อัปเดตต่อใบขับขี่ปี 63 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ไปดู!

avatar writer
โดย : ncp
avatar writer6 มี.ค. 2563 avatar writer22.5 K
อัปเดตต่อใบขับขี่ปี 63 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ไปดู!

ก่อนออกไปต่อใบขับขี่ใหม่ในปี 63 เราต้องรู้อะไรบ้าง?
ปันโปรพร้อมแชร์คำตอบและไขข้อสงสัยต่างๆ ให้ทุกคนแล้ว


เดี๋ยวนี้การต่อใบขับขี่แบบตลอดชีพไม่มีแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ต่อแบบ 2 ปี และแบบ 5 ปี ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนที่บัตรนั้นใกล้หมดอายุแล้ว และกำลังมีแพลนจะไปต่อ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มทำยังไง แล้วเอกสารละต้องใช้อันไหนบ้าง ค่าต่อต้องจ่ายเท่าไหร่ ฯลฯ ใครที่กำลังสงสัยและมีคำถามแบบนี้อยู่ในหัว ตามแอดมาทางนี้ด่วนๆ เลยจ้า เพราะวันนี้ปันโปรมีคำตอบมาให้เพื่อนๆ ทุกคนกันแล้ว ไป! ไปดูกัน 


การต่อใบขับขี่รถยนต์

กรณีต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี การต่อใบขับขี่ หากต้องการต่อล่วงหน้าเพื่อนๆ สามารถทำได้ล่วงหน้าไม่เกิน 2 เดือน / 60 วัน แต่หากเพื่อนๆ เกิดลืมหรือมีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ที่ทำให้ไม่ได้ไปต่อ กรณีที่เกิน 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี เพื่อนๆ จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่ถ้าหมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไปแล้ว เพื่อนๆ จะต้องสอบข้อเขียน, ทดสอบขับรถและเข้าอบรมจ้า

กรณีต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี เจ้าของรถยนต์สามารถต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน / 90 วัน แต่ถ้าลืมหรือไม่ได้ไปต่อ กรณีเกิน 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี เพื่อนๆ จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ แต่ถ้าเกิน 3 ปีขึ้นไปแล้ว จะต้องสอบข้อเขียน, ทดสอบขับรถและมีใบรับรองแพทย์มายื่นด้วยจ้า


หลักฐานสำคัญสำหรับต่อใบขับขี่รถยนต์ (จาก 2 ปี เป็น 5 ปี)

  • ใบขับขี่เดิม (ที่หมดอายุ)
  • ใบรับรองแพทย์ 
  • บัตรประชาชน (ฉบับจริง)  

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจเช็กเอกสารต่างๆ ในเรียบร้อย แล้วนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่
  • ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การมองเห็นสี, ทดสอบสายตาและปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรก)
  • ถ่ายรูปสำหรับพิมพ์ใบขับขี่
  • ค่าใช้จ่าย : ค่าใบขับขี่ / ค่าธรรมเนียม = 505 บาท 

หลักฐานสำคัญสำหรับต่อใบขับขี่รถยนต์ (ต่อ 5 ปี เป็น 5 ปี)

  • ใบขับขี่ใบเดิม / ใบแทน
  • บัตรประชาชน (ฉบับจริง)  

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจเช็กเอกสารต่างๆ ในเรียบร้อย แล้วนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่
  • ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การมองเห็นสี, ทดสอบสายตาและปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรก)
  • เข้าอบรม 1 ชั่วโมง เกี่ยวกับเรื่องการขับขี่ ความปลอดภัยต่างๆ  ขณะขับรถบนท้องถนน 
  • ถ่ายรูปสำหรับพิมพ์ใบขับขี่ 
  • ค่าใช้จ่าย : ค่าใบขับขี่ / ค่าธรรมเนียม = 505 บาท

หลักฐานสำคัญสำหรับต่อใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ (ต่อแบบชั่วคราวเป็น 5 ปี)

  • ใบขับขี่เดิม
  • ใบรับรองแพทย์ (อายุใบรับรองต้องไม่เกิน 1 เดือน)
  • บัตรประชาชน (ฉบับจริง)  

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจเช็กเอกสารต่างๆ ในเรียบร้อย แล้วนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่
  • ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การมองเห็นสี, ทดสอบสายตาและปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรก)
  • ค่าใช้จ่าย : ค่าใบขับขี่ / ค่าธรรมเนียม = 255 บาท

หลักฐานสำคัญสำหรับต่อใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ (ต่อแบบ 5 ปี เป็น 5 ปี)

  • ใบขับขี่เดิม
  • บัตรประชาชน (ฉบับจริง)  

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ตรวจเช็กเอกสารต่างๆ ในเรียบร้อย แล้วนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่
  • ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ การมองเห็นสี, ทดสอบสายตาและปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรก)
  • เข้าอบรม 1 ชั่วโมง
  • ค่าใช้จ่าย : ค่าใบขับขี่ / ค่าธรรมเนียม = 255 บาท

สถานที่ต่อใบขับขี่ในกรุงเทพฯ

  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร (พระโขนง) เบอร์ติดต่อ : 02-332-9688
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร (บางขุนเทียน) เบอร์ติดต่อ : 02-415-7337
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร (ตลิ่งชัน) เบอร์ติดต่อ : 02-882-1620-35
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) เบอร์ติดต่อ : 02-271-8888
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร (มีนบุรี) เบอร์ติดต่อ : 02-543-5500    

การเตรียมตัว

  • แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย และเตรียมร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้พร้อมต่อการทดสอบ
  • ตรวจเช็กและเตรียมเอกสารต่างๆ ที่เราจะนำไปยื่นต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อย โดยใส่กระเป๋าไว้ก่อนเพื่อป้องกันการลืม
  • แต่งหน้า-ทำผมให้พร้อมที่สุด เพราะจะต้องมีการถ่ายรูปสำหรับทำบัตรกันจ้า 
  • ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่กลัวว่าคิวจะเยอะ ก็อย่าลืมไปจองคิวออนไลน์กันไว้ก่อนน้า

จองคิวออนไลน์สำหรับต่อใบขับขี่

หากใครที่กลัวว่าวันที่เข้าไปต่อใบขับขี่ คนจะเยอะ คนจะแน่น คิวจะยาวแล้วรอนานหรือเปล่า แอดบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลไปจ้าเพราะทางกรมขนส่งมีระบบจองคิวต่อใบขับขี่แบบออนไลน์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการได้ดีสุดๆ ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนอยากเข้าไปจองคิวไว้ก่อนละก็ สามารถเข้าไปจองได้ที่นี่เลย คลิก และหากกรอกรายละเอียดต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เพื่อนๆ นำหมายเลขจองไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ในวันเข้าอบรม เท่านี้ก็สามารถต่อใบขับขี่ได้แล้วจ้า


🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈

  • ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมตรวจเช็กเอกสารต่างๆ กันให้ดีน้า ป้องกันไม่ให้เสียเวลาในภายหลังได้จ้า

  • ใครที่กลัวว่าคิวจะยาวในการไปต่อใบขับขี่ สามารถเข้าไปจองคิวออนไลน์กันได้เลยน้า ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
  • สถานที่ต่อใบขับขี่ในกรุงเทพฯ มีทั้งหมด 5 แห่ง เพื่อนๆ ใกล้ที่ไหน สะดวกที่ไหน ก็สามารถออกไปต่อกันได้เลย

via GIPHY

แสดงความคิดเห็น