Xiaomi แบรนด์จีนระดับพระกาฬ ที่มีสินค้าครอบจักรวาลตั้งแต่ที่ตัดเล็บยันรถยนต์ไฟฟ้า
โดย : Xyanyde
หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักชื่อของ Xiaomi (เสียวหมี่) ในเรื่องมือถือมาก่อน เพราะแรก ๆ เค้าเด่นดังสุด ๆ ในเรื่องมือถือราคาเป็นมิตรแต่มีสเปคจัดเต็ม และหลังจากนั้นแบรนด์นี้ก็เริ่มขยายตลาดออกไปเรื่อย ๆ ด้วยสินค้าหลากหลายแบบครอบจักรวาล จนคนตั้งสโลแกนให้ว่า "พระเจ้าสร้างโลก ที่เหลือ Xiaomi สร้าง" เพราะเค้ามีสินค้าแบบจิปาถะตั้งแต่ของใช้จุกจิก, เครื่องใช้ไฟฟ้า, มือถือ และกำลังจะมีรถยนต์ไฟฟ้าออกมาเร็ว ๆ นี้ด้วย...ว่าแต่แบรนด์นี้เค้ามีที่มายังไง ทำไมถึงกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าระดับล้านล้านบาทได้ในเวลาไม่นาน ?
การก่อตั้งบริษัทเสียวหมี่
Xiaomi หรือชื่อย่อ Mi (เสียวหมี่ แปลว่า เมล็ดข้าว) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 ในปักกิ่ง โดยมีผู้ก่อตั้งคือนาย Lei Jun (คนนี้จะเห็นหน้าบ่อย ๆ เวลามีงานเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่) ที่ตอนนี้มีอายุแค่ 40 ปี แต่รวยเละระดับอภิมหาเศรษฐีไปแล้ว และยังมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งอาวุโสอีก 6 คน หลังจากนั้นไม่นานทางบริษัทก็เปิดตัวซอฟท์แวร์สำรับมือถือ Android ในชื่อ MIUI เมื่อเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน และได้รับการระดมทุนในรอบ Series A สูงถึงกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาและผลิตสมาร์ทโฟนต่อไป
จากนั้น ในเดือนสิงหาคม 2011 ค่าย Xiaomi ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบ Android ที่ครอบด้วยระบบ MIUI รุ่นแรกอย่าง Mi 1 ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งการที่ Lei Jun อยากเปิดบริษัทผลิตสมาร์ทโฟนขึ้นมาก็เพราะเค้าเห็นว่าในช่วงนั้นมือถือของแต่ละค่ายไม่มีรุ่นไหนที่ถูกใจเค้าเลย ทั้งเรื่องสเปค หน้าตา และราคา...ก็เลยผลิตเองซะ หมดเรื่องหมดราว
เน้นขายเยอะ ไม่เน้นกำไร
ในช่วงแรก ๆ ที่มือถือของ Xiaomi ซึ่งใช้ชื่อว่า Mi เริ่มโด่งดังขึ้นมาได้ก็เพราะเป็นมือถือที่มีสเปคครบครัน แต่มาในราคาเบา ๆ จนค่ายอื่นมองค้อนขวับ เพราะว่าตอนนั้น Xiaomi วางการตลาดเอาไว้ว่าจะตั้งราคามือถือให้แค่พอคุ้มทุน แล้วไปหากำไรจากทางอื่นแทน ซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ เพราะชื่อแบรนด์ของมือถือ Xiaomi ก็ติดตลาดในจีนได้ในเวลาไม่นาน และก็เริ่มขยายตลาดออกไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในฝั่งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างอินเดียเรียกว่าตีกระจุยเลย ส่วนตลาดใหญ่ในบ้านตัวเองก็แน่นอนว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่แล้ว
ผันตัวเข้าสู่ตลาดมือถือพรีเมียม
และเมื่อปี 2021 ทาง Xiaomi ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนทิศทางของแผนกสมาร์ทโฟนว่า จะเลิกใช้ชื่อ Mi แล้วเปลี่ยนมาใช้ชื่อเต็มว่า Xiaomi แทน นอกจากนี้ยังจะเบนเข็มให้มือถือของตัวเองกลายเป็นมือถือระดับ Premium เพื่อแข่งกับ Samsung และ Apple ด้วย
Xiaomi 14 Series มือถือระดับพรีเมียม
ทาง Xiaomi ก็ยังจะผลิตมือถือราคาคุ้ม ๆ อยู่เช่นเคย แต่จะมาในชื่อของแบรนด์ลูกที่แยกออกมาอีกที อย่าง Redmi กับ POCO ซึ่งทั้งคู่ก็ยังได้รับความนิยมมาก ๆ ด้วย
Redmi A2 Plus มือถือราคาประหยัด
ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
บอกเลยว่า Xiaomi เอาคำเปรยนี้มาใช้ได้เหมาะสุด ๆ เพราะนอกจากขายมือถือแล้ว เมื่อปี 2019 ทางบริษัทก็เริ่มรุกตลาดฝั่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ฝั่งเทคโนโลยี ด้วยสินค้าจุกจิกทั้ง กระเป๋า, หมวก, แว่น, ที่ตัดเล็บ, ล่ม, ชุดไขควง และอื่น ๆ อีกเพียบบบ
ส่วนตลาดฝั่งเทคโนโลยีก็ไม่ได้ทิ้ง เพราะพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะก็มีเพียบ ทั้ง สมาร์ททีวี, ลำโพงไร้สาย, หูฟังไร้สาย, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น, พัดลมอัจฉริยะ, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า, จักรยานไฟฟ้า, ตู้ปลาอัจฉริยะ ฯลฯ (บอกกันทั้งอาทิตย์ก็ไม่หมด) จนเป็นที่มาของสโลแกนที่แฟน ๆ Xiaomi ตั้งให้ว่า "พระเจ้าสร้างโลก ที่เหลือ Xiaomi สร้าง" นี่แหละ นอกจากนี้ในหมู่แฟน ๆ เสียวหมี่ของไทยยังมีคำแซวว่า "หมี่งอก" ด้วยนะ ความหมายของมันคือ พอซื้อสินค้าของเสียวหมี่มาชิ้นนึงแล้วจะติดใจในฟีเจอร์และความคุ้มค่าจนต้องมีชิ้นอื่น ๆ ตามมาอีกเพียบนั่นเอง
แบรนด์ลูกเพียบ
และด้วยความที่ Xiaomi มีสินค้ามากมายหลายอย่าง ก็เลยต้องแยกออกมาเป็นแบรนด์ลูกซะ เพื่อลูกค้าจะได้ไม่งงว่าถ้าอยากได้สินค้าประเภทนี้ก็ต้องซื้อยี่ห้อนี้นะ รวมถึง Xiaomi เป็นบริษัทระดับยักษ์เงินทุนมหาศาล ก็เลยไปไล่ซื้อบริษัทอื่น ๆ ที่มีสินค้าน่าสนใจมาด้วย อย่างเช่นบริษัท Ninebot ผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของจีน ที่มีนายทุนรายใหญ่อย่าง Xiaomi หนุนหลัง ได้เข้าซื้อบริษัทสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของอเมริกาอย่าง Segway ทำให้หมดคู่แข่งไปได้หนึ่งราย (เป็นไงล่ะ...)
Xiaomi และแบรนด์ลูกของเค้า...
สำหรับแบรนด์ลูกของ Xiaomi เอาจริง ๆ คือมีเกือบ 100 แบรนด์เลยนะ แต่จะยกตัวอย่างมาให้เฉพาะที่เรา ๆ ชาวไทยน่าจะเคยเห็นกัน หรือรู้จักกันแล้ว แต่อาจไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นแบรนด์ลูกของ Xiaomi
- Redmi : มือถือ
- POCO : มือถือ
- Roborock : เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ
- Segway-Ninebot : สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า
- ZMI : อุปกรณ์เสริมมือถือ
- Yeelight : ไฟอัจฉริยะ
- 70mai : กล้องหน้ารถ
- Mijia : สินค้าจิปาถะ หมวก, กระเป๋า, ที่ตัดเล็บ, ไขควง ฯลฯ
- Dreame : เครื่องดูดฝุ่น / หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- Deerma : เครื่องดูดฝุ่น / หุ่นยนต์ดูดฝุ่น / เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่น ๆ
- XGIMI : โปรเจ็คเตอร์
- Amazfit : สมาร์ทวอทช์
เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100%
และเมื่อปี 2021 Xiaomi ก็สร้างเสียงกรี๊ดกร๊าดให้แฟน ๆ มากขึ้นไปอีก เพราะเสียวหมี่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า Xiaomi EV Inc. ก็ตามชื่อเลย เป็นบริษัทที่พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพในจีนอย่าง DeepMotion ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีในด้านรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น
และตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Xiaomi EV ก็เริ่มเอารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองออกมาทดสอบระบบขับอัตโนมัติ Xiaomi Pilot วิ่งตามถนนจริงแล้ว โดยคาดว่ารถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวน่าจะเปิดตัวในปี 2024 นี้แหละ
Xiaomi บริษัทอายุน้อยที่สุดในอันดับ Fortune Global 500
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มีนักวิเคราะห์ให้ฉายา Xiaomi ว่าเป็น "Apple of China" หรือ บริษัทแอปเปิ้ลเวอร์ชันจีน เพราะด้วยความที่เป็นบริษัทหน้าใหม่ที่พึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 แต่ปัจจุบันขึ้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับต้น ๆ ของโลกได้แล้ว โดยล่าสุดอยู่ที่อันดับ 3 เป็นรองแค่ Samsung กับ Apple เท่านั้น (แต่ยอดขายกับส่วนแบ่งการตลาดยังถือว่าทิ้งห่างกับ 2 ยักษ์ใหญ่นั้นอยู่พอสมควรเลย)
เมื่อปี 2018 Xiaomi ยังเป็นบริษัทอายุน้อยที่สุดในโลกที่เข้ามาติดอันดับ Fortune Global 500 อยู่ที่อันดับ 468 ซึ่งอันดับดังกล่าวเป็นการจัดอันดับบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก จำนวน 500 แห่ง เพื่อเผยแพร่ในนิตยสาร Fortune โดยวัดอันดับจากรายได้ และขนาดขององค์กรในแต่ละปี โดยในปี 2022 แบรนด์ Xiaomi ก็เข้ามาติดอยู่ที่อันดับ 266 เรียกว่าขึ้นเอา ๆ ไม่หยุดเลย
ต้องมารอดูกันต่อไปว่า Xiaomi จะเติบโตไปได้อีกขนาดไหน และจะขึ้นมาเขย่าบัลลังก์เจ้าตลาดสมาร์ทโฟน Samsung กับ Apple ได้รึเปล่า รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่นานนี้จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาด EV ได้แค่ไหนด้วย
ที่มา : https://ppro.pro/3SrjAaf, https://ppro.pro/3QlQmXH, https://ppro.pro/45T0kWo, https://ppro.pro/3MpyPNk
โดย Xyanyde
เรื่องเทคโนโลยี หรืออะไรที่มันล้ำ ๆ ขอให้บอกเท้อออ
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ