ปันโปรป้ายยา "มาสคาร่าตัวดังใน TikTok" สาวๆ ที่อยากมีขนตาจึ้งๆ ต้องห้ามพลาด !
โดย : imnat
รู้แหละว่าช่วงที่เราต้องสวมหน้ากากอนามัยกันแบบนี้ หน้าไม่ต้องแต่งยังไงก็ไม่โป๊ะ แต่สาวๆ ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่ทำอย่างงั้น (เราเองก็เช่นกัน 😂 ) เฮ้ย ก็คือแบบ... ออกจากบ้านไปเจอคนนู้นที คนนี้ที ถ้าสมมุติว่าเราถูกบังคับให้เปิดหน้าขึ้นมาล่ะแม่ ไม่รู้คนอื่นจะเซฟเราไหม แต่งานนี้ก็ขอเซฟตัวเองก่อนนิดนึง
ซึ่งเมคอัพลุคของสาวๆ ส่วนใหญ่ในช่วงที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยแบบนี้ มักจะเน้นไปที่งานผิว คือไม่ต้องเป๊ะมาก อาศัยการปกปิดรอยนู้นนิด นี่หน่อย หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอาให้มันพอดูได้ จะให้มาโล้นกันเลย เกรงว่าจะไม่เหมาะ โดยเฉพาะช่วงบนของใบหน้า ไล่ตั้งแต่ช่วงจมูกขึ้นไปยังหน้าผาก อันนี้จะโป๊ะไม่ได้เด็ดขาด เพราะต่อให้สวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัย ยังไงก็เห็น ! และถึงแม้ว่าเราจะงัดเมคอัพลุคทั้งหน้าออกมาโชว์กันไม่ได้ แต่งานตา งานคิ้วก็ยังต้องเป๊ะปังกันอยู่นะแม่~ 😍
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทางเราจะมาขอป้ายยาไอเทมสุดฮิตในโลก TikTok ให้สาวๆ ได้ไปโชว์ความจึ้งของขนตาตัวเองกัน เห็นแว่บแรกทางเราก็คืออึ้ง ไม่รู้ว่ายังมีใครจำอิทธิฤทธิ์ของเจ้ามาสคาร่าเขียวในตำนานกันได้อยู่ไหม จะบอกว่าไอเทมนี้ ตีคู่สูสี และที่สำคัญยังเป็นไอเทมจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อกันเรื่องของงานขนตาด้วย !
ยืนหนึ่งเรื่องงานขนตา ฟาดได้ฟาด
ก็ต้องให้ Maybelline เค้าสิคะ 👀
เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์มาสคาร่า สาวๆ ส่วนใหญ่น่าจะนึกถึงแบรนด์ Drugstore สัญชาติอเมริกาอย่าง Maybelline แล้วทุกคนรู้กันไหมว่า Maybelline นี่แหละ เป็นแบรนด์ผู้ผลิตมาสคาร่า เจ้าแรกของอเมริกาด้วยนะ ! และที่สำคัญต้องบอกเลยว่า ที่มาที่ไปของมาสคาร่าจากเมเบอลีนนี้ มีที่มาจากการเป็น ไอเทมสื่อรัก ด้วยนะจ๊ะ 💕
ไม่รู้ว่าสาวๆ รู้จักเทคนิคการปัดคิ้วด้วยการใช้พวกเจลใส หรือพวกแวกซ์ในการปัดคิ้วกันไหม ซึ่งเราจะบอกว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่สาวๆ เค้าใช้กันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1915 แล้ว (เผลอๆ อาจจะก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ) โดย Product ที่ใช้ในการปัดคิ้วและตกแต่งขนตาในยุคนั้นก็ได้แก่ ปิโตรเลียมเจลลี่ ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงพวกวาสลีนกระปุกเหลืองในตำนาน นั่นแหละ มันจะอารมณ์ประมาณนั้นเลย
ซึ่งจุดเริ่มต้นของ Maybelline นี้ มาจากพี่สาวของ Thomas William ที่มีชื่อว่า Maybel (เมเบล) ซึ่งเมเบลในตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการจะพิชิตใจชายหนุ่มคนนึงที่เธอชอบมากๆ แต่ดูเหมือนว่าเค้ากำลังจะปันใจไปให้ผู้หญิงคนอื่น ! (ฟังดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ใช่จ่ะ... มันคือเรื่องจริง 😅 ) โดยโทมัสมักจะสังเกตพี่สาวของเค้าอยู่บ่อยๆ ว่าเธอมักจะชอบใช้ไอเทมนึงในการปัดขนตาและขนคิ้วของเธอให้ตั้งขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือ ปิโตรเลียมเจลลี่
ด้วยความที่เค้าเป็นนักเคมี ทำให้นึกไอเดียบางอย่างออก ในการช่วยเพิ่ม "ความมีอะไร" ให้ขนตาของพี่สาวดูแตกต่างออกไปจากเดิม เค้าได้ลองนำเอาผงคาร์บอนไปผสมกับปิโตรเลียมเจลลี่นั้นดู ปรากฏว่า เมื่อพี่สาวของเค้าลองใช้มันปัดขนตาและขนคิ้วแล้ว ขนตาและขนคิ้วของเธอดูเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คำถามต่อไปคือ แล้วพี่สาวของเค้าได้ผู้ไหมนะ คำตอบสั้นๆ "จะเหลือเรอะ ! 😉 "
หลังจากที่พี่สาวได้ลงเอยกับชายหนุ่มที่เธอหมายปอง
โทมัสเลยตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือสาวๆ คนอื่นๆ
ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Maybelline ที่ได้ไอเดียมาจากชื่อของพี่สาว + ผลิตภัณฑ์ที่เธอใช้
ในการส่งมอบความปังนี้ ให้เป็นเหมือนตัวช่วยในการเพิ่มความ "มีอะไร" ให้กับสาวๆ คนอื่นๆ กันบ้าง
หน้าตาของ Cake Mascara
ขอบคุณภาพจาก : firstversions.com
| Cake Mascara สินค้าตัวแรกของ Maybelline และ "มาสคาร่าตัวแรกของอเมริกา" ✈️
แบรนด์ Maybelline ถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากนั้นแค่ไม่กี่ปี โดยช่วงแรกที่เปิดตัวมา โทมัส วิลเลียม เองก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับมันมากเท่าไหร่นัก (ทำมาขายเล่นๆ เหมือนเป็นการลองตลาด) แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าได้รับความนิยมขึ้นมาซะงั้น ทำให้จากเดิมที่ต้องสั่งซื้อและจัดส่งทางไปรษณีย์เท่านั้น กลายเป็นว่าเค้าจะต้องหาช่องทางในการวางขายสินค้าของตัวเองขึ้นมา
ที่สำคัญเมเบอลีนยังเป็นแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์แรกที่ใช้การโฆษณาบนวิทยุ และกลายเป็นว่าได้รับผลตอบรับที่ดีด้วยนะ ! โทมัสได้ลูกค้าจากการขายเจ้าตัว Cake Mascara มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1932 ที่เค้าได้เปิดตัวแบรนด์ และสินค้าชิ้นแรกอย่างเป็นทางการในอเมริกา โดยมาพร้อมกับแพ็กเกจผลิตภัณฑ์อย่างดี มีราคาขายอยู่ที่ 10-cent และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเมเบอลีน และ Product ตัวแรกและถือว่าเป็น Product ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงตอนนี้ อย่างเจ้าตัว มาสคาร่า นั่นเอง
Make It Happen ไม่ไหว !
ออกมากี่ไลน์ "แต่สินค้าที่ขายดีตลอดกาล ก็หนีไม่พ้น Mascara"
ส่วนตัวเราว่าการที่มาสคาร่าของเมเบอลีนบูมขึ้นมา หนึ่งก็คือเพราะราคาที่เบาสบายกระเป๋า สองคือคุณสมบัติของเค้า อย่างตัวกันน้ำก็กันไม่ไหว จนเราขอคิดสโลแกนให้เองเลยว่า "ตอนปัดสบาย ตอนเช็ดลำบาก" (สาวๆ หลายคนน่าจะเจอความรู้สึกนี้กันมาแล้ว 😅 ) และที่สำคัญคือตัว Product อย่างมาสคาร่าเค้าเนี่ย หยิบมาเล่นนู้น เล่นนี่ได้ตลอดเลยนะ คือไม่ได้มีเบสิกแค่รุ่นสองรุ่น แต่พี่แกเปิดตัวมาใหม่ทุกไตรมาส ! สลับสับเปลี่ยนกับไลน์อื่นๆ อย่างลิปสติกเอย รองพื้นเอย ฯลฯ แต่ยืนหนึ่งสุดก็ต้องยกให้มาสคาร่าเค้านี่แหละ เด็ดจริง !
ซึ่งล่าสุดเห็นทีจะเป็นเจ้าตัว Sky High Mascara เค้านี่แหละ ที่เป็นกระแสหนักมากใน TikTok ก่อนหน้านี้ ก็คือเอาง่ายๆ ว่า บตบก. ตปท. (ย่อในย่อไปอี๊กก แหะๆ) เค้าหวีดกันหนักมาก เพราะคุณสมบัติของน้องนางคือกระชากวิญญาณขนตาได้ดีสุดๆ ปัดรอบแรกยังได้ลุคธรรมชาติใสใส ปัดไปปัดมาเท่านั้นแหละ... ทุกคนลองจินตนาการภาพขาของแมงมุมกันดูนะ 🕷️ นั่นแหละ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นแบบนั้นเลยแม๊.....
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จากการปัดมาสคาร่าตัวนี้
ในไทยเราอาจจะเฉยๆ กับขนตาแบบนี้ (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนชอบนะ) ซึ่งเราจะบอกว่าขนตาแบบนี้เป็นขนตาในฝันของสาวๆ ทางฝั่งตะวันตกเค้ากันเลย คือมันจึ้ง มันพุ่ง มันแบบ... โอ้ย อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ! คือหลายคนเลือกที่จะต่อขนตาให้จึ้งๆ แบบนี้อ่ะ คิดดูว่าชอบกันแค่ไหน 😅
แต่ไม่ใช่ว่าข้อเสียของมันจะไม่มีเลยนะ เพราะข้อเสียหลักๆ ของมาสคาร่าเมเบอลีนในมุมของเรา อันดับแรกคือ จึ้งมากไปจนล้างออกยาก บางทีเช็ดไปเช็ดมา เอ้า ขนตาจริงคือหลุดออกมาพร้อมกันเลยแม๊.. แง แบบนี้บ่ได้นะ แต่บางทีสาเหตุที่ขนตาของเราหลุดอาจจะมาจากการเช็ดทำความสะอาดที่อาจจะแรงจนเกินไป หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการเช็ดที่ไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างง่ายๆ ปัดมาสคาร่าแบบกันน้ำ แต่ใช้คลีนซิ่งแบบปกติเช็ด แบบนี้จะเอาออกได้ยังไง~ ก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มันแมชท์กันด้วยสิแม่ !
แล้วเดี๋ยวนี้แบรนด์มาสคาร่าเค้าก็เก่งนะ คือถ้าใช้คลีนซิ่งแบรนด์อื่นก็เอามาสคาร่าแบรนด์ตัวเองไม่อยู่ มันต้องคลีนซิ่งแบรนด์ชั้นด้วยจ้า สรุปก็คือต้องใช้ทั้งมาสคาร่า + คลีนซิ่งแบรนด์เดียวกันมันไปเลย รับรองเอาอยู่ทุกสถานการณ์ 😆 และสำหรับใครที่อยากจะดูวิดีโอความจึ้งของมาสคาร่ารุ่นนี้เพิ่มเติม ก็ตามไปดูกันได้ที่นี่โล้ด บอกเลยว่าสะพรึงบ่ไหว ไอเลิ้บบบบ
| หัวแปรงนั้น สำคัญไฉน ?
ขอยกมือตอบทันทีเลยว่า สำคัญมากกกกกก เพราะขนตาของเราจะงัดขึ้นหรือไม่ขึ้น และจะออกมาในรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับหัวแปรงด้วย ดังนั้นเวลาที่จะตัดสินใจเลือกมาสคาร่ามาใช้สักอัน อย่าลืมดูตัวขนแปรงเค้าด้วยนะ ซึ่งเราขอสรุปจากประสบการณ์ของตัวเอง มาให้ทุกคนเข้าใจกันง่ายๆ ตามนี้
- ถ้าอยากได้ขนตาเรียงเส้น มีระเบียบ ไม่จับตัวเป็นก้อน : ให้เลือกมาสคาร่าที่มีขนแปรงคล้ายกับหวี อย่างเช่น Maybelline The Falsies Push Up Angel Mascara อันนี้เราให้เรื่องคะแนนเรื่องความมีระเบียบของขนตา ที่สำคัญรุ่นนี้เค้าสามารถงัดขนตาให้งอนเด้งตลอดทั้งวัน ไม่ตกด้วยนะเออ 😉
- ถ้าอยากเสกขนตาทิพย์ พร้อมกับให้ความงอน : ให้เลือกมาสคาร่าที่มีตัวขนแปรงงงๆ แบบนี้ 😅 คือจะบอกว่าเป็นขนแปรงที่เรียงเป็นระเบียบก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าเลือกเป็นพุ่มๆ แบบนี้ เสกขนตาทิพย์ชนิดที่คนปัดอย่างเรางงไปเลย อย่างรุ่นนี้จะเป็นรุ่น Maybelline The Falsies Lashlift Mascara ที่จะเพิ่มความงอนแบบเรียงเส้น เหมือนเวลาที่เราเห็นคนไปลิฟติ้งขนตา แต่ที่เพิ่มมาคือปริมาณความหนาแบบงงๆ เหมือนขนแปรง55555
- แต่ถ้าอยากได้ขนตาเรียงเส้น ควบคู่ไปกับความยาว : หรือที่เรียกกันว่าขาแมงมุม ยิ่งปัดยิ่งยาว (แต่ถ้าใครอยากได้ลุคธรรมชาติๆ แนะนำให้ปัดรอบเดียวพอนะ) ก็ต้องให้ตัวนี้เค้าเลยจ้า Maybelline Sky High Mascara เสกได้แน่นอน ข้อเสียคือยังไม่นำเข้ามาขายในไทย แต่เราว่ามีโอกาสมานะ เพราะในต่างประเทศกระแสดีมากกก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีร้านนำเข้ามาขายนะ เราเห็นหลายร้านอยู่เหมือนกัน ยังไงก็ลองเลือกกันอีกที อาศัยอ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อไปก็ได้ จะได้เห็นภาพชัดกันไปเลย
สำหรับใครที่เป็นสายงานขนตา อย่าได้พลาดมาสคาร่าตัวนี้จาก Maybelline เด็ดขาด หลายเสียงการันตีว่าขนตาจึ้งหนักมาก ถ้ามีโอกาสอย่าลืมหามาลองกัน สำหรับราคาที่เราเห็นขายอยู่ในไทยตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 300 ปลายๆ - 400 ต้นๆ (อ้างอิงจากร้านที่เค้านำเข้ามาเองนะ เพราะในไทยยังไม่มีวางขาย)
ส่วนใครที่อยากจะลองไปส่องดูมาสคาร่าที่วางขายอยู่ในไทยเป็นที่เรียบร้อยของเมเบอลีน ก็สามารถตามไปช็อปกันได้ที่นี่ > คลิก (ตอนนี้มีแคมเปญ Shopee Super BrandDay อยู่ด้วยนะ อย่าลืมไปเก็บส่วนลดกันด้วย) เพราะเรื่องมาสคาร่าถูกและดีต้องยกให้พี่เค้า และที่สำคัญอย่าลืมเลือกคลีนซิ่งมาใช้คู่กันให้เหมาะด้วยนะเออ ลงทุนเรื่องขนตาสวยๆ กันไปแล้ว อย่าลืมลงทุนเรื่องของการดูแลขนตากันด้วยเน้อ 😉
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : Maybelline, cosmopolitan และ womenshealthmag
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)