เปิดประสบการณ์ใหม่ของการฟังเสียง กับ 10 ลำโพง / หูฟัง แนะนำจากเว็บ Mercular
โดย : waranggg
เรื่องของการดูหนัง-ฟังเพลง ถ้าเราจะรับชมรับฟังแบบให้ได้อรรถรสมากที่สุด บอกเลยว่าเรื่องของเสียงสำคัญมาก! เพราะฉะนั้นการมีอุปกรณ์ฟังเสียงคุณภาพดีๆ ซักชิ้นติดบ้านไว้เนี่ยแหละ จะช่วยให้เราเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงและภาพยนตร์ได้แบบเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น
และถ้าหากว่าเพื่อนๆ กำลังมองหาลำโพง, หูฟัง หรือ Sound Bar แบบดีๆ ไว้สำหรับดูหนังฟังเพลงกันอยู่ บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว! เปย์เป้ขอรับหน้าที่ป้ายยาให้เพื่อนๆ เองจ้า~
รวม ลำโพง / หูฟัง น่าตำ จากเว็บ Mercular
มีทุกระดับราคา ตั้งแต่หลักร้อย-หลักหมื่น !
🔊 ลำโพง Klipsch The Three With Google Assistant Bluetooth Speaker
ลำโพงไร้สายจากแบรนด์ Klipsch รูปทรงและดีไซน์แบบคลาสสิกผสมผสานกับความโมเดิร์น ไม่ว่าจะหยิบไปตั้งตรงไหน ก็ช่วยเพิ่มความเก๋ให้กับห้องนั้นได้เป็นอย่างดี ลำโพงรุ่นนี้มาพร้อมกับ Google Assistant ที่สามารถสั่งงานโดยการใช้เสียง โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ และสามารถตั้งค่าการใช้งานง่ายๆ ผ่าน Google Home ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Room ด้วย
ในส่วนของคุณภาพเสียงก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดี เสียงคมชัดทุกระดับประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องหรือเสียงดนตรี เมื่อเพลงขึ้นเสียงสูงเสียงที่ได้ยินผ่านทางลำโพงไม่แหลมจนบาดหูเกินไป สำหรับเสียงเบสก็ให้เสียงที่หนักแน่นและมีมิติ รับรองว่าเปิดเพลงฟังด้วยลำโพงรุ่นนี้ไม่มีผิดหวัง ได้อรรถรสถึงใจแน่นอน
สรุปคุณสมบัติ
- ลำโพงไร้สายเชื่อมต่อกับบลูทูธ
- สั่งงานผ่านเสียงด้วย Google Assistant
- ตั้งค่าการใช้งานผ่าน Google Home
- เสียงใสแต่ไม่บาดหู เสียงเบสนุ่ม มีมิติ
- ขนาด 34.82 x 17.78 x 20.3 เซนติเมตร
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 ลำโพง Klipsch Promedia 2.1 Bluetooth Speaker
Klipsch Promedia 2.1 เป็นลำโพงสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่เปย์เป้อยากแนะนำ เป็นลำโพงรุ่นที่ Klipsch นำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ใส่คุณสมบัติเจ๋งๆ ไว้เพียบ เพื่อการใช้งานที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะการปรับเรื่องคุณภาพเสียงให้กระหึ่มกว่าเดิม และยังปรับปรุงเรื่องการเชื่อมต่อให้ทันสมัยมากขึ้นด้วย
สำหรับเรื่องคุณภาพเสียงก็คือไว้ใจ Klipsch แม้จะเป็นเพียงลำโพง 2.1 แต่คุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดี ไม่แพ้กับลำโพงบ้านเลย นอกจากนี้ภายในยังมี Amp ที่ทำหน้าที่ในการขยายเสียง ทั้งเสียงกลาง เสียงต่ำและเสียงเบสกระหึ่มเร้าใจอย่างแน่นอน เป็นลำโพง 2.1 ที่ราคาไม่ได้สูงมาก แต่ให้เสียงเทียบเท่าลำโพงราคาแพงได้เลย
สรุปคุณสมบัติ
- ลำโพงแบบ Stereo ให้เสียงระบบ 2.1 มาพร้อม Sub Woofer
- สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านบลูทูธได้
- ควบคุมการทำงานแบบไร้สายผ่าน Device ที่เชื่อมต่อบลูทูธ หรือสั่งการผ่านรีโมทก็ได้
- ช่องสำหรับการเชื่อมต่อแบบมาตรฐาน AUX/3.5 mm.
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 ลำโพง Klipsch The Fives Powered Speaker
ลำโพงมอนิเตอร์ที่มาพร้อมรูปทรงสุดคลาสสิก มาพร้อมไดรเวอร์สุดพิเศษอย่าง Tractrix® Horn ซึ่งเป็นไดรเวอร์ภายในพิเศษเฉพาะของแบรนด์ Klipsch เท่านั้น ประกอบไปด้วยไดรเวอร์ย่านกลาง-สูงแบบ Titanium LTS vented tweeter with Tractrix® horn ขนาด 1 นิ้วข้างละ 1 ตัว และไดรเวอร์ย่านกลาง-ต่ำแบบ High-excursion fiber-composite cone woofer ขนาด 4.5 นิ้วอีกข้างละ 1 ตัว รองรับระบบเสียงระดับ Hi-Res สูงถึง 192kHz/24-bit บอกเลยว่าคุณภาพเสียงรุ่นนี้คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันมากๆ Klipsh The Fives รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายผ่านบลูทูธ หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับ TV ได้โดยตรงผ่าน HDMI-ARC แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น คือ รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อแบบ Phono Pre-Amp หรือต่อเข้ากับเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้โดยตรง ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อที่หาไม่ได้จากแบรนด์อื่น !
สรุปคุณสมบัติ
- ลำโพงมอนิเตอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้งมีสายและไร้สาย
- มีช่องเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียง Phono
- ไดรเวอร์ภายในแบบ Tractrix® horn เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์
- รองรับระบบเสียง Hi-Res 192kHz/24-bit
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 ลำโพง Klipsch BAR 40 Sound Bar Speaker
ยังอยู่กับแบรนด์ Klipsch คราวนี้เปย์เป้ขอป้ายยาลำโพง Sound Bar กันบ้างดีกว่า สำหรับ Klipsch Bar 40 รุ่นนี้เป็นลำโพง Sound Bar ที่จะมาช่วยยกระดับการดูหนังอยู่บ้านแบบธรรมดาให้เทียบเท่ากับการไปนั่งดูหนังในโรงภาพยนตร์ เพราะมาพร้อมไดรเวอร์ Tractrix® Horn ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ และยังใส่มาให้ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาเลย พร้อมรองรับระบบ Dolby Audio ช่วยให้ได้เสียงที่คมชัดและสมจริงทุกรายละเอียด
และอีกจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือวัสดุของ Sound Bar รุ่นนี้ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกหรูหรา คลาสสิก และยังช่วยให้ได้เสียงที่ดีกว่าเดิม สามารถป้องกันเสียงจากภายในออกไปได้ดีกว่าวัสดุพื้นผิวพลาสติก และเกิดการ Resonance ได้น้อยกว่า
สรุปคุณสมบัติ
- ลำโพง Sound Bar เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2
- Wireless Sub Woofer ไร้สาย
- ไดรเวอร์ภายในแบบ Tractrix® Horn เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์
- รองรับระบบเสียงจาก Dolby Audio
- ขนาด : 165.1 x 304.8 มิลลิเมตร ขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับวางในพื้นที่ขนาดเล็ก
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 ลำโพง JBL Cinema SB170 SoundBar
อีกหนึ่งลำโพง Sound Bar ที่มาในราคาที่แสนจะเป็นมิตร เหมาะกับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาลำโพง Sound Bar ที่ราคาไม่ได้แรงมากแต่ให้สเปคมาแบบจัดเต็ม สำหรับ JBL Cinema SB170 ลำโพงระบบเสียง Stereo 2.1 และแรงขับเสียงที่สูงถึง 220W สามารถขับเสียงออกมาได้ครบทุกรายละเอียด และยังมาพร้อมโหมด Voice ที่จะช่วยโฟกัสเสียงพูดและเสียงสนทนาภายในภาพยนตร์ให้ชัดเจนขึ้น และที่สำคัญยังรองรับเสียงระบบ Dolby Audio ด้วย
สรุปคุณสมบัติ
- ลำโพง Sound Bar ระบบ Stereo 2.1 มาพร้อม Subwoofer แยกเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- แรงขับสูง 220W ขับเสียงได้ครบทุกรายละเอียด
- โหมด Voice ช่วยโฟกัสเสียงพูดและเสียงสนทนา
- รองรับเสียงระบบ Dolby Audio
- ขนาด กว้าง : 900 x H: 62 x D: 67 มิลลิเมตร
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t True Wireless
หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t รุ่นนี้เหมาะกับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ใส่แล้วสบายหู และยังได้คุณภาพเสียงแบบเน้นๆ เปย์เป้ขอแนะนำรุ่นนี้เลย สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างดี และยังมาพร้อมไดรเวอร์ข้างละ 12 มิลลิเมตร เสียงกระหึ่มและมีมิติมากขึ้นทั้ง 2 ข้าง นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนมากถึง 6 ตัวช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าเดิม และยังสามารถปรับระดับการตัดเสียงได้ถึง 5 ระดับ และที่สำคัญสามารถกันน้ำได้ถึงระดับ IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ เลย
สรุปคุณสมบัติ
- หูฟัง True Wireless เชื่อมต่อ Bluetooth 5.1
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบ และปรับระดับได้
- มีไมค์ 6 ตัว สามารถรับเสียงได้คมชัด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 5.5 ชม.
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone
Audio-Technica ATH-R70x เป็นหูฟังระดับโปรตัวแรกจากแบรนด์ Audio-Technica ที่เป็นแบบ Openback หรือแบบเปิดหลัง รุ่นนี้ถูกออกแบบเพื่อการใช้งานสำหรับการมิกซ์เสียงและ Master เสียงโดยเฉพาะ รองรับความถี่ได้กว้างมากๆ ตั้งแต่ความถี่ 5 - 40,000 Hz เลยทีเดียว นอกจากนี้ไดรเวอร์เสียงภายในมีขนาดใหญ่ถึงข้างละ 45 มิลลิเมตร ทำให้ได้เสียงที่เป็นกลาง สามารถแจกแจงเนื้อเสียงได้ครบทุกรายละเอียดเลย
นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการใส่ทำงานได้สบายๆ เพราะว่ามีน้ำหนักเบาเพียง 210 กรัมเท่านั้น และยังมี Wing Support ช่วยประคองตัวหูฟังไว้บนศีรษะ โดยไม่ทำให้รู้สึกหนักหัวด้วย
สรุปคุณสมบัติ
- หูฟังสำหรับโปรแบบ Open Back สำหรับใช้ใน Studio
- ไดรเวอร์ให้เสียงกว้างและแยกเสียงได้ครบทุกรายละเอียด
- สามารถถอดสายหูฟังออกได้
- น้ำหนัก 210 กรัม ใส่แล้วสบายและไม่รู้สึกหนัก
ไปช้อปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : คลิก
🔊 หูฟัง KZ AS16 In-Ear
หูฟังแบบ In-Ear คุณภาพพรีเมียมที่เหมาะกับการฟังเพลงโดยเฉพาะ เพราะมีไดร์เวอร์ BA Balanced Armature มาให้ถึง 8 ตัวต่อหนึ่งข้าง ไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงสูง 4 ตัว ไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงกลาง 2 ตัว และไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงเบส 2 ตัว ซึ่งไดรเวอร์รุ่นนี้ แบรนด์ KZ ได้พัฒนาไดรเวอร์ขึ้นด้วยตัวเอง จึงทำให้ได้คุณภาพเสียงที่สูงมากๆ สามารถแยกแยะเสียงได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ KZ AS16 ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนแบบคู่ด้วย รองรับการรับสาย-วางสาย และยังสามารกดเลื่อนเพลงถัดไปและเพลงก่อนหน้าได้ และยังสามารถถอดเปลี่ยนไปใช้สายหูฟังแบบอัปเกรดจาก KZ ได้ด้วยเพราะรุ่นนี้ใช้ขั้วเชื่อมต่อแบบ 2 PIN นั่นเอง
สรุปคุณสมบัติ
- หูฟัง In-Ear แบบมีสาย คุณภาพสูง สำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ
- มีไดร์เวอร์ Balanced Armature ข้างละ 8 ตัว
- ตัวบอดี้ผลิตโดยวิธีการ 3D Printing มีความแข็งแรงสูง
- มีไมโครโฟน สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้และกดเปลี่ยนเพลงได้
- สายหูฟังแบบ 2 PIN ถอดเปลี่ยนได้
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 หูฟัง KZ ZSR In-Ear
รุ่นนี้เป็นหูฟังแบบ In-Ear รุ่นฮิตของแบรนด์ KZ เลยก็ว่าได้ เพราะมาในราคาไม่ถึง 1,000 บาท แต่คุณภาพเสียงถือว่าคุ้มเกินราคา สำหรับรุ่น ZSR เป็นหูฟังแบบไฮบริด 3 ไดรเวอร์ ไดรเวอร์แบบไดนามิก 1 ตัว และไดรเวอร์ BA (Balanced Armature) 2 ตัว รองรับเสียงทุกย่าน ทั้งเสียงสูง เสียงกลางและเสียงเบส นอกจากนี้ยังมาพร้อมขั้วแบบ 2 PIN สามารถถอดเปลี่ยนสายได้
สรุปคุณสมบัติ
- หูฟัง In-Ear แบบไฮบริด 3 ไดรเวอร์ ไดนามิก 1 ตัว และไดรเวอร์ BA 2 ตัว
- สายหูฟังแบบ 2 PIN ถอดเปลี่ยนได้
- มีไมโครโฟน สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้และกดเปลี่ยนเพลงได้
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
🔊 หูฟัง KZ AS12 In-Ear
อีกหนึ่งหูฟัง In-Ear อีกหนึ่งรุ่นของ KZ ที่มาในราคาน่ารักแต่คุณภาพแน่น! รุ่นนี้มาพร้อมกับไดร์เวอร์ภายในแบบ Pure Balanced Armature ที่แบรนด์คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเอง โดยให้มาถึงข้างละ 6 ตัว และยังมีเทคโนโลยีปรับจูนเสียงแบบมืออาชีพด้วย ทำให้สามารถขับเสียงและแยกเสียงแต่ละย่านเสียงได้อย่างชัดเจน และยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ด้วย
สรุปคุณสมบัติ
- ใช้ไดรเวอร์ Pure Balanced Armature ข้างละ 6 ตัว รวมทั้งหมด 12 ตัว
- เทคโนโลยีปรับจูนเสียงแบบมืออาชีพด้วย
- สายหูฟังแบบ 2 PIN ถอดเปลี่ยนได้
- มีไมโครโฟน สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้และกดเปลี่ยนเพลงได้
ไปช้อปกันได้ที่นี่ : คลิก
เพียงเท่านี้ประสบการณ์การดูหนัง-ฟังเพลงของเพื่อนๆ ก็จะได้อรรถรสยิ่งกว่าเดิม เพราะคุณภาพเสียงของแต่ละไอเทมนั่น ได้มาตรฐาน คุณภาพดี คุ้มค่า คุ้มราคาที่จะควักเงินซื้ออย่างแน่นอน !
โดย waranggg
thaitealism
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ