ฮิตสุด ณ จุดนี้ ! รีวิว "Bose QuietComfort 45" หูฟังครอบหู สไตล์วัยรุ่น Pinterest

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer2 พ.ย. 2565 avatar writer1.3 K
ฮิตสุด ณ จุดนี้ ! รีวิว "Bose QuietComfort 45" หูฟังครอบหู สไตล์วัยรุ่น Pinterest

 

เดี๋ยวนี้สไตล์การแต่งตัวแมทช์กับ 'หูฟังแบบครอบหู' กำลังมาแรงมากในบ้านเรา

 

ซึ่งเจ้าหูฟังแบบครอบหู หรือเฮดโฟนนี้ไม่ได้มีหน้าที่เป็นแค่พร็อบเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้งานได้จริงแบบหูฟังทั่วไปเลย แถมจุดเด่นของหูฟังประเภทนี้ จะเป็นต่อกว่าหูฟังประเภทอื่น ๆ ก็ตรงที่ สามารถครอบคลุมได้ทั้งใบหู  อย่างใครที่ชอบมีปัญหาเวลาใส่หูฟังแบบ Earbud ไร้สาย แล้วตัวหูฟังมักจะหลุดออกมาบ่อย ๆ ลองเปลี่ยนมาใช้หูฟังประเภทนี้กันดูได้ เพราะนอกจากจะช่วยเซฟเราจากการก้มลงไปเก็บซากหูฟัง Earbud ที่เดี๋ยวก็หลุด เดี๋ยวก็หล่นได้แล้ว 😅  ยังจะช่วยเสริมลุคให้เหมือนหลุดออกมาจากหน้า Pinterest ได้อีกด้วยนะ !

 


 

Y2K หลบไป ตอนนี้ถึงเวลาของ Downtown Girl แล้ว !

 

ทุกคนรู้กันไหมว่าสไตล์การแต่งตัวที่มีหูฟังเฮดโฟนเป็นส่วนประกอบนี้ เค้าเรียกกันว่าสไตล์การแต่งตัวแบบ Downtown Girl ไม่ใช่ Y2K แบบที่ใครหลายคนเข้าใจ สำหรับความแตกต่างของสไตล์ Y2K กับ Downtown Girl จะมีความแตกต่างกันตรงที่ Mood & Tone  ที่ Y2K จะเน้นหนักไปที่การเล่นกับสีสันมากกว่า ส่วนของ Downtown Girl จะมีความดาร์กกว่า หม่นกว่า และต่อให้ดาร์กกว่า หม่นกว่าก็จริง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว การแต่งตัวนั้นสบาย และง่ายกว่ากันเยอะ

 

ความแตกต่างระหว่างแฟชั่นสไตล์ Y2K กับ Downtown Girl

 

ซึ่งจุดเริ่มต้นของแฟชั่นสไตล์ Downtown Girl มีจุดเริ่มต้นมาจากแฟชั่นในหน้านิตยสาร หนังสือพิมพ์ รวมไปถึงโพสต์บน Pinterest ของวัยรุ่นอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 2008 สำหรับแฟชั่นสไตล์ Downtown Girl จะเน้นไปที่การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสบาย ๆ ไม่หวือหวา หรือฉูดฉาดมาก อย่างไอเทมที่พบได้บ่อยจากแฟชั่นของสาว ๆ ในยุคนั้น ก็ได้แก่

 

  • เสื้อ Sweater ตัวใหญ่ ๆ 
  • เสื้อผ้า Oversized
  • เสื้อคลุมหนังสีดำ
  • เสื้อยืดลายกราฟิก หรือลายสกรีนภาพวงดนตรีต่าง ๆ 
  • กิ๊บหนีบผมตัวใหญ่ ๆ
  • รองเท้าหนังสไตล์ Dr.Martens
  • รองเท้าผ้าใบ Converse
  • หูฟังครอบหู หรือเฮดโฟน

 

 

นอกจากนี้ Downtown Girl ยังรวมไปถึงบุคลิกนิสัย สถานที่ที่ชอบไป รวมถึงไลฟ์สไตล์ของคน ๆ นั้นได้อีกด้วย อย่างสิ่งที่เห็นปุ๊บ แล้วสามารถบ่งบอกถึงความเป็น Downtown Girl ได้ปั๊บ ก็ได้แก่

 

  • ความรักในหนังสือมือสอง หรือของวินเทจ
  • ชอบเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน
  • ชอบถ่ายรูปในร้านแผ่นเสียง ระเบียง หรือว่าร้านหนังสือ
  • มักจะชอบถ่ายรูปแบบไม่เห็นหน้า
  • ชอบเสพงานศิลป์ หรือเข้าชมคอนเสิร์ตของศิลปินวงโปรดเป็นชีวิตจิตใจ
  • เวลาว่างชอบเขียนบทกวี อ่านบทกวี
  • งอก Playlist ใหม่ ๆ ออกมามากมาย โดยที่ Playlist ส่วนใหญ่มักจะอิงจากชีวิตของตัวเองในช่วงนั้น
  • มักจะตัวติดกับหูฟังแบบครอบหู หรือเฮดโฟนตลอดเวลา ชนิดที่ว่าไปไหนไปกัน !

 

แต่ด้วยความที่ว่ายุคสมัยของ Y2K และ Downtown Girl จัดว่าทิ้งห่างกันไม่มาก (Y2K เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1997 - 2004 ส่วน Downtown Girl เริ่มในปี ค.ศ. 2008) เลยทำให้วัยรุ่นบางกลุ่มได้ทำการขมวดการแต่งตัวทั้ง 2 สไตล์นี้เข้าด้วยกัน แต่ใดใดไอเทมที่ต้องมี ชนิดที่ว่าขาดไม่ได้ ก็ได้แก่ หูฟังแบบครอบหู  หรือเฮดโฟนนี่แหละที่ต้องมีติดตัวไว้ทุกสถานการณ์

 

ซึ่งในปัจจุบัน กระแสการแต่งตัวแบบ Downtown Girl ก็ได้หวนกลับมาอีกครั้ง เชื่อว่าเวลาที่เพื่อน ๆ เดินทางไปตามแหล่งรวมตัวของเหล่าวัยรุ่น น่าจะเคยพบเห็นคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าในสไตล์แบบที่เราได้อธิบายไป บวกกับมีพร็อบติดตัวอย่าง หูฟังครอบหู ที่แมทช์กับลุคการแต่งตัวในวันนั้น ประหนึ่งถอดแบบออกมาจากนิตยสารวัยรุ่นอย่างไง อย่างงั้นเลย

 

และเดี๋ยวนี้ด้วยความที่ว่าเจ้าหูฟังเฮดโฟนนี้กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ เลยทำให้ตัวเลือกต่าง ๆ ก็เลยมีเยอะมากตามไปด้วย สำหรับใครที่อยากจะลงทุนกับหูฟังเฮดโฟนตัวเดียวแบบจบ ๆ แถมยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน เราก็มีรีวิวหูฟัง Bose QuietComfort 45 มาป้ายยา กระซิบว่าตอนท้ายเรามีส่วนลดมาแจกให้แบบ Exclusive ด้วยนะ 😎 

 


 

รีวิว Bose QuietComfort 45

หูฟังครอบหู อัปลุคให้กลายเป็นวัยรุ่น Pinterest ในราคาหมื่นต้น ๆ

 

 

สำหรับหูฟัง Bose QuietComfort 45  เป็นหูฟังเฮดโฟนไร้สายรุ่นล่าสุดของทาง Bose ที่เค้าได้ทำการอัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นมาจากรุ่นเดิมอย่าง Bose QuietComfort 35 II ซึ่งต่อให้จะเป็นการอัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นมาก็จริง แต่กระซิบให้ว่า ราคาเค้าถูกลงกว่าเดิมเยอะมาก 

 

โดยหูฟัง Bose QuietComfort 45 รุ่นนี้ มีจุดเด่นตรงที่การตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น เอาง่าย ๆ คือ สามารถสวมได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ปวดหู เพราะวัสดุที่บุรอบ ๆ ตัวหูฟัง ทางแบรนด์เค้าได้เลือกใช้วัสดุที่ Support กับการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ทำให้สวมได้สบาย ซึ่งทางเราได้ทดลองใช้งานมาแล้วบอกเลยว่าเลิฟมาก ไม่รู้สึกอึดอัด หรือว่าเจ็บหูเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

มาต่อกันที่เรื่องของการออกแบบกันบ้าง สำหรับการออกแบบของหูฟังรุ่นนี้ จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย ดูคลีน ๆ อย่างพวกปุ่มคำสั่งต่าง ๆ เค้าก็ได้เอาไปซ่อนอยู่ในจุดที่ลับสายตา เรียกได้ว่าเป็นการพรีเซ็นต์ภาพลักษณ์ของหูฟังได้แบบเต็มที่ ตัวหูฟังก็มีขนาดกำลังดี มีน้ำหนักอยู่ที่ 8.5 ออนซ์ (หรือประมาณ 240 กรัมเท่านั้น) สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก ปรับงอได้ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันเลย

 

 

ถัดจากการออกแบบ เรามาซูมดูชุดปุ่มคำสั่ง รวมถึงการเชื่อมต่อต่าง ๆ กันบ้างดีกว่า เริ่มจากการเปิด-ปิดการเชื่อมต่อของหูฟัง ที่มีชุดคำสั่งอยู่บริเวณแป้นด้านหน้าของตัวหูฟังเลย สำหรับการเชื่อมต่อก็ง่าย ๆ แค่เราทำการสไลด์ปุ่มไปทางขวาค้างไว้ จนไฟกระพริบสีฟ้าติดขึ้น หรือใครจะเชื่อมต่อผ่านแอป Bose Music เลยก็ได้ สามารถทำได้ทั้ง 2 วิธี อ้อ ใครที่สไลด์ไปแล้วไฟไม่ติด ลองนำหูฟังไปชาร์จแบตดูก่อนนะ เผื่อแบตน้องจะหมดอยู่ 😆 

 

 

ถัดจากการเชื่อมต่อหูฟัง ก็มาถึงการสำรวจชุดปุ่มคำสั่งต่าง ๆ กันบ้าง สำหรับชุดคำสั่งแรกจะซ่อนอยู่ที่บริเวณด้านหลังของหูฟังฝั่งขวา ซึ่งชุดปุ่มคำสั่งในฝั่งนี้ก็จะมีด้วยกันตั้งแต่ การเพิ่มเสียง ลดเสียง การหยุดเพลง และการกดเปลี่ยนเพลง

 

  • กด 1 ครั้งที่ปุ่มเพิ่มเสียง = เพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้น 1 ระดับ
  • กด 1 ครั้งที่ปุ่มลดเสียง = ลดระดับเสียงให้เบาลง 1 ระดับ
  • กด 1 ครั้งที่ปุ่ม Multi-Function (ตรงกลาง) = เปิดคำสั่งให้เล่น หรือหยุดเพลง
  • กด 2 ครั้งที่ปุ่ม Multi-Function (ตรงกลาง) = เปิดคำสั่งให้เล่นเพลงถัดไป
  • กด 3 ครั้งที่ปุ่ม Multi-Function (ตรงกลาง) = เปิดคำสั่งให้ย้อนกลับไปเล่นเพลงก่อนหน้า
  • กดค้างไว้ที่ปุ่ม Multi-Function (ตรงกลาง) = เปิดใช้งานคำสั่งเสียง

 

ถัดมาสำหรับ ชุดคำสั่งที่ซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังของหูฟังฝั่งซ้าย โดยชุดปุ่มคำสั่งในฝั่งนี้จะรองรับแค่เพียงคำสั่งเดียวนั่นก็คือ Action สำหรับการสลับโหมดระหว่างการตัดเสียงรบกวนภายนอก (Quiet) กับเปิดรับเสียงจากภายนอก (Aware) โดยเราสามารถเปิดใช้ชุดคำสั่งนี้ผ่านแอป Bose Music ก็ได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของเราตอนนั้นเลย

 

 

หลังจากรีวิวหน้าตา รวมไปถึงบรรดาชุดปุ่มคำสั่ง และการเชื่อมต่อต่าง ๆ แล้ว เราก็มาว่ากันในส่วนของ คุณภาพเสียง กันบ้าง เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักกับ Bose ในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเสียงที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ดังนั้นเมื่อเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพของเสียงที่ดีอยู่แล้ว เราก็แทบจะไม่ต้องเดากันเลยว่า เจ้าหูฟัง Bose QuietComfort 45 ตัวนี้ ประสิทธิภาพในเรื่องของเสียงเค้าจะดีงามขนาดไหน

 

ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองใช้งานหูฟัง Bose QuietComfort 45 ตัวนี้ แล้วลองเปิดนู้น ฟังนี้ รวมถึงลองปรับเล่นในโหมดต่าง ๆ ของตัวหูฟังดูแล้ว สามารถสรุปเป็นความคิดเห็นส่วนตัวได้ดังนี้

 

  • โหมดตัดเสียงรบกวนภายนอก (Quiet) เราว่าเป็นจุดเด่นของหูฟัง Bose QuietComfort 45 ตัวนี้เลยก็ว่าได้ เพราะตัวหูฟังทำได้ดีมาก ๆ คือสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไปได้หมด ขนาดยังไม่ทันได้เปิดเพลง ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากภายนอกแล้ว คิดดู 😆 

  • โหมดเปิดรับเสียงรบกวนภายนอก (Aware)  ก็ไม่ได้ทำลายบรรยากาศของการฟังเพลงขนาดนั้น โดยเสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงของบรรยากาศภายนอกที่คมชัด แบบที่ฟังแล้วก็พอจะรู้เรื่องว่าตอนนี้เพื่อนกำลังพูดอะไร หรือคุยอะไรกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่ารบกวนการใช้งานหูฟังของเรานะ เพียงแต่มันจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ว่าบรรยากาศในการฟังเพลงของเรามันได้เปลี่ยนไปจากเวลาที่เปิดโหมด Quiet นั่นเอง

  • สำหรับการใช้งานในโหมด Quiet และ Aware มีสิ่งที่เราแอบติดอยู่นิดนึงตรงที่ ทุกครั้งเวลาที่กดเปลี่ยนโหมด  เพลงที่เรากำลังฟังอยู่จะหยุดเล่น แล้วก็จะมีเสียงของตัวหูฟังดังออกมาว่าอันนี้คือโหมดนี้ ๆ นะ เพลงถึงค่อยกลับมาเล่นต่อ ซึ่งในใจเราอยากให้ตัวหูฟังสามารถตัดสลับโหมดได้แบบทันที โดยที่เพลงไม่จำเป็นจะต้องหยุดเล่น ถ้าเป็นแบบนี้มู้ดในการฟังเพลงของเราก็จะต่อเนื่องกว่า เพราะว่าไม่มีการสะดุดระหว่างทางนั่นเอง

    แต่ถ้ามองอีกมุม ในเวย์ของคนที่กดเปลี่ยนโหมดด้วยปุ่มคำสั่งที่อยู่บนหูฟัง อาจจะไม่รู้ว่าอันนี้ได้สลับเปลี่ยนโหมดไปแล้วหรือยัง ถ้าไม่มีเสียงแจ้งเตือนก่อนว่ากำลังจะสลับเปลี่ยนโหมดนะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานล้วน ๆ เพราะถ้ามองมันก็มีทั้งข้อดีและข้อติ แต่ถ้าให้เซฟ ๆ เลย มีไว้ก็คงจะดีกว่า เวลาสลับเปลี่ยนโหมดจะได้ไม่งงกัน

  • ในส่วนของบีท คุณภาพเสียง และฟีเจอร์การปรับแต่งเสียงของหูฟัง ก็ทำได้ดีสมกับชื่อ Bose แถมเรายังสามารถปรับแต่งบีทให้มีความพิเศษเฉพาะตัว ผ่านทางแอป Bose Music ซึ่งฟีเจอร์การปรับแต่งบีทตรงนี้ สามารถช่วยเพิ่มอรรถรสให้เราเข้าถึงเพลง ๆ นั้นได้ดียิ่งขึ้น อย่างเราทดลองปรับแต่งเสียงเล่น ๆ ดู ปรากฏว่าบรรยากาศของการฟังเพลง เหมือนเรากำลังนั่งฟังเพลงนั้นอยู่ในคอนเสิร์ต (ทิพย์) เลย 

 

  • นอกจากคุณภาพของเสียงที่ได้จากการฟังเพลงแล้ว คุณภาพของเสียงที่ได้จากการรับสาย - โทรออก ก็ทำได้ดี ไม่มีที่ติเหมือนกัน (จะมีติอยู่อย่างเดียวก็คือสัญญาณเน็ตของตัวเองนี่แหละ 😂) คือเสียงที่ได้นั้นคมชัด ความดีเลย์มีน้อย แถมเจ้าตัวโหมด Quiet กับ Aware ก็ช่วย Support การสนทนาระหว่างเรากับปลายสายให้ราบรื่นได้ยิ่งขึ้น เสียงที่ได้เลยมีความคมชัด ไม่มี Noise หรือจังหวะสะดุดมารบกวนการสนทนาของเราเลย

 

และสุดท้าย กับหัวข้อของการรีวิวที่ทุกคนน่าจะรอคอยกันอยู่ นั่นก็คือ แบตเตอรีการใช้งาน รวมถึงความเร็วในการชาร์จต่อครั้ง อย่างที่บอกว่าเจ้าหูฟัง Bose QuietComfort 45 ตัวนี้ ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ดังนั้นนอกจากจุดเด่นอย่างการมีน้ำหนักเบา บวกกับความยืดหยุ่น สะดวกต่อการจัดเก็บหูฟังแล้ว อย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของแบตเตอรี ที่รุ่นนี้ก็ทำได้ดีอีกแล้ว 😉 

 

 

สำหรับแบตเตอรี่ของ Bose QuietComfort 45 รุ่นนี้ รองรับการใช้งานได้สูงสุด 24 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งถ้าเราไม่ได้เปิดใช้งานตลอดทั้งวัน เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของหูฟังออกไปได้นานกว่านั้นได้เลย แถมเวลาในการชาร์จ / ครั้ง สมมุติว่าถ้าเรามีเวลาในการชาร์จหูฟังแค่เพียง 15 นาที เราจะสามารถใช้งานหูฟังได้สูงสุดถึง 3 ชม. นั่นก็แปลว่าแบตเตอรีของหูฟังรุ่นนี้ ชาร์จเต็มไว รองรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มักจะตัวติดอยู่กับหูฟังตลอด 

 

ดังนั้นหลังจากที่เราได้ทำการทดลองใช้งานหูฟัง Bose QuietComfort 45 รุ่นนี้มา สิ่งที่เราชอบมาก ๆ เลยก็คือ ฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนของเค้า ที่ทำได้ดีมาก ๆ แถมคุณภาพของเสียงก็ดี แบตอึด อย่างเราไม่ได้ตัวติดอยู่กับหูฟังตลอด ส่วนใหญ่ถ้าจะฟังก็จะเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเข้างาน กับหลังเลิกงานไปเลย เลยทำให้เวลาชาร์จแบตแต่ละครั้ง เราจะสามารถใช้งานเจ้าหูฟังตัวนี้ได้ยาว ๆ สูงสุดถึง 3 วัน+ เลย แถมตัวฟีเจอร์การใช้งาน รวมถึงลูกเล่นต่าง ๆ ก็ไม่ได้สลับซับซ้อนขนาดนั้น

 

สำหรับเราเลยคิดว่าเจ้าหูฟังตัวนี้จัดว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของเราได้ดี ที่สำคัญคือไม่ต้องพะวงกับปัญหาหูฟังหลุดออกจากหูบ่อย ๆ เหมือนเวลาที่ใช้หูฟังแบบ Earbud เลย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาหูฟังแบบครอบหูที่ควรค่าแก่การลงทุนไว้ใช้งานยาว ๆ สักตัว Bose QuietComfort 45 รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนกันนะ

 


 

💭 สำหรับใครที่สนใจหูฟัง Bose QuietComfort 45 เราก็มีส่วนลดพิเศษมาแจกให้ด้วย เพียงแค่เพื่อน ๆ กรอกโค้ด BOSEPUNPRO500 ในการสั่งซื้อหูฟังผ่าน ลิงก์นี้ รับส่วนลดไปเลยทันที 500 บาท เหลือเพียง 11,400 บาท (จากราคาปกติ 11,900 บาท) กระซิบว่าโค้ดส่วนลดนี้ ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 10 พฤศจิกายน 2565 นี้เท่านั้นนะ  ใครที่กำลังมองหาหูฟังที่เป็นได้ทั้งพร็อบ แถมยังใช้งานได้จริง ลองรับหูฟังตัวนี้ไปพิจารณากันดูน้าา 😚 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น