ราคาทองคำสูงสุดในรอบ 7 ปี แห่ลงทุนหนีความเสี่ยงโควิด-19
โดย : MilD
ราคาทองคำภายในประเทศปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ขายออกทะลุ 25,000 บาท
ตามราคาซื้อขายในตลาดโลก สะท้อนความกังวลของนักลงทุน
สาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก
เลยหันมาลงทุนสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำแทน
Highlight ของราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี
• ราคาทองคำในประเทศ ขายออกทะลุบาทละ 25,000.- ถือว่าเป็นราคาที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลกก็สูงสุดในรอบหลายปีเช่นกัน
• ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างไปทั่วโลก รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกันทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
• ทองคำถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ดีตัวนึงเลย เพราะเมื่อสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลงหรือเกิดปัญหาที่ส่งผลแล้ว ราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นสวนทางกับดัชนีอื่นๆ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วงสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ ดอกเบี้ยก็ลดต่ำซะเหลือเกิน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ก็ยังต้องมาเจอกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงประเทศไทยโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาล เราจะเห็นว่าดัชนีทางเศรษฐกิจหลายตัวมีแนวโน้มทางลบ แต่พอหันกลับมามองที่ราคาทองคำกลับพุ่งขึ้นสวนทางอย่างชัดเจน
ราคาทองคำซื้อขายในประเทศ ณ วันที่ 8 ม.ค. 63
• ทองคำแท่ง : รับซื้อบาทละ 22,350.- | ขายออกบาทละ 22,450.-
• ทองรูปพรรณ : รับซื้อบาทละ 21,951.68.- | ขายออกบาทละ 22,950.-
ราคาทองคำซื้อขายในประเทศ ณ วันที่ 24 ก.พ. 63
• ทองคำแท่ง : รับซื้อบาทละ 25,150.- | ขายออกบาทละ 25,250.-
• ทองรูปพรรณ : รับซื้อบาทละ 24,695.64.- | ขายออกบาทละ 25,750.-
ราคาทองคำซื้อขายในประเทศ ณ วันที่ 25 ก.พ. 63 เวลา 12.00 น.
• ทองคำแท่ง : รับซื้อบาทละ 24,700.- | ขายออกบาทละ 24,800.-
• ทองรูปพรรณ : รับซื้อบาทละ 24,256.60.- | ขายออกบาทละ 25,300.-
เราจะเห็นว่าราคาทองคำเริ่มทรงตัวและปรับฐานลดลงมาเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะขายเพื่อทำกำไรเมื่อราคาปรับสูงขึ้นมากแล้ว แต่ถ้ามองย้อนไปตั้งแต่ช่วงต้นปี ราคาทองคำปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 10% เรื่องนี้ต้องมีสาเหตุว่าทำไมราคาทองถึงขึ้นไม่หยุดเลยอ่าาา
อะไรเป็นปัจจัยทำให้ราคาทองคำในประเทศสูงขึ้น?
จากข้อมูลของราคาทองคำซื้อขายในประเทศในวันที่ 24 ก.พ. 63 จะพบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้นภายในวันเดียวถึง 750 บาท ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก หากลองมองไปที่สาเหตุว่าทำไมราคาทองคำถึงทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี แอดขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนให้เข้าใจกันง่ายๆ เลยนะ
• ปัจจัยนอกประเทศ นั่นก็คือราคาทองคำที่ทำการซื้อขายในตลาดโลก เป็นตัวสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อนักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นต่อสภาะเศรษฐกิจแล้ว จะหันไปลงทุนในทองคำแทน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามหลัก Demand-Supply นั่นเอง ซึ่งเศรษฐกิจโลกตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหวั่นไหวต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คาดว่าจะทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจถดถอยอย่างชัดเจนเลยเชียวล่ะ
จากกราฟจะเห็นว่าราคาทองคำในตลาดโลกปรับสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 อยู่ที่ระดับประมาณ 1,500$ ต่อออนซ์ มาแตะระดับเกือบ 1,700$ ต่อออนซ์ในช่วงปลายเดือน ก.พ. 63 และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อีกด้วยนะ
ถ้าลองเปรียบเทียบราคาทองคำในตลาดโลกช่วงปี 2020 ย้อนกลับไป 10 ปีก่อนหน้าจะพบว่าในปี 2011 ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเกือบ 1,900$ ต่อออนซ์ ในช่วงนั้นถ้ายังจำกันได้เกิดวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกา ทำให้เศรษฐกิจในตอนนั้นถดถอยอย่างชัดเจน ทำให้ทรัพย์สินที่ปลอดภัยอย่างทองคำพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงมาก
• ปัจจัยในประเทศ ส่วนอีกสาเหตุก็มาจาก "ค่าเงินบาท" เพราะเมื่อเราต้องแปลงราคาทองคำในตลาดโลกมาเป็นราคาในประเทศ ก็ต้องอ้างอิงกับค่าเงินบาทในช่วงเวลานั้น ซึ่งในช่วงนี้ค่าเงินบาทก็เริ่มอ่อนค่าลงมาตั้งแต่ต้นปีด้วย ยิ่งทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมไปอีก สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนก็มีอยู่หลายตัว แต่ที่ชัดเจนจะเป็นเรื่อง ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://th.exchange-rates.org/
ราคาทองคำพุ่งขนาดนี้ แล้วเราควรจะทำยังไง?
เมื่อเราเห็นว่าราคาทองคำปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หลายคนคงมีแพลนจะลงทุนในทองคำเพิ่ม เพราะถ้าเราซื้อราคาต่ำๆ แล้วไปขายที่ราคาสูงๆ ส่วนต่างที่ได้ก็จะเป็นกำไรเน้นๆ เข้ากระเป๋าเลย แต่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเราก็ต้องยอมรับให้ได้ด้วยนะ เพราะมันเสี่ยงสูงมากจ้า เกิดซื้อแล้วราคาเกิดลดฮวบขึ้นมา ก็ขาดทุนทันทีเลยนะจ๊ะ
การลงทุนในทองคำโดยตรง ก็จะต้องมีความรู้และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ดี แต่ถ้าเรารับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถไปลงทุนในกองทุนรวมแทนก็ได้ โดยกองทุนแต่ละประเภทก็จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่แตกต่างกันไป ไม่ใช่ว่าซื้อกองทุนจะไม่เสี่ยงเลย แต่ก็เสี่ยงน้อยกว่าลงทุนเอง เพราะเค้าจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลอยู่ว่าควรจะทำอะไรในช่วงเวลานั้นๆ แต่ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจทุกครั้งด้วยเน้อออ~
ถ้าหากใครได้ซื้อทองคำตุนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็ถือเป็นโชคดีไม่น้อย เอามาขายคืนตอนนี้รับกำไรไปจุกๆ เลย แต่อยู่ที่การคาดการณ์ด้วยว่าอนาคตราคาจะปรับสูงขึ้นอีกมั้ย อาจจะลองถือต่อไปก่อนก็ได้ ตัวเราไหวแค่ไหนก็ลองดูจ้า
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ