เปิดตัว iPhone 14 ซีรีส์ใหม่สุด ! พร้อมบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะพลิกโฉมประวัติศาสตร์ไทยไปตลอดกาล

 

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ Apple Event "Far out" ที่ทั้งโลกต่างตั้งตารอ เพราะมีข่าวลือหนาหูว่าจะมีการเปิดตัว iPhone 14 Series พร้อมกับเปิดตัวสีใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เพราะคุณพ่อ Tim Cook มาเฉลยด้วยตัวเองว่า สำหรับอีเวนต์ครั้งนี้จะเป็นการ เปิดตัว Apple Watch, AirPods และ iPhone ซีรีส์ใหม่  หืมมม สาแก่ใจอีช้อยนัก แต่ก็แอบผิดหวังอยู่หน่อย ๆ เพราะไม่มี iPad รุ่นใหม่ ออกมาให้ยลโฉมกับเขาเลย ไม่เป็นไร เพราะแค่ 3 Product ที่ว่ามา ยังคิดอยู่เลยว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ คงได้หยิบยืมเงินเก็บจากบัญชีตัวเองมาใช้อีกตามเคย แหะ ๆ 😅

 

---

 

"Apple Watch" 3 รุ่น 3 ไลฟ์สไตล์ ใหม่ทุกมิติ !

 

กรี๊ดออกมาดัง ๆ ให้กับความล้ำของฟีเจอร์ฉบับปรับปรุงใหม่เอี่ยม ที่มีมาให้ใน Apple Watch ซีรีส์ล่าสุด ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Apple Watch Series 8, Apple Watch SE และ Apple Watch Ultra มาดูกันว่ารุ่นไหนควรค่าแก่การสอย และตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด คราวนี้จะได้มี Smart Watch เป็นของตัวเองสักที ไม่ต้องหยิบยืมเพื่อนมาใส่แล้วนะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามโล่ด 👇🏼

 

 

| Apple Watch Series 8 ก้าวกระโดดขั้นสุด เพื่อความปลอดภัย

 

เริ่มต้นด้วย Apple Watch Serise 8 กับจอภาพ Retina แบบติดตลอด สูงสุด 1,000 นิต ที่ทำเอาขนลุกขนพองกับฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ กับฟีเจอร์สุขภาพที่อัดแน่นจัดเต็มไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ที่เข้าใจหัวอกเพื่อนหญิงพลังหญิงเป็นที่สุด จนอยากไหว้ลงที่อกคุณพ่อทิม คุก เดี๋ยวนั้นเลย แต่ก่อนจะไปขนลุกต่อในยกสอง มาพักสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเตรียมตะลึงกับความล้ำของซีรีส์ 8 กันได้เลย เพราะรอบนี้เขาไม่ได้มาเล่น ๆ 

 

 

⌚ ใหม่ ! Crash Detection รักษาความปลอดภัยจากทุกสารทิศ  

 

Crash Detection ฟีเจอร์ตรวจจับการชนขณะขับรถ พ่วงด้วยระบบความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS แบบออโต้ สามารถตรวจจับเมื่อเราประสบอุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรง ตรวจจับได้หมดไม่ว่าจะรถถูกชนจากด้านหน้า ชนท้าย ชนข้าง หรือพลิกคว่ำ ด้วยอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบแรง g สูง ตรวจจับแรง g ได้สูงสุด 256 และยังพัฒนาขึ้นจากข้อมูลการขับขี่และการชนที่เกิดขึ้นจริงกว่า 1 ล้าน ชม. ด้วย 

 

 

⌚ อุปกรณ์ในฝัน สำหรับเพื่อนหญิงพลังหญิง

 

Apple Watch Series 8 มาพร้อมเซ็นเซอร์ใหม่สุดล้ำที่สามารถคาดคะเนรอบประจำเดือน รวมถึงแนวโน้มวันไข่ตกได้อย่างแม่นยำ และยังมีฟีเจอร์แจ้งเตือนถ้าประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมาช้ากว่าปกติด้วยนะ แล้วที่ดีสุด ๆ คือ สามารถแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพนี้ให้กับแพทย์ หรือโรงพยาบาลโดยตรงได้เลย คราวนี้ไม่ต้องมานั่งนึกแล้วว่า ประจำเดือนมาล่าสุดเมื่อไร ?

 

การตรวจวัดอุณหภูมิ เข้าใจรอบเดือนของคุณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Apple Watch Series 8 มาพร้อมเซ็นเซอร์ใหม่ซึ่งเป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่จะติดตามอุณหภูมิของคุณในขณะนอนหลับ เพื่อให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไป โดยการติดตามรอบเดือนจะใช้ข้อมูลนี้ในการคาดคะเนช่วงเวลาไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนครอบครัว และเมื่อนำไปรวมกับอัตราการเต้นของหัวใจและข้อมูลรอบเดือนที่บันทึกไว้ คุณก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับรอบเดือนของตัวเองในแบบที่ละเอียดยิ่งขึ้น

 

 

⌚ ใหม่ ! เซ็นเซอร์เฝ้าระวังความผิดปกติของร่างกาย

 

ซีรีส์ 8 พัฒนาระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย แม้เปลี่ยนเพียงเล็กน้อยก็ตรวจจับได้ หรือการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ทุกเมื่อและแม่นยำ ดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการวัดออกซิเจนในเลือด เรียกได้ว่าล้ำสุดอะไรสุด แค่สวมนาฬิกาก็เหมือนคำนวณสุขภาพเราได้ทุกอย่าง ต้องมีแล้วไหม ?

 

🏷️ เริ่มต้นที่ 15,000 บาท

 

---

 

 

| Apple Watch SE ฟีเจอร์ครบ ในราคาไม่ถึงหมื่น

 

ไม่ขอน้อยหน้ารุ่นพี่อย่าง Apple Watch Serise 8 เพราะ Apple Watch SE เขามากับจอภาพ Retina สูงสุด 1,000 นิต ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดสุขภาพครบ ทั้งการติดตามรอบเดือน อัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึง Crash Detection ฟีเจอร์ตรวจจับการชนขณะขับรถ ไม่แพ้ซีรีส์ 8 เลย แถมยังมาในราคาจับต้องได้ไม่ถึงหมื่น จะซื้อมาลองใช้เล่น ๆ ก็น่าสนอยู่นะ คุ้ม !

 

🏷️ เริ่มต้นที่ 9,900 บาท

 

---

 

 

| Apple Watch Ultra อึด ทน ยืนหนึ่งทุกสถานการณ์

 

ปิดท้ายตระกูลสมาร์ทวอช ด้วยพี่เบิ้ม Apple Watch Ultra กับจอภาพ Retina แบบติดตลอด สูงสุด 2,000 นิต ที่ได้รับการเคลมว่าทนทาน สมบุกสมบันที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรียกได้ว่า ถ้าปานาฬิกาลงพื้น พื้นแตก ! คือเอาง่าย ๆ พี่เขาเหมาะสำหรับสาย Adventure แบบขั้นสุด รับมือได้ทุกสภาวะ ขั้นเอ็กซ์ตรีมเลย จะพาไปขึ้นเขา ลงห้วย หรือดำนำก็บ่คิดย้านเด้อ กีฬาประเภทไหนพี่เบิ้มก็เอาอยู่ เพราะเขาออกแบบมาให้เหมาะสำหรับนักกีฬาทุกประเภทที่มีอยู่บนโลกเลยก็ว่าได้ มาดูกันว่าคุณสมบัติจะ Ver Ver Ver จริงอย่างที่โฆษณา หรือจ้อจี้กันแน่ ?

 

 

⌚ แกร่งจริงไม่ได้โม้

 

Apple Watch Ultra ผ่านการทดสอบ MIL-STD 810H หรือการทดสอบตามหัวข้อย่อยสำหรับระดับความสูง, อุณหภูมิสูง, อุณหภูมิต่ำ, การเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน, การแช่, การแช่แข็ง/การละลาย, การกระแทก และการสั่นสะเทือน เรียกได้ว่า ผ่านมาหมดแล้วทุกสถานการณ์ แถมยังมีลูกเล่นอย่างสายนาฬิกาเฉพาะทาง ที่มีมาให้เลือกมากถึง 3 แบบ ทั้ง Alpine Loop, Trail Loop และ Ocean Band จะไปปีนเขา วิ่ง หรือดำน้ำ ก็มีครบ ตรงกับการผจญภัยทุกรูปแบบ

 

 

⌚ ไม่หวั่น แม้สภาวะแสงน้อย

 

พี่ Ultra มากับหน้าปัดนาฬิกาเวย์ไฟน์เดอร์โหมดกลางคืน ที่มีอยู่ในเฉพาะ Apple Watch รุ่น Ultra เท่านั้น มีหน้าปัดวงกลมสำหรับบอกเวลา ที่สามารถสลับเป็นเข็มทิศแบบเรียลไทม์ และมีพื้นที่ให้ใส่กลไกหน้าปัดได้มากถึง 8 แบบ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดเราติดอยู่ในที่มืดหรือมีแสงสว่างน้อย ก็สามารถเปิดใช้โหมดกลางคืนได้ทันที แล้วทุกอย่างบนหน้าปัดนาฬิกา ก็จะถูกเนรมิตให้เป็นสีแดงโดยอัตโนมัติ บอกเลยว่า มันจ้าซะเหลือเกิน เริ่มอยากได้ขึ้นมาแล้วสิ ติดใจฟีเจอร์โหมดกลางคืน เพราะจะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อนละกัน

 

🏷️ เริ่มต้นที่ 31,900 บาท

 

---

 

 

"AirPods Pro รุ่นที่ 2" ใหม่ ! หมดจด เหนือความคาดหมาย

 

คุณพ่อ Tim Cook ไม่ปล่อยให้เราได้พักหายใจหายคอ แถมยังปล่อยหมัดเด็ด Hook เข้าเน้น ๆ กับ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่เคลมว่าใหม่หมด ทั้งฟีเจอร์การใช้งานที่อัปเกรดให้ล้ำแบบคาดไม่ถึง แต่ที่สะดุดและ Touch ใจเลย คือการสลักอิโมจิผสมกับชื่อ ชื่อย่อ ข้อความ หรือตัวเลขบนเคส AirPods ได้ฟรี ๆ ยังไม่พอมีเซอร์ไพร์สใหม่ เอาใจสายชอบตกแต่งชอบประดับด้วย ว้าวจนฉันร้องกรี๊ดเลย 🔊

 

 

| ชิป H2 ใหม่ ! ตัดเสียงรบกวนดีกว่าเดิม 2 เท่า

 

ปังเลยนะกับการอัปเกรดชิป H2 ใหม่ เพราะช่วยคุณภาพเสียงดีชัดจัดเต็มสมจริงทุกโน้ตทุกคีย์ แถมยังตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟดีกว่ารุ่นก่อนสูงสุดถึง 2 เท่า คือ สามารถลดเสียงรบกวนที่ 48,000 ครั้งต่อวินาที แล้วไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะไม่แน่นกระชับอีกต่อไป เพราะรุ่นนี้เขาออกแบบจุกหูฟังซิลิโคนให้มีขนาดเล็กพิเศษ มีมาให้เลือกถึง 4 ไซส์ ทั้ง XS, S, M และ XL ถูกใจคนหูเล็กไซส์ Mini แบบเต็มประตูเลย

 

| เล็กพริกขี้หนู และอึดถึงขีดสุด

 

AirPods Pro รุ่นที่ 2 มากับความอึดแบบเกินตัว ทนเหงื่อและน้ำที่ระดับ IPX46 สามารถฟังได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 6 ชั่วโมง จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว และเมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และยิ่งไปกว่านั้นยังงัดพลังความอึดขั้นสุด ฟังได้ยาว ๆ ข้ามวันข้ามคืน นานรวมสูงสุด 30 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และใช้งานร่วมกับเคส ถ้าไม่เรียกเล็กพริกขี้หนู แล้วจะให้เรียกอะไร ?

 

| ควบคุมการทำงานจาก "ก้านหูฟัง" มันเป็นไปได้ยังไง

 

ก้านหูฟังเขาเพิ่มลูกเล่นแบบใหม่แบบสับ กับฟังก์ชันการควบคุมการทำงานล้ำ ๆ ที่จะกดปรับระดับเสียงก็แค่ใช้นิ้วสัมผัสเลื่อนขึ้นหรือลง หรือจะกดบีบเบา ๆ เพื่อเล่นและหยุดเพลง รับและวางสายโทรศัพท์ก็ง่ายแค่ปลายนิ้ว หรือบีบค้างเพื่อสลับไปมาระหว่างการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับสภาวะก็ควบคุมด้วยก้านหูฟังได้เลย โอ้โห ถ้าล้ำขนาดนี้ควรเชิญตัวเองไปอยู่ในลิสต์ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเถอะ

 

 

| ยกระดับ "เคส" ให้เป็นมากกว่าเคสธรรมดา ๆ

 

AirPods Pro รุ่นที่ 2 มากับเคสชาร์จ MagSafe เอาใจสายขี้ลืมด้วยชิป U1 ใหม่ ที่จะช่วยให้ฟีเจอร์แอปค้นหาของฉัน พร้อมกับคุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริงโดยใช้งานกับเคสได้ และระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ แถมยังมีฟีเจอร์แอปค้นหาของฉันพร้อมมุมมอง ที่สามารถบอกระยะความใกล้-ไกล เพื่อหา AirPods Pro ได้อีกด้วย 

 

ยังไม่หยุดว้าว เพราะเคสที่มากับรุ่นที่ 2 มีลำโพงในตัวที่จะคอยส่งเสียงเป็นสัญญาณเตือน คอยกวักมือเรียก เพื่อให้เราหา AirPods เจอได้ง่ายขึ้น และยังมีเสียงใหม่ ! ที่จะคอยเตือน เมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย หรือเมื่อจับคู่สำเร็จ และเซอร์ไพร์ส คือ รุ่นนี้เขาเพิ่มช่องคล้องสายสำหรับห้อยเคสไว้กับกระเป๋าได้ด้วย โดนใจสะบัด เตรียมตัวหาซื้อสายห้อยหรือพวงกุญแจไว้ได้เลย เพราะมั่นใจว่าเทรนด์ห้อยสายต้องมาแรงอย่างแน่นอน นี่ถ้าได้มาอยู่ในมือแล้วล่ะก็ จะห้อยเว่อร์ ๆ ให้อลังการยิ่งกว่า เพลิน ตัวละครจาก รถไฟฟ้ามาหานะเธอเลย คอยดู !

 

🏷️ เริ่มต้นที่ 8,990 บาท

 

---

 

 

"iPhone 14 Series" ที่ฉันใฝ่ฝัน กับการพลิกโฉมใหม่เอี่ยม !

 

ปิดท้ายด้วย Finale ที่เป็นที่สุดของไฮไลท์ในงาน Apple Event "Far out" กับ iPhone 14 Series ใหม่ ! ที่ฉันและเธอต่างก็ใฝ่ฝันมานาน วันนี้ได้ยลโฉมเต็มตาใกล้ ๆ แม้จะกั้นกลางด้วยหน้าจอ iPhone 13 ก็ตามทีเถอะ แถมตอนนี้ตื่นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาแล้ว เพราะรอฟังข่าวลือที่เขาพูดกันทั่วว่า Apple จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์สำหรับประเทศไทยด้วย โอ๊ย ! อยากรู้ไม่ไหวว่ามันคืออะไรกันแน่ ? กลับมาที่การเปิดตัวไอโฟน 14 ในงาน Far Out ที่มีให้เลือกจับจองตามไซส์ 4 รุ่นตามเคย ได้แก่ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มาดูกันว่า คุณพ่อ Tim จะพลิกโฉมไปในทิศทางไหน

 

 

| iPhone 14 / iPhone 14 Plus ความใหญ่ ปะทะ ใหญ่กว่า

 

เปิดตัวแบบว้าว ว้าว ว้าวกับความใหญ่สะใจของหน้าจอ iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้ว ที่ใหญ่ตะโกนแบบเต็มตา พร้อมความชัดและสมจริงด้วยจอภาพ Super Retina XDR และความสามารถเพิ่มความสว่างขึ้นสูงสุดเมื่ออยู่กลางแจ้ง ยังไม่พอ จัดเต็มความอึดของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน และเล่นวิดีโอนานสูงสุด 20-26 ชม. เพิ่มความปลอดภัยให้แบบไม่มีกั๊กกับ Crash Detection ฟีเจอร์ตรวจจับการชนขณะขับรถ สวยสะกดกับ 5 สี ทั้งฟ้า ม่วง มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และแดง คือสวยทุกสีจนไม่สามารถเลือกได้เลย ตัดสินใจยากนะ สีนี้ก็สวย สีนั้นก็ถูกโฉลก ไปดูสเปกก่อนละกันค่อยกลับมาเลือกใหม่

 

📱 ชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core เร็วดีไม่มีตก

 

ยืนลุกปรบมือให้กับ ชิป 15 Bionic สุดยอดของขุมพลังที่อยู่เบื้องหลังคุณสมบัติใหม่ล่าสุดทั้งหมดใน iPhone 14 และ Plus สายเกมมิ่งต้องไม่พลาดการสัมผัสความลื่นไหลเป็นพิเศษ แม้เจอเกมที่เน้นกราฟิกหนัก ๆ หรือแอป AR แถมยังควบคุมความร้อนได้ดียิ่งขึ้น สามารถเล่นเพลิน ๆ ได้ทั้งวัน ระวังวางโทรศัพท์ไม่ลงนะบอกเลย

 

 

📱 กล้องคู่สุดล้ำชัดทุกอณู แม้สภาวะแสงน้อย

 

iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มากับกล้องหลักใหม่ ! ความละเอียด 12MP พร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น กับรูรับแสงที่กว้างกว่าเดิมจึงเปิดรับแสงได้มากขึ้นถึง 49 % และอัลตร้าไวด์ กล้องหน้า TrueDepth พร้อมออโต้โฟกัส ที่พัฒนาใหม่ให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า บนกล้องหลัก และถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า บนกล้องอัลตร้าไวด์

 

📱 Always-On Display มีแล้ววันนี้ ที่ iPhone

 

มาช้าแต่มานะ กับฟีเจอร์ Always-On Display จอภาพติดตลอด ที่โชว์ข้อมูลบนหน้าจอเพียงแค่เราเหลือบมอง แม้จะไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่ในวงการ Smartphone แต่ถือเป็นครั้งแรกที่ทาง Apple ใส่เพิ่มไว้ใน iPhone 14 Series ทุกรุ่น ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ของ iOS ละกัน

 

🏷️ ราคาจำหน่าย

• iPhone 14 เริ่มต้นที่ 32,900 บาท
• iPhone 14 Plus เริ่มต้นที่ 37,900 บาท

📌 สั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 19.00 น.

📅 เริ่มวางจำหน่าย 

• iPhone 14 - 16 ก.ย. 65
• iPhone 14 Plus - 7 ต.ค. 65

 

---

 

 

| iPhone 14 Pro / iPhone 14 Pro Max โปรยิ่งกว่าโปร กับเซอร์ไพร์สครั้งแรกของ Apple !

 

เดินทางมาถึง Finale โชว์สุดพิเศษของ Apple Event "Far out" ที่ต้องจับตามองแบบไม่กะพริบตา เพราะคุณพ่อ Tim Cook เคลมว่ามีการพลิกโฉมใหม่หมดกับ ทั้งดีไซน์และฟีเจอร์สุดล้ำจนเราต้องร้องเผลอว้าว พร้อมชิป A16 Bionic ที่สุดชิปบนสมาร์ทโฟน อย่างนั้นไม่รอช้ามาเริ่มเลย ! สะดุดตาตั้งแต่แวบแรกที่เห็นกับสีใหม่ ! อย่างม่วงเข้ม Deep Purple สวยจน iPhone 13 สีเขียว Alpine Green ในมือเริ่มสั่น ยังมีสีทอง เงิน และดำสเปซแบล็ค มาเพิ่มความยากในการเลือกสีอีก ปัดโธ่เอ๊ย ! จะเลือกได้ไหมนะ

 

 

📱กล้องหลัก 48MP ใหม่หมด ชัดแบบตะโก๊นนน

 

โอ้โห สมกับเป็น iPhone Pro และ Pro Max เพราะเขามากับกล้องหลักความละเอียด 48MP แบบใหม่หมด พร้อมเซ็นเซอร์ Quad-pixel สุดล้ำ ยังสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 3 เท่าบนกล้องอัลตร้าไวด์ ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่าบนกล้องหลัก และถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่าบนกล้องเทเลโฟโต้ ชัดแบบเวอร์ ๆ ชัดเห็นทุกรูขุมขน รองพื้น คอลซีลเลอร์อาจเอาไม่อยู่ คือชัดถึงขั้นจนแอปแต่งรูปต้องร้องขอชีวิต 

 

ยัง ยังไม่หมด เตรียมสวมบทเป็นผู้กำกับกันได้เลย กับโหมดภาพยนตร์สามารถถ่ายแบบ 4K HDR ที่ 24 fps มาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไปกันต่อกับการเป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวในโลก ที่สามารถถ่าย ดู ตัดต่อ และแชร์ในแบบ ProRes หรือ Dolby Vision HDR 

 

 

📱มหัศจรรย์ Dynamic Island กับรอยบากใหม่ !

 

Dynamic Island ความมหัศจรรย์ครั้งแรกของ iPhone กับรอยบากใหม่ ! ไม่มีติ่งให้รำคาญใจแล้ว แถมยังมีลูกเล่นเจ๋ง ๆ ที่เคลื่อนไหวและโต้ตอบกับ iPhone ด้วย หันกลับมาดู iPhone 13 ในมือ คือขัดใจไปเลย อยู่ดี ๆ แถบก็เกะกะแบบตะโกน ต้องถอยใหม่แล้วแหละ ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้เงินซื้อใหม่ไปเลยสิ ไม่มีอะไรต้องคิดมากแล้ว นอกจากการเลือกสี อุ่ย ! เป็นเครียดเลย

 

🏷️ ราคาจำหน่าย

• iPhone 14 Pro เริ่มต้นที่ 41,900 บาท
• iPhone 14 Pro Max เริ่มต้นที่ 44,900 บาท

📌 สั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 19.00 น.
📅 เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย. 65

 

---

 

💙 สำหรับ iPhone 14 Series รองรับระบบ iOS 16 ที่กำลังจะปล่อยให้อัปเดตพร้อมกันในวันที่ 13 ก.ย. 65 นี้ (ตามเวลาประเทศไทย)

 

ก่อนจะจบการอัปเดต Apple Event "Far out" ในครั้งนี้ ขอทิ้งท้ายด้วยบิ๊กเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ทาง Apple ได้จัดทำขึ้นเพื่อชาวไทยโดยเฉพาะ นั่นก็คือ ไทยได้ขยับขึ้นเป็นกลุ่มประเทศ "Tier 1" หรือประเทศที่สามารถซื้อเป็นกลุ่มแรกร่วมกับสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สเปน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และอีกกว่า 30 ประเทศ และภูมิภาคอื่น ๆ

 

กรี๊ด กรี๊ดออกมาให้สุดเสียง ดีใจมากเหมือนประเทศไทยได้มงสาม ไม่ต้องรอ Pre-Order อีกต่อไปแล้ว ส่วนเรื่องจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อค่อยว่ากันอีกที แล้วพบกันใหม่ใน Apple Event ครั้งหน้านะ 😘