มี POP MART ต้องมี MOLLY โมเดลเด็กสาวปากจือ ที่กรุยทางสร้างชื่อให้ป๊อปมาร์ท

 

เด็กสาวหน้าหวาน ผมบลอนด์ ดวงตากลมโตสีเขียวน้ำทะเล ริมฝีปากบึ้ง ๆ จือ ๆ ดูเบื่อโลกนี้ คือจุดขายชั้นดีที่นักสะสมหลายคนต้องนึกถึง เมื่อพูดถึง MOLLY (มอลลี่) โมเดลอาร์ตทอยอันขึ้นชื่อของ POP MART  ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนางฟ้าตัวน้อยในชีวิตจริง ที่ชุบชีวิตและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชายถึง 2 คน !

 

---

 

จากเด็กสาวที่ถูกชะตาในงานการกุศล สู่แรงบันดาลใจอันทรงพลังของ Kenny Wong

 

จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบ ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม  ระหว่าง MOLLY และ Kenny Wong (เคนนี่ หว่อง) ได้เริ่มต้นขึ้นที่งานการกุศลหาเงินทุนให้กับกองทุนเด็กนานาชาติ โดยเคนนี่ ศิลปินและนักออกแบบชาวฮ่องกงถูกว่าจ้างให้ไปวาดภาพภายในงาน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเด็ก ๆ ชาวต่างชาติที่พากันกรูเข้ามานั่งเป็นแบบให้กับเขา และท่ามกลางเด็ก ๆ เหล่านั้น มีเด็กอยู่คนหนึ่งที่เคนนี่ละสายตาจากเธอไปไม่ได้

 

ดวงตาสีเขียวใสราวกับแก้วที่สะท้อนภาพของทะเลสาบ ผมหยิกสั้นเป็นลอนสีบลอนด์สว่าง  มือน้อย ๆ ทั้งสองข้างกำลังถือจานสีและกำแปรงแน่นเยี่ยงศิลปิน ใบหน้าบูดบึ้ง ปากจือ ไม่ยอมพูดไม่ยอมจากับใคร องค์ประกอบหลายอย่างของเด็กสาวคนนี้เกิดสะดุดตาเขาขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็น จนทำให้เขาเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ เลยตัดสินใจถามชื่อนางฟ้าตัวน้อยคนนี้ทันที  ชื่อของหนูคืออะไร  ทันทีที่เขาถาม เธอตอบสั้น ๆ เพียงแค่ว่า  มอลลี่   พร้อมกับนั่งนิ่ง ๆ เป็นแบบให้เขาวาดภาพต่อไป ซึ่งใครจะไปรู้ว่าเพียงชั่ววินาทีที่เขาได้สบกับดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่นั้น มันจะก่อให้เกิดเป็นความประทับใจที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงานในอนาคตของเขาขึ้นมา

 

 

ภาพจาก kennyswork

 

 

Molly The Painter  คือผลงานโมเดลชิ้นแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาในปี 2006 โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก มอลลี่ เด็กสาวปากจือนัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลที่เคนนี่ได้ไปเจอมาที่งานการกุศลก่อนหน้านี้ โดย MOLLY ตามคาแรกเตอร์ ถูกวางตัวให้เป็นเด็กที่มีนิสัยดื้อรั้น มุมานะ ทะนงตน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มีความสนุกสนาน ร่าเริง และเฉลียวฉลาดไปพร้อมกัน  ซึ่ง MOLLY ไม่ได้มีอิทธิพลต่อเคนนี่ เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เธอยังมีอิทธิพลกับชายที่ชื่อ หวัง หนิง ด้วย

 

 

---

 

 

MOLLY นางฟ้าตัวน้อยที่ช่วยต่อลมหายใจให้ POP MART

 

ก่อนจะได้รับการถูกขนานนามว่า Master of Mystery  หวังหนิง (Wang Ning) หรือผู้ก่อตั้งบริษัท POP MART เคยล้มลุกคลุกคลานจากความล้มเหลวของตัวเองมาก่อน จนได้มาเจอ MOLLY คาแรกเตอร์การ์ตูนเด็กผู้หญิงปากจือ ที่เป็นเสมือนนางฟ้าตัวน้อยที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกิจการที่กำลังจะย่ำแย่ ณ ตอนนั้น จนได้กลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของเล่นรายใหญ่ที่สุดในจีนตอนนี้

 

แต่ก่อนที่โชคชะตาจะเข้าข้าง เส้นทางของหวังหนิงคนนี้ไม่เคยมีคำว่าง่าย เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ถ้าให้ย้อนกลับไป มันถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่และก็ท้าทายมากจริง ๆ

 

สำหรับจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็น POP MART แรกเริ่มเดิมทีมันเคยเป็นร้านขายสินค้าประเภท Pop Culture หรือสินค้าที่อยู่ในกระแสมาก่อน โดยหวังหนิงไปได้ไอเดียนี้มาจากร้าน LOG-ON หรือร้านขายสินค้ามีให้เลือกตั้งแต่เครื่องสำอาง เครื่องเขียน ของเล่น ของใช้ มีทุกอย่างให้ซื้อได้ในร้านเดียว  โดยเขามองว่าที่จีน หรือบ้านเกิดของเขา ณ ตอนนั้น ยังไม่เคยมีร้านขายสินค้าประเภทนี้ตั้งอยู่เลย

 

ด้วยความที่ตัวเลือกของสินค้าในกระแสตอนนั้นมีให้เลือกเยอะมาก และอาจจะเป็นเพราะความเยอะมากของมัน ที่ทำให้หวังหนิงไม่สามารถบริหารจัดการกับมันได้ จนทำให้สถานการณ์ของร้านเริ่มส่งกลิ่นไปไม่รอดขึ้นมาแล้ว แต่หวังหนิงยังคงมีความคิดอยากจะเดินหน้าสู้กับมันอีกสักครั้ง เพราะจากสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาได้รู้แล้วว่าสินค้าประเภทไหนสามารถทำยอดขายได้มากที่สุด ซึ่งเราแทบจะไม่ต้องเดาว่ามันคืออะไร  ใช่ มันคือสินค้าประเภทของเล่นนั่นเอง

 

 

 

 

แต่การจะเอาดีด้วยการหันมาเปิดร้านขายของเล่นแบบจริงจัง แน่นอนว่ามันจะต้องผ่านการคิดให้เยอะขึ้นกว่าเดิม และระหว่างการหาไอเดียในขายสินค้าให้น่าสนใจอยู่นั้น หวังหนิงดันไปถูกชะตากับ ตู้กดกาชาปอง ของญี่ปุ่น ที่มีวิธีการเล่นเป็นเอกลักษณ์ แถมยังสร้างความตื่นเต้นให้กับคนเล่นได้มากกว่าที่คิด จากภาพของตู้กดกาชาปองเลยแปรเปลี่ยนมาเป็นภาพของคอลเล็กชันสินค้า ที่ถูกทำออกมาในแพ็กเกจกล่องแบบง่าย ๆ ก่อนจะวางขายโดยใช้วิธีการ Blind Box หรือกล่องสุ่ม ให้คนที่ซื้อไปมีโอกาสได้ลุ้นของเล่นด้วยตัวเอง

 

หลังจากเคาะไอเดียในการขายของเล่นแบบกล่องสุ่มกันได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการมองหาศิลปินที่จะมาร่วมออกแบบสินค้าคอลเล็กชันแรกนี้ด้วยกัน จนได้มาเจอ เคนนี่ หว่อง  ศิลปินชาวฮ่องกง ที่ตอนนั้นมีฐานแฟนคลับของตัวเองอยู่แล้วประมาณหนึ่ง หลังจากพูดคุยกัน หวังหนิงก็รู้สึกถูกชะตากับเคนนี่ รวมไปถึง MOLLY โมเดลเด็กสาวปากจือตัวนี้เป็นอย่างมาก จนหวังหนิงตัดสินใจเอ่ยปากกับเคนนี่ขึ้นมาประโยคหนึ่ง โดยประโยคนั้นมีใจความสำคัญว่า

 

" เรามาสานต่อสิ่งที่คุณทำ บนเวทีที่ใหญ่กว่านั้นกันดีกว่า "

 

การตัดสินใจครั้งสำคัญในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจที่แทบจะไม่ต่างอะไรกับการถูกผลักให้ออกไปยืนอยู่บนปากเหว  เพราะถ้านับความสำเร็จจากไอเดียต่าง ๆ ที่ตัวของหวังหนิงได้ลงทุนลงแรงมา เรียกได้ว่าแทบจะชี้วัดตัดสินชะตากันได้เลย และแม้จะมีความกังวลใจอยู่มาก แต่ความรู้สึกลึก ๆ ในใจ คงไม่ต่างอะไรกับเนื้อเพลงของ Big Ass ที่ร้องว่า รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง  และดูเหมือนว่าการตัดสินใจที่จะเสี่ยงในครั้งนี้  ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาดแต่ประการใด เพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดตัวคอลเล็กชัน 12 Zodiac ไป MOLLY สามารถชุบชีวิตต่อลมหายใจทำกำไรให้กับร้าน POP MART ได้สูงถึง 22 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 777 ล้านบาท ในปีนั้นแค่ปีเดียว !

 

 

MOLLY คอลเล็กชัน 12 ราศีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016

 

---

 

มี MOLLY ต้องมี POP MART

มี POP MART ต้องมี MOLLY

 

หลังจาก MOLLY ถูกเปิดตัวในฐานะโมเดลตัวแรกของ POP MART นับแต่นั้นเป็นต้นมา กระแสความนิยมของ MOLLY ก็ไม่เคยแผ่วลงเลย โดย MOLLY ยังคงเป็นโมเดลที่สามารถทำยอดขายให้กับ POP MART ได้มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซึ่งปีที่ MOLLY สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดก็ได้แก่ปี 2021 ที่ทำยอดขายได้สูงถึง 105 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 3,708 ล้านบาทไทย โดยเพิ่มขึ้นจากยอดขายในปีแรกเกือบ 5 เท่า ในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น !

 

นอกจากนี้ MOLLY ยังคงเป็นภาพจำเวลาที่คนนึกถึง POP MART และยังเป็นคาแรกเตอร์ที่เบิกทางให้ POP MART ดูน่าเชื่อถือ และน่าร่วมงานด้วยในสายตาของศิลปิน ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างหวังหนิงไม่มีทางปล่อยให้นางฟ้าผู้มีพระคุณของเขาหลุดลอยไป หวังหนิงเลยตัดสินใจ ยอมแบ่งหุ้นของบริษัทจำนวน 2%  หรือคิดเป็นเงินไทยในตอนนี้อยู่ที่ 1,766 ล้านบาทให้กับเคนนี่ เพื่อแลกกับการที่ให้เขายอมออกแบบคอลเล็กชันน้อง MOLLY ให้กับทาง POP MART ต่อไปเรื่อย ๆ

 

หลังจากที่เปิดตัวโมเดลคาแรกเตอร์ MOLLY ไป ทาง POP MART ก็ได้ปล่อยโมเดลคาแรกเตอร์ตัวอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น Dimoo, Skullpanda, Pucky, CRYBABY จนทำให้ปัจจุบันนี้ POP MART กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของเล่นรายใหญ่ที่สุดในจีน ที่สำคัญคือไร้คู่แข่งไปโดยปริยาย

 

 

MOLLY Steampunk Animal Bike (ตัว Secret) ถูกนำไปวางขายในเว็บ Carousell ในราคาสูงถึง 1,806,127 บาทไทย

 

 

นอกจากน้อง MOLLY จะมีอิทธิพลต่อเคนนี่ หว่อง และบริษัท POP MART แล้ว โมเดลน้อง MOLLY ยังมีอิทธิพลในตลาดของคนที่เล่น Art Toys ด้วยเช่นกัน ขนาดเปิดตัวมาแค่เพียงปีเดียว แต่โมเดลน้อง MOLLY สามารถทำยอดขายในแคมเปญ Singles' Day หรือ 11.11 บน Tmall ได้สูงถึง 55,000 กล่อง ในเวลาขายเพียงแค่ 9 วินาที ในส่วนของยอดขายรวม วันเดียว ช่องทางเดียว  สามารถคิดเป็นจำนวนได้มากถึง 2 ล้านกล่อง เฉือนชนะคู่แข่งอย่าง Disney, LEGO และ Bandai ไปได้แบบขาดลอย

 

แค่นั้นยังไม่พอ สถิติจาก Xianyu หรือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของมือสองในเครือ Alibaba ได้มีข้อมูลระบุไว้ว่า MOLLY เป็นโมเดลที่ถูกนำมาแลกเปลี่ยนภายในเว็บสูงถึง 230,000 ครั้ง จากจำนวนการแลกเปลี่ยนทั้งหมด 300,000 ครั้ง แถมราคาตัว Secret ของ MOLLY คอลเล็กชัน Steampunk Animal Bike ได้ถูกนำไปวางขายในเว็บไซต์ Carousell ของสิงคโปร์ โดยมีการตั้งราคาขายไว้สูงถึง 1,806,127 บาทไทยเลยทีเดียว !

 

เราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า MOLLY คือความแข็งแกร่งแบบโนหนึ่ง ที่โมเดลตัวอื่น ๆ ของ POP MART ไม่เคยทำได้มาก่อน ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกันแล้ว MOLLY ถือว่าเป็นโมเดลที่มีหน้าตาดูธรรมดามากที่สุด แต่ในความธรรมดามากที่สุดกลับอยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่สร้างชื่อให้ POP MART ทุกวันนี้ ทั้งยังเป็นโมเดลขวัญใจที่นักสะสมทั้งหลายหลงรัก และอาจเป็นเพราะความธรรมดานี้ด้วยแหละมั้ง ที่ทำให้ทุกครั้งที่เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ หรือมีการจับไปคอลแลปส์กับอะไร โมเดลน้อง MOLLY มักจะอยู่ในความสนใจ จนเกิดเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เกิดการซื้อขายที่ทรงพลังได้จริง ๆ 

 

 

"แทนที่จะพูดว่าฉันสร้างมอลลี่

มันคงจะดีกว่าถ้าจะบอกว่า โลกทำให้ฉันค้นพบมอลลี่ที่น่ารักคนนี้"

 

- Kenny Wong -

 

---

 

💭  สำหรับแฟน ๆ POP MART ชาวไทย เตรียมเฮกันได้เลย   เพราะวันที่ 20 กันยายน 2566 ทาง POP MART เตรียมเปิดสาขาแรกในไทยอย่างเป็นทางการกันแล้ว โดยพิกัดตั้งอยู่ที่ centralwOrld นะ งานนี้เห็นทีมิตรรักนักสุ่มทั้งหลาย เตรียมกระจายรายได้ให้น้อง MOLLY กับผองเพื่อนกันแล้ว !

 

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

• ตุ๊กตาบาร์บี้ Weird Barbie เวอร์ชันสุดแปลกจากภาพยนตร์ Barbie The Movie
• Crybaby นิทรรศการศิลปะที่หลงใหลในคราบน้ำตาและการร้องไห้
• ฝันสลาย ! 5 เรื่องราวสุดดาร์กของการ์ตูนวัยใส ที่ทลายทุกความทรงจำในวัยเด็ก 

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : kennyswork, pop mart, forbes, chinadaily, pandaily และ marketingtochina