ทริคไม่ลับ เลือกที่นั่งบนเครื่องบิน ให้ฟินตลอดทริป!
โดย : prc.
จะกดจองแล้วนะ แต่ว่า "เลือกที่นั่ง" ตรงไหนดีหว่าา
คิดไม่ตกแบบนี้ เราเลยรวบรวมวิธีง่ายๆ
ที่จะทำให้การนั่งเครื่องบินเป็นเรื่องแฮปปี้~
อีกหนึ่งตัวกลางที่จะทำให้ทริปท่องเที่ยวของเราสำเร็จตามหวัง ก็คือ การขึ้นเครื่องบินนี่ล่ะ และจะยิ่งฟินกว่าเดิมมากขึ้น ถ้าได้นั่งข้างเพื่อนคู่ใจของเรา แต่บางทีพอเช็คอินเตรียมบินทีไร ที่นั่งก็ไม่เป็นไปตามหวัง หรือบางครั้งเราอุตส่าห์ "เลือกที่นั่ง" ไป ก็ไม่เป็นตามที่คิด ไหนจะต้องเจอกับเพื่อนร่วมทางสุดปวดหัว ทั้งเด็กเล็ก คนเตะเก้าอี้ และอีกมากมาย ทำเอาหมดอารมณ์ไปตามๆ กัน แล้วแบบนี้ ก่อนจะกดจองตั๋วจ่ายเงิน เราควรจะต้องพิจารณาถึงอะไรบ้างนะ
ที่นั่งบนเครื่องบิน มีกี่แบบ?
หลักๆ ที่นั่งบนเครื่องบิน ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทอย่างที่เรารู้กัน คือ Economy (แต่เดี๋ยวนี้ก็มีที่นั่งแบบ Premium ecomony class เพิ่มเข้ามาแล้ว), Business Class และ First Class ซึ่งจำนวนของแต่ละที่นั่ง ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่สายการบิน เช่น
- ถ้าเป็น Air Asia X ก็จะมีที่นั่งแบบ Business Class จำนวน 12 ที่นั่ง และ Economy จำนวน 365 ที่นั่ง
- ถ้าเป็น Thai Airways จะมี Royal Silk Business 32 ที่นั่ง และ Economy 289 ที่นั่ง
- หรือถ้าเป็น Korean Air ที่มี First Class 8 ที่นั่ง, Prestige (Business Class) 56 ที่นั่ง และ Economy 227 ที่นั่ง
เราเหมาะกับการนั่งตรงไหน?
ลองมาเช็คตัวเองกันหน่อย ว่าที่ไหนตรงไหนเหมาะกับเรา แล้วที่นั่งมุมไหนไม่เวิร์คบ้างน้าา
- ที่นั่งริมหน้าต่าง
เหมาะกับสายนอน หรือเหล่าคนชอบเข้ามุม นอนนิ่งๆ เงียบๆ คนเดียว - ที่นั่งติดทางเดิน
ใครปวดฉี่บ่อย หรืออยากลุกยืดเส้นยืดสาย ก็เล็งทำเลริมทางเดินไว้ให้แม่นเลย แต่อาจจะรู้สึกถูกรบกวนนิดนึง เพราะมักจะมีคนเดินผ่านเราตลอดเวลา - ที่นั่งบริเวณปีกเครื่องบิน
ความพิเศษคือ ที่นั่งตรงนี้จะมีความรู้สึกสั่นสะเทือนน้อยเวลาตกหลุมอากาศนั่นเองจ้า - ที่นั่งตรงกลาง
เราว่าเหมาะกับคนที่มากับแก๊งเพื่อนเกิน 2 คนขึ้นไป เพราะถ้าสมมติเราว่าอยากจะเดินไปห้องน้ำ หรืออยากหยิบของก็สามารถสะกิดบอกเพื่อนได้ง่ายๆ แต่ถ้าเป็นคนไม่รู้จักก็จะลำบากประมาณนึงเลยล่ะ และที่สำคัญ ที่นั่งตรงกลางจะค่อนข้างแคบ ขยับตัวแต่ละที คนข้างๆ ก็รู้สึกเลยทีเดียว - ที่นั่งติดทางออกฉุกเฉิน
แม้ว่าที่นั่งตรงนี้จะมีพื้นที่ขากว้างก็จริง แต่เราก็ต้องมีความพร้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินนะ นอกจากนี้ในบางลำ ก็จะมีที่นั่งของพนักงานต้อนรับ อยู่ตรงข้ามเราเลยจ้า - ที่นั่ง Bulkhead หรือที่นั่งหลังกำแพง
อีกหนึ่งที่นั่งที่เหมาะสำหรับคนต้องการพื้นที่ยืดขาเยอะเป็นพิเศษ เพราะมีสเปซกว้างสุดๆ แต่ก็แลกมาด้วยการที่เราไม่สามารถขยับที่วางแขนได้ และด้านหน้าของเราก็จะเป็นกำแพงเปล่าไว้แขวนตะกร้าสำหรับเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 2 ขวบอีกด้วย ใครไม่ชอบเด็กล่ะก็เราแนะนำให้เลี่ยงด่วนเลย~ - ที่นั่งติดห้องน้ำ/ห้องครัว
เหมาะกับคนชิลๆ ที่ไม่ว่าจะมีแสงแยงตา หรือเสียงก๊อกแก๊กมา ก็ไม่สะเทือน! เพราะยิ่งใกล้กับห้องน้ำหรือห้องครัวมากเท่าไหร่ ก็จะมีสิ่งรบกวนมากเท่านั้น และบางที่นั่งบริเวณนี้ ก็อาจจะไม่มีช่องเก็บของด้านบนด้วยล่ะ
แบบนี้ต้องมีตัวช่วย!
อีกหนึ่งตัวช่วยเบาๆ ที่จะทำให้เราได้ที่นั่งถูกใจ แม้ว่าจะไม่เคยขึ้นลำนี้มาก่อน! นั่นก็คือการดูผังที่นั่งล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ seatguru นี่เองค่า ซึ่งในเว็บนี้ก็สามารถดูข้อมูลที่เราต้องการได้ง่ายมั่กๆ เพียงแค่กรอกสายการบิน วันที่บิน และเลขไฟลท์ของเรา (หรือถ้าใครยังไม่รู้เลขไฟลท์ ก็ใส่ประเทศที่เราจะไปได้เลย)
หลังจากนั้น เว็บก็จะขึ้นไฟลท์ให้เรากดเลือก พอคลิกเข้าไปดูปุ๊ปก็จะเจอกับภาพเครื่องบินทั้งลำแบบนี้เลย แล้วยังบอกข้อมูลสำคัญอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นของเครื่องบิน สิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่อง คอมเมนต์จากผู้ใช้จริง ภาพตัวอย่างที่นั่งของจริง โดยที่นั่งแต่ละสีก็จะบอกความหมายต่างกันไป เช่น สีแดง คือที่นั่งที่ไม่แนะนำ สีเหลือง คือที่นั่งแบบปานกลาง(แนะนำให้อ่านคอมเมนต์ประกอบ) หรือสีเขียว เป็นที่นั่งที่ดีที่สุด ช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ~
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- บางสายการบิน การเลือกที่นั่งสามารถทำได้ฟรี แต่บางสายการบินก็จะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มต่างกันไปแล้วแต่ที่นั่งน้า
- ใครอยากเลือกที่นั่ง แต่ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม เราก็แนะนำให้รีบไปเช็คอินก่อนเวลา และควรไปเช็คอินพร้อมกับคนที่เราจะนั่งข้างๆ นะ รับรองว่าได้นั่งคู่กันแน่นอน
-- ขอบคุณข้อมูลจาก seatguru, smartertravel --
โดย prc.
just 'ORDINARY WRITER' who love to eat :)