จบปัญหาไม่มีอะไรดู รวมแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในไทย สายดูหนัง - ดูซีรีส์ ห้ามพลาด !
โดย : imnat
เชื่อว่าสายดูหนัง ดูซีรีส์ส่วนใหญ่ มักจะเลือกดูอะไรจากสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจกันใช่ไหม แต่บางทีเราก็มักจะประสบปัญหา เสียเงินค่าสมัครสมาชิกรายเดือน - รายปีกันไปตั้งเท่าไหร่ ซึ่งถามว่าดูคุ้มมั้ย ปันโปรขอส่ายหัวเบาๆ ให้ 1 ที อย่างบางคนเห็นเพื่อนดูได้ดูดี แต่ทำไมพอถึงตาเราดูที อะไรๆ มันถึงได้ไม่ถูกใจไปซะหมดเลย
ซึ่งจริงๆ แล้ว สาเหตุของปัญหานี้อาจจะมาจาก แพลตฟอร์มที่เราเลือก มีตัวคอนเทนต์ที่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา แล้วอย่างในบ้านเราแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งก็มีให้เลือกหลายเจ้ามากกกกก บางคนอาจจะขี้เกียจเลือก หนีไปจิ้มเจ้าที่ได้รับความนิยม ทั้งๆ ที่เจ้านั้นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เราจริงๆ และเพื่อให้ปัญหานี้หมดไป ปันโปรขออาสา ทำหน้าที่ในการแนะนำและป้ายยาแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในไทย เจ้าไหนจะมีจุดเด่น และมีคอนเทนต์อะไรที่น่าสนใจ มาดูกัน !
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในไทย ตอนนี้มีเจ้าไหนกันบ้าง ?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในไทย มีมากกว่า 10 เจ้าแล้วนะทุกคน แต่ปันโปรมั่นใจเลยว่าเจ้าที่เพื่อนๆ รู้จักกันก็คงหนีไม่พ้นบรรดาสตรีมมิ่งชื่อดังทั้งหลาย ซึ่งนอกจากสตรีมมิ่งเจ้าดังเหล่านั้นแล้วในไทยยังมีสตรีมมิ่งที่น่าสนใจอีกหลายเจ้าเลยนะ อย่างบางเจ้าก็คือเกิดมาเพื่อคอหนัง คอซีรีส์ที่มีความชอบเฉพาะตัวสุดๆ เรียกได้ว่ายิ่งตอบโจทย์ ยิ่งหาอะไรที่ตัวเองชอบดูได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามานั่งไถ นอนไถ ผลสุดท้ายก็ไม่เจออะไรที่อยากดู เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นเรามาเริ่มกันที่สตรีมมิ่งเจ้าแรกกันเลย
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 1 : Netflix
ชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงคงจะหนีไม่พ้น Netflix และเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้กันอยู่ ส่วนใหญ่น่าจะเคยดูหนัง ดูซีรีส์ผ่านแพลตฟอร์มนี้กันมาหมดแล้ว และต้องยอมรับเลยว่าการทำการตลาดของ Netflix นั้นน่าสนใจ และดึงความสนใจจากพวกเราได้จริงๆ และนอกจากการทำการตลาดจะดีแล้ว จุดเด่นของ Netflix ที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ ความหลากหลายและน่าสนใจของคอนเทนต์ อีกทั้ง Netflix เองยังมีคอนเทนต์ Original ของตัวเอง ที่หาดูจากที่ไหนไม่ได้ นอกจากคุณจะต้องสมัครบริการ เพื่อที่จะได้รับชมคอนเทนต์เหล่านี้เท่านั้น
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์หลากหลาย รองรับความต้องการของคนดูที่ต่างกันออกไปได้, 1 บัญชี สามารถรับชมได้พร้อมกันสูงสุด 4 เครื่อง (ส่วนอุปกรณ์ที่รับชมได้ขึ้นอยู่กับประเภทของสมาชิกนะ)
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ปันโปรขอเลือกเป็นคอนเทนต์ที่กำลังจะมาเร็วๆ นี้ก็แล้วกัน กับหนังดังในตำนาน ที่หาดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ยากมากกก ของหว่องกาไว ที่ Netflix จัดมาให้รับชมกันถึง 5 เรื่อง ได้แก่ In the Mood for Love, Fallen Angel, Chungking Express, Happy Together และ 2046 สำหรับใครที่เป็นแฟนของหว่องกาไว หรือยังไม่เคยชมผลงานของเค้ามาก่อน ก็ปักหมุดรอพบกับอารมณ์หว่องได้ 21 ตุลาคมนี้เลยจ้า
- อัตราค่าบริการ : ปัจจุบัน Netflix มีแพ็กเกจรับชมให้เลือกทั้งหมด 4 แพ็กเกจ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 99 บาท - 419 บาท / เดือน
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 2 : Disney+ Hotstar
มาต่อกันที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าใหม่ ที่น่าจะตกใครมาแล้วหลายคนโดยเฉพาะ สาวกดิสนีย์ สำหรับจุดเด่นของเจ้านี้จะอยู่ที่ตัวคอนเทนต์ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะคอนเทนต์ของดิสนีย์อย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงหนังและซีรีส์ที่หาดูยากอีกหลายเรื่อง ซึ่งบางคนอาจจะมองว่า Disney+ เป็นคู่แข่งของ Netflix แต่ส่วนตัวปันโปรมองว่าตัวคอนเทนต์ของเค้ายังมีความต่างกันอยู่นะ
อย่าง Netflix คอนเทนต์ส่วนใหญ่ของเค้าจะมีเข้ามาให้เราชมกันสักพักนึง แล้วก็จะหมดสัญญาออกไป แต่ของ Disney+ คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีให้รับชมเรื่อยๆ อาจจะเนื่องด้วยลิขสิทธิ์ที่เป็นของเค้าเองด้วยแหละ แต่ความหลากหลายของคอนเทนต์อาจจะไม่เท่า Netflix นะ เพราะคอนเทนต์ส่วนใหญ่ของ Disney+ จะเน้นไปที่คอนเทนต์ฝั่งตะวันตกมากกว่าฝั่งเอเชีย เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟนดิสนีย์ รวมถึงเป็นสายฝอ ก็กดตุ่มสมัคร Disney+ ไปนั่นแหละ เหมาะแล้ว
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์ดิสนีย์ให้เลือกรับชมเยอะมากกกก สาวกดิสนีย์ที่ต้องการหาหนัง, การ์ตูน รวมถึงซีรีส์เก่าๆ ในตำนาน บอกได้คำเดียวว่าฟินแน่นอน และสามารถรับชมได้พร้อมกันสูงสุด 2 เครื่อง
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : หนังในจักรวาล Marvel และ Star Wars ที่หาดูยาก บอกเลยว่าที่นี่มี !
- อัตราค่าบริการ : 799 บาท / ปี สมาชิก AIS สามารถสมัครได้ในราคา 499 บาท / ปี
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 3 : Viu
ใครที่ชื่นชอบคอนเทนต์ฝั่งเอเชีย บ้านเรา น่าจะถูกใจสตรีมมิ่งเจ้านี้กัน ที่สำคัญนอกจากบรรดาหนัง และซีรีส์สัญชาติเกาหลี, จีน, ฮ่องกง และญี่ปุ่นแล้ว ยังมีรายการวาไรตี้ของไทย รวมไปถึงซีรีส์พากย์ไทยสำเนียงเหนือ และอีสานรองรับด้วยนะ เอาเซ่ เริ่ดไม่ไหว
ที่สำคัญสำหรับเจ้านี้ เราสามารถรับชมกันได้ฟรีๆ แต่ต้องแลกด้วยโฆษณาที่มีคั่นบ้างนิดๆ หน่อยๆ อย่างซีรีส์รวมถึงรายการตอนใหม่ๆ ก็ต้องรอกันไปสักพักถึงจะรับชมได้ ซึ่งถ้าใครไม่ติดตรงนี้ ปันโปรถือว่า Viu เป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าเจ้านึงเลยนะ หรือใครที่อดใจรอไม่ไหว ก็สามารถสมัครบริการรายเดือนของเค้าได้ ที่สำคัญคือราคาไม่แรงด้วย เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายเสพคอนเทนต์ฝั่งเอเชียบ้านเรา โดยเฉพาะสายเกา สายจีน ทางเราขอแนะนำ Viu (วิว) เจ้านี้เลยย
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์เอเชียให้ได้เลือกรับชมเพียบ ไม่ว่าจะเป็นจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง รวมไปถึงรายการไทย สำหรับสมาชิกจะสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 4 เครื่อง (PC 1 เครื่อง, มือถือ 3 เครื่อง)
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ซีรีส์พากย์เสียงอีสาน และซีรีส์พากย์เสียงเหนือ ที่หาแบบนี้ไม่ได้ที่ไหน !
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (แต่อาจจะมีโฆษณาคั่น รวมไปถึงเงื่อนไขในการดูบ้าง อาทิ อาจจะไม่ได้รับชมรายการตอนใหม่ได้ทันที ต้องรอให้ถึงเวลาที่กำหนดก่อนถึงจะรับชมได้) หรือใครจะอัปเกรดเป็นพรีเมี่ยมก็มีราคาเริ่มต้นที่ 119 บาท / เดือน
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 4 : WeTV
ไหนๆ ก็พูดถึงคอนเทนต์ฝั่งเอเชียกันมาแล้ว ปันโปรขอต่อกันที่ WeTV กันบ้าง สำหรับแพลตฟอร์มนี้น่าจะโดนใจคนที่ชอบดูหนัง ดูซีรีส์จีนกัน เพราะมีคอนเทนต์ให้เลือกรับชมเยอะมาก เด่นสุดก็จะเป็นซีรีส์จีน ที่มีทั้งแนวย้อนยุค ทั้งปัจจุบัน บอกเลยว่าดูกันทั้งวัน ทั้งคืนแน่นอน นอกจากนี้เค้าก็ยังมีละครไทย ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์ญี่ปุ่น อย่างอนิเมะงี้ ก็มีนะเออ ที่สำคัญนะ WeTV เค้ายังมีคอนเทนต์ Original ของตัวเอง ซึ่งก็มีทั้งซีรีส์ไทย ซีรีส์จากฝั่งเอเชียบ้านเราที่หาชมกันได้ยากๆ WeTV ก็คัดสรรเรื่องที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว
- จุดเด่น : บรรดาคอนเทนต์จากประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นหนัง, ซีรีส์ (อันนี้มีเยอะมาก) รวมไปถึงรายการทีวีต่างๆ และสามารถรับชมได้ 2 เครื่องพร้อมกัน
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ซีรีส์ ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม ที่มีให้ดูแบบถูกลิขสิทธิ์เฉพาะ WeTV เท่านั้น ที่สำคัญนะเรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวทะลุมิติที่แฟนซีรีส์จีนหลายคนการันตีเรื่องความโบ๊ะบ๊ะ ที่ปนความน่ารัก อ่ะ ที่สำคัญเค้ามีให้เลือกรับชมแบบพากย์เสียงไทยด้วยนะ ปังมากแม่
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (แต่อาจจะมีโฆษณาคั่น รวมไปถึงเงื่อนไขในการดูบ้าง อาทิ ซีรีส์บางเรื่องต้องเป็นสมาชิก VIP เท่านั้นถึงจะรับชมได้) ซึ่งสมาชิก VIP จะมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 59 บาท / เดือน
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 5 : iQiyi
ไม่ปังตรงไหนเอาปากกามาวง เพราะสตรีมมิ่งสัญชาติจีนเจ้านี้ ได้ชื่อว่าเป็น Netflix of China เชียวนะ สำหรับใครที่ยังงงๆ ว่าน้องเค้าอ่านว่าอะไร ปันโปรไปหาคำตอบมาให้แล้ว (เพราะตัวเองก็สงสัยเหมือนกัน 😅 ) ชื่อน้องเค้าอ่านว่า อ้ายฉีอี้ นะทุกคน สำหรับจุดเด่นของอ้ายฉีอี้เค้าก็คือ บรรดาซีรีส์จีนต่างๆ ก็คือต้องให้เค้า อ้อ ยังมีรายการ Original ที่ก่อนหน้านี้ได้สร้างเสียงฮือฮาให้กับบรรดา Blink กันไปแล้วอย่าง Youth With You ที่ได้ลิซ่ามารับบทเมนเทอร์ในรายการจีนเป็นครั้งแรก
- จุดเด่น : บรรดาคอนเทนต์จากประเทศจีน ทั้งย้อนยุค ปัจจุบัน ทะลุมิติ ฯลฯ คือมีให้เลือกชมเยอะมาก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงซีรีส์ - รายการเกาหลี, ละคร - ซิทคอมไทย รวมไปถึง Original Series เค้าก็มีนะ แต่เด่นๆ ก็จะเป็นคอนเทนต์จากประเทศจีน ส่วนประเทศอื่นๆ คือพอมีบ้าง แต่ไม่มากเท่า ส่วนตัวอุปกรณ์ในการรับชม สามารถรับชมได้พร้อมกันสูงสุด 4 เครื่อง (ขึ้นอยู่กับประเภทของสมาชิกที่สมัครนะ)
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ไหนๆ ก็เกริ่นถึงลิซ่าไปแล้ว ปันโปรขอป้ายยารายการ Youth With You ก็แล้วกัน เพราะถือว่าเป็นรายการที่เบิกทางให้กับ อ้ายฉีอี้ ในบ้านเราได้ดีเลย
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (แต่อาจจะมีโฆษณาคั่น รวมไปถึงเงื่อนไขในการดูบ้าง อาทิ ซีรีส์บางตอนต้องเป็นสมาชิก VIP เท่านั้นถึงจะรับชมได้) ซึ่งสมาชิก VIP จะมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 119 บาท / เดือน (ล่าสุดมีโปรโมชั่นลดเหลือ 15 บาทด้วย ถูกมาก!)
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 6 : LINE TV
มาถึงแพลตฟอร์มที่มีจุดเด่นตรงที่ สามารถรับชมได้ฟรี นั่นก็คือ LINE TV ที่ต้องบอกเลยว่ารายการของเค้ามีความหลากหลายสุดๆ มีทั้งหนัง, ละคร, ซีรีส์, การ์ตูน, รายการทีวี รวมไปถึงคอนเทนต์ Original ของ LINE TV เองก็มี ที่สำคัญนะ บางเรื่องเค้าก็มีการแตะมือร่วมกันกับสตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆ อย่างที่ปันโปรไปส่องๆ มาก็จะมี WeTV ที่เป็นการนำซีรีส์ที่อยู่ใน WeTV มาให้รับชมกันผ่านทาง LINE TV แต่อาจจะล่าช้า หรือมีเรื่องให้รับชมน้อยกว่าการไปชมผ่านช่องทางหลักอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ที่ทางเรามองว่าก็น่าสนใจอยู่นะ
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์ให้เลือกรับชมเยอะมากก เด่นๆ ก็จะเป็นรายการวาไรตี้, ซีรีส์ในบ้านเรา ก็คือไม่ต้องไปตามหาที่ไหน เพราะ LINE TV เค้ารวบมาให้หมดแล้ว แถมยังมีรายการจากช่องอื่นๆ อาทิ WeTV, GDH, GMMTV และอีกหลายช่องมาให้รับชมกันแบบฟินๆ ผ่านช่องทางนี้กันได้เลย
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : Original Series อย่าง แปลรักฉันด้วยใจเธอ ที่มีให้รับชมผ่าน LINE TV เท่านั้น ใครยังไม่เคยดูห้ามพลาด เรื่องนี้ปันโปรบอกเลยว่าหนุกจริง 👍🏻
- อัตราค่าบริการ : ฟรี
- รายละเอียดเพิ่มเติม : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 7 : VIPA
น้องใหม่ป้ายแดงกันเลยทีเดียวเชียว สำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอจากไทยพีบีเอส ที่เคลมว่าเป็น Premium Content แบบดูฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีโฆษณา ปันโปรมาสะดุดตรงคำว่า ไม่มีโฆษณา เพราะนี่น่าจะเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของคนที่รับชมคอนเทนต์แบบฟรี แต่ต้องแลกด้วยการชมโฆษณา คือบทจะกดข้ามก็ข้ามไม่ได้ บางทีดูไปไม่ทันไร เอ้า โฆษณามาอีกละ ซึ่งถือว่า ไทยพีบีเอส ตอบโจทย์ได้ถูกจุดมากจริงๆ สำหรับคอนเทนต์ของ VIPA ก็จะมีทั้งซีรีส์ต่างประเทศ, สารคดี, ละครและภาพยนตร์, วาไรตี้และรายการทีวี รวมไปถึงการ์ตูนที่น่าสนใจ เอาใจน้องๆ หนูๆ กันอีกหลายเรื่อง
- จุดเด่น : คอนเทนต์ที่มีสาระ และมีประโยชน์ ไม่ใช่แค่ความบันเทิงอย่างเดียว ที่สำคัญคือมีรายการที่รองรับภาษามือ ในรูปแบบที่ใหญ่ ไม่ใช่ช่องเล็กๆ ที่เราเคยเห็นกันมานะ และถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวคอนเทนต์จะยังมีไม่เยอะ (เพราะเพิ่งเปิดตัวไป) แต่หลังจากนี้น่าจะมีคอนเทนต์ทยอยปล่อยออกมาเรื่อยๆ แน่นอน
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : สารคดี SONITA ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวชาวอัฟกันวัย 18 ปี ที่หลบหนีประเพณีขายลูกสาวของครอบครัว มาซ่อนตัวอยู่ในสลัมแห่งหนึ่งอย่างผิดกฎหมาย ก่อนจะนำประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเอง มาสร้างสรรค์เป็นบทเพลงที่เป็นเหมือนเสียงสะท้อนในช่วงวัยที่ผ่านมาของเธอ
- อัตราค่าบริการ : ฟรี
- รายละเอียดเพิ่มเติม : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 8 : MONOMAX
อันนี้ว่าไม่ได้เลย เพราะปันโปรลองไถดูคอนเทนต์จาก MONOMAX แล้วต้องบอกตามตรงว่า คอนเทนต์เค้ามีให้เลือกดูเยอะจริงๆ แถมการจัดวางหน้าเว็บก็คือทำให้เลือกหนังดูได้ง่าย มีการแบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน แล้วอย่างที่เรารู้กันรู้ว่า MONO เค้าเป็นช่องทีวีที่มีจุดเด่นเกี่ยวกับคอนเทนต์หนัง และซีรีส์กันอยู่แล้ว ซึ่ง MONOMAX นี้ก็มาตอบโจทย์คนที่รักการดูหนัง ดูซีรีส์มากขึ้น
ที่เด่นสุดก็คือ ความหลากหลายของคอนเทนต์ ที่ไม่ได้เกาะกลุ่มอยู่ที่ชาติใด ชาติหนึ่ง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีเป้าหมายในการดู แบบจะให้ดูอะไรก็ได้ ไม่ติด จะดูหนังก็ได้ ดูซีรีส์ก็ได้ แถมหนังและซีรีส์ที่อยู่ใน MONOMAX เค้าก็มีอัปเดตอยู่เรื่อยๆ ให้ฟีลเหมือน Netflix ที่สำคัญคือหนังที่หาดูได้ยาก, หนังที่เพิ่งออกจากโรงไป บางเรื่องก็มีอัปเดตลง MONOMAX เลย ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่สายดูหนังมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น หนังดังหาดูยาก, หนังใหม่ที่เพิ่งลาโรงไป รวมไปถึงสายซีรีส์ ที่นี่เค้าก็มีให้เลือกรับชมหลายสัญชาติ แถมการจัดหมวดหมู่ก็ดูได้ง่าย ไถๆ ปุ๊บอาจจะได้คอนเทนต์ที่อยากดูเลย ที่สำคัญ 1 บัญชีสามารถรับชมพร้อมกันได้สูงสุด 5 อุปกรณ์ ถือว่าเยอะที่สุดในบรรดาสตรีมมิ่งที่ผ่านมาเลยนะ!
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ปันโปรขอยกให้หนังตระกูล 007 เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น 007 ยุคไหน สมัยไหน ก็สามารถหาดูได้ที่ MONOMAX อ่ะ ทางเราลองนับมาให้แล้ว ตอนนี้มีหนังตระกูล 007 ให้ดูกันทั้งหมด 25 เรื่อง งานนี้สาวกดูกันเพลินแน่นอน (แต่อย่าลืมนอนกันด้วยนะ อิอิ)
- อัตราค่าบริการ : เริ่มต้นเดือนละ 250 บาท หรือใครอยากสมัครเป็นรายปี ราคาจะอยู่ที่ 2,500 บาทจ้า
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 9 : HBO GO
มาต่อกันที่อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่งอกมาจากช่องทีวีของตัวเองอย่าง HBO GO ที่ขอลุยตลาดสตรีมมิ่งดูหนังกับเค้ากันด้วย โดยจุดเด่นของเจ้านี้ นั่นก็คือ บรรดาคอนเทนต์คุณภาพที่กวาดรางวัลบนเวทีสำคัญๆ มาแล้ว รวมไปถึงหนังดังทำเงิน, ซีรีส์และหนังขวัญใจนักวิจารณ์ คือเอาเป็นว่า HBO GO ได้คัด 'ตัวท็อป' มาให้ทุกคนแล้วเรียบร้อย จึงรับประกันเลยว่าบรรดาคอนเทนต์ทุกอย่างที่อยู่ในแพลตฟอร์มนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคอนเทนต์คุณตะพาบ เอ้ย คุณภาพจริงๆ
- จุดเด่น : หนังและซีรีส์ที่คัดมาแล้วว่าเริ่ด การันตีได้จากรางวัล รวมไปถึงคำวิจารณ์ในแง่บวกว่าควรค่าแก่การรับชม นอกจากบรรดาหนังและซีรีส์จากฝั่งตะวันตกแล้ว ยังมีคอนเทนต์จากฝั่งเอเชียที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แนวสืบสวน สอบสวน, Adventure เป็นหลัก สำหรับการรับชม 1 บัญชี สามารถใช้งานพร้อมกันได้ 3 เครื่องจ้า
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : บรรดาจักรวาล DC ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนัง, แอนิเมชั่น รวมถึงซีรีส์ ก็คือรวมอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องไปตามหาที่ไหน ยัง ยังไม่หมด ใครเป็นสาวก GOT ที่ HBO GO เค้ามีให้รับชมย้อนหลังกันได้ทุกภาค เลอค่าไม่ไหว
- อัตราค่าบริการ : 149 บาท / เดือน
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 10 : Prime Video
อีกหนึ่งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่คนไทยสามารถรับชมได้ แต่อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมกันสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ สำหรับตัวคอนเทนต์ที่อยู่ใน Prime Video นี้ จะโดดเด่นมากๆ ที่ Original Content น้ำดี ที่คัดมาแล้ว รวมไปถึงหนังและซีรีส์ชื่อดังต่างๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาให้ได้รับชม สำหรับใครที่มีบัญชี Amazon อยู่แล้ว สามารถเข้าใช้งาน Prime Video ได้เลย แต่ถ้าใครยังไม่มี จะต้องทำการสมัครสมาชิก Amazon กันก่อนนะ โดย 1 บัญชี จะสามารถรับชมได้พร้อมกันสูงสุด 3 เครื่องนะ
- จุดเด่น : Amazon Original Content ที่มีแต่คอนเทนต์คุณภาพ รวมถึงบรรดาหนังดังที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ก็สามารถรับชมกันได้ที่นี่เช่นกัน
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : The Man in High Castle ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากๆ ใน Prime Video เรื่องย่อคร่าวๆ ของเค้าคือ เป็นซีรีส์ที่จำลองสถานการณ์ 'ถ้าหากว่า' นาซีชนะสงคราม และฮิตเลอร์ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งโลกจะเป็นยังไง ซึ่งหลายเสียงวิจารณ์ออกมาไปในทิศทางเดียวกันว่า ยิ่งใหญ่ และอลังการมาก เป็นซีรีส์ที่สามารถจำลองภาพสถานการณ์ได้แบบไร้ที่ติกันเลย
- อัตราค่าบริการ : 189 บาท / เดือน (สามารถทดลองชมฟรีได้ 7 วัน)
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 11 : AIS Play
สำหรับใครที่เข้าใจมาตลอดว่า AIS Play สามารถรับชมได้เฉพาะลูกค้า AIS รึเปล่า บอกเลยว่าไม่ใช่น้าา เพราะลูกค้าทั่วไปอย่างเรา ก็สามารถรับชมได้เช่นกัน ที่สำคัญคือสามารถรับชมได้ฟรี (ตามรายการที่กำหนด) จุดเด่นของ AIS Play จะอยู่ตรงที่บรรดาคอนเทนต์จากช่องคุณภาพไม่ว่าจะเป็น HBO, Cartoon Network, Fox รวมไปถึงช่องรายการข่าวอย่าง CNN และอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีให้เลือกชมทั้งรายการสด, ย้อนหลัง, หนัง, ซีรีส์, การ์ตูน รวมไปถึงคอนเสิร์ตจ้า
- จุดเด่น : ความหลากหลายของคอนเทนต์ ที่มีให้เลือกชมกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนัง ซีรีส์ รายการบันเทิงต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงการถ่ายทอดสดฟุตบอล ที่น่าจะได้ใจแฟนบอลไปตามๆ กัน โดย 1 บัญชี สามารถรับชมพร้อมกันได้สูงสุด 2 เครื่อง
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : บรรดารายการกีฬาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบอลไทย บอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รวมไปถึงรายการกีฬาพรีเมียมต่างๆ ก็คือรวมไว้ให้ได้ชมกันที่ AIS Play เลยจ้า
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (สำหรับคอนเทนต์ที่กำหนด สำหรับใครที่อยากอัปเกรดเพิ่มเติม ก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 199 บาท / เดือน (สำหรับลูกค้าทั่วไป) พร้อมรับสิทธิดู Viu และ beIN Sports ฟรี สูงสุด 12 เดือน, ลูกค้า AIS จ่ายเพียง 19 บาท ในเดือนแรก (เดือนต่อไปจ่าย 199 บาท) พร้อมรับสิทธิดู Viu, beIN Sports ฟรี สูงสุด 12 เดือน และพิเศษสุด รับสิทธิชม Disney+ Hotstar สูงสุด 6 เดือนด้วย
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 12 : trueID
มาต่อกันที่แพลตฟอร์มอีกเจ้าที่แตกไลน์มาจากบริการเดิมของตัวเองอย่าง Truevisions แต่ต้องบอกว่า trueID เป็นแหล่งรวมของสื่อบันเทิงทุกประเภทจริงๆ เพราะทุกคนสามารถรับชมได้ทั้งรายการทีวี อ่านข่าว รวมไปถึงอ่านคอนเทนต์ในหมวดที่ตนเองสนใจได้ ที่สำคัญคือสำหรับสายดูหนังอย่างเรา ก็สามารถรับชมหนังในหมวดหมู่ที่ตนเองสนใจได้ด้วยเช่นกัน
การจัดหมวดหมู่ของตัวแพลตฟอร์มนี้ ปันโปรให้สูสีกับ MONOMAX เลยนะ เพราะดูง่ายมาก ไถหาหนังที่อยากดูได้แน่นอน ที่สำคัญเค้าก็ได้มีการแตะมือกับ iQiyi ในการเสิร์ฟคอนเทนต์ที่น่าสนใจ (เหมือน LINE TV ที่แตะมือกับ WeTV นั่นแหละ) รวมไปถึง Original Content ของเค้า ที่เราสามารถรับชมกันได้ฟรีๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบรรดาละครไทยต่างๆ ใครที่เป็นสายดูละครก็น่าจะถูกใจสิ่งนี้กัน
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์รองรับกับความต้องการหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นหนัง, ซีรีส์, รายการบันเทิง, สารคดี รวมถึงอนิเมชัน โดย 1 บัญชีสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 เครื่อง
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ขอป้ายยาที่สารคดีดีกว่า เพราะพวกหนัง รวมถึงซีรีส์ปันโปรยังมองว่าแทบไม่ต่างกับบรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ ที่แนะนำกันไป แต่สารคดีของ trueID นั้นน่าสนใจ และคิดว่าน่าจะยังไม่มีที่แพลตฟอร์มไหน ยกตัวอย่างเช่น สารคดีประวัติของเวทมนตร์ ใน Harry Potter, สารคดีเทคโนโลยีของสไปเดอร์แมน และบรรดาสารคดีสั้นๆ เชิงสัมภาษณ์ที่เราสามารถรับชมกันได้ฟรี
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (สำหรับคอนเทนต์ที่กำหนด) หรือจะเลือกอัปเกรดเพื่อดูหนัง และซีรีส์เพิ่มเติมได้ ก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 59 บาท / เดือน หรือ 599 บาท / ปี
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 13 : DOONEE
ดูนี่! แค่อ่านชื่อก็เหมือนถูกเรียกให้เข้าไปดูโดยอัตโนมัติ สำหรับแพลตฟอร์มนี้ถ้าให้เทียบความคล้าย ปันโปรขอจัดให้อยู่ในหมวดเดียวกันกับ trueID เพราะเราสามารถเลือกดูรายการสดผ่านช่องทางนี้ได้ แถมยังมีหมวดหมู่ที่คล้ายคลึงกัน แต่จะต่างกันตรงที่ DOONEE ไม่มี Original Content เหมือนทรู แต่มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจให้เราเลือกดูฟรี โดยเฉพาะหนังต่างประเทศก็คือบึม
ซึ่งปันโปรไปส่องดูแล้วบอกเลยว่าน่าสนใจมาก ถึงแม้ว่าจะดูฟรี แต่หนังที่มีให้เราเลือกดู ถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะ ยกตัวอย่างเช่น Moby Dick, Dark Skies, 12/12/12 และอื่นๆ อีกเพียบ กระซิบว่าน่าจะถูกใจคอหนังโหด เพราะส่วนใหญ่ที่ไถมา บรรดาหนังต่างประเทศที่ดูฟรีส่วนใหญ่ มีแต่หนังเลือดสาดแทบจะทั้งนั้นเลย
- จุดเด่น : มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ จะดูฟรีหรือเสียเงิน ก็มีให้เลือกดูกันแบบคุ้มๆ อย่างบางเรื่องปันโปรก็คือไม่เคยรู้จักมาก่อน มาเห็นครั้งแรกที่นี่ก็มี
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ป้ายยาสำหรับแฟนคลับ Hell Kitchen และ Master Chef เพราะพวกคุณสามารถรับชมรายการเหล่านี้ได้แบบครบทุก Season
- อัตราค่าบริการ : ฟรี (สำหรับคอนเทนต์ที่กำหนด) หรือจะเลือกอัปเกรดเพื่อดูหนัง และซีรีส์เพิ่มเติมได้ สำหรับใครที่อยากจะทดลองดู ก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่วันละ 9 บาท หรือจะจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้ จะอยู่ที่ 99 บาท / เดือน (หารแล้วตกวันละ 3 บาทเท่านั้น)
- รายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครบริการ : คลิก
⚫ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้าที่ 14 : POPS
เริ่มเบนเข็มออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้สายอนิเมะทั้งหลายเริ่มจะยิ้มออกกันบ้างแล้ว เพราะตั้งแต่ต้นจนมาถึงตอนนี้ เหลือแค่สายอนิเมะนี่แหละ ที่ยังไม่เจอแพลตฟอร์มที่ใช่ของตัวเองสักที ซึ่งจะบอกว่า POPS เจ้านี้ ตอบโจทย์ความต้องการของสายอนิเมะกันได้แน่นอน เพราะจุดเด่นของเค้าก็อยู่ที่บรรดาอนิเมะ รวมไปถึงการ์ตูนที่รวบรวมมาให้อ่าน เรียกได้ว่าโดนใจทั้งสายอ่าน และสายดู กันเลยทีเดียว ส่วนใครที่กลัวว่าเสพแต่อนิเมะอย่างเดียวแล้วจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม จะเบื่อก่อนหรือเปล่า จะบอกว่า POPS เค้าก็มีคอนเทนต์อื่นๆ อย่างซีรีส์เกาหลี ละครไทย เพลง รวมถึงรายการทีวีต่างๆ ที่สำคัญยังมี Original Content ของตัวเองให้เลือกดูกันเพียบเลยนะ
- จุดเด่น : คอนเทนต์ที่โดนใจสายอนิเมะ รวมไปถึงความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ ที่มีให้เลือกเสพกันแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ : ของัดไม้เด็ดอย่าง ผ่าพิภพไททัน ภาค 4 มาป้ายยาทุกคนเลยจ้า แถมมีให้เลือกชมทั้งแบบพากย์ไทย และซับไทยด้วยนะ แฟนตัวยงห้ามพลาด
- อัตราค่าบริการ : ฟรี
- รายละเอียดเพิ่มเติม : คลิก
ป้ายยา 3 ไอเทมที่สายดูหนังต้องมีติดบ้าน !
🍿 ไอเทมที่ 1 : มินิโปรเจคเตอร์
สายดูหนังห้ามพลาด! บทจะฟินทั้งที งานนี้พี่ขอจอใหญ่ๆ กันไปเลย และจะบอกว่าไอเทมนี้ฮิตมากๆ ไม่ใช่เฉพาะสายดูหนังเท่านั้นนะ แต่สายแต่งห้องหลายคนก็ซื้อเค้ามาไว้ใช้งานด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าห้องในฝันแบบ Pinterest อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
แถมขนาดของโปรเจคเตอร์ที่ปันโปรหยิบมาป้ายยานี้ ก็มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด ไม่เกะกะห้อง แถมยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะได้ภาพที่ละเอียด Full HD, เชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้งระบบ iOS และ Android แถมยังเชื่อมต่อผ่านบูลทูธได้ ตัวหน้าจอก็เป็นแบบ LCD ป้องกันฝุ่นไปในตัว แถมยังสามารถพกพาไปใช้งานได้หลากหลาย จะไว้ใช้ในออฟฟิศ หรือจะไว้ใช้ดูหนังในบ้าน นอกบ้านก็คือเริ่ด
✨ ราคา : 3,190 บาท
👉🏽 ช็อปได้ที่นี่ : คลิก
🍿 ไอเทมที่ 2 : ขาตั้งไอแพด + โทรศัพท์มือถือแบบตั้งพื้น
จบปัญหามือถือร่วงใส่หน้าบ่อย ด้วยไอเทมนี้เลยจ้าาา งานนี้ก็คือนอนดูหนังได้สบายใจ หมดห่วงว่าจะเมื่อยมือ หรือมือถือร่วงใส่หน้ากันไปได้เลย 😅 ที่สำคัญไอเทมนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย สามารถตั้งได้ทั้งโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งไอแพด วัสดุก็ดูแข็งแรง ฐานมั่นคง แถมยังชาร์จแบตระหว่างใช้งานกันได้ด้วย
✨ ราคา : 289 บาท
👉🏽 ช็อปได้ที่นี่ : คลิก
🍿 ไอเทมที่ 3 : เบาะนั่งแบบเอนหลังได้
จะดูหนังทั้งทีมันต้องสบายกันหน่อย ปันโปรขอป้ายยาไอเทมสุดท้ายอย่าง เบาะนั่งแบบเอนหลังได้ หรือใครจะเรียกว่าเก้าอี้ญี่ปุ่นก็ได้นะ สำหรับวิธีการใช้งานของเค้าเราก็สามารถนำมาวางบนพื้น หรือบนเตียงได้เลย เวลานั่งจะพิง จะเอน จะหงายใดใด ก็คือได้หมด แถมเค้ายังมาพร้อมกับหมอนใบเล็กๆ เราสามารถนำมารองหลัง หรือใครจะนำมากอดก็ได้ ขนาดของเบาะเค้าก็ใหญ่กำลังดี นั่งได้สบายเลยทุกคน
✨ ราคา : 339 บาท
👉🏽 ช็อปได้ที่นี่ : คลิก
เป็นยังไงบ้างสำหรับบรรดาแพลตฟอร์มดูหนังในไทย เลือกตาแตกกันเลยใช่ไหมพูดดด 😅 ก็เอาเป็นว่าอย่างที่ปันโปรเคยแนะนำไป ว่าให้ลองเลือกจากพื้นฐานความชอบของตัวเองกันก่อน สมมุติใครที่เน้นดูซีรีส์จีนเป็นหลัก ปันโปรก็แนะนำให้เลือก WeTv หรือไม่ก็ iQiyi หรือใครเป็นสายดูหนังจ๋าๆ เลย ก็ให้ลองดูที่ HBO GO, MONOMAX หรือ DOONEE
แต่ถ้าชอบความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนัง ซีรีส์ วาไรตี้ต่างๆ ก็มีให้เลือกทั้ง Netflix, Disney+, Viu และอีกหลายเจ้า ยังไงก็ลองเข้าไปไถดูคอนเทนต์ที่เว็บนั้นๆ ก่อนจะตัดสินใจกันอีกครั้งก็ได้ น่าจะเห็นมองเห็นภาพกันง่ายขึ้น ว่าถ้าจ่ายเงินไปแล้วจะคุ้มไหม หรือว่าจะลองหันกลับมาดูเจ้าที่ให้บริการฟรีเป็นอีกหนึ่ง Option ในเวลาที่หาหนังดูกันไม่ได้ แถมยังช่วย Save เงินในกระเป๋าของเรากันได้ด้วย
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ