อัปเดต เชนร้าน Fast Food อิมพอร์ตจากญี่ปุ่น 🇯🇵 ตอนนี้ในไทยมีเจ้าไหนบ้าง ?

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer31 มี.ค. 2566 avatar writer562
อัปเดต เชนร้าน Fast Food อิมพอร์ตจากญี่ปุ่น 🇯🇵 ตอนนี้ในไทยมีเจ้าไหนบ้าง ?

 

เมื่อพูดถึงอาหาร Fast Food คนส่วนใหญ่มักจะชอบนึกถึงอาหารประเภทไก่ทอด, แฮมเบอร์เกอร์ หรือไม่ก็เฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักอาหาร Fast Food ฉบับแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมอัปเดตเชนร้าน Fast Food อิมพอร์ตจากประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในบ้านเราตอนนี้กัน ได้เวลาลบภาพอาหาร Fast Food หน้าตาเดิม ๆ เพราะบอกได้คำเดียวว่าอาหาร Fast Food ของประเทศญี่ปุ่นนั้น 'แตกต่าง' ไม่เหมือนใครเวอร์ !

 


 

'แตกต่างไม่เหมือนใคร' ฟาสต์ฟู้ดฉบับแดนอาทิตย์อุทัย

ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ❌  ซูชิ โซบะ เทมปุระ  ✅ 

 

ปกติแล้วถ้าเราพูดถึง นิยามของคำว่า อาหารฟาสต์ฟู้ด คนส่วนใหญ่มักจะติดภาพกันไปว่า อาหารฟาสต์ฟู้ดจะต้องเป็นอาหารที่ได้ไว ทำง่าย มีความสะดวกเวลากิน แบบชนิดที่ว่าถ้าให้ Grab & Go ได้ ก็จะดีมาก ซึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ 'ความประณีต และละเอียดลออ' อย่างญี่ปุ่น ก็มีอาหาร Fast Food ตามแบบฉบับของตัวเองด้วยเช่นกัน และถ้าหากใครติดภาพว่าจะต้องเป็นไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ หรือว่าเบอร์เกอร์แบบทางฝั่งตะวันตกแล้วละก็...  บอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิด !

 

สำหรับต้นกำเนิดของอาหารฟาสต์ฟู้ดฉบับญี่ปุ่นนั้น ต้องเท้าความย้อนกลับไปใน สมัยเอโดะ เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมในสมัยนั้น ว่ากันว่าเป็น สังคมแห่งความเร่งรีบ ดังนั้นอาหารที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารง่าย ๆ ที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก อีกทั้งด้วยสภาพพื้นที่ที่อยู่ติดกับอ่าว เลยทำให้อาหารที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้นอาหารทะเล

 

ผนวกกับมีข้อมูลเสริมอีกด้วยว่า อาหารฟาสต์ฟู้ดเมนูแรกของญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นมาจากพ่อครัวชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า ฮานะยะ โยเฮ  ที่ได้มีความคิดอยากจะหาวิธีในการยืดอายุให้วัตถุดิบอย่างอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นปลา, กุ้ง, หอย รวมไปถึงปลาหมึกต่าง ๆ ให้สามารถเก็บรักษา และคงอายุของอาหารได้นานขึ้น เพราะถ้าได้ชื่อว่าเป็นอาหารทะเลแล้ว มักจะคงความสด หรือเก็บรักษาเอาไว้ได้ไม่นาน เมื่อเทียบกับวัตถุดิบชนิดอื่น ๆ พ่อครัวชาวญี่ปุ่นท่านนี้เลยได้คิดค้นวิธี ยืดอายุให้อาหารทะเล  ด้วยการสร้างสรรค์ออกมาเป็นเมนู Edomae Sushi หรือซูชิที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้นั่นเอง

 

 

จนกระทั่งเมื่อวัฒนธรรมการกินอาหารฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกา ได้เผยแพร่มายังประเทศในแถบเอเชีย ญี่ปุ่นเองก็ได้รับเอาวัฒนธรรมนี้มาปรับใช้ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยทำให้เกิดเป็นเมนูอาหารฟาสต์ฟู้ดใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เมนูข้าวหน้าต่าง ๆ, เบอร์เกอร์, ไก่ทอด ฯลฯ ที่ยังคงผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นอยู่เหมือนเดิม เลยทำให้อาหารฟาสต์ฟู้ดฉบับญี่ปุ่นนั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ อาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่แพ้อาหารฟาสต์ฟู้ดจากทางฝั่งอเมริกากันเลย

 

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันดีกว่าว่า ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีอยู่ในบ้านเราตอนนี้ จะมีเชนไหนที่น่าสนใจกันบ้าง เผื่อว่าจะได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยตอบคำถามให้กับเราได้ว่า วันนี้จะกินอาหารญี่ปุ่นร้านไหนดี ?

 


 

อัปเดต เชนร้าน Fast Food อิมพอร์ตจากญี่ปุ่น

ตอนนี้ในไทยมีเจ้าไหนบ้าง ?

 

🍛  หมวดอาหารประเภทข้าว

 

เมื่อพูดถึงอาหารฟาสต์ฟู้ดประเภทข้าวตามแบบฉบับของญี่ปุ่น เมนูที่เป็นไฮไลต์เด่น ๆ ก็ได้แก่ เมนูข้าวหน้าต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเมนูที่หากินง่าย แถมร้านอาหารประเภทนี้ในญี่ปุ่นนั้น เรียกได้ว่ามีให้เลือกกันหลากหลายร้าน ระดับราคาก็จะอยู่ในเลเวลที่ถูก ในส่วนของเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดประเภทข้าวที่มาเปิดในบ้านเรา ก็มีด้วยกันตามนี้เลย

 

 

  • Yayoi หรือ Yayoiken เป็นร้านอาหาร Fast Food สัญชาติญี่ปุ่น อิมพอร์ตตรงมาจากโตเกียว  สำหรับสาขาของ Yayoi ในบ้านเรา ถือว่ามีเยอะมาก ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ ในส่วนของเมนูไฮไลต์เด่น ๆ ก็จะเป็นเมนูเซตข้าวต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย แถมยังมีเมนูใหม่ ๆ ตามช่วงเทศกาลมาให้เราได้ลิ้มลองอยู่ตลอด ด้วยราคาที่จับต้องได้ กับเซตอาหารที่อิ่มคุ้ม เลยทำให้ Yayoi เป็นหนึ่งในกิจการที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในบ้านเรา และยังคงได้รับความนิยมต่อไปอีกเรื่อย ๆ ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 176 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Yoshinoya ร้านอาหาร Fast Food ประเภท Gyudon (ข้าวหน้าเนื้อ) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น  ได้โคจรมาให้คนไทย ลิ้มรสชาติกันเป็นเวลาหลายปีแล้ว สำหรับเมนูเด่นของที่นี่ก็จะหนีไม่พ้นเมนูข้าวหน้าเนื้อทั้งหลาย และนอกจากเมนูข้าวหน้าเนื้อต่าง ๆ แล้ว Yoshinoya ยังมีเมนูอาหารประเภทอื่นให้ได้ลองกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แกงกะหรี่, อุด้ง รวมไปถึงเมนูสุกี้ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกกันทั้งแบบจานเดี่ยว กับเป็นเซตข้าวแบบ Yayoi เลย

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 29 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Sukiya  อีกหนึ่งร้าน Gyudon ที่มีสาขาในญี่ปุ่นทะลุหลักพัน  สำหรับจุดเริ่มต้นของร้านนี้ ได้เริ่มต้นมาจากเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยจะขายเมนูอาหารประเภทข้าวหน้าเนื้อเป็นหลัก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นบรรดาพนักงานออฟฟิศทั้งหลาย ที่ต้องการจะหาอะไรทานง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลามาก ข้าวหน้าเนื้อหรือ Gyudon เลยกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มนุษย์ทำงาน เพราะนอกจากจะอยู่ท้องแล้ว ยังสามารถให้พลังงาน (ในการต่อสู้กับงาน) ได้จนถึงเย็น !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 34 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Tenya  นอกจากอาหารประเภท Gyudon แล้ว เทมปุระ  ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีความเป็นญี่ปุ๊น..ญี่ปุ่น  สำหรับร้านข้าวหน้าเทมปุระร้านแรกที่เราจะมาแนะนำ ก็ได้แก่ Tenya ร้านข้าวหน้าเทมปุระที่โคจรมาเปิดสาขาในไทยกับเขาด้วยเช่นกัน โดยลักษณะของเมนูข้าวหน้าเทมปุระของที่นี่ ส่วนมากมักจะขายเป็นเซต เสิร์ฟพร้อมซุปมิโสะ และชาเขียว สั่งเซตเดียวถือว่าคุ้ม ตอบโจทย์ชีวิตอันเร่งรีบของชาวญี่ปุ่น และคนไทยอย่างเราได้เป็นอย่างดี

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 12 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Katsuya เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 8 ในบ้านเรากันแล้วกับ Katsuya ร้านอาหาร Fast Food สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังจากเมนูทงคัตสึ และคัตสึด้ง ที่ถือว่ามีราคาสบายกระเป๋าไม่แพ้กันกับร้านอื่น ๆ ในส่วนของสาขาที่เปิดบริการในบ้านเรา ถือว่ามีเยอะทุกหย่อมหญ้า ไปที่ไหนก็เจอ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการหาร้านข้าวสไตล์ญี่ปุ่นของหลายคน เพราะนอกจากรสชาติจะถูกปาก ปริมาณยังได้เยอะ แถมยังมีเมนูใหม่ ๆ มาให้ได้ลองอยู่เรื่อย ๆ

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 61 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • OOTOYA สำหรับความพิเศษของ OOTOYA ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้ จะอยู่ที่ ความหลากหลายของเมนู ที่มีให้เลือกตั้งแต่เมนูคัตสึด้ง, ทงคัตสึ, ข้าวหน้าต่าง ๆ, สุกี้, ซุป, อุด้ง คือมีให้เลือกหลายเมนูมาก ๆ ถือว่าครบจบในร้านเดียวได้เลย ส่วนไฮไลต์เด่น ๆ จะอยู่ที่การขายทุกเมนูเป็นเซต คือจะเสิร์ฟพร้อมสลัด, ซุปมิโสะ และเครื่องดื่ม ถือว่าเป็นเชนร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ที่สำคัญคือบรรยากาศและกลิ่นอายต่าง ๆ ให้บรรยากาศอบอุ่น เหมือนวาร์ปไปอยู่ที่ญี่ปุ่นยังไงยังงั้น

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 47 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Pepper Lunch ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เสิร์ฟในจานร้อนเจ้านี้  มีดีที่นวัตกรรมของตัวเองที่แท้ทรู  สำหรับเมนูไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่เมนูข้าวเปปเปอร์ที่จะถูกเสิร์ฟมาในจานร้อน อุณหภูมิสูงถึง 260 องศา โดยที่เราสามารถควบคุมระดับความสุกในแบบที่ตัวเองต้องการได้ ถือว่าเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ไปทีไรต้องต่อคิวรอตลอด !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 51 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • CoCo ICHIBANYA  ถ้าพูดถึงข้าวแกงกะหรี่สัญชาติญี่ปุ่น ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของทุกคนจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก CoCo ICHIBANYA โดยข้าวแกงกะหรี่ร้านนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น ร้านอาหารเล็ก ๆ ในเมืองนาโกยา  ก่อนจะขยายสาขาไปทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น และลามมายังประเทศอื่น ๆ ในภายหลัง สำหรับจุดเด่นของเมนูข้าวแกงกะหรี่ของที่นี่ จะอยู่ที่การให้ลูกค้าทำการ Custom เมนูข้าวแกงกะหรี่ตามแบบฉบับของตัวเอง สามารถเลือกปริมาณข้าวได้ เลือกปริมาณระดับความเผ็ดได้ อีกทั้งยังสามารถเลือก Topping ที่ต้องการได้เองด้วย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 49 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Gold Curry  มาต่อกันที่ร้านข้าวแกงกะหรี่ขวัญใจคนกินจุ ! อิมพอร์ตตรงมาจากเมืองคะนะซะวะ  โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การแข่งขันกินข้าวแกงกะหรี่ภายในเวลาที่กำหนด และปริมาณที่กำหนด ถ้ากินหมดทันเวลา ถือว่ามื้อนั้นกินฟรีไปเลย ซึ่งถูกใจสายแข่งขันในบ้านเรามาก หรือใครที่เป็นสายกินน้อย ก็ไม่ต้องซีเรียส เพราะที่ร้านเขาก็มีเมนูในปริมาณปกติจำหน่ายด้วยเหมือนกัน ใครอยากลองลิ้มรสความอร่อยของเมนูแกงกะหรี่ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ได้เวลาพุ่งตัวไปกินกันได้เลย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 13 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Sutadonya อีกหนึ่งร้านข้าวหน้า (Don) ระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่น กับเมนู Signature ของร้านอย่าง ข้าวหน้าหมูพลังเพลิงฟ้าผ่า ⚡ ที่อิมพอร์ตจากประเทศญี่ปุ่นมาให้ชาวไทยอย่างเราได้ลิ้มลองกันแล้ว ที่สำคัญนอกจากเมนูสุดอลังการ ฟ้าผ่าดาวล้านดวงนี้แล้ว ปริมาณของอาหารที่ให้มาคือจัดเต็ม เนื้อ ๆ เน้น ๆ กินทั้งที อิ่มฟินกันไปยาว ๆ อย่างแน่นอน

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Maji Curry เชนร้านข้าวแกงกะหรี่ระดับแชมป์ Kanda Curry Prix มาเปิดในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า ใครอยากกินไม่ต้องถ่อไปไกลถึงญี่ปุ่นก็ได้กินกันแล้วนะ สำหรับจุดเด่นของเมนูข้าวแกงกะหรี่ของที่นี่จะอยู่ที่ ซอสแกงกะหรี่เข้มข้น ติดกลิ่นหอมเครื่องเทศเบา ๆ เบลนด์เข้ากันถือว่ารสชาติเป็นเอกลักษณ์เวอร์ ส่วนใครที่เป็นสายชีสต้องห้ามพลาดเมนู แฮมเบิร์กราดชีส ที่ผสมผสานความเข้มข้นบวกกับความนัวของชีสเยิ้ม ๆ แค่เห็นภาพก็หิวแล้ว เอ้า ใครอยากกินจดลิสต์ไว้ แล้วไปกินตามกันได้เลย~

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 2 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Hinoya Curry อีกหนึ่งร้านข้าวแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ ที่จุดขายของร้านนี้ได้เคลมว่า เป็นแกงกะหรี่สูตรดั้งเดิมของตระกูล ตั้งแต่สมัยโชวะ  กันเลย ที่สำคัญไม่ใช่แค่อิมพอร์ตเชนมาเปิดในไทยเท่านั้น แต่ยังยกก้อนแกงกะหรี่จากญี่ปุ่นมาเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในไทยเลยด้วย ถือว่าเป็นร้านแกงกะหรี่อีกหนึ่งร้านที่น่าลอง แถมยังมีสาขาในไทยหลายสาขาเลย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 5 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Unatoto หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ข้าวหน้าปลาไหล 500 เยน สำหรับเชนร้านข้าวหน้าปลาไหลย่างนี้ ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังในโตเกียวเป็นอย่างมาก หนึ่งในเอกลักษณ์ของร้านที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็ได้แก่ กลิ่นหอมย่างเตาถ่าน ที่ทางร้านได้ใช้เตาถ่านแบบญี่ปุ่นในการใช้ย่างปลาไหล แถมยังมีซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ที่ไม่ว่าใครที่ได้ลอง เป็นต้องติดอกติดใจไปเสียทุกราย !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 2 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Katsukura ร้านทงคัตสึแถวยาวแห่งเมือง เกียวโต  ได้โคจรมาให้ชาวไทยอย่างเราได้ลิ้มรสแบบไม่ต้องต่อแถวกันแล้ว สำหรับชื่อเสียงเรียงนามของเมนูทงคัตสึของที่นี่ ว่ากันว่าเป็นทงคัตสึที่ทอดออกมาได้ดีมาก ที่สำคัญคือทอดใหม่ ๆ สด ๆ ทุกออเดอร์ กรอบนอก นุ่มใน แต่ไม่อมน้ำมัน ใครเป็นสายทงคัตสึต้องลอง !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Tonkatsu Wako  อีกหนึ่งร้านทงคัตสึที่มีสาขา มากกว่า 250 สาขาในประเทศญี่ปุ่น  ต่อให้เปิดในไทยมาได้สักพักใหญ่ ๆ แต่กระแสความนิยมเรียกได้ว่า ไม่มีแผ่ว โดยจุดเด่นของเมนูทงคัตสึของที่นี่จะอยู่ที่การมาในรูปแบบของเซตเมนู บวกกับข้าวและเครื่องเคียงที่เติมได้ไม่อั้น ! เอาใจคนที่อยากลิ้มรสชาติของสุดยอดทงคัตสึแบบจุใจ ส่วนเมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูทงคัตสึธรรมดา แกงกะหรี่ทงคัตสึ รวมไปถึงชุดหม้อร้อนทงคัตสึ ก็มีให้เลือกลองด้วยเช่นกัน

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 6 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Maisen ร้านทงคัตสึอีกหนึ่งร้านที่มีสาขาในบ้านเราเยอะพอ ๆ กับร้านอื่น ๆ นอกจากเมนูอาหารของที่นี่จะเน้นไปที่เมนูทงคัตสึแล้ว อีกหนึ่งเมนู Signature ที่ต้องลองเลยก็คือ เมนูสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่น  เสิร์ฟพร้อมข้าว, สลัด, ซุปมิโสะ, ของทอด และของหวานอย่างไอศกรีมชาเขียว ใครอยากลิ้มลองเมนูทงคัตสึชื่อดังจากโตเกียวที่ว่ากันว่า นุ่มมมมม เพียงแค่ใช้ปลายตะเกียบก็สามารถตัดขาดได้ ต้องมาพิสูจน์กันที่ร้านนี้นะ

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 11 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Hamakatsu สำหรับเชนร้านทงคัตสึในบ้านเรายังไม่หมดแค่นั้น มาต่อกันที่ร้าน Hamakatsu ที่ได้อิมพอร์ตเมนูทงคัตสึ สูตรตำรับจากจังหวัดนางาซากิ  กับประสบการณ์ในวงการทงคัตสึกว่า 61 ปี ได้ต่อยอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้มาให้คนไทยอย่างเราได้มีโอกาสได้ลิ้มลองกันด้วย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Saboten ขนกันมาแทบจะทั่วประเทศญี่ปุ่นกันแล้ว ล่าสุดมีร้านทงคัตสึโผล่มาอีก 1 สำหรับร้านนี้ได้ยกโขยงตัวเองมาจาก ย่านชินจุกุ  โดยว่ากันว่าเป็นร้านทงคัตสึที่มีสาขาเยอะมาก ทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมไปถึงสาขาในต่างประเทศด้วย จุดเด่นของทงคัตสึของร้านนี้จะอยู่ที่ความฉ่ำของซอสทงคัตสึสูตรเฉพาะ ที่พอมาผสมคู่กันกับงาก็เข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ตัวเนื้อทงคัตสึที่นำมาทอดก็กรอบกำลังดี เนื้อนุ่มละลายในปาก เป็นอีกหนึ่งร้านทงคัตสึระดับตำนานที่ควรลอง !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 6 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Korogo Katsu  ร้านทงคัตสึอิมพอร์ตจาก เมืองนิงาตะ  ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปได้ไม่ถึงปี ทางเรามีโอกาสได้ไปลองแล้ว บอกได้คำเดียวว่าเนื้อนุ่มละลายในปากมากเวอร์ ทีเด็ดของร้านจะอยู่ที่ซอสลูกแพร์ ที่หวาน หอม กลมกล่อมกำลังดี เครื่องเคียงก็เติมได้แบบจุใจ ใครจะไปแนะนำให้ไปตั้งแต่ร้านเปิด เพราะไม่ต้องรอคิวนานก็ได้ทานเลย !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 3 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 


 

🍣  หมวดอาหารประเภทซูชิ

 

มาต่อกันที่หมวดซูชิ ต้นกำเนิดของอาหาร Fast Food แบบญี่ปุ่นกันบ้าง ซึ่งถ้าเป็นร้านซูชิประเภทที่ตอบโจทย์นิยามคำว่า Fast Food ได้มากที่สุด เราคงจะนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจาก ซูชิสายพาน เรามาดูกันดีกว่าว่าในบ้านเรา มีซูชิสายพานร้านไหนที่อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่นกันบ้างนะ ?

 

 

  • Sushiro ถ้าพูดถึงซูชิสายพานที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึง เราเชื่อว่าจะต้องเป็น Sushiro เจ้านี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า Sushiro จะเปิดให้บริการในบ้านเราแค่เกือบ ๆ สองปี แต่กระแสความนิยมก็ไม่ได้แผ่วลงไปเลย ยิ่งช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ คิวหน้าร้านก็คือแน่นตลอด เก่าไป ใหม่มา ส่วนรสชาติของซูชิก็ว่าไม่ได้ สดใหม่ แถมยังมีเมนูพิเศษออกมายั่วใจคนรักซูชิอย่างพวกเรากันตลอด

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 14 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Heiroku Sushi อีกหนึ่งร้านซูชิสายพานที่มีประสบการณ์ในญี่ปุ่นเกือบ ๆ 60 ปี เรียกได้ว่าเป็น ผู้บุกเบิกร้านซูชิรูปแบบสายพาน  เลยก็ว่าได้ สำหรับประสบการณ์ในไทยก็ถือว่าเก๋าเกมเช่นกัน โดยรูปแบบของร้านก็จะเหมือนกับ Sushiro ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเลย ราคาของอาหารจะแบ่งแยกไปตามสีของจาน ใครที่รู้จักซูชิสายพานกันแต่ Sushiro เห็นทีจะต้องไปลองร้าน Heiroku Sushi นี้กันดูบ้างแล้วแหละ รับรองว่ารสชาติไม่เป็นสองรองใครแน่นอน !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Sushi Hinata ถึงแม้จะไม่ใช่ร้านซูชิสายพาน แต่ถ้าดีกรีไม่ธรรมดา ถึงขนาด อิมพอร์ตมาจากนาโกย่า แบบนี้ เราก็อยากให้ทุกคนได้รู้จักกัน ! โดยเสน่ห์ของ Sushi Hinata ร้านนี้จะมีให้บริการทั้งแบบห้องส่วนตัว เคาน์เตอร์บาร์ และที่นั่งเห็นวิวธรรมชาติ ในการรองรับลูกค้าหลาย ๆ กลุ่ม เมนูก็มีให้เลือกทั้งแบบโอมากาเสะ และ A La Carte ที่สร้างสรรค์มาจากวัตถุดิบที่คัดมาเป็นพิเศษ ไม่เสียชื่อร้านซูชิที่อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Kitaro Sushi เห็นแค่ภาพ ใจมันก็เรียกร้องอยากจะพุ่งตัวเข้าไปกินแล้ว สำหรับไฮไลต์ของร้านซูชิร้านนี้ คือเขาเป็นร้านซูชิที่มีต้นกำเนิดมาจาก โอซาก้า  ก่อนที่จะขยายสาขาไปในหัวเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่น และมาบรรจบลงที่ประเทศไทยบ้านเรา ซึ่งใครจะไปรู้ว่า เห็นแบบนี้แต่เค้ามีสาขาในไทยมากถึง 5 สาขาเชียวนะ !

    ในส่วนของเมนูซูชิ อันดับแรกก็ต้องให้เรื่องของความสดใหม่ บรรยากาศของร้าน คนทำอาหารต่าง ๆ เหมือนพาเราวาร์ปไปโผล่ที่ญี่ปุ่นกันเลย ที่สำคัญคือปริมาณอาหาร รวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ทางร้านก็จัดหนักจัดเต็มให้แบบไม่หวง ใครที่ยังไม่เคยลอง ได้เวลาจดลิสต์แล้วไปเปิดตี้กับแก๊งเพื่อนกันได้เลย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 5 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Mekiki no Ginji การันตีความสดจาก เกาะโอกินาว่า  กับร้าน Mekiki no Ginji หรือที่รู้จักกันในชื่อ ร้านถัง เป็นอีกหนึ่งเชนร้านอาหารประเภทซูชิที่ทางเราอยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสกันสักครั้ง เพราะมาตรฐานและการควบคุมคุณภาพทุกอย่างก็สมชื่อความเป็นญี่ปุ่น มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบ รวมถึงการบริการทั้งหลายดีงามควรค่าแก่การเข้าไปลองความสดใหม่ของบรรดาอาหารทะเลจากที่นี่ สำหรับเมนู Signature ที่มาแล้วต้องสั่งก็ได้แก่ สารพัดปลาดิบทั้งหลาย ที่มีให้เลือกกันละลานตาเวอร์ !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Endo Sushi  ร้านซูชิที่มีต้นกำเนิดมาจาก ตลาดปลาโอซาก้า  อีกหนึ่งตลาดปลาอันเลื่องชื่อ โดย Endo Sushi ได้มีโอกาสโคจรมาใกล้ชิดชาวไทย ด้วยการเปิดร้านสาขาแรก และสาขาเดียวในตอนนี้ที่ย่านทองหล่อ สำหรับเสน่ห์ของซูชิจากที่นี่คือ กระบวนการปรุงที่แตกต่าง ด้วยการใช้ข้าวที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ที่อาจจะไม่ได้ทำให้ข้าวจับตัวเป็นก้อนแบบซูชิทั่วไป เลยทำให้คนทานอย่างเราได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ ที่พอมาทานคู่กันกับปลาดิบสด ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มรสสัมผัสที่แตกต่างกว่าซูชิรูปแบบธรรมดามากขึ้น

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 


 

🍜  หมวดอาหารประเภทเส้น (โซบะ, ราเมน, อุด้ง)

 

อาหารฟาสต์ฟู้ดอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา และเรียกได้ว่าต้นกำเนิดของอาหารฟาสต์ฟู้ดประเภท 'เส้น' นี้ ตีคู่สูสีมากับอาหารประเภทซูชิเลยก็ว่าได้ ซึ่งเสน่ห์ของเมนูอาหารประเภทเส้นในแบบฉบับของญี่ปุ่นนั้น ถือว่ามีทางเลือกให้เลือกหลากหลาย แถมด้วยลักษณะความเฉพาะของเส้น บวกกับกรรมวิธีในการปรุง ก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่น ที่ใครก็ยากจะเลียนแบบ

 

 

  • Hachiban เมื่อพูดถึงร้านราเมนจากญี่ปุ่นที่ทรงอิทธิพลในไทย เชื่อว่าชื่อแรก ๆ ที่ทุกคนจะนึกถึงคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ฮะจิบัง หรือบะหมี่หมายเลข 8 ซึ่งจุดเริ่มต้นของบะหมี่หมายเลข 8 นี้ได้เริ่มต้นขึ้นจากทำเลที่ตั้งของร้านสาขาแรก ที่ได้ตั้งอยู่บน ถนนหลวงหมายเลข 8 จังหวัดอิชิกาว่า ประเทศญี่ปุ่น  โดยสมัยนั้นยังเปิดเป็นร้านเล็ก ๆ ขายแค่เพียงไม่กี่เมนู แต่ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ฮะจิบังราเมน ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในร้านราเมนขวัญใจคนญี่ปุ่นและคนไทยเป็นที่เรียบร้อย

    สำหรับจุดเด่นของฮะจิบังนั่นก็คือ น้ำซุปสูตรเข้มข้น ที่คลุกเคล้าเข้ากับเส้นราเมนที่เหนียวนุ่มได้แบบเข้ากัน นอกจากราเมนในซุปแล้ว บะหมี่เย็น (โกมะ ซารุ ราเมน) ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดของใครหลายคน รวมไปถึงทางเราด้วย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 151 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Sato no Udon เชนร้านอุด้งชื่อดังจาก เมืองฟูจิซาว่า  มาเปิดในไทยเป็นที่เรียบร้อย ! สำหรับจุดเด่นของอุด้งร้านนี้จะอยู่ที่เส้นอุด้งโฮมเมดเหนียวนุ่ม ทำใหม่วันต่อวัน บวกกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ซู้ดแล้วคล่องคอ ที่สำคัญนอกจากเมนูอุด้งอันเลื่องชื่อแล้ว อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองก็คือ เทมปุระทอดทั้งหลาย ที่ทางร้านทำออกมาได้ดี เป็นอีกหนึ่งเมนูขวัญใจของคนญี่ปุ่น ไม่แพ้เมนูอุด้งกันเลย

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 2 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขา :  คลิก

 

 

  • Shugetsu Ramen อีกหนึ่งราเมนร้านอร่อยที่การันตีด้วย รางวัล Michelin จากจังหวัดเอฮิเมะ  ที่ตอนนี้ได้เปิดสาขาแรกในไทยเป็นที่เรียบร้อย เหมาะมากกับสายกินนักล่า (ร้าน) รางวัล สำหรับจุดเด่นของร้านนี้จะอยู่ที่การทำเส้นราเมนกันสด ๆ แบบชนิดที่ว่าโชว์ให้เห็นกันจะจะ ส่วนน้ำซุปก็เคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง การันตีความถึงเครื่อง สมแล้วกับที่ได้รางวัล Michelin มาครอง

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • 69MEN ราเมนเจ้าดังจาก ย่านโคเอนจิ  ที่มีจุดขายอยู่ที่ปริมาณของราเมนที่ขายต่อวันจะอยู่ที่ 69 ชามเท่านั้น ใครมาไม่ทันคืออด ! ด้วยกิมมิกที่น่าสนใจแบบนี้ ยิ่งทำให้สายราเมนทั้งหลายไม่ว่าจะในบ้านเรา หรือในญี่ปุ่นเอง เป็นต้องขวนขวายการเป็นผู้ชนะ

    แต่ทั้งนี้ ถ้ารสชาติของอาหารไม่เจ๋งจริง ก็อาจจะทำให้คนเบือนหน้าหนีไปหาร้านอื่นกันก็ได้ แต่โชคดีที่นอกจากกิมมิกอย่าง 69 ชามจะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านได้แล้ว น้ำซุปใสและรสชาติของราเมนก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้บรรดาลูกค้าอยากจะลองลิ้มชิมรสราเมนของเจ้านี้กันดูสักครั้ง 

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Mensho Tokyo อีกหนึ่งเชนราเมนจาก โตเกียว  ที่ได้โคจรมาเปิดกิจการในบ้านเรากับเขาด้วยเหมือนกัน สำหรับจุดเด่นของร้านนี้เรียกได้ว่า ออร์แกนิกทุกขั้นตอน เพราะเจ้าของร้านได้ลงมาดูเองตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหาร คือจะหลีกเลี่ยงการใช้สารปรุงแต่ง รวมถึงสารเคมีโดยเด็ดขาด ทำให้ลูกค้าอย่างเรามั่นใจในความปลอดภัยของอาหารได้ ส่วนทีเด็ดจะอยู่ที่น้ำซุปไก่ของทางร้าน ที่ใช้เวลาเคี่ยวอย่างต่ำ 8 ชั่วโมง ทำให้รสชาติมีความกลมกล่อมบวกกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ทำให้ใครหลายคนติดอกติดใจ จนต้องเผลอกลับไปซ้ำกันอยู่หลายรอบเลยทีเดียว !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ringer Hut ยกราเมนต้นตำรับจาก เมืองนางาซากิ  มาไว้ที่กรุงเทพฯ กันแล้วจ้า~ โดยจุดเด่นของ Ringer Hut ร้านนี้จะอยู่ที่การยกเอาราเมนสูตรต้นตำรับ ที่เป็นอาหารประจำเมืองนางาซากิมาให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยในแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหน เป็นราเมนที่ผสมผสานเนื้อสัตว์เข้าไว้ด้วยกันหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อปลา แล้วไหนจะมีสารพัดสีสันสดใสของผักอีกหลายชนิด

    ตัวน้ำซุปก็ขาวนวลน่าซด ผนวกกับเส้นเหนียวนุ่มสูตรเฉพาะของทางร้าน การันตีความดีงามจากสาขาที่ทะลุ 600 สาขาในญี่ปุ่นไปแล้วเรียบร้อย ที่สำคัญคือไม่ต้องบินก็ฟินได้ เปิดสาขาในไทยแล้วแบบนี้ ใครอยากลิ้มรสความอร่อยของราเมนต้นตำรับนางาซากิ อย่าลืมจดลิสต์แล้วไปกินตามด่วน 

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 4 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Menya Itto ตัวตึงเจ้าของตำแหน่ง ร้านราเมนอันดับหนึ่งใน Tabelog  เว็บไซต์จัดอันดับร้านอาหารยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น การันตีได้จากความยาวของแถวบริเวณหน้าร้านที่ลากยาวในทุกวัน ซึ่งตอนนี้ก็ได้โคจรมาเปิดสาขาแรกที่ไทยเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะสั่งเมนูไหนดี เราขอป้ายยาเมนู Signature อย่าง Tsukemen และ Shio Ramen จานแรกจะเด่นที่น้ำซุปเข้มข้น ส่วนจานที่สองจะเด่นที่น้ำซุปเกลือทะเล รสชาติจะไม่เข้มข้นมาก สามารถซดเพลิน ๆ ได้

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Fujiyama Go Go  เชนร้านราเมนจาก นาโกย่า ที่เดินหน้าเปิดสาขาในไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับจุดเด่นของเมนูราเมนของที่นี่จะอยู่ที่ Tsukemen ที่มีน้ำซุปให้เลือกเยอะถึง 4 แบบ ตัวน้ำซุปก็เคี่ยวนานกว่า 48 ชั่วโมง ซดทีฟินไม่ไหว ส่วนท็อปปิ้งบนหน้าราเมนก็มีให้เลือกใส่แบบจุใจ ไม่พอก็ขอ Add เพิ่มได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูของกินเล่นอย่างปีกไก่ทอด ไก่ทอดคาราอาเกะ และอื่น ๆ อีกหลายเมนู 

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 7 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ton Chin Kan Ramen (Tan Tan Ramen) เชนร้านราเมนที่ว่ากันว่าเป็น นิยามของรสชาติต้นตำรับจากโตเกียว  โดยน้ำซุปมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือซุปใส กับซุปข้น ซึ่งแต่ละซุปจะใช้เวลาเคี่ยวไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง นอกจากน้ำซุปราเมนจะโดดเด่นแล้ว ตัวท็อปปิ้งอย่างหมูชาชูของที่นี่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความนุ่มมมม ละลายในปาก แถมหมูชาชูที่ได้มา เรียกได้ว่ามาเป็นชิ้นเบ้อเริ่ม ! งานนี้บอกได้คำเดียวว่าฟินจนหยดสุดท้าย~

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • HonAji Ramen ราเมนซุปกระดูกหมูเจ้าดังจาก นาโกย่า ที่มีทีเด็ดอยู่ที่ น้ำซุปกระดูกหมูสีขาวนวลที่ทางร้านใช้เป็นส่วนผสมหลักในการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ภายในร้าน ส่วนเส้นราเมนก็ใช้เวลาพัฒนาสูตรนานถึง 10 ปี จนมั่นใจได้ว่าเส้นราเมนที่ใช้อยู่ในตอนนี้ เป็นเส้นราเมนที่ให้รสสัมผัสและเข้ากันกับตัวน้ำซุปได้ดีที่สุด ซึ่งจะบอกว่าในไทยเรามีสาขาอยู่ไม่น้อย ใครใกล้ที่ไหนอยากให้ไปลอง จะได้สัมผัสกับรสชาติที่ประณีตส่งตรงจากญี่ปุ่นนี้กัน !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 11 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Hokkaido Ramen Santouka ก่อนหน้านี้เราพูดถึงเชนราเมนที่อิมพอร์ตมาจากหลาย ๆ เมืองในประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ยักจะโคจรมาเจอราเมนที่มีต้นกำเนิดมาจาก ฮอกไกโด กันสักที ในที่สุดก็ได้เจออีกหนึ่งร้านราเมนที่น่าสนใจ ซึ่งไฮไลต์ของที่นี่นั่นอยู่ที่ ท็อปปิ้งหมูย่างสูตรพิเศษ ที่พอมารวมตัวกับเส้นเหนียวนุ่มของราเมน และน้ำซุปสุดเข้มข้นของทางร้านแล้ว ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งรสชาติที่น่าจะสร้างความว้าวให้กับสายกินอย่างเราได้ 

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Osaka Tonkatsu Ramen Misawa หนึ่งในร้านราเมนที่มีชื่อเสียงจาก โอซาก้า  ก็ได้โคจรมาเปิดสาขาที่ไทยเป็นที่เรียบร้อย สำหรับจุดขายของราเมนร้านนี้จะอยู่ที่ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ การทำเส้น การทำน้ำซุป ทุกอย่างได้ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ตัวราเมนมีให้เลือกทั้งไซซ์ปกติ กับราเมนชามใหญ่พิเศษ เอาใจคนรักเส้นให้ได้ฟินกันแบบจุใจ 

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ramen Kourakuen อีกหนึ่งร้านราเมนที่ มีสาขาเยอะมากในญี่ปุ่น  สำหรับจุดเด่นของร้านนี้จะอยู่ที่ 'หมู' ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้น หมูชาชูที่หมักมาเป็นอย่างดี แต่ละเมนูจะเสิร์ฟมาในชามใหญ่ก้นลึกสไตล์ญี่ปุ่น ให้เราได้เต็มอิ่มกับราเมนกันแบบจุใจ สมชื่อราเมนอีกหนึ่งร้านที่เป็นร้านในดวงใจของสายราเมน

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 7 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Kyushu Jangara ร้านราเมน & อุด้ง ขวัญใจดารา เซเลปญี่ปุ่น ที่เปิดสาขาแรกอยู่ที่ย่าน อากิฮาบาระ  ที่ตอนนี้ได้ขยับขยายสาขามาเปิดในไทยบ้านเรากันแล้ว สำหรับจุดเด่นของราเมนและอุด้งจากที่นี่คือ น้ำซุปสูตรดั้งเดิมจากเกาะคิวชู ผ่านการเคี่ยวมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงจนรสชาติถึงเครื่อง นอกจากน้ำซุปสูตรดั้งเดิมแล้วยังมีซุปน้ำดำ และซุปรสเผ็ดที่ถูกปากคนญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้าน Signature ที่ควรค่าแก่การลอง

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 4 สาขา
    📲  รายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Uchidaya Ramen ราเมนอารมณ์ดีจาก เมืองโยโกฮาม่า  เจ้าของร้านราเมนอันดับ 1 หลายสมัยจากเขตคันโต ที่ตอนนี้ได้เดินทางมาให้คนไทยได้พิสูจน์รสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับกันแล้วถึง 3 สาขา ไฮไลต์เด่น ๆ ของร้านนี้จะอยู่ที่การพลิกแพลงเส้นราเมนให้ออกมาเป็น ราเมนเส้นพริก รวมไปถึงอีกหนึ่งเมนูน่าลองอย่าง ราเมนเย็นในแก้ว ที่น่าจะตอบโจทย์อากาศร้อน ๆ ในบ้านเราตอนนี้ได้เป็นอย่างดี

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 3 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Hokkaido Ramen Gantetsu Mitsumori โผล่มาอีก 1 กับร้านราเมนเจ้าดังจาก ฮอกไกโด สำหรับไฮไลต์ของราเมนจากที่นี่จะอยู่ที่ตัวน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวนานถึง 2 วัน จนกลายเป็นน้ำซุปเข้มข้นตามแบบฉบับของร้าน ส่วนบรรดาท็อปปิ้งทั้งหลายก็จัดหนักจัดเต็ม แต่เมนูที่เราคิดว่ายั่วยวนชวนให้หิวมากที่สุดก็ได้แก่ ราเมนมิโสะเนยข้าวโพด ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเนยเป็นก้อนตามภาพด้านบน น่าจะหอมมันกำลังดี โอ้ย พิมพ์ไปก็หิวไป !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาได้ที่นี่ : คลิก

 

 

  • Taishoken Ramen เชนร้านราเมงสูตรพิเศษที่ถูกสร้างสรรค์โดย God of Ramen  อย่าง ยามากิชิ คาสึโอะ เชฟชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้อยู่เบื้องหลังร้านราเมนชื่อดังหลาย ๆ ร้าน โดยจุดเด่นของราเมนร้านนี้จะอยู่ที่การผสมผสานตัวซุปด้วยวัตถุดิบสำคัญ 2 อย่างคือ กระดูกหมูกับปลาทะเล ทำให้กลิ่นหอมและรสชาติของซุปราเมนจากที่นี่ มีความเฉพาะและแตกต่างจากร้านอื่น ๆ

    ซึ่งร้าน Taishoken ก็ได้ขยายสาขาไปทั่วทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น รวมไปถึงในต่างประเทศด้วยเช่นกัน สำหรับหน้าร้านในไทยตอนนี้มีอยู่ 1 สาขา ถ้าหากใครอยากลองลิ้มรสชาติราเมนสูตรพิเศษที่สร้างสรรค์โดยเทพเจ้าแห่งราเมนกันล่ะก็ สามารถพุ่งตัวตามไปชิมกันได้เลย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Iroha Ramen & Izakaya อีกหนึ่งเชนร้านราเมนที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัล ผู้ชนะจากเวที Tokyo Ramen Show ถึง 5 สมัย  อิมพอร์ตตรงมาจากเมืองโทยามะ ในส่วนของ Signature เมนูของร้านนี้อาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเมนูสักทีเดียว แต่จะอยู่ที่เบสน้ำซุปอย่างซุปใสจากกุ้ง ที่ถือว่าค่อนข้างจะแตกต่างจากร้านอื่น ๆ เครื่องราเมนก็จัดหนักจัดเต็ม หมูชาชูชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือ ตัวเส้นราเมนก็มีขนาดใหญ่ อีกนิดเดียวจะเรียกว่าเส้นอุด้งแล้ว เอาดี ๆ 

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Tenri Stamina Ramen เริ่มต้นตัวเองจากการเป็นร้านราเมนเล็ก ๆ ในท้องถิ่นของ จังหวัดนารา ก่อนจะขยายสาขาไปทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งรูปแบบของร้านสาขาในไทยก็ได้ยกเอารูปของร้านจากญี่ปุ่นมาเลย คือจะเป็นร้านราเมนเล็ก ๆ มีโต๊ะอยู่แค่ไม่กี่โต๊ะ ให้บรรยากาศสบาย ๆ

    ส่วนเมนู Signature ที่ใครมาแล้วต้องสั่งก็ได้แก่ เมนู Stamina Ramen ตามชื่อร้าน โดยจะเป็นเมนูที่ผสมผสานเทคนิคการทำอาหารอย่างต้มและผัดเข้าไว้ด้วยกัน น้ำซุปจะไม่ได้เยอะมาก จะให้มาในปริมาณพอขลุกขลิก รู้ตัวอีกทีอาจจะหมดชามแบบงง ๆ

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ippudo Ramen ร้านราเมนเจ้าดังที่ช่วงเปิดใหม่ในไทยแรก ๆ บอกได้คำเดียวว่า คนกระหึ่ม ! สำหรับราเมนเจ้านี้ เป็นร้านราเมนที่มาจาก เมืองฮากาตะ เอกลักษณ์อันโดดเด่นคือจะมีเมนูให้เลือกทานเยอะมาก แถมช่วงเทศกาลพิเศษ ก็มีเมนูใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้ลิ้มลองกันอยู่เสมอ แต่ถ้าใครไม่รู้จะเลือกสั่งอะไรมาลองเป็นเมนูแรก ทางเราขอแนะนำเมนู Signature ของทางร้านอย่าง ทงคัตสึราเมน ที่มาพร้อมน้ำซุปกระดูกหมูต้นตำรับ รสชาติดี ซดแล้วคล่องคอ

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 19 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Tonkotsu Kazan  ในส่วนของไฮไลต์เมนูของที่นี่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็ได้แก่ ราเมนภูเขาไฟ  ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อหมูชาชูกองพูนเป็นภูเขา สำหรับใครที่กลัวว่ามันจะสุกไหม สำหรับเมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟมาในชามหินที่มี อุณหภูมิสูงถึง 300 องศา ทำให้เราสามารถซู้ดเส้นราเมนร้อน ๆ ได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด เป็นอีกหนึ่งเมนูราเมนที่ควรค่าแก่การลอง แต่ดูจากปริมาณที่ได้น่าจะทำให้หลายคนอิ่มจุกไปจนถึงวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 5 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Kisoba Azuma ป้ายยาเชนร้านราเมนกันไปเยอะแล้ว คราวนี้ถึงตาร้านโซบะอิมพอร์ตจากญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า สำหรับร้าน Kisoba Azuma ร้านนี้เป็น ร้านโซบะเจ้าดังจากคิวชู  มีจุดเด่นอยู่ที่เส้นโซบะที่ทำเองสด ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการผสมแป้งกันเลย เส้นที่ได้ก็จะนุ่มหนึบกำลังดี เสิร์ฟมาในชามไซซ์ใหญ่แบบเบิ้ม ๆ และนอกจากเมนูโซบะที่โด่งดังแล้ว ทางร้านยังมีเมนูข้าวหน้าต่าง ๆ ให้ได้ลองกันอีกด้วย

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 2 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ikkousha Ramen ต้นตำรับราเมนหมูแผ่ส่งตรงจาก เมืองฟุกุโอกะ  กับสารพัดเมนู 'หมู ๆ' ที่น่าลองกันทุกเมนู สำหรับเมนูแนะนำก็หนีไม่พ้น Ikkousha Ramen เมนู Signature ของทางร้าน ที่เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูแผ่นใหญ่ ที่วางแผ่ลงตรงกลางชามแบบที่เห็นในภาพนี้เลย 

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 3 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Chabuton ราเมนน้ำซุปกระดูกหมูสูตรเข้มข้นที่กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวที เป็นอีกหนึ่งร้านโปรดของใครหลายคน แบบชนิดที่ว่าถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็เข้าร้าน Chabuton ไปก่อน ซึ่งความน่าสนใจของร้านนี้นอกจากจะอยู่ที่เมนูราเมนสูตรต้นตำรับแล้ว เมนูไฮไลต์พิเศษ  ที่ปล่อยออกมาในช่วงต่าง ๆ ก็ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน อย่างล่าสุด Chabuton ก็ได้ไปโคกับแบรนด์ Twinings ปล่อยเมนูสุดพิเศษที่บอกได้คำเดียวเลยว่า น่าลองอ่ะ !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 16 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก


 

  • Bankara Ramen ราเมนร้านโปรดของเรา และน่าจะเป็นร้านโปรดของใครหลายคนกันด้วย สำหรับร้านนี้ความพิเศษของเขาจะอยู่ที่ตัวน้ำซุปที่หอมมันกลมกล่อมกำลังดี แม้จะเสิร์ฟมาในชามใหญ่ แต่ก็สามารถทานได้เพลิน ๆ (และหมดชามแบบเพลิน ๆ ด้วยเช่นกัน) ราเมนก็มีให้เลือกกันหลายเมนู มีให้เลือกตั้งแต่ต้นตำรับ, เผ็ดขึ้นมาหน่อย รวมไปถึงเมนูราเมนประยุกต์ต่าง ๆ ในส่วนของตัวเส้นก็หนึบหนับมาก ใครที่ชอบกินเส้นบะหมี่แบบเกาหลี ที่สัมผัสจะหนึบหนับหน่อย น่าจะถูกใจร้านนี้กัน

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 4 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Menya Takeichi ได้เวลาเติมคอลลาเจนกันหน่อยแล้ว กับร้านราเมนน้ำซุปไก่ อันดับ 1 จากโตเกียว  ที่มี 'ทีเด็ด' อยู่ตรงที่น้ำซุปไก่ ที่เขาคัดกันตั้งแต่ไก่คุณภาพดีที่เอามาใช้ทำน้ำซุปกันเลย คัดอย่างเดียวไม่พอ ยังนำมาเคี่ยวต่อเนื่องเป็นเวลานานถึง 10 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปไก่กลิ่นหอม ๆ ซดไป ฟินไป กันอย่างแน่นอน

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Uma Uma ! เจอแบบนี้ใครจะต้านไหว สำหรับร้านราเมนเก่าแก่ในย่าน ฟุกุโอกะ  ที่เริ่มต้นตัวเองจากการเป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ แต่เพราะความดีงามในรสชาติของอาหาร เลยทำให้ร้านนี้สามารถขยายสาขา และดำเนินกิจการต่อเนื่องยาว ๆ มาจนถึงปัจจุบัน ไฮไลต์เด็ดของเมนูราเมนจากที่นี่ จะอยู่ที่น้ำซุปเคี่ยวกระดูกหมู ที่เคี่ยวต่อเนื่องนานกว่า 18 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูแผ่นใหญ่ที่เนื้อนุ่มละลายในปาก เป็นอีกหนึ่งร้านที่ควรค่าแก่การลอง !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Ohana Shokudou ร้านราเมนแห้งอิมพอร์ตจาก โตเกียว  ที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดชลบุรี ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศของร้านดีมาก ๆ เพราะตัวร้านตั้งอยู่ริมทะเลกันไปเลย ตัวราเมนแห้งก็ยังยกรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ มาให้คนไทยอย่างเราได้ลิ้มลอง ผสมผสานด้วยความหอมของปลาแห้งอันเป็นเอกลักษณ์ ท็อปปิ้งทั้งหลายก็จัดเต็ม นอกจากเมนูราเมนแล้วทางร้านยังมีเมนูซูชิ และอาหารทะเลอื่น ๆ ให้ได้ลองกันอีกด้วยนะ ใครมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมไปลองอีกหนึ่งร้านในตำนานกัน

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲   ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 


 

🍔  หมวดอาหารประเภทลูกผสม (เบอร์เกอร์, ไก่ทอด, พิซซ่า)

 

ถึงแม้ว่าเราจะได้รู้จักกับอาหารฟาสต์ฟู้ดแบบญี่ปุ๊น..ญี่ปุ่นกันไปแล้ว แต่ถ้าถามว่า แล้วอาหารฟาสต์ฟู้ดประเภท ลูกผสม ที่จับความเป็นญี่ปุ่นมาเข้าคู่กับความเป็นตะวันตกล่ะ มีไหม ? คำตอบนั้นอยู่ที่นี่แล้ว...

 

 

  • Mos Burger  เรื่องราวของมอสเบอร์เกอร์ได้เริ่มต้นจากการคลุกคลีกับอาหารฟาสต์ฟู้ดแบบตะวันตกของ ซากุระดะ ซาโตชิ เลยได้ไอเดียในการเปิดร้านเบอร์เกอร์ตามแบบฉบับของตัวเองที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเมนูแรกที่เขาคิดค้นขึ้นมา ก็ได้แก่เมนู เทอริยากิเบอร์เกอร์  ที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้ากับตะวันตกไว้ด้วยกัน หลังจากนั้นก็ได้ทยอยเปิดตัวสาขาอื่น ๆ ในแถบเอเชียตามมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้แก่ ประเทศไทย

    สำหรับจุดเด่นของ Mos Burger ร้านนี้จะอยู่ที่การผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่น เข้ากับกลิ่นอายตะวันตก จนกลายเป็นเมนูเบอร์เกอร์ที่น่าสนใจหลายเมนู เป็นอีกหนึ่งร้านที่เข้าไปเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่น ด้วยบรรยากาศ โทนสีการตกแต่ง เชื่อว่าน่าจะเป็นร้านโปรดของใครในที่นี่อย่างแน่นอน 

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 28 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Tsuruhashi Fugetsu ได้เวลาลบภาพพิซซ่าแบบเดิม ๆ ด้วยพิซซ่าแบบญี่ปุ่นจากร้าน Tsuruhashi Fugetsu ร้านโอโคโนมิยากิเจ้าดังส่งตรงมาจาก โอซาก้า  กวาดรางวัลที่การันตีความอร่อยมาแล้วมากมาย โอกาสดี ๆ มาเยือนถึงที่แบบนี้ ถ้ามีโอกาส หรือใครที่เป็นสายอาหารญี่ปุ่นเลิฟเวอร์ ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง !

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 1 สาขา
    📲 ดูรายละเอียดสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Yamachan เบอร์เกอร์ไปแล้ว พิซซ่าก็ไปแล้ว ถึงคราวของไก่ทอดแบบญี่ปุ่นกันต่อบ้าง สำหรับ Yamachan ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนที่ไปเยือนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งนี้คือปีกไก่ทอด ต้นตำรับจากนาโกย่า ที่ตอนนี้มีสาขาเปิดอยู่ในไทยกว่า 9 สาขาเป็นที่เรียบร้อย

    ซึ่งความพิเศษของปีกไก่ทอด Yamachan กับร้านอื่น ๆ จะอยู่ที่ปีกไก่ของร้านจะเป็นปีกไก่แบบจริง ๆ ไม่ผ่านการชุบแป้ง แต่จะมีการนำไปหมักด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้เวลาที่ทอดออกมา ตัวซอสก็จะเข้าเนื้อกำลังดี แถมกิมมิกอีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็ได้แก่ เวลาเสิร์ฟ  ที่ปีกไก่ของเขาจะถูกเสิร์ฟมาเป็นกองภูเขา เอาใจสายกินแบบพวกเรามากเวอร์ !

    📍สาขาในไทยตอนนี้ : 9 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก

 

 

  • Karayama ปิดท้ายกันที่ ร้านไก่ทอดเจ้าดังจากวัดอาซากุสะ  สำหรับเมนูไฮไลต์ของที่นี่ก็ได้แก่ เมนูไก่คาราอาเกะ ที่หมักด้วยซอสสูตรพิเศษ กรอบนอก นุ่มใน ชิ้นพอดีคำ ที่สำคัญคือไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้ เพราะจากร้านไก่ทอดร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ละแวกวัดอาซากุสะ ก็ได้ขยายสาขาจนตอนนี้ถ้านับเฉพาะญี่ปุ่นก็ทะลุ 100 สาขาเป็นที่เรียบร้อย ใครมีโอกาสก็อยากให้ลอง เพราะรสชาติที่ออกมาประหนึ่งว่าวาร์ปไปกินที่ญี่ปุ่นกันเลย

    📍 สาขาในไทยตอนนี้ : 7 สาขา
    📲  ดูรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่มเติม : คลิก (สาขาเซ็นจูรี่ อ่อนนุช จะเปิดให้บริการวันสุดท้ายวันที่ 14 เม.ย. 66)

 

*ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566


 

💭 เราจะเห็นได้ว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดในแบบฉบับญี่ปุ่นนั้น มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจไม่แพ้อาหารฟาสต์ฟู้ดจากทางฝั่งอเมริกากันเลย ที่สำคัญ หลาย ๆ เมนูก็เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในบ้านเรากันมานานแล้ว อาจจะมีหลายคนที่เพิ่งถึงบางอ้อว่าอาหารญี่ปุ่นที่เรากินเป็นประจำ จริง ๆ แล้วมันคืออาหารฟาสต์ฟู้ดด้วยหรอเนี่ย เอาเป็นว่าในบทความหน้าเราจะมาเล่าถึงวิวัฒนาการของอาหารฟาสต์ฟู้ดให้ทุกคนได้อ่านกัน เผื่อว่าจะเปิดโลกของการกินอาหารฟาสต์ฟู้ดให้กับทุกคนกันมากขึ้น ยังไงฝากติดตามกันด้วยน้า 😋 

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 


แหล่งข้อมูลอ้างอิง : bokksu และ savorjapan

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น