วาเลนไทน์นี้ต้องได้สักกล่อง❤️ แต่รู้มั้ย...จริงๆ แล้วช็อกโกแลตกับวันแห่งความรัก เป็นเพียงการตลาด!
โดย : Ying
วาเลนไทน์ ใกล้เข้ามาแล้วจ้า เทศกาลที่คนมีคู่จะหัวใจชื่นบาน เพราะเป็นช่วงเวลานี้จะเต็มไปด้วยของขวัญ ซึ่งของขวัญที่คู่รักจะมอบให้กันก็คือดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่ว่าก็ไม่พ้นดอกกุหลาบสีแดง ที่ถูกนิยามแทนความรัก ความโรแมนติก ความลุ่มหลง(ความหมายดีมาก) และของขวัญอีกอย่างที่พบเจอบ่อยจนชินตาไม่แพ้กันนั่นก็คือ ช็อกโกแลต นั่นเอง แต่เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าการให้ดอกไม้แทนความรัก แล้วการให้ช็อกโกแลตแทนอะไร ? ความหวาน? อยากให้เธออิ่มท้อง? และบทความนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า แท้จริงแล้ว วัฒนธรรมการมอบช็อกโกแลตวันวาเลนไทน์ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ความจริงแล้วเรื่องนี้มีที่มาที่ทำให้เราต้องอุทานว่า ห๊าา!
ตำนานวันวาเลนไทน์ กับเหตุผลที่ต้องเป็นวันที่ 14 กุมภา ?
❤️
ก่อนจะไปเรื่องช็อกโกแลต ต้องรู้จักกับตำนานของวันวาเลนไทน์ก่อน ย้อนกลับไปสมัยการปกครองของ จักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 (Claudius II) ช่วงนั้นกรุงโรมกำลังเกิดสงครามอย่างหนัก มีความจำเป็นต้องใช้นักรบจำนวนมาก จักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 จึงต้องการเกณฑ์ผู้ชายในกรุงโรมไปช่วยทำสงคราม แต่ก็นั่นแหละใครจะอยากเอาชีวิตไปเสี่ยงในสนามรบ บ้านช่องไม่กลับ ลูกเมียไม่ได้เจอ ทำให้มีผู้ชายจำนวนน้อยมากๆ ที่จะยอมออกรบ ซึ่งพอจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ได้รู้เหตุผลเข้าก็ออกประกาศขัดขวางความรักหวานของผู้คนซะเลยว่า ห้ามจัดงานแต่งงาน และงานหมั้นใดๆ ในกรุงโรมเด็ดขาด (คิงใจร้าย)
พอประกาศออกมาอย่างนี้ ก็ถึงเวลาเปิดตัวนักบวชวาเลนตินุส หรือ Saint Valentine ท่านได้ร่วมมือกับ นักบวชมารีอัส ขัดคำสั่งของคิงโดยการแอบทำพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวชาวโรมหลายต่อหลายคู่เลยทีเดียว ซึ่งพอคิงรู้เขาก็สั่งลงโทษโดยการขังคุก แต่ว่าขณะอยู่ในคุกเซนต์วาเลนไทน์ก็ยังคงเผยแผ่ศาสนาอย่างต่อเนื่อง จนคนในคุกรวมถึงผู้คุมเลื่อมใสศรัทธา เท่านั้นยังไม่พอเพราะท่านดันไปพบรักกับ จูเลีย ที่เป็นลูกสาวผู้คุมอีก พอคิงรู้ก็โกรธมากถึงขั้นสั่งประหาร เซนต์วาเลนไทน์
ด้วยความที่มีผู้คนรัก และเคารพ เซนต์วาเลนไทน์เป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงฝังศพของเซนต์วาเลนไทน์ไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Prexedes) และถือให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันวาเลนไทน์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ก่อนตายเซนต์วาเลนไทน์ได้เขียนจดหมายถึง จูเลีย พร้อมลงท้ายจดหมายว่า From Your Valentine
ประโยคโรแมนติดยอดฮิตในปัจจุบันนี่แหละ รูปภาพจาก wikipedia
ช็อกโกแลต
จากเครื่องดื่มขมเข้ม สู่ไอคอนแสนหวานของวาเลนไทน์
❤️
ต้องบอกก่อนว่า กว่าจะมาเป็นช็อกโกแลตแท่งๆ พี่เขาเคยเป็นเพียงเครื่องดื่มมาก่อน ซึ่งการดื่มโกโก้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยชาวมายา จากนั้นจึงค่อยเข้ามาเป็นที่รู้จักในยุโรป ถึงแม้ในช่วงแรกการดื่มช็อกโกแลตจะนิยมกันแค่ในชนชั้นสูง แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกชนชั้นก็เข้าถึงช็อกโกแลตได้มากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ จนถึงขั้นมีขายเครื่องดื่มช็อกโกแลตเปิดแข่งกันหลายร้าน และ 1 ในนั้นก็คือร้าน Cadbury พระเอกของเราด้วย
ร้านของ Cadbury (แคดเบอรี่) ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี 1824 โดยนาย John Cadbury (จอห์น แคดเบอรี) ที่เมืองเบอร์มิงแฮมประเทศอังกฤษ ร้าน Cadbury เคยขายทั้ง ชา กาแฟ และเครื่องดื่มช็อกโกแลต แต่เมื่อคนนิยมดื่มช็อกโกแลตมากขึ้น เขาจึงหันมาโฟกัสกับช็อกโกแลตมากขึ้น ร้านของเขาไปได้ดีจนกระทั่งปี 1847 มีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Fry’s of Bristol แบรนด์นี้มาเหนือตรงที่ออกช็อกโกแลตแบบอัดแท่งมา แถมขายดีซะด้วย ซึ่ง Cadbury ก็ไม่ยอมแพ้ออกช็อกโกแลตแบบอัดแท่งมาสู้ในอีก 2 ปีถัดมา และก็ขายดีอีกเช่นเคย
เพราะการตลาดทำถึง?
การให้ช็อกโกแลตจึงกลายมาเป็นวัฒนธรรม
❤️
ปี 1861 นับยุคที่ร้าน Cadbury เริ่มตกต่ำลง ยอดขายไม่ดี แถมคู่แข่งก็เยอะ Richard และ George สองพี่น้องที่เข้ามารับช่วงร้านต่อ จึงหันมาผลิตช็อกโกแลตเพียงอย่างเดียว พวกเขาเกิดปิ้งไอเดียที่จะทำให้ร้านของพวกเขากลับมาขายดีขึ้น พวกเขาได้ผลิต Fancy box ที่ข้างในเต็มไปด้วยช็อกโกแลตออกมาขาย เจ้ากล่อง Fancy box นอกจากภายในจะมีช็อกโกแลตของทางร้านแล้ว หน้ากล่องยังถูกออกแบบให้มีลวดลายที่สวยงาม ถึงแม้เราจะกินช็อกโกแลตในกล่องหมดแล้ว แต่เราสามารถนำกล่องไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ นั่นทำให้ Fancy box ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง
Fancy Box กล่องช็อกโกแลตที่สวยงามของ Cadbury ในยุคก่อน
จนกระทั่งวันวาเลนไทน์ปี 1868 สองพี่น้องก็ไม่พลาดที่จะทำ Fancy box เช่นเคย ครั้งนี้พวกเขาก็เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง โดยการออกแบบกล่องช็อกโกแลตเป็นรูปหัวใจ ด้วยความที่วันวาเลนไทน์นั้นเกี่ยวกับความรัก แถมแพคเกจจิ้งมันก็จึ้งมาก สื่อความหมายได้ดีเวอร์ ทีนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย หันไปทางไหนก็มีแต่คนให้กล่องช็อกโกแลตรูปหัวใจกับคนที่ตัวเองรักกันทั้งน้้น และที่สำคัญเลยคือ แม้จะผ่านมากี่ปีผู้คนก็ยังคงมอบกล่องช็อกโกแลตให้แก้กันในวันวาเลนไทน์ จนทำให้สิ่งนี้กลายเป็นวัฒนธรรมไปแบบอัตโนมัติ ทุกคน (รวมถึงเราด้วย) ต่างเข้าไปเองว่า วันวาเลนไทน์ก็ต้องให้ช็อกโกแลตสิ ห๊าา😮
ช่างเป็นการตลาดที่ทำถึงจริงๆ ถึงขั้นกลายมาเป็นวัฒนธรรมเลยทีเดียว กะไว้แค่เพิ่มยอดขาย หากำไรเข้าร้านเท่านั้น แต่ดันไปสร้างวัฒนธรรมแสนโรแมนติกให้เทศกาลวันวาเลนไทน์เฉยเลย สุดยอด!
จากวันนั้นถึงวันนี้ (กุมภาพันธ์ 2024) แบรนด์ Cadbury ก็ถือเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตเก่าแก่ที่อยู่มานานถึง 200 ปี รูปแบบของกล่อง Fancy Box ก็มีเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทางแบรนด์ยังคงรักษาเอาไว้คือ ความรู้สึกดีๆ ที่มากับกล่อง ด้วยความที่ Cadbury ตั้งใจให้ Fancy Box เป็นกล่องของขวัญก็จะมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่ใช้บอกความรู้สึกของผู้มอบได้ อย่างสมัยก่อนเมื่อกินช็อกโกแลตหมดแล้ว ก็สามารถตัดภาพหน้ากล่องเก็บไว้ได้ และในปัจจุบันกล่องจะมีการ์ดเล็กๆ ที่พอดึงออกมานอกจากจะมีการ์ดให้เขียนข้อความได้แล้ว การ์ดนั้นยังการ์ดหัวใจแบบ 3 มิติอีกด้วย น่ารักมากจ้า
ปัจจุบันช็อกโกแลตของ Cadbury จะมีแพคเกจเป็นสีม่วง มีทั้งแบบกล่องใหญ่ และขนาดอื่นๆ อีก แล้วเขาก็ยังมีหลายรสชาติให้เลือกเพียบ
ความน่ารักของการ์ดคือ เราสามารถป๊อบเขาให้เป็นรูปทรง 3 มิติได้ เป็นการ์ดที่เก๋มาก
💙 อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่
- หายไปไหน? ทำไมกุมภาพันธ์ถึงมีแค่ 28-29 วัน ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีถึง 30 วัน!
- DAY OF THE DEAD เทศกาลที่เต็มไปด้วยความคิดถึง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://ppro.pro/4bsi3b4 / https://ppro.pro/49mE09u / https://ppro.pro/49p2y1K / https://ppro.pro/3w1a44r
โดย Ying
ฺ𝘉𝘰𝘰𝘬 • 𝘊𝘰𝘧𝘧𝘦𝘦 • 𝘞𝘢𝘭𝘬𝘪𝘯𝘨 • 𝘍𝘳𝘦𝘦𝘥𝘪𝘷𝘪𝘯𝘨