เงินหายจากบัญชี แบบไม่รู้ตัว ต้องทำยังไง ? พร้อมรวมเบอร์ติดต่อธนาคารเพื่อขอเงินคืน !
โดย : waranggg
เรื่องใหม่ล่ามาแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่หลายๆ คนเงินหายออกจากบัญชีแบบไม่รู้ตัว บางคนก็เสียหายไปหลายบาท และบางคนก็ทยอยโดนทีละนิดในจำนวนที่เท่าๆ กันหลายครั้ง แต่เมื่อรวมแล้วก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากอยู่ดี และไม่ใช่เพียงแค่กับผู้ที่ใช้งานบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเท่านั้น แต่สำหรับบัญชีที่ไม่มีการทำบัตรเอทีเอ็ม หรือทำบัตรใดๆ ก็โดนดูดเงินไปด้วยเช่นกัน
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 64 ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ก็ได้แถลงข่าวความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้วว่า เรื่องเงินที่หายออกไปจากบัญชีนั้น เบื้องต้นไม่ใช่การรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้า และบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาเงินหายจากบัญชีโดยที่ไม่รู้ตัว อาจจะเป็นกังวลว่าแล้วจะได้เงินคืนหรือไม่ ก็ขอให้สบายใจได้เลยว่า จะได้รับเงินคืนอย่างแน่นอน โดยกรณีบัตรเดบิตจะได้รับการคืนเงินภายใน 5 วันทำการ ส่วนกรณีบัตรเครดิต ธนาคารจะยกเลิกรายการดังกล่าว และเราไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติ และจะไม่มีการคิดดอกเบี้ยด้วย
นอกจากนี้ปันโปรยังได้รวมวิธีปฏิบัติ เมื่อพบว่าเงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว หรือพบว่ามีรายการใช้จ่ายผ่านบัตรที่น่าสงสัย รวมไปถึงวิธีป้องกันเงินในบัญชีสูญหายเบื้องต้นมาฝากด้วย ตามนี้เลย
สิ่งที่ควรทำ เมื่อพบว่าเงินหายจากบัญชี หรือมีรายการใช้จ่ายที่ผิดปกติ
- รีบโทรแจ้งอายัดบัตรกับธนาคารเจ้าของบัตรทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แฮคเกอร์นำเลขหน้าบัตร หรือหมายเลข CVV หลังบัตรไปใช้จ่ายได้อีก
- แจ้งคอลเซนเตอร์ให้ปฏิเสธธุรกรรม หรือรายการใช้จ่ายที่มาจากต่างประเทศทั้งหมดในช่วงนี้ไปก่อน
- ตรววจสอบรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต และใบแจ้งหนี้ของบัตรเครดิตทั้งหมด อาจจะขอสเตทเมนท์มาดูเพิ่มเติม โดยสามารถขอผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารนั้นๆ ได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่ธนาคาร พร้อมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
- ควรตั้งจำกัดวงเงินการใช้จ่ายของบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตไว้ หรือสำหรับบัตรเครดิตของบางธนาคารสามารถล็อกบัตรชั่วคราวได้ ในช่วงนี้เราแนะนำให้ล็อกบัตรไปก่อนได้เลย เพื่อความชัวร์และเป็นการป้องกันไม่ให้เงินในบัญชีสูญหายเพิ่มเติม
- สำหรับบัญชีธนาคารที่ไม่มีบัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งเป็นบัญชีที่หลายๆ คนใช้เป็นบัญชีเงินเก็บ แนะนำให้ปิดวงเงินการถอนไปก่อน และเปิดแจ้งเตือนไว้เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของบัญชีทั้งหมด
รวมช่องทางการติดต่อธนาคาร เมื่อเกิดกรณีเงินหายออกจากบัญชี
ในกรณีที่บางคนเงินหายออกจากบัญชีไปแล้ว หรือพบว่ามีธุรกรรมที่น่าสงสัย และต้องการติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีหรือเจ้าของบัตร เพื่อแจ้งอายัดบัตรหรือแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถติดต่อคอลเซนเตอร์ของธนาคารต่างๆ ได้ตามเบอร์ด้านล่างนี้ได้ทันที
รวมเบอร์ Call Center ธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย
- ธนาคารกรุงเทพ โทร : 1333
- ธนาคารกรุงไทย โทร : 0-2111-1111
- ธนาคารกรุงศรี โทร : 1572
- ธนาคารกสิกรไทย โทร : 0-2888-8888
- ธนาคารเกียรตินาคิน โทร : 0-2165-5555
- ธนาคาร CIMB โทร : 0-2626-7777
- ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb โทร : 1428
- ธนาคารทิสโก้ โทร : 0-2633-6000
- ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร : 0-2777-7777
- ธนาคาร UOB โทร : 0-2285-1555
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โทร : 1327
- ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด โทร : 0-2724-4000
- ธนาคาร ICBC โทร : 0-2629-5588
- ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย โทร : 0-2697-5454
- ธนาคารแห่งประเทศจีน โทร : 0-2679-5566
- Citibank โทร : 1588
- SME Bank โทร : 1357
- ธนาคาร ธ.ก.ส. โทร : 0-2555-5555
- EXIM Thailand โทร : 0-2271-3700
- ธนาคารออมสิน โทร : 1115
- ธนาคาร ธอส. โทร : 0-2645-9000
- ธนาคารอิสลาม แห่งประเทศไทย โทร : 1302
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรเลย เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก สำหรับใครที่มีความกังวล เราแนะนำว่าถ้ามีบัตรเครดิตรหรือบัตรเดบิตที่ผูกกับแอปต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ควรรีบลบบัตรจากแอปนั้นๆ ก่อนจะดีที่สุด พร้อมเปิดการแจ้งเตือนของทุกบัญชีธนาคารไว้ เพื่อจะได้รู้ทุกการเคลื่อนไหวของธุรกรรมต่างๆ ถ้าพบความผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีนั่นเอง
ขอบคุณที่มาจาก : bot.or.th, thairath.co.th
โดย waranggg
thaitealism
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ