รีวิวเวิร์กช็อป " เพ้นท์ภาพอะคริลิกด้วยเกรียง " ให้ศิลปะช่วยฮีลจิตใจในวันหยุดยาว

 

 

วันหยุดไปเที่ยวไหนหรือป่าว? คำถามที่มีความยากในการตอบสูงพอๆ กับเที่ยงนี้กินอะไรดี อาจจะด้วยเวลางานหลายคนก็โฟกัสแต่กับงาน เหนื่อยล้าจนลืมว่าวันหยุดทั้งทีเราก็ควรจะหาความสุขใส่ตัวเองสักเล็กน้อย เมื่อลองคิดว่าช่วงนี้อยากจจะทำอะไรก็มี 1 ความทรงจำผุดขึ้นมาในหัวว่า เคยอยากจะลองเข้าโหมดศิลปะฮีลใจดูบ้าง หลังจากนั่งไถสมาร์ทโฟนคู่ใจหาข้อมูลไปสักพักก็ไปสะดุดตากับเวิร์กช็อป เพ้นท์ภาพอะคริลิกด้วยเกรียง เรียนที่คาเฟ่ชื่อว่า BILLY BILLIES ติดกับ BTS แบริ่ง และใช้เวลาเรียนแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น! แบบนี้ต้องลองแล้ว 

 

 

 

BILLY BILLIES CAFE เป็นทั้งร้านกาแฟ และ Workshop Studio

 

---

เวิร์กช็อปเพ้นท์ภาพอะคริลิกด้วยเกรียง
จะเป็นยังไงกันนะ?

🎨

 

 

 

ระหว่างทางนั่ง BTS ยาวๆ เพื่อไปเวิร์กช็อป เราได้ใช้เวลาหาข้อมูลมาได้ว่า การเพ้นท์ภาพอะคริลิกด้วยเกรียงก็คือ การวาดภาพด้วยสีอะคริลิกนั่นแหละ เพียงแต่อุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ไม่ใช่พู่กันที่เราคุ้นเคย เวิร์กช็อปครั้งนี้เราจะใช้ เกรียง (มีหน้าตาคล้ายที่ฉาบปูนแต่ขนาดเล็กกว่า) ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก และในการเรียนครั้งนี้สิ่งเดียวที่นักเรียนต้องเตรียมมาคือ ภาพต้นแบบที่อยากจะวาด

 

 

เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็พูดคุยแนะนำตัวกับผู้สอนพอหอมปากหอมคอ ครูก็ขอดูภาพตัวอย่างเพื่อที่จะเตรียมอุปกรณ์ให้เราได้ถูกต้อง ซึ่งจากรูปแล้วก็จะมีอุปกรณ์ดังนี้

 

 

เมื่อมาถึงร้านครูก็เตรียมสี และเกรียงไว้ให้บนโต๊ะเรียบร้อย

 

 

• สีอะคริลิก
• กระดาษสำหรับร่างภาพคร่าวๆ
• จานผสมสี
• เกรียง
• เฟรมผ้าใบสำหรับวาดรูปขนาด 20x20 ซม.
• ดินสอสำหรับร่างภาพ
• ขาตั้งเฟรมผ้าใบ 

 

• ขั้นตอนที่ 1 เพิ่มความคล่องมือกันก่อนสักนิดด้วยการร่างภาพ 

 

   ภาพตัวอย่างที่โชว์ครู กับภาพร่างดินสอที่วาดได้

 

ครูให้เราเริ่มจากร่างภาพลงในกระดาษ A4 ก่อนจะวาดลงเฟรมผ้าใบจริง แต่ตรงขั้นตอนนี้ครูบอกว่าถ้ามั่นใจแล้วจะวาดลงผ้าใบเลยก็ได้ ช่วง 1-2 นาทีแรกค่อนข้างจะเกร็งเพราะเราเองก็ไม่ได้มีฝีมือในการวาดภาพมาก แต่ครูจะคอยให้คำแนะนำตลอดว่า ขาวาดยังไง แขนวาดยัง นั่นจึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายลง และเริ่มสนุกมากขึ้น

   

 

• ขั้นตอนที่ 2 ถึงเวลาลงสีที่เฟรมผ้าใบ 

 

เสน่ห์ของการใช้เกรียงสร้างภาพสีอะคริลิกคือ ช่วยสร้างมิติให้ภาพได้

 

เมื่อได้ภาพร่างคร่าวๆ แล้วก็เข้าสู่การละเลงสี ด้วยความที่รูปตัวอย่างนั้นเป็นโทนออกน้ำเงิน-ฟ้า และรายละเอียดในรูปไม่ได้เยอะมาก ครูจึงให้เราใช้เกรียงลงสีได้เลย โดยครูจะช่วยผสมสีให้เราพร้อมกับอธิบายว่า ถ้าอยากได้โทนสีน้ำเงินเข้มเหมือนใต้ทะเลก็ให้นำสีแดงมาผสมน้ำเงิน ถ้าอยากได้สีออกฟ้าก็ให้ใช้สีขาวมาผสม เมื่อได้สีแล้วก็ปาดได้เลย เราจะเลือกปาดลักษณะไหนก็ได้นะ จะวนเป็นวงกลม จะปาดยาวก็คือได้หมด ตอนปาดคือสนุกมากทิศทางทุกอย่างขึ้นอยู่กับมือเราหมดเลย และการใช้เกรียงก็ไม่ได้ยากแถมสร้างมิติให้ภาพได้ด้วย 

 

 

• ขั้นตอนที่ 3 ไล่สีไปทีละชั้นจากเข้มไปอ่อน ไปจนกระทั่งสีขาว 

 

ไล่สีครบเสร็จแล้ว ก็จะเก็บขอบภาพอีกสักเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม

 

การไล่สีนี้ก็เหมือนน้ำทะเลที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเมื่อใกล้ผิวน้ำ สเต็ปการไล่สีครูจะอยู่ข้างๆ ช่วยผสมสีให้เราพร้อมกับแนะนำว่า สีนี้ไล่แค่ถึงตรงนี้พอ เดี๋ยวเราจะเริ่มใช้สีอ่อนขึ้นถึงตรงนี้นะ เมื่อใกล้ผิวน้ำเราจะเพิ่มลูกเล่นให้ภาพมีมิติขึ้นโดยการผสมสีแบบไม่ละเอียด เป็นการใช้สีที่น่าตื่นเต้นมาก ทุกครั้งที่ปาดเกรียงลงไปสีไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง ซึ่งช่วยทำให้ภาพน่ามองมากขึ้นจริงๆ 

 

 

• ขั้นตอนที่ 4 ความกังวลเริ่มเกิดเมื่อต้องวาดนักดำน้ำด้วยพู่กัน

 

ใช้ดินสอร่างภาพอาจจะยากหน่อย แต่พอใช้พู่กันลงสีก็จะง่ายขึ้น

 

จริงอยู่ที่เราฝึกวาดรูปนักดำน้ำตามภาพตัวอย่างมาแล้ว แต่บอกเลยว่าการที่จะใช้ดินสอวาดคนลงบนเฟรมผ้าใบที่ละเลงสีไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขั้นตอนนี้ครูเข้าใจดีว่าการวาดรูปบนพื้นผิวขรุขระนั้นยาก ครูจึงยื่นมือเข้ามาช่วย ตรงไหนเราวาดไม่ได้ครูก็จะอาสาวาดให้ นั่นทำให้ความกังวลลดลงมาก ไม่เช่นนั้นภาพนี้ก็คงไม่เสร็จใน 2 ชั่วโมงแน่ๆ เมื่อได้โครงร่างของนักดำน้ำแล้วเราก็จะลงสีดำให้นักดำน้ำ ที่ใช้สีดำก็เพราะอยากให้เหมือนเป็นเงาคนมากกว่า และในการลงสีนักดำน้ำครูจะให้เราใช้พู่กันเบอร์เล็กแทนเกรียง 

 

 

• ขั้นตอนที่ 5 มาแบบงงๆ แต่ช่วยให้ภาพสมบูรณ์มากขึ้น

 

 นอกจากจะวาดเต่าเพิ่ม 3 ตัว แล้วก็ใช้พู่กันสร้างฟองอากาศสีขาวเพิ่มอีกด้วย

 

 

พอวาดนักดำน้ำเสร็จแล้วบอกตรงๆ ว่าดีใจมาก เพราะรูปที่ได้มีความเหมือนนักดำน้ำตามที่ตั้งใจเป๊ะๆ ถึงจะไม่ได้สมส่วนมากนัก แต่เมื่อพนักงานร้านกาแฟเดินมาดูก็ถึงกับเอ่ยทักว่าเป็นภาพนักดำน้ำฟรีไดฟ์หรอคะ? ได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่มในใจว่า ทำได้ดี! ในขณะที่ครูกำลังจะเอาภาพของเราไปเป่าด้วยไดร์เป่าผมอีกรอบ ครูก็เอ่ยถามว่า “ วาดเต่าเพิ่มไหมรูปจะได้สมบูรณ์มากกว่านี้? ” เราก็ตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย เราทำการวาดภาพเต่าไป 3 ตัว นั่นทำให้ภาพของเราดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และไม่เพียงเพิ่มเต่าเท่านั้นนะ ครูยังชวนให้ใส่ดีเทลอย่างฟองอากาศเพิ่มอีก และรูปก็ออกมาแบบ สวย สมดุล และสมบูรณ์ในที่สุด

 

 

---

เวิร์กช็อปจบแต่คนไม่จบ 

เมื่อความสุขใจที่ได้ เป็นกำไรที่ยังติดหนึบอยู่ในใจ

🎨

 

 

ต้องยอมรับเลยว่าก่อนจะมาเวิร์กช็อปครั้งนี้มีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะนี่เป็นการใช้เกรียงครั้งแรก อีกทั้งยังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆ กับสีอะคริลิกมาก่อนเลยในชีวิต ช่วงแรกก็เก้ๆ กังๆ อยู่บ้าง แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นความก็เปลี่ยนเป็นความสบายใจ และสงบใจเข้ามาแทน ซึ่งองค์ประกอบที่ช่วยให้รู้สึกดีกับเวิร์กช็อปครั้งนี้มากขึ้นก็มีดังนี้เลย 

 

 

ครูคอยดูแลไม่ห่างในทุกขั้นตอนเลย

 

 

 💗  ครูที่ใจเย็น เป็นกันเอง 

 

 

ครูผู้สอนถือเป็นส่วนผสมที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ครูที่ได้เจอในเวิร์กช็อปครั้งนี้ทั้งเป็นกันเอง ใจเย็น ครูให้อิสระในการลงมือทำเป็นอย่างมาก ไม่ได้มาตั้งกฎเกณฑ์ว่า ต้องวาดแบบนี้ ต้องปาดสีอย่างนี้ ต้องใช้สีแค่นี้ นั่นทำให้ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงนั้นผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ในบางจุดที่ค่อนข้างจะยากสำหรับมือใหม่ ครูก็ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างไม่รีรอ แถมยังมีชวนคุยเรื่องการเรียนดำน้ำอีก ซึ่งพอได้พูดคุยกันมากขึ้นช่องว่างระหว่างกันก็น้อยลง ความกดดันต่างๆ ก็หายวับไปทันที เพราะฉะนั้นใครที่กังวลว่าจะวาดไม่ได้ ลงสีไม่สวย ตัดความกังวลนี้ออกไปได้เลย แน่นอนว่ามาฮีลใจก็ไม่ควรมีเรื่องอะไรมาทำให้เราหนักใจมากขึ้น

 

 

 

ภายในร้านมีมุมน่ารักหลายมุมเลย

 

 

 💗  สถานที่ เดินทางง่าย แถมบรรยากาศยังเป็นใจ 

 

 

ร้าน BILLY BILLIES อยู่ติดกับ BTS แบริ่งมาก อยู่ห่างจากบันไดตรงทางออก 3 นิดเดียวเท่านั้น ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ จำนวนโต๊ะมีไม่ถึง 10 โต๊ะเท่านั้น ในร้านเป็นไฟส้มที่ช่วยให้บรรยากาศดูอบอุ่น พนักงานร้านก็น่ารักพูดคุยสนุก ขณะที่นั่งบรรเลงฝีมืออยู่นั้น ในร้านก็จะเปิดเพลงทำนองน่ารักสดใสคลอไปเบาๆ นั่นยิ่งทำให้บรรยากาศการเรียนไม่เงียบเหงา อาจจะมีลูกค้าเดินเข้าเดินออกบ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เสียสมาธิอะไรเลย ทางด้านกาแฟ และคุกกี้ของทางร้านก็อร่อยมีให้เลือกหลายเมนู อีกทั้งในร้านยังมีงานคราฟต์น่ารักๆ ให้เราซื้อไปฝากเพื่อนได้ด้วย

 

 

 

วาดภาพเสร็จกาแฟก็หมดแก้วพอดี

 

 

 💗  เวิร์กช็อปใช้เวลากำลังดี ไม่ทำให้เหนื่อยจนเกินไป 

 

 

เรื่องเวลาคืออีก 1 เหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจลงเรียน เชื่อเถอะว่ายุคสมัยนี้หลายคนมีเรื่องต้องทำเยอะแยะไปหมด ไปเจอแฟน มีนัดช้อปปิ้งกับเพื่อน พาพ่อแม่ไปเที่ยว ทำงานบ้าน หรือแม้แต่อยากใช้เวลาอยู่เฉยๆ คือไม่ใช่ทุกคนอยากจะใช้เวลาทั้งวันกับกิจกรรมแค่อย่างเดียว เพราะฉะนั้นการที่เราจะใช้เวลาฮีลใจตัวเองด้วยศิลปะเพียง 2 ชั่วโมง จึงเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเรื่องระหว่างวันต้องทำมากมาย อย่างเวิร์กช็อปครั้งนี้เรียนจบตั้งแต่เวลาเที่ยง ก็ได้มีเวลาไปกินสปาเก็ตตี้ร้านโปรด ไปส่องสินค้าในร้านอาร์ตทอยชื่อดัง และไปอัปเดตหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งวางแผง นับเป็นวันหยุดที่แฮปปี้เลยทีเดียว

 

 

 

ผลงานชิ้นเอกได้เกิดขึ้นแล้ว

 

 

สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การฮีลใจด้วยศิลปะ เรื่องนี้คือประเด็นหลักที่ทำให้พาตัวเองมานั่งเพ้นท์รูป เพราะอยากจะให้ศิลปะเข้ามาช่วยให้ร่างกายได้พักจากการใช้สมองซีกซ้าย และได้ใช้สมองซีกขวาที่เป็นสมองส่วนของการสร้างสรรค์บ้าง เป็นการช่วยให้สมองทั้ง 2 ซีกทำงานเท่ากัน อีกทั้งการเพ้นท์รูปในครั้งนี้ยังทำให้ จิตใจได้ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ลงมือละเลงสี ได้หยุดใช้ตรรกะอันหนักอึ้งจากงาน หันมาใช้จินตนาการในการไล่สเต็ปสีแทน ได้พักความเครียดจากการพูดคุยประสานงาน มาพูดคุยเรื่องสัพเพเหระเบาสมอง ถือว่าศิลปะเป็นตัวช่วยชั้นดี ทำให้เป็นวันหยุดที่มีความสุข และผ่อนคลายมากเลยทีเดียว 

 

 

---

 

เวิร์กช็อปเพ้นท์ภาพอะคริลิกด้วยเกรียงที่ได้ลงเรียนไปนี้เป็นของทางเพจ Creative Giants Club ซึ่งนอกจากเพ้นท์อะคริลิกด้วยเกรียงแล้ว ทางเพจก็ยังมี เพ้นท์อะคริลิกด้วยพู่กัน ระบายสีน้ำ เพ้นท์ลายกระเป๋า ทำบาธบอม และอีกมากมาย ที่สำคัญเลยคือ พื้นที่นี้ยังเหมาะสำหรับครอบครัวด้วยนะ เพราะเขาเป็นเวิร์กช็อปที่ยินดีต้อนรับน้องๆ หนูๆ ด้วย บางสัปดาห์ก็มีทำของเล่นไปอี๊ก การได้ไปเวิร์กช็อปกันทั้งครอบครัว ถือเป็นว่าช่วยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมด้วยกัน และยังช่วยให้น้องๆ ได้ฝึกฝีมือ ฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย เรียกว่าเป็นการใช้เวลาที่มีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียว 

📌 ค่าใช้จ่าย 850 .- ( ราคานี้เป็นราคาที่ลงผ่านเว็บตัวกลาง สามารถสอบถามโปรโมชั่นจากเพจผู้สอนได้โดยตรงนะ)

📌 ติดตามรายละเอียดแต่ละเวิร์กช็อปได้ที่ >> Creative Giants Club 

      หรือทาง Line >> คลิก

 

 

🎨 

 

ราคา ณ วันที่ 12/10/66

---

 

💙  อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

• ' น้ำ ' พลังแห่งธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย พร้อมเยียวยาจิตใจ
• ' ดนตรีกับการทำงาน ' เลือกฟังเพลงอย่างไร ให้งานออกมาดี ?
• ผ่อนคลายหายเครียด นอนหลับฝันดีได้ด้วย ASMR

---

😘  ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจากเพจ Creative Giants Club