ศาสตร์แห่งสี Personal Color เลือกให้ถูก จะแต่งหน้า แต่งตัวยังไงก็ปัง!

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer29 ก.ค. 2563 avatar writer33.7 K
ศาสตร์แห่งสี Personal Color เลือกให้ถูก จะแต่งหน้า แต่งตัวยังไงก็ปัง!

ศึกษาไว้ ได้ใช้แน่ !
กับทฤษฎีที่ว่าด้วย "ศาสตร์แห่งสี" ตัวช่วยสำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม
ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หมด !


เคยได้ยินกันไหมว่า 'สี' นั้นมีผลต่อความรู้สึก โดยแต่ละสีจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นเวลาที่เรามองเห็นสีดำ เราจะจินตนาการถึงภาพของความเศร้า หม่นหมอง ไร้ชีวิตจิตใจ แต่ถ้าเปลี่ยนใหม่เป็นให้เรามองภาพของสีขาว เราก็จะจินตนาการคนละด้านกับสีดำ ไม่ว่าจะเป็นความบริสุทธิ์ ความไร้เดียงสา การกำเนิดเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ หรืออะไร ๆ ก็ตามแต่ ซึ่งสิ่งที่เรานึกคิดหรือรู้สึกเวลาที่มองเห็นสีนั้น ๆ นี่แหละ ที่เราเรียกกันว่าจิตวิทยาของสี

 

เราสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิทยาของสีได้ง่าย ๆ ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลารถติด เรามองเห็นภาพของสีผ่านสัญญาณไฟจราจร สีแดงคือสัญญาณที่บอกให้เราหยุด สีเหลืองคือสัญญาณที่บอกให้เราเตรียมหยุด หรือสีเขียวที่เป็นสัญญาณบอกให้รถสามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้

 

รวมไปถึงเวลาที่เราจะต้องเลือกธีมเสื้อผ้าสำหรับการออกไป Cafe Hopping สีก็ต้องสัมพันธ์กับบรรยากาศโดยรวมของคาเฟ่นั้น ๆ เช่นกัน จะเห็นได้ว่าสีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเราอย่างปฏิเสธไม่ได้ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือถึงขั้นมีการศึกษาเกี่ยวกับ 'ศาสตร์แห่งสี' อย่างจริงจังกันมาแล้ว

 


Personal Color หรือ ศาสตร์แห่งสี คืออะไร?


 

เชื่อว่าก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับ Personal Color หรือศาสตร์แห่งสีที่ว่านี้กันสักเท่าไหร่ เพราะมันเพิ่งจะมาบูมเอาในช่วงไม่นานมานี้นี่เอง แต่ถ้าหากใครทำงานอยู่ในวงการ Fashion และ Beauty คงจะคุ้นเคยกับศาสตร์แห่งสีนี้กันแน่ ๆ โดย Personal Color หรือศาสตร์แห่งสีนี้ถูกนำมาใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก

 

แล้วเชื่อไหมว่าคนกลุ่มแรกที่หยิบเอาศาสตร์แห่งสีนี้มาใช้ ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ในวงการ Fashion หรือ Beauty แต่อย่างใด แต่เป็นกลุ่มของนักการเมือง ที่ต้องการสร้างจุดเด่นรวมไปถึงการแสดงภาพลักษณ์อันน่าเชื่อถือผ่านสายตาการมองเห็นของประชาชน โดยกฏของ Personal Color นี้เชื่อกันว่าเราทุกคนมีสีที่เป็น 'สีเฉพาะ' ของตัวเอง ซึ่งถ้าใครนำสีนั้นไปปรับใช้กับการแต่งตัว แต่งหน้า รวมไปถึงสีผมต่าง ๆ ก็จะยิ่งขับให้บุคลิกภาพภายนอกของเรา สะท้อนถึงตัวตนและมีความเป็นเรามากยิ่งขึ้น

 


จะหา Personal Color ได้ ต้องเริ่มจากอะไร?


1. ทำความรู้จักโทนสี

 

ก่อนจะลงลึกรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการหา Personal Color ของตัวเอง เรามาเริ่มจากการทำความรู้จักกับโทนสีประเภทต่าง ๆ กันก่อนดีกว่า สำหรับโทนสีหลัก ๆ นั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 โทนสี คือ Yellow Base กับ Blue Base ซึ่งแต่ละโทนสีจะประกอบไปด้วยโทนสีย่อยๆ อีก 4 ประเภท ซึ่งตั้งชื่อตามฤดูกาล ดังนี้

 

🍁 Yellow Base หรือ Warm Tone จะประกอบไปด้วยโทนสี Spring และ Autumn

 

palette2

 

❄️  Blue Base หรือ Cool Tone จะประกอบไปด้วยโทนสี Summer และ Winter

 

palette2

 

หมายเหตุ : ที่มาของชื่อสีตามฤดูกาลนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแต่ละโทนสีก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างกันออกไป ที่สำคัญคือตรงกับ Base ของตัวเองมาก ๆ

 

2. หา Base Color ของตัวเอง

 

สำหรับขั้นตอนในการหา Base Color ของตัวเองนั้นมีหลายวิธีมาก เริ่มตั้งแต่

 

✋🏼 ดูจากเส้นเลือดบนข้อมือ (เห็นชัดที่สุด) หากเพื่อน ๆ มองเห็นเส้นเลือดที่อยู่บนข้อมือของตัวเองเป็นโทนสีเขียว นั่นแปลว่าเรามี Base Color เป็นโทน Yellow Base แต่ถ้ามองเห็นเส้นเลือดเป็นโทนสีฟ้าหรือสีม่วง นั่นแปลว่าเรามี Base Color เป็นโทน Blue Base จ้า

 

🙍🏻 ดูจากสีผมและสีตา หากใครที่มีสีผมและสีตาค่อนไปทางดำตั้งแต่เกิด (ไม่ใช่สีผมที่เกิดจากการย้อมใหม่นะ) นั่นแปลว่าเราเป็นโทน Blue Base หากผมเราเป็นสีดำก็จริง แต่ถ้านำไปโดนแดดแล้วสะท้อนออกมาเป็นโทนสีน้ำตาล หรือผมออกสีชัดมากว่าไม่ใช่สีดำ นั่นแปลว่าเราอยู่ในโทน Yellow Base (นอกจากผมแล้วรวมไปถึงสีตาด้วยเช่นกันนะ)

 

 

☀️ ดูจากสีผิวหลังถูกแดด ไม่รู้อันนี้หลายคนเคยสังเกตกันไหม หรือเข้าใจว่าเป็นโทนเดียวกันหมด ซึ่งความจริงแล้วสีผิวหลังถูกแดดของคนเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 โทน คือถูกแดดแล้วผิวแดง อันนี้จัดว่าอยู่ในกลุ่ม Blue Base กับถูกแดดแล้วผิวคล้ำ อันนี้จัดว่าอยู่ในกลุ่ม Yellow Base นะจ๊ะ

 

💍 ดูจากสีเครื่องประดับที่เข้ากับผิว อันนี้ปันโปรมองว่าน่าสนใจมากๆ เพราะสีของเครื่องประดับนั้นสามารถบอก Base Color ของสีผิวเราได้เช่นกัน หากใครที่รู้สึกว่าสีผิวของตัวเองเวลาสวมเครื่องประดับที่ทำมาจากเงินแล้วรู้สึก 'เข้า' มากกว่า นั่นแปลว่าเรามีสีผิวโทน Blue Base แต่ถ้าหากรู้สึกว่าผิวของเราเหมาะกับเครื่องประดับที่ทำมาจากทองมากกว่า ใส่แล้วขึ้นกว่า แปลว่าเรามีผิวโทน Yellow Base นั่นเองจ้า 

 


ได้เวลาหา Personal Color ของตัวเอง


 

ยัง ยังไม่จบ หากใครคิดว่าการที่เรารู้ Base Color ของตัวเองแล้วทุกอย่างจะจบ บอกเลยว่ายังไม่จบ! เอาจริงๆ ก็คือมันก็เหมือนกับก้าวแรก เพราะถ้าถามว่าการที่เรารู้ Base Color ของตัวเองนั้นมีประโยชน์ไหม ปันโปรตอบได้เลยว่า 'มีประโยชน์มาก' เพราะการที่เรารู้ Base Color ของตัวเองจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราในการเลือกซื้อเสื้อผ้า, เครื่องประดับ รวมไปถึงสีของเมคอัพที่เหมาะสำหรับโทนสีผิวของเรา อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเรามากขึ้นด้วย

 

แต่อย่าลืมกันไปว่า Base Color ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Blue Base หรือ Yellow Base นั้นก็มีโทนสีแยกย่อยออกไปอีก นี่แหละจ้ะที่จะทำให้เราเข้าถึง Personal Color ของตัวเองได้ มันอยู่ที่ตรงนี้ ! แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าศาสตร์แห่งสีอย่าง Personal Color นี้เป็นอะไรที่มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ถึงขนาดมีคอร์สสอนอย่างจริงจังกันเลยนะ หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถไปหาคอร์สเพื่อลงเรียนเพิ่มเติม นอกเหนือจากนี้กันได้น้าา

 

palette1

 

มาเริ่มกันที่กลุ่ม Yellow Base (อย่าลืมเลื่อนขึ้นไปเช็กกันก่อนนะว่าตัวเองมีสีผิวที่อยู่ในโทนนี้กันไหม ถ้าใช่ก็อ่านต่อได้เลยจ้า) สำหรับกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย 2 โทนสี ได้แก่

 

🌳 Spring หรือฤดูใบไม้ผลิ สำหรับคนที่เหมาะกับสีโทน Spring นี้ จุดสังเกตง่ายๆ เลยก็คือ เวลาตากแดดนาน ๆ กลับมา ผิวจะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมได้ไวมาก ถ้าคล้ำก็คือคล้ำอยู่ไม่นาน แล้วก็กลับมาสู่สภาพปกติ อีกทั้งบุคลิกของคนที่เหมาะกับโทนสีนี้มักจะเป็นคนที่มีบุคลิกสดใส น่ารัก ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข สำหรับสีที่เหมาะก็ตามนี้เลยจ้า~

 

spring

 

🍁 Autumn หรือฤดูใบไม้ร่วง สำหรับสีโทนนี้เรามักจะคุ้นเคยและเรียกกันว่า โทนสีตุ่น ๆ แนว Earth Tone ธรรมชาติ ๆ ข้อสังเกตของคนโทนนี้คือ เวลาไปตากแดดนาน ๆ ผิวมักจะคล้ำแดดนานกว่า ใช้เวลาในการฟื้นฟูนาน กว่าผิวจะกลับมาเป็นปกติ ส่วนบุคลิกลักษณะของคนกลุ่มนี้คือมักจะขรึมๆ สุภาพ มีท่าทางที่สง่า พูดจาตรงไปตรงมา 

 

Autumn

 

มาต่อกันที่กลุ่ม Blue Base กันบ้าง สำหรับโทนสีในกลุ่ม Blue Base นั้นก็ประกอบไปด้วย 2 โทนสีเช่นกัน ได้แก่

☀️ Summer หรือฤดูร้อน สำหรับสีที่โดดเด่นเลยก็คงหนีไม่พ้นโทนสีแนวพาสเทล อมฟ้า อมม่วง ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล อ่อนหวาน คนที่มีบุคลิกลักษณะที่เหมาะกับโทนสีนี้จะเป็นคนที่มีความเป็นผู้หญิงสูงมาก เรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้

 

summer

 

❄️ ซึ่งตรงกันข้ามกับ Winter หรือฤดูหนาว ที่สังเกตได้ง่ายๆ เลยก็คือ คนที่เหมาะกับโทนสีกลุ่มนี้จะเป็นคนที่มีสีผม สีตาเข้มเป็นสีดำตั้งแต่เกิด แถมยังเป็นกลุ่มเดียวที่เหมาะกับสีดำ ใส่สีดำแล้วขึ้น นอกจากสีดำแล้ว สีอื่น ๆ ก็ล้วนจะเป็นสีโทนแม่สี คือมีความจัดจ้าน ไม่ผสมผสานสีอื่นๆ ลงไป จุดเด่นของคนกลุ่มนี้คือ ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเป็นผู้หญิงที่เท่ มีความมั่นใจ มุ่งมั่น ถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่แพ้กัน เท่ไม่เป็นสองรองใครเลยจ้ะพี่จ๋า

 

winter

 

สำหรับสีที่แยกย่อยออกมานั้น เพื่อน ๆ ไม่ต้องสังเกตอะไรกันให้ยุ่งยาก นอกจากสังเกตตัวเองกันดูว่า เวลาเราสวมเสื้อผ้า ทาลิปสติก หรือทำสีผมออกมาในโทนไหนแล้วรู้สึกว่ามันเข้ากับตัวเอง นั่นแปลว่าสีโทนนั้นอาจจะเหมาะกับเรา แต่ถ้าสีไหนไม่เข้า ทำแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ นั่นก็แปลว่าเราอาจจะไม่ได้เหมาะกับสีนั้นๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าลืมเช็ก Base Tone ของตัวเองกันก่อนนะว่าเรามีสีผิวที่เหมาะกับโทนไหน เพื่อที่จะทำให้ง่ายต่อการนำไปปรับใช้กันนะจ๊ะ

 

และนี่ก็เป็นวิธีการหา Personal Color ของตัวเองเบื้องต้น ถ้าเพื่อนๆ ได้โทนสีที่เหมาะกับตัวเองกันแล้ว สามารถนำไปใช้ในการเลือกสีเสื้อผ้า เครื่องประดับ เมคอัพ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เหมาะกับตัวเองกันได้ แต่ปันโปรก็เข้าใจนะว่าในบางโอกาสเราก็จำเป็นที่จะต้องเลือกสีที่อาจจะไม่ได้เหมาะกับเรา อาทิเช่น งานศพ หรืองานแต่งที่อาจจะมีธีมสีให้ไว้อยู่แล้ว อันนั้นก็ถือว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจแทนก็แล้วกันเนอะ 

 


💖 สรุปให้ก่อนไปค้นหาสีที่ใช่! 💖 

 

  • ศาสตร์แห่งสี หรือ Personal Color นี้ มีรายละเอียดที่ลงลึกไปได้อีกเยอะมาก ๆ หากเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจสามารถไปหาคอร์สเพื่อศึกษาเพิ่มเติมกันได้ หรือใครที่อยากจะนำไปปรับใช้กับตัวเองเบื้องต้น ก็หวังว่าความรู้ที่เรานำมาฝากกันนี้ จะมีประโยชน์กับทุกคนกันนะ
  • สิ่งสำคัญที่สุดของการหา Personal Color ของตัวเองนั้นอยู่ที่ Base Tone เพราะถ้าเราไม่รู้ ก็จะไม่นำไปสู่ขั้นตอนของการหาสีที่ใช่นะ ยังไงอย่าลืมนำวิธีที่ปันโปรบอกข้างต้นไปหา Base ของตัวเองกันเด้อ

 

via GIPHY

 

- แหล่งข้อมูลอ้างอิง Mikichin และ ais.jp -

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น
AAmy CuteLab
AAmy CuteLab
เปิดสอนมั้ยค่ะ
ตอบกลับ | 3 ปีที่แล้ว 0