iPhone mini 2 ปีแห่งการเงียบหาย ฝันสลายของคนชอบมือถือเครื่องเล็ก

 

เป็นเวลากว่า 16 ปี ที่สมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลกอย่าง iPhone ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งระหว่างการเดินทาง iPhone ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงของตัวเองมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้ได้เข้าสู่ช่วงเวลาของ iPhone 15 ไปเป็นที่เรียบร้อย

 

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มี iPhone อยู่หนึ่งรุ่นที่ มาไว ไปไว จนสาวก iPhone ทั้งหลายอาจจะไม่ทันได้ทำใจ หรือสังเกตได้เกี่ยวกับการค่อย ๆ เฟดตัวหายไปนี้ ซึ่ง iPhone รุ่นนั้นก็ได้แก่ iPhone mini ที่เปิดตัวออกมาได้เพียง 2 รุ่น ก่อนจะถูกลดระดับความสำคัญลง โดยไร้ซึ่งคำอธิบายจากผู้พัฒนาอย่าง Apple ว่าจะไปต่อ... หรือพอแค่นี้ ?

 

---

 

ทำความรู้จัก iPhone รุ่นแรกของตระกูล mini

 

สำหรับการเปิดตัว iPhone mini ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยการมาของ iPhone รุ่นนี้สร้างเสียงฮือฮาจากผู้ใช้งานที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กได้เป็นอย่างดี เพราะบรรดา iPhone ที่วางขายอยู่ตอนนั้น ส่วนใหญ่จะมีขนาดของหน้าจอเริ่มต้นที่ 5.8 นิ้วขึ้นไป จะมีจอเล็กอยู่บ้างอย่าง iPhone SE 2 ที่มีขนาดของหน้าจออยู่ที่ 4.7 นิ้ว ซึ่งผู้ใช้งานบางคนมองว่ามันเล็กไป การมาของ iPhone 12 mini ที่มีขนาดของหน้าจออยู่ที่ 5.4 นิ้ว เลยกลายเป็น iPhone ที่มีขนาดกำลังดี อยู่ก้ำกึ่งระหว่าง iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ไปเลย กับหน้าจอที่เล็กไปเลย

 

 

ภาพเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 12 ที่มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว กับ iPhone 12 mini ที่มีขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว

 

 

หลังจากเปิดตัว iPhone 12 mini ไปได้ 1 ปี เราก็ได้รู้จักกับน้องใหม่ในตระกูล mini เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นอย่าง iPhone 13 mini ที่มาพร้อมกับขนาดของหน้าจอ 5.4 นิ้วเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสเปกที่ดุดันตามสไตล์ iPhone แต่ทว่าหลังจากการมาของ iPhone 13 mini เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า iPhone 13 mini คือสมาร์ทโฟนรุ่นสุดท้ายในตระกูล Mini ที่มีข้อมูลปรากฏอยู่ในตอนนี้ เพราะหลังจากเปิดตัว iPhone 13 mini ไป จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2022 ที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ออกมา มันกลับไร้วี่แววการมาของ iPhone mini แถมยังแทนที่ด้วยการประกาศยกเลิกขาย iPhone 12 mini ให้คนชอบมือถือเครื่องเล็กได้ช้ำใจกันด้วย

 

จนเวลาล่วงเลยมาอีกปี ในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ทาง Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 15 รุ่นใหม่ ที่สาวกทั้งหลายพากันคาดการณ์ว่า ถ้าตระกูล mini จะกลับมา ก็น่าจะกลับมาในรุ่นนี้ ซึ่งผลปรากฏว่ามันยังคงไร้วี่แววการมาของ iPhone 15 mini กันอยู่ดี  แถมทาง Apple ยังคงควักเอามุกเดิมออกมาใช้ ด้วยการประกาศยกเลิกขาย iPhone 13 mini ตาม iPhone 12 mini ไปติด ๆ นั่นก็แปลว่าในตอนนี้ iPhone ตระกูล mini ได้หลงเหลืออยู่เพียงแค่ชื่อ ไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว 

 

---

 

ถูกที่... แต่ผิดเวลา พายอดขายแป้ก

 

ถ้าเราสามารถพา iPhone ตระกูล mini ย้อนเวลากลับไปในช่วงรอยต่อระหว่างการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค iPhone หน้าจอใหญ่ ในปี 2017-2018  ได้ คาดว่า iPhone mini น่าจะทำกระแสได้ดีกว่านี้ น่าเสียดายที่การเปิดตัว iPhone mini ดันมาอยู่ในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ iPhone หน้าจอใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อย นั่นเลยกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทาง Apple แอบปลด iPhone ตระกูลนี้ลงไปแบบเงียบ ๆ สืบเนื่องมาจากยอดขายที่แป้กแล้วแป้กอีกของมันนั่นเอง

 

อย่าง iPhone 12 mini ที่ถึงแม้จะสร้างเสียงฮือฮาในกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กได้มากแค่ไหน แต่ยอดขายของมันกลับไม่ได้ฮือฮาตามไปด้วย เพราะยอดขายที่ออกมาถ้าให้ตีเป็นเปอร์เซ็นต์ iPhone 12 mini สามารถทำยอดขายไปได้เพียง 6% จากยอดขายทั้งหมดของ iPhone 12  แม้แต่ทาง Apple เองก็ยังงง เพราะอุตส่าห์คาดการณ์เอาไว้อย่างดิบดีว่า iPhone 12 mini รุ่นนี้น่าจะทำยอดขายได้ดีมากแน่ ๆ เพราะจุดเริ่มต้นการมาของมัน Apple ได้เริ่มต้นจากการฟังเสียงของลูกค้าที่อยากให้ทางบริษัทผลิต iPhone ที่มีหน้าจอเล็ก ๆ ออกมา  ซึ่งผลปรากฏว่าหลังจากที่รู้ยอดขายของ iPhone 12 mini รุ่นนี้ ทาง Apple ก็ได้ทำการสั่งเบรกการผลิต iPhone 12 mini ไปกว่า 2 ล้านเครื่อง ก่อนจะแทนที่ด้วยการผลิต iPhone 12 Pro ที่ทำยอดขายได้ดีกว่าแทน

 

ซึ่งตรงนี้เราสามารถหาสาเหตุกันได้อีกข้อแล้วว่า จังหวะและเวลา ในช่วงที่ iPhone mini เปิดตัว เป็นช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ เบนเข็มไปหาสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีหน้าจอใหญ่กันไปแล้วเรียบร้อย ดังนั้นการมาของ iPhone mini เลยไม่ได้สลักสำคัญอะไร ต่อให้จะมีฐานลูกค้าบางส่วนต้องการอยู่ก็จริง แต่ฐานลูกค้าส่วนใหญ่กลับไม่ได้มีความสนใจตามไปด้วยเลย

 

---

 

 

iPhone 13 mini ควันหลงส่งท้าย

ที่ Apple พาล่มหัวจมท้ายในแบบที่ปฏิเสธไม่ได้

 

 

หลายคนอาจจะกำลังสงสัย ไหนว่า iPhone 12 mini ขายไม่ดี แล้วทำไม Apple ถึงเปิดตัว iPhone 13 mini รุ่นใหม่ตามมากันอีก นี่ยังไม่เข็ดจริง ๆ หรอ ? คำตอบของคำถามนี้เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก การเลี่ยงไม่ได้ ของทาง Apple นั่นเอง

 

ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วเวลาที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ออกมา ทาง Apple จะทำการเดินหน้าสั่งผลิต iPhone รุ่นถัดมากันต่อเลย อาจจะเพื่อการทดลองใช้งาน หรืออาจจะกลัวมีสินค้าไม่พอวางจำหน่าย หรือจะด้วยเหตุผลใด ๆ ของทางผู้พัฒนาก็ตาม นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าหลังจากทาง Apple รู้เปอร์เซ็นต์ยอดขายของ iPhone 12 mini ที่ออกมา เป็นจังหวะเวลาที่ iPhone 13 mini บางส่วนได้ถูกผลิตออกมารอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลยทำให้ทาง Apple เลี่ยงไม่ได้ ต้องเดินหน้าเปิดตัว iPhone 13 mini รุ่นใหม่นี้กันต่อไป ซึ่งยอดขายก็เป็นไปตามคาด จากเดิมที่ทำไว้ 6% พอถึงคราวของ iPhone 13 mini สามารถทำยอดขายได้แค่ 3% เท่านั้น  ซึ่งงานนี้ค่อนข้างจะชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า ก้าวต่อไปของ Apple กับตระกูล iPhone mini นี้ จะไปต่อ หรือควรพอแค่นี้ดี

 

แต่ถ้าลองคิดอีกมุมหนึ่ง ถ้า ณ ตอนนั้น Apple ยังไม่ได้มีการสั่งผลิต iPhone 13 mini เราก็คงจะไม่มีโอกาสได้เห็น iPhone 13 mini กันอย่างแน่นอน เพราะทาง Apple น่าจะขุดหลุมฝังตั้งแต่ iPhone 12 mini กันไปแล้ว พอมาถึงปี 2022 (ที่ Apple ได้บทเรียนจาก 2 รุ่นนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย) เลยกลายเป็นว่า iPhone 14 ไม่มีรุ่น mini ออกมาให้เห็นกันอีก แถมยังปาดหน้าด้วยการหยิบเอาตระกูล Plus ที่เคยมีมาตั้งแต่สมัย iPhone 7 Plus และ 8 Plus ขึ้นมาเสียบแทน คือกะจะเน้นลงทุนกับรุ่นจอใหญ่เลยว่างั้นเถอะ

 

ท่ามกลางความวุ่นวาย ทุกคนพอจะเดาออกไหมว่ามีอะไรที่ลอยลำ ?

 

iPhone SE คือ iPhone ที่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีขนาดของหน้าจอที่เล็กกว่าตระกูล mini แต่ไหงยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทางผู้พัฒนากันอยู่

 

 

 

 

เหตุผลสำคัญนั่นก็เพราะ iPhone SE ไม่ได้ถูกวางตัวให้เป็น iPhone mini ตั้งแต่แรก นั่นเลยทำให้ภาพลักษณ์ในอนาคตของมันสามารถแปรเปลี่ยนเป็น iPhone ที่มีขนาดของหน้าจออยู่ที่เท่าไหร่ก็ได้ เพราะจุดขายของ iPhone SE อยู่ที่ราคาที่จับต้องได้ (หรือที่สาวก iPhone บางคนจะให้ชื่อมันว่า iPhone ราคาประหยัด) และแนวโน้มของ iPhone SE รุ่นต่อไป ทาง Apple ก็น่าจะมีการปรับขนาดของหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น ไม่ได้หยุดอยู่ที่ 4.7 นิ้วเหมือนที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่เกิดกับ iPhone 12 mini และ iPhone 13 mini

 

เพราะตอนนี้ทาง Apple ได้รับบทเรียนไปเป็นที่เรียบร้อยว่าถ้าจะทำ iPhone ออกมาวางขายหลังจากนี้ ถ้าขนาดของหน้าจอไม่ใหญ่พอ บอกเลยว่าไปไม่รอดแน่ ดังนั้นนี่เลยถือว่าเป็นการลอยลำของ iPhone SE ก็ย่อมได้ เพราะมันสามารถถูกนำไปปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงยังไงก็ได้ เพื่อให้ตัวเองพ้นจากข้อครหานี้ (ถ้าทาง Apple ฉุกคิดขึ้นมาได้อะนะ) แถมยังมีจุดขายอย่างการเป็น iPhone ราคาประหยัด ที่เราเชื่อว่ายังไง iPhone ตระกูล SE น่าจะไปต่อได้อีกยาว ๆ แต่สิ่งที่น่าห่วงมากกว่านั่นก็คือ iPhone mini จะมีโอกาสกลับมาไหม หรือทาง Apple คิดจะตัดหางปล่อยวัด ทิ้งกันง่าย ๆ แบบนี้ ?

 

 

---

 

ขาดความเคลื่อนไหวในรอบ 2 ปี หรือนี่จะเป็นการจากไปอย่างถาวร

 

ค่อนข้างจะเป็นที่ชัดเจนมากว่าในช่วงเวลาหลังจากนี้ (เผลอ ๆ อาจจะเกิน 5 ปี) ทาง Apple น่าจะไม่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในตระกูล mini ออกมาอย่างแน่นอน ตราบใดที่ iPhone ยังคงจำกัดขนาดของหน้าจออยู่ที่ 6.1 - 6.7 นิ้วต่อไปเรื่อย ๆ เพราะส่วนตัวเราในฐานะที่เคยผ่านการใช้งานมาทั้ง iPhone ที่มีขนาดของหน้าจอ 6.1 นิ้ว กับปัจจุบันที่เปลี่ยนมาใช้ขนาดของหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว สารภาพตามตรงว่าถ้าให้กลับไปใช้งานขนาด 6.1 นิ้วเหมือนเดิม เราก็คงจะทำไม่ได้  แม้ว่าในช่วงแรกที่ซื้อมา เราจะมองว่ารุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบันหน้าจอมันใหญ่เกินไปก็ตาม แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ กลับชิน จนทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปใช้งาน iPhone ที่มีขนาดของหน้าจอที่เล็กกว่านี้ได้อีกเลย

 

บวกกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนส่วนใหญ่ ที่ตอนนี้สามารถทำทุกอย่างได้ผ่านมือถือเครื่องเดียว เราเลยมองว่าขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ ล้วนอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากกว่า ดังนั้นถ้าในอนาคตทาง Apple จะเดินหน้าสานต่อ iPhone mini ขึ้นมาจริง ๆ เราทุกคนอาจจะอยู่กันในยุคที่โทรศัพท์มือถือมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับ iPad mini ถึงจะเป็นการกลับมาอย่างสมเกียรติ และพอจะมากู้หน้าแก้ต่างให้กับความล้มเหลวที่ผ่านมาในอดีตกันได้บ้าง

 

 

iPhone SE 3 สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ตอบโจทย์คนที่ชอบมือถือเครื่องเล็กด้วยขนาดของหน้าจอ 4.7 นิ้ว

 

 

ซึ่งในระหว่างนี้ คนที่ชอบใช้งานมือถือเครื่องเล็ก หน้าจอเล็ก อาจจะต้องหันกลับไปมอง iPhone SE 3 หรืออาจจะย้ายค่ายหนีไปเลยก็ได้ แต่ถ้าใครยังอยากรอ iPhone mini อย่างมีความหวังต่อไป ตอนนี้อาจจะต้องฝันสลายกันไปก่อน เพราะดูจากรูปการณ์แล้ว iPhone mini คงจะไม่ได้กลับมาในเร็ว ๆ นี้แน่ หรือถ้าพอจะมีโอกาสอยู่บ้างก็น่าจะเป็นรุ่น SE 4 ที่ก่อนหน้านี้ถูกจัดอยู่ในตระกูลจอเล็กเหมือนกัน แต่ก็เดาทาง Apple ไม่ได้อยู่ดีว่าจะเปิดตัวมาพร้อมกับขนาดของหน้าจอใหม่ที่ใหญ่ไปเลย หรือจะยังวนเวียนอยู่กับหน้าจอเล็กเหมือนเดิมต่อไป งานนี้เห็นทีต้องมาลุ้นกัน 

 

---

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

• Apple รักษ์โลก ใช้วัสดุรีไซเคิล เน้นพลังงานสะอาด ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอน 0% ในปี 2030
• Apple และ Samsung ผลัดกันครองแชมป์ ค่ายมือถือยอดนิยมปี 64-66

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : macrumors, Apple, The Verge และ 9to5 mac