MR DIY ร้านที่เข้าแล้วออกไม่ได้ กะมาซื้อแค่ 1 แต่ได้กลับไปเป็น 10
โดย : imnat
พูดถึงอาณาจักรสินค้าราคาถูก สาขาเยอะ ไปห้างไหนก็เจอ แถมของก็มีให้เลือกหลากหลาย หนึ่งในนั้นคงต้องให้ MR DIY ร้านโชห่วยขึ้นห้างในดวงใจ แต่หารู้ไม่...จริง ๆ แล้วเค้าไม่ใช่ของไทยนะ !
MR DIY ร้านสินค้าครอบจักรวาล
MR DIY คือร้านขายสินค้าแนวเบ็ดเตล็ด ที่ได้ไอเดียมาจากการอยากแก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่ต้องการจะซ่อมแซมบ้าน แต่เสียเวลาไปกับการหาซื้ออุปกรณ์ที่ร้านโน้นที ร้านนี้ที กว่าจะได้ของครบก็หมดเวลาเป็นวัน ๆ 😩 นั่นเลยกลายเป็นที่มาของ MR DIY ร้านที่รวมทุกอย่างเกี่ยวกับงานซ่อมมาไว้ในที่เดียว ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ของซ่อมแซมบ้านด้วย เพราะตอนนี้มีทั้งเครื่องครัว, เครื่องเขียน, ของเล่น, สินค้าประเภทกีฬา และอื่น ๆ อีกเพียบ เรียกว่าอยากได้อะไรที่นี่มีให้หมด แถมราคายังเป็นมิตรอีกต่างหาก !
ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากไทย แต่เป็น...?
ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้ใครเคยเข้าใจว่า MR DIY เป็นของไทย (ก็แหม…สาขาเค้าออกจะเยอะทั่วประเทศขนาดนั้น) แต่จริง ๆ แล้ว MR DIY เค้าเป็นแบรนด์จากประเทศมาเลเซียนะ!
MR DIY ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดย 2 พี่น้อง Tan Yu Yeh และ Tan Yu Wei ชาวมาเลเซีย ซึ่งเริ่มแรกยังไม่ได้เป็นอาณาจักรสินค้าเบ็ดเตล็ดอะไร เป็นแค่ห้องเล็ก ๆ ในตึกแถว ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับงานซ่อมและของแต่งบ้าน แต่พอเปิดตัวมาได้ 3 ปี สองพี่น้อง Tan Yu ก็เกิดความคิดอยากจะลองมาเปิดสาขาในห้างดู ซึ่งจุดพลิกผันของแบรนด์อยู่ตรงนี้นี่แหละ เพราะใครจะไปรู้ว่า...หลังจากที่เปิดตัวสาขาแรกบนห้างไปในปี 2009 MR DIY ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีแบบสุด ๆ 🤩 เลยทำให้นับตั้งแต่นั้นมา...MR DIY ก็ได้หันมาโฟกัสกับการเปิดร้านขายในห้าง แทนที่จะตั้งร้านแบบ Stand Alone เหมือนอย่างเคย
จากร้านเล็ก ๆ ในห้องแถว สู่อาณาจักรสินค้าเบ็ดเตล็ดในดวงใจ
จุดเด่นที่ทำให้ MR DIY ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ นอกจากการเปิดสาขาในห้างแล้ว สิ่งที่ทำให้ MR DIY แตกต่างจากร้านขายสินค้าราคาถูกเจ้าอื่น ๆ ก็คือ...ความหลากหลายของสินค้า แม้ว่าวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งแบรนด์ในตอนแรก ทางแบรนด์จะเน้นไปที่อุปกรณ์เกี่ยวกับการซ่อม และพวกของแต่งบ้าน แต่หลังจากที่ MR DIY จับทางได้ ก็ได้จัดหาสินค้าในหมวดอื่น ๆ มาวางขายในร้านของตัวเองเพิ่มเติมด้วย
โดยความหลากหลายของสินค้าที่วางขายในร้าน MR DIY เราสามารถใช้ตัวเลขในหลัก 'หมื่นรายการ' มาเป็นจุดขายกันได้เลย เพราะนั่นคือเรื่องจริง ! 😱 และสิ่งที่จะมารองรับความหลากหลายของสินค้าในลำดับต่อไป คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก...พื้นที่ของตัวร้าน ที่ทางเราเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยทึ่งกับความกว้างขวางของร้านกันมาแล้ว ซึ่ง MR DIY เค้าได้จัดสรรพื้นที่สำหรับรองรับสินค้าในจำนวนหลาย SKU ได้แบบลงตัว (อย่างต่ำคือ 10,000 ตารางฟุต) ทำให้เวลาที่เราเดินไปทางไหนก็จะเจอกับบรรดาข้าวของที่รายล้อม นั่นเลยเป็นจุดเด่นที่ทำให้ MR DIY แตกต่างจากร้านอื่น แถมยังขยายสาขาออกไปได้เร็วมาก…อย่างในไทยเรา ถ้านับดูคร่าว ๆ ตอนนี้ ก็ปาไป 738 สาขา ครอบคลุม 72 จังหวัด โดยใช้เวลาเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น !
เข้าแล้วต้องมีของติดมือ...แถมไม่เคยได้กลับมาแค่ชิ้นเดียว !
เราอาจจะคุ้นเคยกับรูปแบบของธุรกิจขายสินค้าราคาถูกกันมาแล้วหลายร้าน บางร้านอาจจะใช้กลเม็ดอย่างการปรับเปลี่ยนหน้าตาของสินค้าให้ดูทันสมัย หรือจะวางขายสินค้าในราคาเดียวเพื่อให้ดึงดูดความสนใจ แต่ทว่านั่นแทบจะไม่ใช่สิ่งที่ทาง MR DIY โฟกัสสักเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่ทาง MR DIY ให้ความสำคัญมากกว่าก็คือ…ต้องมีสินค้าประเภท 'อะไรก็ได้' เอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปมองว่าสินค้าชิ้นนั้น วางขายแล้วจะมีคนซื้อไหม เพราะเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องการ...MR DIY จะต้องมีรองรับพวกเขาได้!
นั่นเลยเป็นเหตุที่ทำให้ ทุกครั้งเวลาที่เราเดินเข้าไปในร้าน MR DIY แทบจะไม่ต่างอะไรจากการโดนกับดัก นอกจากจะเป็นกับดักของสินค้าราคาถูกแล้ว ของบางอย่างต่อให้ ณ จุดนั้นเราจะยังไม่ต้องการ แต่ทว่ามันกลับติดมือออกมาด้วยเฉย 😅 ไหน ใครเคยเป็นเหมือนกัน...สารภาพออกมาซะดี ๆ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่
- ทำความรู้จัก Nitori ร้านเฟอร์ตัวท็อปจากญี่ปุ่น แลนดิ้งที่ไทยแล้ว !
- เผยกลไกธุรกิจของร้าน 60 บาท ขายของถูกอย่างไร ไม่ให้ขาดทุน
- เปิดพิกัดช็อป Nike ในไทย ตอนนี้มีที่ไหนบ้าง ?
อ้างอิงข้อมูล : https://ppro.onl/mrxy2kex, https://ppro.onl/2p9ed7ed, https://ppro.onl/2p9h329t, https://ppro.onl/2p9c8t59 และ https://ppro.onl/2p8jhdkk
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ