เปิดตัว iPhone 12 สเปคจัดเต็มทั้ง 4 รุ่น รองรับ 5G รุ่นแรกของ Apple
โดย : MilD
iPhone 12 เผยโฉมอย่างเป็นทางการ
มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย ทุกรุ่นรองรับ 5G
ดีไซน์ตัวเครื่องขอบเหลี่ยม สีโดนใจมาก
ถึงเวลาเปลี่ยนมือถือใหม่แล้วรึยัง?
หลังจากอดทนรอกันมาอย่างยาวนาน ท่ามกลางข่าวลือว่าจะเปิดตัวในช่วงก่อนหน้านี้ สำหรับสมาร์ทโฟนล่าสุดจาก Apple ซึ่งก็ไม่ปล่อยให้ทุกคนต้องรอกันอีกต่อไปแล้ว เพราะคืนวันที่ 13 ต.ค. (ตามเวลาในประเทศไทย) ได้มี Event ไลฟ์สด ผ่านทางเว็บไซต์ของ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ สร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าสาวกทั่วทุกมุมโลกได้ไม่น้อยเลย
(นี่คือหน้าตา iPhone 12 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Apple)
สำหรับ iPhone 12 ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เรียกว่าจัดเต็มตั้งแต่รุ่นกะทัดรัด ไปจนถึงรุ่นใหญ่กันเลย จำหน่ายในราคาเริ่มต้นเท่ากับตอนเปิดตัว iPhone 11 เลย อยู่ที่ $699 แต่ภายในกล่องจะไม่ได้แถมหูฟัง Earbuds และหัว Adapter มาให้ มีเพียงสาย USB‑C เป็น Lightning เท่านั้นเอง เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนและดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยโลกแต่ไม่ช่วยเราเลย 555 อยากได้ก็ต้องซื้อเพิ่มแล้วงานนี้
จุดเด่นของ iPhone 12 มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
หลังจากได้ยลโฉมกับ iPhone 12 สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ "รูปลักษณ์ภายนอกของตัวเครื่อง" ที่ไม่เหมือนเดิม มีความขอบเหลี่ยมเหมือนกับ iPhone 4 สมัยก่อนนู่นเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าประทับใจดีไซน์แบบนี้กันรึเปล่านะ
iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max
มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ เงิน, กราไฟต์, ทอง และแปซิฟิกบลู
iPhone 12 Mini และ iPhone 12
มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ ดำ, ขาว, แดง Product (RED), เขียว และน้ำเงิน
นอกเหนือจากดีไซน์ภายนอกที่ว่าเริ่ดแล้ว สเปคภายในเครื่อง ก็อัดแน่นด้วยคุณภาพไม่แตกต่างกันเลย ไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็เด็ดไม่แพ้กัน ทำงานด้วยชิพประมวลผลรุ่นล่าสุด A14 Bionic ที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน ทนน้ำได้ลึกถึง 6 เมตร แล้วยังมีอะไรที่เราควรจะเลือกใช้ iPhone 12 อีกบ้าง?
หน้าจอแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ขนาด
ทั้ง 4 รุ่นย่อยของ iPhone 12 เลือกใช้หน้าจอแบบเดียวกันทั้งหมด เป็นจอภาพ Super Retina XDR แบบ OLED (เหมือนกับหน้าจอของ iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max นั่นเอง) แตกต่างกันที่ความละเอียดของหน้าจอเพียงเล็กน้อย และขนาดของหน้าจอ เริ่มต้นที่ 5.4 นิ้ว (iPhone 12 Mini), 6.1 นิ้ว (iPhone 12 & iPhone 12 Pro) และ 6.7 นิ้ว (iPhone 12 Pro Max) นอกจากนี้ยังเป็นจอแบบ Ceramic Shield ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่าอีกด้วย ไม่ต้องกลัวตกเลย
iPhone 12 Mini และ iPhone 12
ตัวเครื่องสีน้ำเงิน สีใหม่ล่าสุดที่ต้องโดน!
กล้องจัดเต็ม จะถ่ายภาพอะไรก็ได้หมด
กล้องถ่ายรูปของ iPhone นี่คือไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสุดปังขนาดไหน ถ่ายภาพแบบไหนก็ดีงามไปหมด แล้วยิ่งเป็นรุ่นใหม่แบบนี้ จะต้องสวยยิ่งกว่าเดิมไปอีก รองรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
- iPhone 12 Mini และ iPhone 12 ประกอบด้วยกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Wide ƒ/1.6 และ Ultra Wide ƒ/2.4
- iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Wide ƒ/1.6, Ultra Wide ƒ/2.4 และ Telephoto ƒ/2.2 มาพร้อมกับสแกนเนอร์ LiDAR
ถ้าลองเทียบกับ iPhone 11 แล้ว คุณสมบัติกล้องมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพได้ดียิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะความสามารถถ่ายภาพและ ถ่าย Time Lapse ในโหมดกลางคืนได้ รับรองว่าความสามารถในการถ่ายรูปดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
อีกหนึ่งจุดเด่นในเรื่องการถ่ายภาพสำหรับ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ก็คือ Apple ProRAW ซึ่งเป็นไฟล์ RAW ได้จากการถ่ายภาพด้วย iPhone โดยที่ยังไม่มีการบีบไฟล์หรือย่อขนาดลง จะทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไฟล์ละ 50 MB แบบนั้นเลย ไม่แพ้กับการใช้กล้อง Pro เลยทีเดียว
กล้องหลัง 3 ตัวของ iPhone 12 Pro และ Pro Max
จะถ่ายภาพแบบไหนก็เริ่ดเลอ ดีงามสุดพลัง
รองรับการใช้งานเทคโนโลยี 5G
นี่ถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน 5G จาก Apple สำหรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะทำให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วในระดับ Gigabit โหลดอะไรก็ไม่ติดขัด iPhone 12 ทุกรุ่นไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รองรับใช้งาน 5G ได้ทั้งหมด และพร้อมใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้ทันที เมื่อวางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้แต่ละเครือข่ายได้ติดตั้งสถานีฐาน 5G ไปได้เยอะมาก และทดลองใช้งานจริงได้แล้วอีกด้วย
เป็นรุ่นเดียวที่พร้อมใช้งานกับ MagSafe
เป็นทั้งเคส กระเป๋าสตางค์ และที่ชาร์จไร้สาย ได้ในตัวเดียว! สำหรับ Magsafe ซึ่งรองรับการใช้งานเฉพาะ iPhone 12 เท่านั้น สำหรับรุ่นอื่นอดนะจ๊ะ บอกว่าล้ำได้อีก แถมยังสวยเกร๋อีกต่างหาก ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดง่าย เพราะมีแม่เหล็กในตัวที่ช่วยให้ประกบติดกันได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ราคาตอนนี้ยังไม่เปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็น่าจะมีราคาประมาณนึงเลยทีเดียวแหละ เก็บเงินรอเลยจ้าาา~
คือแบบเท่ไม่ไหว เห็นแบบนี้ต้องมีแล้วป๊ะ
รุ่นนี้ไม่มี อะแดปเตอร์แปลงไฟ และ EarPods มาให้ในกล่อง
ถือว่าเป็นจุดเด่นข้อสุดท้ายแล้วกัน แต่ไม่รู้เป็นจุดเด่นจริงมั้ย 55 สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง iPhone 12 จะมีเพียงตัวเครื่อง, สาย USB-C เป็น Lightning และคู่มือการใช้งาน เพียงแค่นี้เลยจ้า ส่วนหัวชาร์จและหูฟังไม่ได้ให้มาด้วย เพราะทาง Apple บอกว่าไม่ค่อยได้ใช้กันเลยไม่ให้มา ทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์เล็กลง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ ลดโลกร้อนไปอีก สำหรับข้อนี้บอกเลยว่ายอมใจในความคิดของ Apple มากจ้า ขอยกให้เป็น iPhone รุ่นลดคาร์บอนไปเล้ยยย
เปรียบเทียบ iPhone 12 VS iPhone 11
จะไปต่อหรือพอแค่นี้?
หลังจากที่เราได้เห็นสเปคของ iPhone 12 รุ่นล่าสุดแล้ว ปัญหาที่ยังตอบตัวเองไม่ได้เลยตอนนี้ ก็คือแล้วจะซื้อดีมั้ยอะ? เพราะเราก็ยังมีตัวเปรียบเทียบที่สำคัญก็คือ iPhone 11 ซึ่งได้ตกรุ่นไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังได้ปรับลดราคาลงไปอีก ทำให้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
- ลองเทียบ iPhone 12 กับ iPhone 11 ถ้าหากไม่ได้สนใจเรื่องใช้งาน 5G รวมถึงชิพประมวลผลรุ่นใหม่ ก็ยังสามารถเลือกใช้งาน iPhone 11 ได้อยู่ แต่ถ้าอยากใช้งานเทคโนโลยีใหม่สุด ถ่ายภาพได้ดีกว่าเดิม พร้อมชิพรุ่นที่ดีที่สุด ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีกว่าเดิม แบบนี้ไม่ต้องลังเลเลยจ้า ก็ต้องเลือกซื้อ iPhone 12 เท่านั้น
- สำหรับ iPhone 12 Pro กับ iPhone 11 Pro เราจะได้เครื่องที่มีหน้าจอใหญ่กว่าเดิม จาก 5.8 นิ้ว เป็น 6.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน 5G พร้อมกับกล้องถ่ายภาพได้เจ๋งกว่าเดิมอีกด้วย ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยได้เครื่องใหม่เจ๋งแบบนี้ ไม่ได้ชี้นำแต่ iPhone 12 Pro ต้องมาแล้ว
- ส่วนใครที่เล็งรุ่นท็อปเอาไว้ เปรียบเทียบระหว่าง iPhone 12 Pro Max กับ iPhone 11 Pro Max บอกเลยว่าความสามารถในเรื่องการถ่ายภาพของ iPhone 12 Pro Max ก็ล้ำไปอีก ถ่ายภาพตอนกลางคืนปังไม่ไหว เพิ่มเจ้าสแกนเนอร์ LiDAR เข้ามาช่วยในการทำงาน สามารถเซฟเป็นไฟล์ RAW ให้ได้ภาพคุณภาพสูงแบบไม่บีบย่อขนาด แถมยังได้ชิพประมวลผล A14 มาอีกด้วย ก็ต้องเลือกซื้อ iPhone 12 Pro Max เลย แต่ถ้าไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายภาพเท่าไหร่ iPhone 11 Pro Max
- นอกจากนี้ ก็ยังมีรุ่น iPhone 12 Mini ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะราคาคงไม่แตกต่างจาก iPhone 11 สักเท่าไหร่ แต่เราจะได้เครื่องสเปครุ่นใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นท็อปเลยจ้า แบบนี้ก็ต้องลองเลือกดูว่าตัวเองอยากได้แบบไหนนะจ๊ะ
สรุปราคาเครื่องเท่าไหร่ ต้องซื้อแล้วมั้ย!
Apple จะเปิดจองเครื่อง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro เป็น 2 รุ่นแรกก่อนในวันที่ 16 ต.ค. 63 และวางจำหน่ายวันที่ 23 ต.ค. 63 เป็นต้นไป ส่วน iPhone 12 Mini และ iPhone 12 Pro Max อดใจรออีกนิดนึง จะเปิดจองวันที่ 6 พ.ย. 63 และวางจำหน่ายวันที่ 13 พ.ย. 63 เป็นต้นไป
แต่สาวกในบ้านเรายังคงต้องรอต่อไปอีกเช่นเคย เพราะเป็นที่แน่นอนแล้วว่ายังไม่ได้เปิดจองในประเทศไทย! ยังไม่ได้ประเทศกลุ่มแรกๆ เหมือนเดิม ก็ต้องรอประกาศอีกครั้งนึงว่าในประเทศไทยจะเริ่มเปิดจองเมื่อไหร่ และราคาเคาะแล้วจะเท่าไหร่กันแน่ แต่ลองไปดูราคาเปิดตัวคร่าวๆ ก็พอจะเดาได้แหละ คงไม่หนีกันมากหรอก
iPhone 12 Mini
- ความจุ 64GB ราคา 699 เหรียญ (ประมาณ 21,669 บาท)
- ความจุ 128GB ราคา 749 เหรียญ (ประมาณ 23,219 บาท)
- ความจุ 256GB ราคา 849 เหรียญ (ประมาณ 26,319 บาท)
iPhone 12
- ความจุ 64GB ราคา 799 เหรียญ (ประมาณ 24,769 บาท)
- ความจุ 128GB ราคา 849 เหรียญ (ประมาณ 26,319 บาท)
- ความจุ 256GB ราคา 949 เหรียญ (ประมาณ 29,419 บาท)
iPhone 12 Pro
- ความจุ 128GB ราคา 999 เหรียญ (ประมาณ 30,969 บาท)
- ความจุ 256GB ราคา 1,099 เหรียญ (ประมาณ 34,069 บาท)
- ความจุ 512GB ราคา 1,299 เหรียญ (ประมาณ 40,269 บาท)
iPhone 12 Pro Max
- ความจุ 128GB ราคา 1,099 เหรียญ (ประมาณ 34,069 บาท)
- ความจุ 256GB ราคา 1,199 เหรียญ (ประมาณ 37,169 บาท)
- ความจุ 512GB ราคา 1,399 เหรียญ (ประมาณ 43,369 บาท)
* สำหรับราคาทั้งหมดนี้ เป็นราคาเครื่องที่จำหน่ายในต่างประเทศ ยังไม่ใช่ราคาที่ขายจริงในประเทศไทย คงจะต้องรอประกาศราคาอย่างเป็นทางการอีกครั้งนึง โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD เท่ากับ 31 บาท
เราจะเห็นว่าราคาเปิดตัว iPhone 12 หากเปรียบเทียบกับตอนที่เปิดตัว iPhone 11 ถือว่าเท่ากันแบบเป๊ะๆ เลย สำหรับรุ่น Pro และ Pro Max ส่วน iPhone 11 ราคาเปิดตัวจะเท่ากับ iPhone 12 Mini รุ่นเล็กสุดแทน ซึ่งเมื่อวางขายในประเทศไทยแล้วราคาขายจริงก็คงจะไม่หนีกันสักเท่าไหร่ เตรียมเงินให้พร้อม ใครที่รอสอยอยู่ก็คงต้องมีเงินอย่างน้อย 2-3 หมื่นกว่าเพื่อคว้ามาเป็นเจ้าของให้ได้
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- iPhone 12 เปิดตัวแล้วจ้า มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย คือ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะเล็กหรือใหญ่ก็มีให้เลือกครบ
- จุดเด่นหนีไม่พ้นเรื่องดีไซน์ตัวเครื่อง ถือว่าเปลี่ยนไปแทบจำไม่ได้เลยทีเดียว พร้อมกับเทคโนโลยี 5G ที่ใส่มาในเครื่องให้แบบไม่มีกั๊ก สามารถใช้งานได้ทุกรุ่นเลยจ้า จะโหลดอะไรก็ไวไปหมด
- สำหรับประเทศไทย ยังไม่ได้กำหนดวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ต้องรอกันไปก่อน เดี๋ยวตามมาแน่นอน รีบเก็บเงินรอซื้อกันได้เลย มีทั้งเครื่องเปล่าและเครื่องพร้อมแพ็กเกจให้เลือกแน่นอน
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ