ส่องประวัติตัวเต็ง 'ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.' ที่คนกรุงเทพฯ พร้อมอ้าแขนต้อนรับ

 

'กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว'

 

นับถอยหลังเตรียมกากบาทเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังเดินทางจะมาถึงในเดือนข้างหน้านี้ โดยในครั้งนี้มีผู้ลงสมัครถึง 31 คน ทั้งในนามพรรคการเมืองและอิสระ ทำเอาเกมการเมืองคึกคักและทำให้ประชาชนหลายคนมีความคาดหวังว่า ว่าที่ผู้ว่า กทม. ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อจากนี้ จะสามารถพัฒนากรุงเทพฯ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองให้ครบทุกแง่ ทั้งเรื่องปากท้อง การอยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งการคมนาคม การจราจรติดขัด ถือเป็นปัญหาเบอร์ต้น ๆ ของ กทม. ที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด

 

---

 

 

เปิดผลนิด้าโพลกับความนิยม 'ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.' ก่อนเลือกตั้งจริง 22 พ.ค. นี้

 

'นิด้าโพล' ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ 'สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 65 รอบที่ 1'  เมื่อวันที่ 5-7 เม.ย. ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต ในทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งหมด 1,362 คน โดยผลสำรวจความคิดเห็นผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มตัวอย่าง เรียงคะแนนตามลำดับ ดังนี้ 👇🏼 

 

📌 อันดับ 1 ร้อยละ 38.84

 

ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (อิสระ) เนื่องจากผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คนดังกล่าว เป็นคนเก่ง มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ตั้งใจในการทำงาน และลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน

 

📌 อันดับ 2 ร้อยละ 26.58

 

ระบุว่า 'ยังไม่ตัดสินใจ'

 

📌 อันดับ 3 ร้อยละ 10.06

 

ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (อิสระ) ด้วยเป็นคนมีประสบการณ์ บริหารงานเก่ง และสามารถสานต่องานได้อย่างต่อเนื่อง

 

📌 อันดับ 4 ร้อยละ 6.83

 

ระบุว่าเป็น ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ ๆ และสามารถพัฒนาให้กรุงเทพฯ มีความเจริญก้าวหน้าเทียบเท่าต่างชาติได้

 

📌 อันดับ 5 ร้อยละ 6.02

 

ระบุว่าเป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ มีอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน

 

 

📌 อันดับ 6 ร้อยละ 2.94

 

ระบุว่า 'ไปลงคะแนน แต่ไม่เลือกใคร' (Vote NO)

 

📌 อันดับ 7 ร้อยละ 2.28

 

ระบุว่าเป็น นายสกลธี ภัททิยกุล (อิสระ) เพราะมีประสบการณ์ในการบริหารงาน และช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง

 

📌 อันดับ 8 ร้อยละ 2.06

 

ระบุว่า 'จะไม่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง'

 

📌 อันดับ 9 ร้อยละ 1.98

 

ระบุว่าเป็น น.ส.รสนา โตสิตระกูล (อิสระ) เนื่องจากเป็นคนซื่อสัตย์ ทำงานดี มีผลงาน และเป็นคนมีวิสัยทัศน์

 

📌 อันดับ 10 ร้อยละ 1.47

 

ระบุว่าเป็น น.ต.ศิธา ทิวารี (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะชื่นชอบนโยบายและเชื่อมั่นในพรรคไทยสร้างไทย

 

นอกจากนี้ ร้อยละ 0.94 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล (อิสระ), น.ส.วัชรี วรรณศรี (อิสระ), นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ (อิสระ), ดร.ศุภชัย ตันติคมน์ (อิสระ), ดร.ประยูร ครองยศ (อิสระ), นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ (อิสระ) และดร.ภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ (อิสระ)

 

---

 

 

รู้จัก 'ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.' ตัวท็อปที่ยึดพื้นที่ครองใจประชาชนเป็นเบอร์ต้น ๆ 

 

'เปย์เป้' ขออาสาพาเพื่อน ๆ ที่มีสิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. นี้ มาเปิดประวัติและทำความรู้จักตัวเต็ง 'ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.' ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ จากผลสำรวจ 'สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 65 รอบที่ 1'  ของ 'นิด้าโพล' ที่อาจได้รับเลือกมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไป ว่ามีวิสัยทัศน์และนโยบายที่จะนำมาพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงกรุงเทพไปในทิศทางใด

 

👉🏼 ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

 

เริ่มต้นจากผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 อย่างดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สังกัดอิสระ ที่มีนโยบายมากถึง 200 นโยบาย โดยมีหัวใจสำคัญ คือ การบริหารจัดการที่ดี แบ่งเป็น

 

• ปลอดภัยดี คือการรับเรื่องร้องเรียนจุดเสี่ยง ถ้ามีแก้ไขทันที
• สุขภาพดี ยกระดับศูนย์สาธารณสุข คลินิกโรคคนเมือง
• สิ่งแวดล้อมดี เช่น การปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ประกาศสงครามกับฝุ่น เปลี่ยนขยะเป็นรายได้
• เรียนดี คืนครูให้กับโรงเรียน เปิดโรงเรียนเป็นพื้นที่ให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์วันเสาร์-อาทิตย์
• บริหารจัดการดี
• เดินทางดี กทม.ต้องเป็นศูนย์กลางดำเนินการควบคุมไฟจราจร ดูเส้นทางรถเมล์
• โครงสร้างดี แก้ไขผังเมือง ทำโครงสร้างตามผังเมืองให้ทัน
• เศรษฐกิจดี เป็นเรื่องใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำตัวเป็น 'ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน'
• สร้างสรรค์ดี เปิดพื้นที่ให้เด็กรุ่นใหม่ทำงาน สร้างธุรกิจใหม่ ๆ

 

👉🏼 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

 

ยังได้รับกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สังกัดอิสระ อดีตผู้ว่าฯ กทม. คนล่าสุด ที่ได้รับการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึง 25 มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับนโยบายของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 16 ที่จะช่วยให้คนกรุงเทพมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น

 

• การรักษาพยาบาล ไม่ต้องเดินทางไปไกล ไปใกล้ ๆ ก็เข้าโรงพยาบาลได้ ขยายเครือข่ายครอบคลุม 4 มุมเมือง เพิ่มศักยภาพศูนย์สาธารณสุขชุมชน
• เรื่องคูคลอง ไม่ใช่แค่ที่ระบาย แต่ต้องพัฒนาด้วย รวมถึงการเพิ่มสวนสาธารณะ
• ระบบจราจรขนส่ง 'ล้อ ราง เรือ' มีการเพิ่มเรือ EV หรือเรือพลังงานสะอาดแล่นในคลองแล้ว

 

 

👉🏼 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

 

มาต่อกันที่นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งเป้าหมายว่า กทม. ต้องเป็นเมืองทันสมัย เป็นสวัสดิการที่คนจับต้องได้ พร้อมใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาเมือง โดยมีนโยบายหลัก 2 ด้านในการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพ ได้แก่

 

• เปลี่ยนชีวิตคน กทม. สิ่งที่หนักหนาสาหัสสุดคือเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องต้องดูแลเต็มที่ รวมถึงเรื่องสาธารณสุข แต่ละชุมชนต้องมีหมอใกล้บ้าน
• เรื่องการศึกษา ซึ่งทำเรื่องนี้มาตลอด มั่นใจปัญหารากฐานของคน กทม.คือการเข้าถึงการศึกษา ดังนั้นต้องให้ กทม.เป็นเมืองการศึกษาที่ดี
• การจราจร ต้องจัดการให้เบ็ดเสร็จ มีเทคโนโลยีจะทำได้ จะได้ไม่ต้องส่งต่อให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป
• ปัญหาน้ำฝนคือปัญหาใหญ่ของ กทม. ถ้าผู้ว่าฯ กทม.ไม่ทำ อีก 10 ปี จะไม่มีแผ่นดินอยู่
• เรื่องสิ่งแวดล้อม ปัญหาฝุ่น PM 2.5
• แก้ไขปัญหาโควิด-19 ให้เบ็ดเสร็จ

 

👉🏼 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

 

ปิดท้ายกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สังกัดพรรคก้าวไกล ที่มาพร้อมนโยบายในการจัดการปัญหาซ้ำซากของ กทม. และตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพได้เผชิญความท้าทายใหม่ และเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นตลอดกาล สำหรับนโยบาลในการแก้ไขปัญหา มีดังนี้

 

• แก้ไขค่าธรรมเนียมในการเก็บขยะ โดยยกตัวอย่างถึงค่าจัดการการเก็บขยะ 7 พันล้านบาท แต่กลับเก็บได้จริงแค่ 500 ล้านบาท
• แก้ไขงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม โดยอ้างว่ามีการประเคนงบก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ให้นายทุน ในขณะที่ลูกจ้าง กทม.กลับไม่ได้รับงบประมาณบรรจุ

 

---

 

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเฟ้นหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลำดับที่ 17 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ คงต้องอาศัยพลังแรงและพลังใจในการไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้งของคน กทม. 'เปย์เป้' หวังว่าว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ในอนาคต จะสามารถแก้ไขปัญหาและเปลี่ยนแปลงกรุงเทพไปในทิศทางที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ให้สมกับคำขวัญ 'Bangkok City of Life' หรือกรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว ❤️ 

 

ที่มา: นิด้าโพล, กรุงเทพธุรกิจ