รีบด่วน! เปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ด ก่อนใช้ไม่ได้หลัง 15 ม.ค. 63
โดย : MilD
บัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็ม แบบแถบแม่เหล็ก
หลังจากวันที่ 15 ม.ค. 63 จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้วนะ
รีบเปลี่ยนบัตรด่วน! ไม่เสียค่าธรรมเนียมเปลี่ยนบัตรใหม่ด้วยจ้า
ปลอดภัยกว่าเดิม ทำธุรกรรมได้สบายใจหายห่วง
ถ้าจะถอนเงินจากบัญชีเงินฝาก ต้องทำยังไง? หากเน้นไปที่ความสะดวกรวดเร็วเป็นสิ่งแรก เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงการถอนเงินที่ตู้ ATM ก่อนใคร เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปธนาคาร เพียงแค่หาตู้ถอนเงินสดใกล้บ้านก็เอาเงินออกมาใช้ได้แล้ว แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปกดถอนเงินจากตู้ได้เลย ก็ต้องมีบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตที่ผูกกับบัญชีนั้นก่อน เพราะก่อนหน้านี้แต่ละธนาคารยังไม่มีบริการ "ถอนเงินไม่ใช้บัตร" (Cashless ATM) เหมือนปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เวลาเปิดบัญชีเงินฝากแล้วก็จะสมัครบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตพ่วงไปด้วยนะ
เรามาพูดถึงความแตกต่างของบัตรเอทีเอ็มกับบัตรเดบิต ก็จะเป็นเรื่องการรูดใช้จ่ายตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งบัตรเดบิตจะสามารถทำได้ ส่วนบัตรเอทีเอ็มจะทำธุรกรรมได้เฉพาะที่เครื่อง ATM/CDM เพียงอย่างเดียว แต่กำหนดค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีเท่ากันหมด ทำให้ช่วงหลังบัตรเดบิตได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนบัตรเอทีเอ็มก็ค่อยๆ หายไปนั่นเอง แต่ถ้าเจาะลึกลงไปแล้วจะพบว่ามีบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มที่เป็นแบบแถบแม่เหล็กอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งมีความเสี่ยงในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่น้อย
รู้หรือไม่? หลังวันที่ 15 ม.ค. 63 บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตที่เป็นบัตรแถบแม่เหล็กอย่างเดียว และไม่มีชิปการ์ดบนหน้าบัตร จะไม่สามารถใช้ทำธุรกรรมใดๆ ได้อีกต่อไปแล้วจ้าตามนี้เลยยย~
- ไม่สามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ผ่านเครื่อง ATM ไม่ว่าจะเป็นถอนเงินสด/โอนเงิน/สอบถามยอดเงิน/จ่ายบิล
- ไม่สามารถรูดใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่รองรับชำระผ่านเครื่อง EDC
ถ้าหากยังอยากใช้งานต่อไปก็จะต้องรีบไปเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดให้ไวเลย ภายในวันที่ 15 ม.ค. 63 ไม่งั้นก็จะใช้ไม่ได้แล้ว หรือเปลี่ยนใจไม่อยากใช้งานแล้ว ก็ลองเปลี่ยนมาใช้แอปพลิเคชั่นธนาคารแทนก็ได้ สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ ทุกเวลา ถอนเงินก็ได้ด้วยนะเออ
บัตรเดบิตแบบชิปการ์ด ทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้?
หลังจากช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ พบว่าผู้ใช้งานบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตจำนวนไม่น้อยเจอกับปัญหาการโจรกรรมข้อมูล ซึ่งมักจะเป็นการติดตั้งเครื่องอ่านข้อมูลบัตรบริเวณที่สอดบัตรตามเครื่อง ATM ต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องที่มักไม่ค่อยมีคนใช้งาน หรือเครื่องอยู่ห่างไกลจากผู้คน คัดลอกข้อมูลแล้วสร้างบัตรขึ้นมาใหม่แล้วนำไปถอนเงินออกจากบัญชี หรือคุ้นเคยกันในชื่อ Skimming สร้างความเสียหายมูลค่าไม่น้อยเลย จึงได้มีการพัฒนาบัตรแบบชิปการ์ด ซึ่งสามารถป้องกันการโจรกรรมได้ ทุกครั้งที่ใช้งานจะมีการอ่านข้อมูลบนชิปหน้าบัตร เพื่อมั่นใจว่าเป็นบัตรจริงแน่นอน
บัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มของแต่ละธนาคารที่ลูกค้าสมัครใหม่ ก็จะเป็นบัตรที่มีชิปการ์ดบนหน้าบัตรอยู่แล้ว แต่ผู้ที่สมัครบัตรไว้นานแล้วของบางคนก็ยังเป็นแบบแถบแม่เหล็กอย่างเดียว ซึ่งมีความเสี่ยงจะถูกขโมยข้อมูลได้ง่ายกว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถาบันการเงินในประเทศ จึงได้กำหนดว่าภายในปี 2562 จะต้องเปลี่ยนบัตรทั้งหมดในระบบให้เป็นบัตรแบบชิปการ์ด ดังนั้นหลังวันที่ 15 ม.ค. 63 จะทำให้บัตรแบบแถบแม่เหล็กทั้งหมดไม่สามารถใช้งานตู้ ATM หรือเครื่องรูดบัตร EDC ตามร้านค้าต่างๆ อีกต่อไปจ้า ซึ่งตอนนี้มีผู้ถือบัตรแบบแถบแม่เหล็กอยู่เป็นล้านๆ คนเลยนะ ถึงเวลาเปลี่ยนบัตรแล้วจ้า แอดสรุปมาให้แล้วว่าเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดเริ่ดยังไงบ้างงง~
- ปลอดภัยกว่าเดิม เพราะข้อมูลบนชิปการ์ดมีความปลอดภัย ไร้กังวลเวลาทำธุรกรรม และเป็นรหัสเอทีเอ็มจำนวน 6 หลักจากเดิมเพียง 4 หลักเท่านั้น
- บัตรใหม่กว่าเดิม สำหรับบัตรเดิมที่ใช้มานานก็ต้องเก่าเป็นของธรรมดา พอเปลี่ยนบัตรแล้วก็เหมือนได้ของใหม่ ใช้กันได้ยาวๆ อย่างน้อยอีก 5 ปีเลย
- ทันสมัยกว่าเดิม หลายๆ ฟังก์ชันของบัตรที่สมัครใหม่ จะมีความพร้อมในการทำธุรกรรมกับธนาคารมากขึ้น
- ทำได้ง่ายกว่าเดิม บางธนาคารไม่ต้องเสียเวลาไปที่สาขา กดทำรายการสมัครบัตรผ่านแอปพลิเคชันได้เลยนะ จัดส่งบัตรให้ถึงบ้านหรือที่ทำงานเชียวล่ะ
ธนาคารทหารไทย ชวนให้ลูกค้าเปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรแบบชิปการ์ด
ไม่ต้องกังวลใจเพราะ ฟรี! ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนบัตรใหม่
เชื่อว่าหลายคนอาจจะกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตรจากแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชิปการ์ด จะต้องเสียเงินเพิ่มรึป่าว บอกเลยว่าตอนนี้ทุกธนาคารเค้าเปิดให้เปลี่ยนบัตรใบเดิมเป็นบัตรใหม่ ฟรี! ไม่เสียค่าธรรมเนียมเลยจ้า
- ฟรี! ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนบัตร (กรณีที่เปลี่ยนประเภทบัตร อาจจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าเพิ่มเติม แล้วแต่ธนาคารเลยจ้า)
- ค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเดิม แยกได้ 2 กรณีคือ (1) คำนวณต่อจากบัตรเดิมเลย ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีใหม่ พอครบกำหนดก็จะคิดค่าธรรมเนียมรายปีตามปกติ (2) จ่ายค่าธรรมเนียมรายปีบัตรใหม่ โดยจะโอนเงินค่าธรรมเนียมรายปีเดิมคืนตามจำนวนวันที่เหลืออยู่
K-Debit Card เปลี่ยนบัตรฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียมจ้า
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 63 เป็นต้นไป ใครที่ถือบัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มแบบแถบแม่เหล็กทุกธนาคาร จะไม่สามารถถอนเงิน ฝากเงิน ทำธุรกรรมที่เครื่อง ATM/CDM รวมถึงการรูดซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้าต่างๆ ได้อีกต่อไปแล้ว ก็จะเหมือนเป็นบัตรที่ไม่สามารถทำธุรกรรมได้อีกต่อไป
- ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งในประเทศไทย ให้ลูกค้าเดิมที่ถือบัตรแบบแถบแม่เหล็ก เปลี่ยนบัตรได้ฟรี! โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่ หรือถ้าต้องการบัตรรูปแบบพิเศษก็เลือกสมัครได้เช่นกัน
- จะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริง + สมุดบัญชีเงินฝาก + บัตรเดบิต/เอทีเอ็มใบเดิม แค่ 3 อย่างนี้เตรียมให้พร้อมแล้วพุ่งไปที่ธนาคารได้เลย ทำรายการแปบเดียวก็เรียบร้อยจ้า แต่ระยะเวลารอคิวอันนี้แอดไม่แน่ใจนะว่าคนเยอะมั้ย สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลารอ แค่เข้าแอป Mobile Banking ของบางธนาคารทำรายการเองเลยก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก...ธนาคารแห่งประเทศไทย
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ