'ไข้หวัดใหญ่ 2022' อันตรายคูณสองที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมเปิดสิทธิใครบ้างที่ฉีดวัคซีนได้ฟรี ?

 

😷

ความโควิด-19 ยังไม่ทันคลี่คลาย ความฝีดาษลิงก็มาต่อแถวรอคิวอยู่ตรงหน้า และล่าสุด นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ของ 'โรคไข้หวัดใหญ่' ที่กำลังจะกลับมาระบาดอีกครั้งว่า อาจรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี  ทำให้ประชากรโลกกว่า 7.753 พันล้านคนต้องเก็บแรงกาย แรงใจไว้ต่อสู้กับโรคระบาดทั้งหลายแหล่ที่ประเดประดังเข้ามา พร้อมต้องฮึดสู้ก้มหน้าก้มตาทำงาน เพื่อนำเงินไปซื้อชุดตรวจ ATK มาแยงจมูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนลูปไปไม่รู้จบ

 

---

 

 

รู้จัก 'ไข้หวัดใหญ่ 2022' โรคที่มาพร้อมกับอันตรายคูณสอง !

 

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คือ โรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Influenza โดยสามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ผ่านการไอ จาม หรือการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส หรือการใช้ของร่วมกัน นอกจากนี้อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนหลังติดเชื้อจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยเบื้องต้นผู้ป่วยมักจะมี อาการปวดศีรษะ ไอแห้ง มีน้ำมูก คัดจมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีไข้สูงร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที จะแตกต่างจากไข้หวัดทั่วไป

 

ซึ่งล่าสุดทาง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเตือนประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศในเขตอบอุ่นซีกโลกใต้ รวมถึงประเทศไทย ให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2022 ซึ่งจากข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศออสเตรเลีย (ณ วันที่ 19 มิ.ย. 65) มีรายงานพบว่า

• มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สะสมสูงถึง 147,155 ราย
• มีผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล 989 ราย
• ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยถึงร้อยละ 6.1 หรือประมาณ 60 รายที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU
• มีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่ ถึง 54 ราย

 

 

| แล้วทำไม 'ไข้หวัดใหญ่ 2022' ถึงได้อันตรายเพิ่มอีกเท่าตัวกันนะ ?

 

สำหรับประเทศไทยที่เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายการป้องกันโควิด-19 หลังจากที่ระบาดมาได้ 2 ปีกว่า อีกทั้งยังมีการยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยเป็นบางส่วน รวมถึงมีการเปิดประเทศอย่างเสรี อาจทำให้ โรคไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  เนื่องจากช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนส่วนใหญ่ มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยเป็นกิจวัตร ซึ่งถือว่าเป็นเกราะป้องกันเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี ⚠️ แต่ในทางกลับกัน ก็ขาดโอกาสในการรับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ด้วย

 

เพราะการที่ร่างกายห่างหายจากภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โรคทวีความรุนแรงมากกว่าปกติ รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนจากภาวะโลกร้อน และหลายประเทศที่ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้อากาศมีความชื้น และทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ง่ายและมีอายุยาวนานขึ้น 

 

 

 

| สำรวจกันหน่อย ใครที่ควรฉีด 'วัคซีนไข้หวัดใหญ่' บ้าง ?

 

ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ หรือ CDC  ได้รวบรวมผลการศึกษาจากหลายแห่ง ซึ่งผลการศึกษาในปี 2018 แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีน จะมีโอกาสรับการรักษาใน ICU น้อยกว่า ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนถึง 59% ขณะที่ผลการศึกษาปี 2021 พบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ลดลง 31% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

 

อีกทั้งโรคไข้หวัดใหญ่อาจตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อาทิ ภาวะแทรกซ้อนทางปอด และสมอง โดยผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่มักเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กอายุไม่เกิน 3 ปี ผู้สูงวัยอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคทางสมอง โรคมะเร็ง โรคเอดส์ รวมถึงโรคอ้วนด้วย

 

🚨  ดังนั้นคนที่ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากที่สุด  ก็ได้แก่ เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ถึงอายุไม่เกิน 3 ปี รวมไปถึงคนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อีกทั้งยังควรฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี สำหรับประเทศไทยวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีให้เลือก 2 ชนิดด้วยกันคือ

 

• วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ ซึ่งบรรจุเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ 2 สายพันธุ์ และชนิดบี 1 สายพันธุ์
• วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งบรรจุเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ และชนิดบีอย่างละ 2 สายพันธุ์ วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ มากกว่าวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์เล็กน้อย เพียงแต่มีราคาสูงกว่าเท่านั้น

 

 

| แล้วเราสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ พร้อมกับวัคซีนโควิด-19 เลยได้ไหม ?

 

วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดพร้อมวัคซีนโควิด-19 ได้  ⚠️ แต่ ต้องฉีดที่แขนคนละข้าง  ซึ่งข้อดีของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในช่วงโควิด-19 นอกจากจะเป็นการป้องกันตัวเองจากโรคนี้ได้แล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

 

• ลดความรุนแรงจากการป่วยและการเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่
• ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลของผู้ป่วยทั้ง 2 โรค
• ลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อทั้ง 2 โรค เพราะผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 ร่วมกัน มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคร่วมกันถึง 5.92 เท่า

 

---

 

 

เปิดสิทธิ 'ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่' ฟรี ! ไม่เสียสตางค์

 

ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกในประเทศไทย มีบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลปี 2565 หรือเรียกว่า "วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ซีกโลกใต้ 2022"  ทั้งชนิด 3 สายพันธุ์ และชนิด 4 สายพันธุ์ (ซึ่งจะครอบคลุมเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้กว้างกว่าชนิด 3 สายพันธุ์) ใครที่สนใจสามารถรับบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์  ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 65 นี้ โดยผู้ที่มีสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ได้แก่

 

👉🏼 บทความที่เกี่ยวข้อง

• ไกลตัว แต่ใช่ว่าจะไม่ติด ! รู้จัก " ฝีดาษลิง " โรคระบาดใหม่ ต่อให้ไม่ใกล้ชิดลิงก็เสี่ยงติดได้ ! คลิก
• งานเข้าอีกหนึ่ง ! รู้จักสายพันธุ์โควิดล่าสุด Deltacron เปิดตัวที ทำเอาสะเทือนไปทั้งโลก ! คลิก
• รับมือ 'ลองโควิด' พร้อมวิธีป้องกันให้อยู่รอดปลอดภัยทุกซีซั่น คลิก

 

อ้างอิง: IFT, bumrungrad, bangkokbiznews, kapook