เปิดที่มาคืนหลอนวันปล่อยผี "ฮาโลวีน" และว่าด้วยเรื่องทำไมเราถึงกลัวผีจนขนหัวลุก ?

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

Tricks Or Treats...🎃

 

เทศกาล Halloween หรือเทศกาลปล่อยผีก็ได้วนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเทศกาลของฝั่งตะวันตกที่คนไทยเราค่อนข้างชื่นชอบ โดยจะมีการจัดปาร์ตี้หรือแต่งตัวแฟนซีเป็นภูติ ผี เพื่อร่วมฉลองค่ำคืนแห่งวันปล่อยผี แต่เพื่อนๆ รู้กันมั้ยว่า แท้จริงแล้วจุดเริ่มต้นของวันปล่อยผี คืนวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี มีที่มาที่ไปแบบหลอนๆ กว่าที่หลายๆ คิด ! 

 

---

 

🎃 ที่มาของเทศกาล Halloween คืนหลอนวันปล่อยผี

 

 

วันฮาโลวีนเป็นเทศกาลที่มักเฉลิมฉลองกันในประเทศแถบอเมริกาและแถบยุโรป มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลของชาวเซลติกโบราณ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นสุดฤดูร้อนของปี และนอกจากนี้ชาวเซลติกยังเรียกวันนี้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความตาย เพราะมีความเชื่อกันว่าโลกปัจจุบันและโลกแห่งความตายได้โคจรมาอยู่ใกล้กันมากที่สุดในรอบปีด้วย ทำให้เหล่าวิญญาณถูกปลดปล่อยจากโลกของความตายมายังโลกปัจจุบันได้

 

ถ้าหากเป็นวิญญาณของบรรพบุรุษก็ได้รับการต้อนรับกลับบ้าน แต่ถ้าหากเป็นวิญญาณเร่ร่อนหรือวิญญาณร้ายจะต้องถูกขับไล่ และวิธีที่คนโบราณเชื่อว่าจะสามารถขับไล่ผีร้ายได้นั้นจะต้องแต่งตัวและแต่งหน้าเป็นผี และยังเป็นการช่วยอำพรางตัวจากภูติผีเพื่อป้องกันอันตรายได้อีกด้วย จะว่าไปก็คล้ายๆ กับการแต่งตัวเป็นผู้หญิงเพื่อหลอกผีแม่ม้ายของไทยเราเหมือนกันนะ 

 

 

สำหรับเทศกาลฮาโลวีนในปัจจุบันนับว่าเป็นเทศกาลที่หลายคนรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่เฝ้ารอการละเล่น Tricks or Treats โดยเด็กๆ จะแต่งตัวแฟนซีเป็น ภูติ ผี ปีศาจ หรือแม่มดพ่อหมด พร้อมเดินถือฟักทองแกะสลักหรือ Jack o’ Lantern ไปเคาะประตูตามบ้านต่างๆ พร้อมพูดว่า Tricks or Treats เพื่อขอขนมหรือลูกกวาดนั่นเอง

 

ถ้าหากเจ้าของบ้านพูดว่า Tricks แสดงว่าเจ้าของบ้านยอมแพ้ และจะมอบลูกอมให้เด็กๆ อย่างง่ายดาย

แต่ถ้าหากบอกว่า

Treats นั่นหมายความว่าเด็กๆ ต้องหาหนทางหลอกล่อให้เจ้าของบ้านใจอ่อนยอมมอบลูกอมให้

 

แต่สุดท้ายเหล่าผู้ใหญ่ต่างก็ต้องยอมแพ้ให้กับความน่ารักของเหล่าปีศาจตัวน้อยกันจนอดไม่ได้ที่ต้องแจกลูกอมให้อยู่ดี และนอกจากเทศกาลฮาโลวีนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว ยังมีเทศกาลแห่งความตาย หรือเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับภูติ ผี ปีศาจอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายเทศกาลทั่วโลกเลย 

 

 

👻 Day of the Dead

 

เทศกาลวันแห่งความตาย ประเพณีเก่าแก่ของเม็กซิโกจัดขึ้นเพื่อขอพรและรำลึกถึงเพื่อน คนรักหรือบุคคลในครอบครัวที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเทศกาลนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหรือน่ากลัวเลย แต่เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีการเฉลิมฉลองและจัดขบวนพาเหรดรวมไปถึงการตกแต่งหลุมฝังศพของผู้ตายที่เต็มไปด้วยสีสัน ซึ่งจะให้ความแตกต่างจากเทศกาลฮาโลวีนที่จะมาพร้อมกับความสยองขวัญและน่ากลัวซะมากกว่า 

 

 

👻 เทศกาลโยไก

 

เทศกาลที่เกี่ยวกับภูติ ผี ปีศาจของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโยไกนั้นมีความแตกต่างจากวิญญาณทั่วไป เพราะมีรูปร่างและมีหลายชนิด ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าโยไกบางชนิดก็พาความโชคร้ายมาให้กับผู้ที่พบเห็น หรือบางตัวก็มาพร้อมความโชคดี ซึ่งโยไกที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยหรือรู้จักก็อย่างเช่น ตัวกัปปะ เป็นต้น สำหรับไฮไลท์ของเทศกาลนี้จะมีการจัดขบวนพาเหรด และแต่งกายเป็นโยไกรูปร่างต่างๆ โดยจะจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี  

 

 

👻 เทศกาลผีตาโขน

 

หรือที่รู้จักอีกชื่อว่างานบุญผะเหวด นับเป็นเทศกาลงานบุญใหญ่ประจำปีของชาวด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน 7 ของทุกปี เทศกาลนี้เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อพระเวสสันดรและนางมัทรีต้องเดินทางออกจากป่ากลับเข้าเมือง ทำให้เหล่าภูติ ผีในป่าเกิดความอาลัยรัก จึงแฝงตัวมากับกลุ่มชาวบ้านเพื่อมาส่งทั้งสองพระองค์กลับเข้าเมือง และเดิมทีจะเรียกผีเหล่านี้ว่า ผีตามคน และเกิดการเพี้ยนเสียงมาเป็นผีตาโขนในปัจจุบันนั่นเอง

 

---

 

👻 ว่ากันด้วยเรื่อง ทำไมคนเราถึงกลัว "ผี"

 

แค่คำว่า "ผี"  ก็ทำเอาหลายคนขนลุกซู่ได้แล้ว แต่น่าแปลกที่ผีหรือวิญญาณต่างๆ ที่ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่ามีอยู่จริง สามารถทำให้เรากลัว หรือหวาดระแวงได้ยังไงกันนะ

 

 

ความกลัวมักจะเกิดจากความเชื่อหรือจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ซึ่งการกลัวผีนั้นอาจจะพัฒนามาจากการที่ในสมัยก่อนมนุษย์ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ไม่ใช่เรื่องดีได้ว่าเกิดจากอะไร จึงมีความเชื่อกันว่ามนุษย์อาจทำอะไรซักอย่างให้ผีสางเทวดาเกิดความพิโรธ จนต้องลงโทษมนุษย์ให้เจอแต่เรื่องที่ไม่ดี จึงทำให้เกิดความกลัวต่อสิ่งลี้ลับได้ 

 

นอกจากนี้ ในทางจิตวิทยา การกลัวผีเป็นจัดเป็น การกลัวสิ่งที่ไม่มีตัวตน ซึ่งความกลัวประเภทนี้เกิดจากการเรียนรู้ ถ้าหากไม่มีการเรียนรู้ก็จะไม่เกิดความกลัว ซึ่งเราอาจจะงงว่าเอ๊ะ! แล้วเราไปเรียนรู้การกลัวผีจากไหนกันล่ะ ? ก็แน่นอนว่าจากเรื่องเล่า ตำนาน จากประสบการณ์ของคนอื่น หรือได้รับรู้ข้อมูลเชิงลบเกี่ยวกับผี ยกตัวอย่างเช่น การที่พ่อแม่ชอบพูดกรอกหูตอนเด็กๆ เป็นประจำว่าถ้าไม่เชื่อฟังพ่อแม่จะถูกผีมาเอาตัวไป ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าผีหน้าตาแบบไหน รู้แค่ว่าจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วล่ะ

 

---

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยสถานการณ์ในตอนนี้อาจทำให้เราไม่สามารถออกไปปาร์ตี้ฉลองคืนปล่อยผีเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมาได้ แต่ก็ไม่ต้องเสียใจกันไป ถ้าหากอยากเพิ่มความหลอนในช่วงฮาโลวีนแบบนี้ เราขอแนะนำให้ฟังเรื่องผีเด็ดๆ จากคุณเจน นิวซีแลนด์ นักเล่าเรื่องผีขาประจำแห่ง The Ghost Radio หรือจะนั่งดูจักรวาลหนังผีสุดสยองขวัญแบบมาราธอน รับรองว่ามีขนหัวลุกกันอย่างแน่นอน ! 

 

ขอบคุณที่มาจาก : arts.hcu.ac.th, springnews.co.th, wikipedia.org, hungerplus.org