ใช้หนี้ก่อนหรือออมก่อนดี? ไม่ต้องเลือก! “วิธีปลดหนี้+ออมเงิน” แบบเร็วที่สุด
โดย : น้องหลุมดำ
ใช้หนี้ ออมเงิน หรือลงทุน
📔 📌 อยากมีเงินใช้หนี้ แต่ไม่มีเงินใช้หนี้ทําไงดี? 😱
วิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ไม่ยาก แต่ต้องวางแผนให้ดีและมีประสิทธิภาพ!
ใช้หนี้ เป็นเรื่องยากค่ะ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าวิธีใช้หนี้ให้เร็วที่สุดก็คือมีเงินเท่าไรก็เอาไปโปะให้หมด ยิ่งหมดเร็วยิ่งดี 😂 เอ้าา ถ้าวันหนึ่งเราเกิดป่วยขึ้นมาเราจะเอาเงินที่ไหนไปใช้กัน จะเที่ยวไปยืมคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่อง ยิ่งช่วงที่เราได้เงินโบนัสก้อนโตมา คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ เราจะออมเงินไว้เพื่อสร้างดอกเบี้ย? เอาไปใช้หนี้ให้หมดจะได้ไม่มีภาระ? จะทางไหนก็ดูดีทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีนักวิชาการท่านไหนกำหนดเป็นกฏเหล็กตายตัวว่าว่ามีเงินเท่าไรก็ใช้หนี้ทั้งหมดนี่นา...ทางที่ดี เราควรใช้หนี้ควบคู่ไปกับการออมเงินค่ะ เพื่ออนาคตและเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึง
Highlight
1. สาเหตุที่ต้องมีเงินออมในระหว่างการใช้หนี้
2. เมื่อมีหนี้แล้วเราควรเตรียมตัวอย่างไร
3. วิธีการปลดหนี้
4. หยุดการสร้างหนี้เพิ่ม
5. ปรับแผนทางการเงินใหม่
6. รู้จักวิธีช่วยลดหนี้
7. ขอคำปรึกษาจากเจ้าหนี้ หรือเข้าไปคุยกับธนาคาร
8. ทางออกสำหรับคนเป็นหนี้บัตรเครดิต “โครงการคลินิกแก้หนี้”
9. สรุป
สาเหตุที่ต้องมีเงินออมในระหว่างการใช้หนี้
เมื่อเรามีหนี้พอกหาง เราก็มัวแต่พะวงหาเงินให้ได้มาก ๆ ในการใช้หนี้ใช่ไหมคะ จนลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเอง เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยของตัวเอง หรือคนในครอบครัว ซื้อของใช้ในกิจวัตรประจำวัน รถถูกชน นมลูกหมดกระทันหัน โอ้ยยย เยอะแยะค่ะ บอกเลย ดังนั้นแล้วเงินออมสำคัญมาก ๆ ค่ะ
เมื่อมีหนี้แล้วเราควรเตรียมตัวอย่างไร
เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตัวเองและหนี้ก่อน
1.แยกประเภทหนี้ให้ถูก ว่ามันคือหนี้ดี หรือหนี้ไม่ดี
เมื่อเราจดรายการหนี้สินทั้งหมดออกมาแล้ว ทำให้เรารู้จักพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองมากขึ้น รู้สาเหตุของการเกิดหนี้ว่ามาจากไหน เราควรแบ่งหนี้ออกเป็น 2 ส่วน คือ
หนี้ดี > หนี้ที่สร้างรายได้กลับมาให้เรา เช่น หนี้สินนั้นเกิดจากการซื้อทรัพย์สินเพื่อปล่อยเช่า จัดว่าเป็น “หนี้ดี” เพราะนอกจากเราได้ค่าเช่ามาผ่อนทรัพย์สินแล้ว มูลค่ายังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ทำให้ได้รับกำไรจากการขายนั่นเอง
หนี้ไม่ดี > หนี้ที่ไม่สร้างเงินกลับมาให้เรา เกิดจากการใช้เงินหรือรูดบัตรซื้อสิ่งของเพื่อความสุขต่าง ๆ เช่น ซื้อมือถือใหม่ กินก่อนผ่อนทีหลัง ช้อปปิ้ง เป็นต้น
หนี้ครอบครัว > เป็นหนี้ที่ไม่ได้เกิดจากเราแต่มาจากคนในครอบครัวของเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือคนใกล้ตัว ในที่นี้บางคนอาจจะคิดว่า เราที่เป็นลูกอาจจะต้องช่วยเหลือใช้หนี้แทนพ่อแม่ แต่ในกรณีที่แยกตัวออกมาแล้ว หนี้ของครอบครัวจะตามตัวเรามาด้วยไหม? ในกรณีนี้ หากหนี้เป็นของแม่ ลูกไม่ต้องรับผิดค่ะ เว้นแต่ไปค้ำประกัน หรือแม่ได้เสียชีวิตลง นั่นแหละปัญหามาตกอยู่ที่เราแทน
หากใครสงสัยเรื่องหนี้สินที่มาจากครอบครัว แล้วเราต้องแก้ไขหรือโดนอะไรไหม คลิปนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ
2. เข้าใจหนี้ของตนเอง
เราต้องเขียนสรุปหนี้สินทั้งหมดให้อยู่ในกระดาษแผ่นเดียว จะได้เห็นภาพรวมว่าหนี้ของเราเป็นแบบไหน เพื่อหาแนวทางการแก้ไข เช่น ในกรณีหนี้ระยะสั้น มีการผ่อนรายเดือนมากกว่ารายได้ ทำให้สภาพคล่องในระยะสั้นหายไป อาจจะปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการขยายเวลาชำระหนี้ออกไปให้นานขึ้น วิธีนี้จะทำให้เราผ่อนต่อเดือนลดลง รู้เวลาการผ่อนที่แน่นอน ใช้จ่ายคล่องขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยที่มากขึ้นด้วยนะคะ
วิธีการปลดหนี้
1. หยุดการสร้างหนี้เพิ่ม เราต้อง ลด ละ เลิก ให้ได้!
- หยุดการใช้บัตรเครดิต : บัตรเครดิตคือตัวดีในกาารสร้างหนี้เลยค่ะ เพราะมันใช้ง่าย ผ่อนง่าย มีโปรล่อตาล่อใจอยากรูด ยิ่งใครอยากได้อยากมีนะ โอโหหห เผลอแป๊บเดียวก็รูดเอา ๆ แล้วจ้า แล้วสุดท้ายเราเองนี่แหละจะเป็นหนี้บัตรเครดิต ถ้ายังไม่สามารถวางแผนการใช้เงินได้ แนะนำว่าอย่ามีค่ะ
- ห้ามยุ่งกับการกู้หนี้นอกระบบ : ต่อให้เงินขาดมือขนาดไหนก็อย่ากู้! เพราะเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่ากฎเกณฑ์ ทำให้หนี้สินที่เรามีอยู่เพิ่มมากขึ้น ในบางรายคือเกินกว่าความสามารถในการจ่าย แถมยังเสี่ยงอันตรายกับการถูกตามทวงหนี้ด้วยวิธีนอกกฎหมายอีกค่ะ
- เลิกหมุนเงินเพื่อโปะยอดหนี้ : วิธีหมุนเงินด้วยการยืมเงินคนอื่นมาใช้หนี้ หรือกดเงินจากบัตรเครดิตมาปลดหนี้ คือวิธีที่ไม่เวิร์กกก เพราะนอกจากจะไม่ทำให้หนี้เราน้อยลงแล้ว หนี้ยังจะพอกหางหมูเพิ่มขึ้นอีก เราควรวางแพลนการใช้เงินให้ดีดีกว่า
2. ปรับแผนทางการเงินใหม่
2.1 ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
วิธีที่ทำให้เรามีเงินเพิ่มเร็วที่สุดและทำได้ทันที คือ การประหยัด เริ่มจากจดรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่า มีรายจ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวันและรายจ่ายเพื่อความบันเทิงอะไรบ้าง แล้วตัดรายการที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไป เช่น ช้อปปิ้ง สังสรรค์กับเพื่อน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ท่องเที่ยวกลางคืน ฯลฯ เพื่อให้เหลือเฉพาะรายจ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น
2.2 วิธีการออมเงินเพื่อชําระหนี้อย่างมีระบบ ห้ามตุกติกต้องสม่ำเสมอ
- ต้องบริหารรายรับ-รายจ่ายให้เป็น
การรู้ค่าใช้จ่ายตัวเองตลอดเวลา จดทุกครั้งเมื่อใช้จ่ายเสร็จ และคุมว่าเราใช้ได้แค่วันละเท่านี้นะ ห้ามเกินนี้เด็ดขาด ถ้าทำได้ก็ช่วยคุมรายจ่ายได้ดีเลยล่ะค่ะ - ป้องกันการก่อหนี้ด้วยการเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ
- ออมเงิน 10% ตั้งแต่ได้เงินมา : โดยการโอนเข้าไปอีกบัญชีสำหรับเก็บเงินโดยเฉพาะ ไม่งั้นอาจจะเผลอหยิบมาใช้ก่อน มีช่วงหนึ่งที่เก็บแบงค์ห้าสิบจะฮอตมาก มันอาจจะดูไม่ช่วยอะไรเลย แต่พลังของแบงค์ห้าสิบนี้ก็สามารถช่วยให้เพื่อน ๆ มีเงินเก็บสิ้นปีถึงหลักหมื่นเลยนะคะ
- จำกัดการถอนเงินของตัวเอง : ใช้วิธีการถอนเงินมาก้อนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้าน แล้วดึงมาใช้รายวันจะสามารถเก็บเงินได้ง่ายกว่า แต่ไม่ใช่ว่าถอนมาทีเดียวหมดเกลี้ยงนาา แค่คิดก่อนว่าเราใช้เงินปกติวันละไม่เกินเท่าไหร แล้วคูณตามวันที่มาทำงาน ส่วนการถอนครั้งต่อไปควรเก็บไว้ใช้ในกรณีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ใช้เงินวันละไม่เกิน 200 บาท รวมค่ากินค่าเดินทางแล้ว เราทำงานเดือนละ 20 วัน จำนวนเงินที่ถอนได้จะเท่ากับ 200 x 20 = 4,000 บาท เห็นมั้ยคะว่าเราใช้เท่านี้เอง
3. การลงทุนที่เหมาะสมเพื่อช่วยปลดหนี้
มีคนที่รู้จักทำงานธนาคาร เขามักพูดเสมอว่า คนรวยไม่ได้รวยจากเงินออม แต่รวยจากเงินลงทุนนะ พอเราแก่ก็มีศักยภาพในการหาเงินน้อยลง เราจึงต้องใช้เงินทำงานแทน การลงทุนในที่นี้มีหลายประเภทให้เพื่อน ๆ ได้เลือกตามความเหมาะสม เพื่อปลดหนี้ต่าง ๆ มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ 😉
- ฝากประจำ การฝากประจำเป็นวิธีเริ่มต้นสำหรับใครที่อยากเริ่มออมแบบจริงจัง โดยฝากประจำมีทั้งระยะสั้น และระยาว แต่ที่น่าสนใจคือ เงินฝากประจำปลอดภาษี ที่สามารถละเว้นภาษีได้และไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15%
- กองทุนรวม คือ การระดมเงินลงทุนจากคนจำนวนมาก และนำไปจดทะเบียนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล เพื่อตั้งเป็น กองทุนขึ้นมา โดยเงินที่ได้รับนั้นจะมี “ผู้จัดการกองทุน” ที่เป็นมืออาชีพ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุน ให้ได้รับผลตอบแทนที่งอกเงย แล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ลงทุนแต่ละรายตามสัดส่วนที่ลงทุน ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เราเอาเงินไปฝากไว้ในกองทุน ที่จะมีผู้จัดการกองทุนเข้ามาดูแล ขึ้นอยู่กับนโยบายนั้น ๆ ว่าได้รับผลประโยชน์อย่างไร เช่น ได้รับเงินปันผลที่สูง หักลดภาษีได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมาการลงทุนในกองทุนได้รับความสนใจจากนักออมมือใหม่ทั่วประเทศ เพราะผลตอบแทนดี แถมความเสี่ยงไม่สูงจนเกินไป ต่างจากหุ้นที่ผันเปลี่ยนได้ทุกวินาทีค่ะ
- ซื้อสลากออมสิน สำหรับคนที่อยากออมเงิน นอกจากการเปิดบัญชีเงินฝากทั้งประจำและออมทรัพย์กับธนาคารแล้ว การซื้อสลากออมสินก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความสนใจค่ะ เพราะเราจะได้ผลตอบแทนจากการถูกรางวัลที่มีมาให้ลุ้นกันทุกเดือนตลอดระยะเวลาที่ฝากด้วย แถมยังได้รับดอกเบี้ยอีก แนะนำสำหรับคนที่สนใจ ครั้งหนึ่งเคยไปซื้อ พนักงานแนะนำให้ซื้อแสนบาทขึ้นค่ะ เพื่อที่โอกาสในการถูกสลากจะมียิ่งขึ้น ต่ำ ๆ ทุกเดือนได้ 300-600 บาท ค่ะ พอรวม ๆ แล้วครบอายุสลาก 3 ปี เราได้กี่บาทกัน ลองคิดดู!
รีวิวจริง เทียบผลตอบแทน ซื้อสลากออมสินดิจิตอล 5 แสน ผ่านไป 1 ปีได้ผลตอบแทนเท่าไหร่
4. รู้จักวิธีช่วยลดหนี้
ถ้าพูดถึงหนี้สิน แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับดอกเบี้ย ถ้าปล่อยไว้เรื่อย ๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เราจะขอแนะนำ วิธีการลดภาระดอกเบี้ยจาก การรีไฟแนนซ์ (Refinance) เป็นวิธีการชำระเงินกู้เดิม ด้วยเงินกู้ใหม่ และใช้สินทรัพย์เดิมเป็นหลักประกัน โดยสามารถทำได้จากการขอกู้เงินจากสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ เช่น คนมีบ้านอาจจะลดหนี้ด้วย การรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งเป็นวิธีการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพิ่มระยะเวลาการกู้ และจ่ายค่างวดในการผ่อนบ้านน้อยลงกว่าเดิม ทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นได้ หรือนำไปหมุนเวียนในธุรกิจอื่น ๆ ได้อีก
5. ขอคำปรึกษาจากเจ้าหนี้ หรือเข้าไปคุยกับธนาคาร
ในเมื่อปัญหามันมาแล้ว ก็สู้มันค่ะ! เจ้าหนี้ก็อยากได้เงินคืน ถ้าไปขอคำปรึกษาจากเจ้าหนี้ให้ช่วยแก้ปัญหาก็อาจจะหาทางออกร่วมกันได้ แต่เราควรเตรียมตัวด้วยการหาข้อมูลไปต่อรอง เพื่อที่เราจะได้รับประโยชน์จากการเจรจาให้ได้มากที่สุด หรือการเลือกเข้าไปคุยกับธนาคารเพื่อขอประนอมหนี้ และทำการตกลงกับทางธนาคารในการปลดหนี้ที่มีทั้งหมด เช่น การขอปรับลดดอกเบี้ยชั่วคราว, การขอจ่ายแค่ดอกเบี้ยชั่วคราว, การขอหยุดชำระหนี้ชั่วคราว ฯลฯ ซึ่งการพิจารณาประนอมหนี้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับทางธนาคาร ว่าจะเริ่มต้นปรับโครงสร้างหนี้อย่างไรได้บ้าง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้น
2 วิธี ปลดหนี้ ทันที - วิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุด สำหรับคนหนี้สินเยอะ
ทางออกสำหรับคนเป็นหนี้บัตรเครดิต "โครงการคลินิกแก้หนี้"
“โครงการคลินิกแก้หนี้” สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้ว 3,194 ราย ครอบคลุมบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดกว่า 13,000 ใบ ซึ่งมีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 3 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 234,843 บาท ในจำนวนนี้ 72 รายชำระหนี้หมดแล้ว สามารถหลุดจากวงจรหนี้บัตร ซึ่งโครงการนี้ลุยแก้หนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยมาจากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM หรือ บสส.) และ ธปท. ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ เข้าสู่ “ระยะที่ 3” โดยขยายขอบเขตให้สามารถแก้ไขหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้รายเดียว (เดิมต้องมีเจ้าหนี้ 2 รายขึ้นไป) และหนี้บัตรที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษา คือคดีแดง และคดีดำนั้น ก็สามารถเข้าโครงการได้
ทั้งนี้ บสส. ได้ระบุว่า การเข้าร่วมโครงการไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และประโยชน์ที่จะได้รับ ก็คือ ชำระเฉพาะเงินต้นค้างชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรนไม่เกิน 7% ตามช่วงรายได้ โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 10 ปี ซึ่ง เพื่อน ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถ้าเพื่อน ๆ เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ สร้างนิสัยการออมที่ดี และใช้จ่ายอย่างมีสติ ไม่ฟุ่มเฟือยตาลายกับของ Sale ต่างนานา ก็จะช่วยให้แผนการเงินเราดีขึ้น จนวันหนึ่งเราจะสามารถปลดหนี้ได้ พร้อมกับมีเงินเก็บพอเพียงในอนาคตอีกด้วยค่ะ เป็นหนี้ไม่เป็นไร วิธีการแก้ไขปัญหาหนี้นั้นไม่ยากและทำได้เร็ว แต่อยู่ที่ตัวเพื่อน ๆ นี่แหละค่ะ สู้ ๆ ✌
💸 สรุปก่อนออมเงินใช้หนี้ 💸
- ควรรู้จักหนี้ของตัวเองให้ชัดเจน ว่าเป็นหนี้ประเภทไหนจะได้วางแพลนการใช้เงินถูก
- ไม่ควรทุ่มเงินที่มีทั้งหมดกับการใช้หนี้ให้หมดไปเร็ว ๆ ควรใช้หนี้ควบคู่กับการออม เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เราจะไม่มีเงินเก็บ
- การปรึกษาธนาคารหรือเจ้าหนี้คือสิ่งที่ควรทำ เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งสองฝ่ายค่ะ
โดย น้องหลุมดำ
I'm coming when food's coming
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ