แผนการเรียน ม.ปลาย รูปแบบใหม่ อยากเรียนต่อคณะไหน ก็เลือกเรียนได้!
โดย : MilD
แผนการเรียนระดับชั้น ม.ปลาย 7 แบบใหม่ เตรียมพร้อมเรียนต่อมหาลัย
อยากเรียนต่อคณะอะไร ก็สามารถเลือกแผนการเรียนที่ใช่ได้เลย
จากแนวคิด "Defining the FUTURE" อนาคตกำหนดได้
เริ่มใช้จริงแล้วที่โรงเรียนโพธิสารพิทยากร ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563
Highlight ของ 7 แผนการเรียนชั้น ม.ปลาย แบบใหม่ เพื่อมุ่งสู่คณะในฝัน
• เวลาจะเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทุกคนก็ต้องเลือกว่าจะเรียนสายไหน สายวิทย์ สายศิลป์ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป แต่นี่มันเก่าไปแล้วจ้าาา~
• ตอนนี้มีแผนการเรียนแบบใหม่ออกมาแล้ว มีให้เลือกทั้งหมด 7 แบบ ซึ่งเป็นการเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่ระดับอุดมศึกษาในสายต่างๆ เช่น ศิลปกรรม บริหารธุรกิจ แพทย์ เภสัช เป็นต้น เจาะจงไปเลยว่าเราอยากเรียนต่อคณะไหน ก็จะได้เรียนวิชาเฉพาะที่ตอบโจทย์มากกว่า
• โรงเรียนโพธิสารพิทยากร จะเริ่มนำมาใช้เป็นแผนการเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 ที่กำลังจะเปิดภาคเรียน เชื่อว่าหลายคนน่าจะให้ความสนใจและอยากลองเรียนหลักสูตรใหม่แน่นอน
ในช่วงที่เด็กๆ กำลังจะเข้าสู่การเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการศึกษาของเด็กคนนึงเลยนะ เพราะนี่จะเป็นรากฐานสำคัญจากนักเรียน กลายเป็นนักศึกษา และก้าวไปสู่วัยทำงาน เชื่อว่าแต่ละคนจะต้องมีแผนการเรียนในใจคิดไว้อยู่แล้วล่ะเนอะ อย่างแอดประมาณ ม.3 ก็รู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่แล้วเราอยากเรียนต่อไปในทิศทางไหน โดยปกติแต่ละโรงเรียนก็จะให้เลือกแผนการเรียนหลักๆ เช่น สายวิทย์-คณิต สายศิลป์-คำนวณ หรือสายศิลป์-ภาษา อาจจะมีห้องพิเศษ Gifted หรือ English Program (EP) ในบางโรงเรียน แต่โรงเรียนส่วนใหญ่ก็จะจัดแผนการเรียนประมาณนี้แหละ ซึ่งการเรียนในแต่ละสายมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งส่วนของหลักสูตรและวิชาที่เรียน ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และแพลนว่าอยากเรียนต่ออะไรในมหาวิทยาลัยต่อไป
แต่ถ้าหากมีแผนการเรียน ม.ปลาย ที่แตกต่างออกไปไม่เหมือนกับที่อื่นล่ะ ไม่มีอีกแล้วสายวิทย์-สายศิลป์ แต่จะเป็นแผนการเรียนใหม่แกะกล่องที่จะเตรียมไปสู่คณะที่อยากเรียนต่อในมหาลัยแทน ฟังดูแล้วอาจจะแปลกใหม่เหลือเกิน แต่นี่จะเป็นการเรียนที่ตอบโจทย์และเข้าถึงได้สำหรับเด็กรุ่นใหม่มากๆ เลย แบบนี้ต้องขอเจาะมุมมองความคิดที่แตกต่างกันหน่อยแล้ววว~
Defining the FUTURE อนาคตเลือกได้ด้วยตัวเราเอง
แผนการเรียนใหม่ระดับชั้น ม.ปลาย เกิดขึ้นจากมุมมองความคิดของผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิสารพิทยากร "ดร.ภูมิสิษฐ์ สุคนธวงศ์" ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในเดือน ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนจะเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนที่นี่ ได้เคยทดลองแผนการเรียนแบบใหม่มาแล้วทั้ง 2 โรงเรียนก่อนหน้า คือ โรงเรียนร่มเกล้าเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และโรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จ.สมุทรปราการ โดยเริ่มต้นตั้งแต่การเรียนช่วงมัธยมต้นเลย ให้นักเรียนได้ลองสัมผัสทักษะทางอาชีพให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร อยากเป็นอะไรในอนาคต
ม.ต้น ค้นหาตัวเองให้เจอ
ม.ปลาย เตรียมความพร้อมสู่อาชีพที่หวังไว้
โดยใช้แนวคิด "Defining the FUTURE" อนาคตกำหนดได้ อยากเป็นอะไร ต้องได้เรียน เช่น ถ้าอยากเป็นหมอ ก็ต้องได้เรียนหมอ เลือกทำในสิ่งที่รัก สิ่งที่ถนัด ชีวิตก็จะแฮปปี้มีความสุข ในทุกวันก็จะเต็มไปด้วยพลังที่อยากเติบโตไปเรื่อยๆ นอกจากเรียนตามตำราแล้ว ยังมีการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ และมีพี่เลี้ยงที่เรียนในคณะนั้นๆ มาช่วยดูแลอีกด้วย คนที่เรียนระดับมหาวิทยาลัยจริงๆ มาช่วยขนาดนี้รับรองว่าได้ความรู้และประสบการณ์แน่นๆ ตรงจุดแน่นอน
"7 แผนการเรียนระดับม.ปลาย" ที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง
สำหรับแผนการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) แบบใหม่นี้ ทางโรงเรียนโพธิสารพิทยากรจะเริ่มนำมาใช้ในปีการศึกษา 2563 ที่กำลังจะเปิดเรียนในช่วงเดือน พ.ค. 63 เป็นห้องเรียนพิเศษวิทย์-เทคโนโลยี (หุ่นยนต์) จำนวน 1 โปรแกรมของมัธยมต้น
และแบ่งเป็น 7 แผนการเรียนของมัธยมปลายภาคปกติที่เลือกได้ เพื่อคณะที่อยากจะเรียนต่อ ได้แก่
• เตรียมแพทย์-เภสัชฯ
• เตรียมวิศวะ-สถาปัตย์
• เตรียมวิทย์-คอม
• เตรียมนิเทศ-มนุษย์
• เตรียมศิลปกรรม
• เตรียมบริหารธุรกิจ-บัญชี
• เตรียมนิติ-รัฐศาสตร์
เปรียบเทียบความแตกต่างของแผนการเรียนแบบเดิม และแบบใหม่
• แผนการเรียนแบบเดิม แอดขอแบ่งเป็น 3 แผนใหญ่ๆ ที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี ได้แก่ สายวิทย์-คณิต, สายศิลป์-คำนวณ และสายศิลป์-ภาษา ซึ่งเป็นแผนการเรียนที่ใช้กันแทบทุกโรงเรียน แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์เวลาที่ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพราะวิชาที่เรียนก็จะเป็นภาพรวมกว้างๆ ไม่ได้เจาะลึกเฉพาะเจาะจง เช่น หมวดวิทยาศาสตร์ ก็จะเรียนทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีวะเลย หรือถ้าเป็นสายศิลป์ก็จะเรียนเพิ่มในกลุ่มวิชาภาษาไทยและสังคม เป็นต้น เพื่อต่อยอดพื้นความรู้ไปในคณะที่อยากเรียน
• แผนการเรียนแบบใหม่ แบ่งเป็น 7 รูปแบบที่เจาะจงถึงสายวิชาที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน ทำให้เด็กๆ สามารถเลือกแผนการเรียนที่ตรงกับความต้องการได้มากกว่าเดิม เช่น วางแผนว่าอยากเรียนต่อการตลาด โตขึ้นอยากเป็นนักการตลาด ถ้าเป็นแผนการเรียนเดิมก็สามารถเลือกเรียนได้ทั้งแผนวิทย์-คณิต หรือศิลป์-คำนวณ แต่พอเปลี่ยนแผนการเรียนใหม่ เราสามารถเจาะจงว่าจะเลือกแผนการเรียน "เตรียมบริหารธุรกิจ-บัญชี" ได้เลย ซึ่งวิชาที่เรียนก็เพื่อมุ่งไปสู่สิ่งที่เราใฝ่ฝันนั่นเอง บางอย่างที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเรียน ลดวิชาที่ไม่จำเป็น ยังคงเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนเดิม แต่เพิ่มวิชาเฉพาะให้มากขึ้น
ในช่วงเริ่มต้นของแผนการเรียนรูปแบบใหม่นี้ แอดเชื่อว่าเป็นช่วงของการทดลองเรียนรู้ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครูผู้สอนหรือวิทยากร นักเรียน และผู้ปกครอง ถ้าหากอะไรที่ดีอยู่แล้วก็ทำต่อไป หรืออะไรที่ยังไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องลองคิดใหม่ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการให้ได้มากที่สุด และสุดท้ายก็เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้เรียนในสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ และเติบโตไปในสายอาชีพได้อย่างประสบความสำเร็จนั่นเอง
#Saveการศึกษาไทย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์เด็กดีดอทคอม (http://bit.ly/2TQdikx)
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3