่างที่รอลูกออกมาลืมตาดูโลกนั้น คุณพ่อเองก็ต้องมีหน้าที่ค่อยช่วยเหลือ และสนับสนุนคุณแม่ด้วย ซึ่งส่วนนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งส่วนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมา แต่คุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด (บางที่ก็ฟรีนะ) ถ้าแพลนการเงินไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แนะนำในคุณพ่อคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปด้วยเลย
| เข้าคอร์สอบรม เล่าเรียน หาความรู้
"การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด"
ดูเหมือนว่าประโยคนี้ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ต่อให้เรียนจบมาแล้ว ทำงาน หรือแม้กระทั้งเริ่มต้นสร้างครอบครัว เราก็ต้องตั้งใจหาความรู้ใหม่ๆ ใส่ตัวตลอด ดังนั้นแล้วสิ่งที่คุณพ่อทำได้ช่วงที่รอคลอดก็คือการเข้าคอร์สอบมรมสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่มีเปิดให้บริการตามโรงพยาบาลต่างๆ
โรงพยาบาลสมิติเวช
คอร์สอบรมคุณพ่อคุณแม่มือใหม่
ราคา 1,500 บาท / อบรม 3 ครั้ง
ติดต่อ 02-022-2222
โรงพยาบาลรามาธิบดี
จะเป็นการอบรม แนะนำจากทีมแพทย์ และพยาบาล เมื่อคุณแม่เข้าโปรแกรมฝากครรภ์ที่นี่
ติดต่อ 02-200-3000
โรงพยาบาลกรุงเทพ
คอร์สอบรมครรภ์คุณภาพเตรียมพร้อมคุณแม่ก่อนคลอด
หากไม่ได้ฝากครรภ์ที่นี่ จะมีค่าธรรมเนียมเข้าอบรม 500 บาท
ติดต่อ 02-310-3005
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
เมื่อฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาล จะมีคอร์สอบรมเรื่องการดูแลลูก ช่วงก่อนคลอดและหลังคลอด สำหรับคุณพ่อคุณแม่ฟรีจ้าา
ติดต่อ 02-763-4006
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
คอร์สอบรมตั้งครรภ์คุณภาพ
ราคา 1,000 บาท / ครั้งอบรม / คู่สามีภรรยา (ที่ไม่ได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล)
ติดต่อ 02-066-8888
การเข้าห้องคลอดของคุณพ่อ
การคลอดบุตรเป็นเรื่องใหญ่มากของคุณภรรยาเลยนะ ผู้หญิงทุกคนต้องการกำลังใจจากคุคนรักมากๆ ถ้าสามารถระบุวันคลอดได้ ลางานล่วงหน้าไว้ได้เลย ซึ่งปัจจุบันในบางบริษัทก็มีสิทธิในการลาให้กับผู้ชายไปดูแลภรรยาที่คลอดบุตรด้วย แต่ก่อนอื่นก็ควรเช็คโรงพยาบาลที่อนุญาตให้คุณพ่อเข้าไปได้ หรือหากเข้าไปไม่ได้ ไปเฝ้าหน้าห้องให้คุณแม่อุ่นใจก็ยังดี
สามารถเช็คโรงพยาบาลที่คุณพ่อเข้าห้องคลอดได้ ตามนี้
- โรงพยาบาลรัฐ
ส่วนใหญ่แล้วโรงพยาบาลรัฐ จะไม่อนุญาตให้คุณพ่อเข้าไปในห้องคลอดกับคุณแม่ แต่ถ้าให้เข้าก็จะสามารถเข้าไปได้ในช่วงหลังคลอดเสร็จเท่านั้น หากไม่แน่ใจว่าเข้าได้หรือไม่ได้ ก็ลองสอบถามคุณหมอประจำโรงพยาบาลก่อนกันน้า
- โรงพยาบาลเอกชน
โรงพยาบาลเอกชนส่วนมากจะสามารถให้คุณพ่อเข้าไปในห้องคลอดกับคุณแม่ได้ แต่ในปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ดังนั้นในแต่ละที่จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้จะเข้าได้หรือไม่ได้นั้น ก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ด้วยว่าครรภ์ของคุณแม่ปกติดี หรือว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน
เข้าห้องคลอดครั้งแรกคุณพ่อต้องพบอะไรบ้าง
ขึ้นชื่อว่าห้องคลอดแล้ว ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน คุณพ่ออย่าคิดว่าตัวเองใจแข็งแล้วจะอยู่ได้นะ ก่อนจะเข้าไปในนั้น เตรียมตัวกันก่อนว่าคุณพ่อจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง!
- เลือด
ถึงคุณพ่ออาจจะเคยเห็นเลือดมาบาง แต่เชื่อว่าต้องยังไม่เคยเห็นเลือดแบบเป็นถังๆ แน่นอน ใครกลัวเลือด แพ้กลิ่นคาวเลือด ถ้ารู้ตัวก็อย่าฝืนจ่ะ
- รอยขีดข่วนจากคุณแม่
บางทีคุณแม่ทนเจ็บไม่ไหวต้องหาที่ระบาย งานนี้คุณพ่อต้องพร้อมรับมือกับรอยเล็บจิกกันได้เลย
- สารพัดความวุ่นวาย
ข้างในห้องจะมีบรรยากาศความตึงเครียดสุดๆ ซึ่งคุณหมอกับพยาบาลจะชินกับอะไรแบบนี้แล้ว แต่มันอาจจะส่งผลต่อตัวคุณพ่อเองด้วยนะ คุณพ่อต้องไม่เครียด เพราะถ้าคุณพ่อเครียด คุณแม่จะเครียดตามด้วยน้าา
- วินาทีที่ลูกออกมา
ช่วงที่ลูกออกมานั้น ทั้งหมอและพยาบาลจะวิ่งวุ่นกันทั่วห้อง ยิ่งกว่าผึ้งแตกรัง คุณพ่อก็อย่าเพิ่งดีใจออกนอกหน้า พยายามหลบๆ มุม จะได้ไม่ไปรบกวนการทำงานของทีมแพทย์
เข้าไปได้แล้วจะต้องทำอะไรบ้าง
คุณพ่อจะต้องปฏิบัติตัวภายใต้กฎระเบียบของห้องคลอดอย่างเคร่งครัด แต่จะแค่ยืนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยก็คงจะเข้ามาเสียเที่ยว มาดูกันว่าคุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่ยังไงได้อีกบ้าง!!
- ช่วยเชียร์เบ่ง
ถ้าเชียร์บอลได้ ก็ต้องเชียร์เบ่งได้ด้วยจ่ะ แต่ไม่ใช่ตะโกนอย่างเดียวนะ ต้องพูดให้พร้อมกับจังหวะการเบ่งคลอดด้วย
- จับมือคุณแม่ให้รู้สึกผ่อนคลาย
ให้คุณแม่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวระหว่างทำคลอด แต่ระวังคุณแม่เผลอจิกเล็บจนเป็นรอยกันนะจ๊ะ
- การนวด
อาจจะเป็นการนวดมือ นวดแขนเบาๆ เพื่อให้คุณแม่ผ่อนคลาย ไม่เครียดจนเกินไป
- นับจังหวะการหายใจ
วิธีนี้จะคล้ายๆ กับการช่วยเชียร์ แต่จะเป็นการหายใจให้เป็นจังหวะพร้อมๆ กับคุณแม่ โดยจะต้องหายใจเข้าให้สุด กลั่นหายใจ แล้วเบ่ง ให้ทำสลับตามนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด
ทั้งหมดนี้คือวิธีพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณแม่คลายเครียดได้นะจ๊ะ หรือใครมีวิธีอื่นๆ ลองสอบถามคุณหมอก่อนนะว่าทำได้มั้ย
การบันทึกภาพความสุข
หากว่าเข้าไปได้แล้ว จะสามารถบันทึกภาพได้หรือไม่? ซึ่งต้องบอกก่อนว่าโรงพยาบาลส่วนมาก จะไม่อนุญาตให้คุณพ่อนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากภายนอกเข้ามาในห้องคลอด เพราะห้องคลอดเป็นห้องปลอดเชื้อ ดังนั้นผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ ก็จะเป็นการใช้เจ้าหน้าที่และใช้อุปกรณ์ของทางโรงพยาบาลเท่านั้นจ้า
สรุปการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อป้ายแดง
- ถ้าคิดจะมีลูกอยู่แล้ว คุณพ่อ ควรเตรียมศึกษาหาข้อมูล ให้พร้อมรับมือสมาชิกใหม่กันได้เลย
- หากมีงบไม่มาก ปันโปรแนะนำโรงพยาบาลรัฐ จะช่วยเซฟค่าใช้มากกว่าโรงพยาบาลเอกชน
- สำหรับแบบแพงจะได้รับบริการที่ดีขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราเลือกนะจ๊ะ
- นอกจากการทำคลอดแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ ทั้งเสื้อผ้าเด็ก ผ้าอ้อม และของเล่นเด็กอีกด้วยน้าา
- 2 ปี แรกจะมีค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก ถ้าใช้บริการจาก รพ. รัฐอยู่แล้ว จะยิ่งประหยัดเงินขึ้นไปอีก
โดย Belt
Temporary content writer
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ