รัฐบาลแจกจริง! โอนเงินเพิ่มเข้ากระเป๋า E-Money บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
โดย : MilD
รัฐบาลยังคงแจกอย่างต่อเนื่อง
โอนเงินเข้ากระเป๋า E-Money ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
แจกเงินเพิ่มให้อีก 3 รายการ ระหว่างเดือน ส.ค. - ก.ย. 62 รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
เริ่มโอนเงินก้อนแรกแล้ว ตั้งแต่ 21 ส.ค. 62 อดใจรอกันนิดนึงเน้อออ~
รายได้ก็เท่าเดิม แต่รายจ่ายกลับเพิ่มขึ้นทุกวันเลย มีแต่ค่าใช้จ่ายโน่นนี่เต็มไปหมด แบบนี้เงินจะเหลือไปใช้ได้ยังไงกัน ยิ่งเป็นคนที่มีรายได้น้อยด้วยแล้วยิ่งลำบากไปกันใหญ่ แต่ตอนนี้ทางรัฐบาลได้ออก "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน" มาเพื่อสนับสนุนในเรื่องเงินสำหรับใช้ชีวิตให้กับคนกลุ่มนี้ ซึ่งก็จะมีโอนเงินเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ รัฐบาลก็เลยออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม สำหรับคนมีรายได้น้อย ที่มีมากถึงเกือบ 15 ล้านคนทั่วประเทศ โดยจะโอนเงินเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) ภายในบัตร จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท กันเลยทีเดียว
(1) มาตรการพยุงการบริโภค : คนละ 500.- / เดือน
เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ได้เลยจ้า โดยจะมีผู้ได้รับเงินส่วนนี้มากถึง 14.6 ล้านคน โดยจะได้รับเงิน จำนวน 500 บาท นาน 2 เดือน (รวมจะได้เงินคนละ 1,000.-) ตามตารางเวลานี้เล้ยยยยย~
- ผู้ที่หมายเลขประชาชนขึ้นด้วย 31, 33, 37, 38 และ 39 จะได้รับเงินในวันที่ 21 ส.ค. และ 6 ก.ย. 62
- ผู้ที่หมายเลขประชาชนขึ้นด้วย 32, 34, 35 และ 36 จะได้รับเงินในวันที่ 22 ส.ค. และ 7 ก.ย. 62
- ผู้ที่หมายเลขประชาชนขึ้นด้วย 1, 2, 4, 5 และ 8 จะได้รับเงินในวันที่ 23 ส.ค. และ 8 ก.ย. 62
มาตรการนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 14,600 ล้านบาท
(500 บาท x 2 เดือน x 14.6 ล้านคน)
(2) มาตรการช่วยเหลือผู้สูงอายุ : คนละ 500.- / เดือน
เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินคนละ 500 บาท นาน 2 เดือน (รวมได้คนละ 1,000.-) โดยจะมีผู้ได้รับสิทธิ์รวมทั้งหมด 5 ล้านคน และเงินจะเข้ากระเป๋า E-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 24 ส.ค. และ 9 ก.ย. 62
มาตรการนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 5,000 ล้านบาท
(500 บาท x 2 เดือน x 5 ล้านคน)
(3) มาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรที่ได้รับสิทธิ ภายใต้โครงการเงินอุดหนุน
เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
คนละ 300.- / เดือน
บรรเทาค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูลูกสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม จำนวน 300 บาท นาน 2 เดือน (รวมจะได้เงินคนละ 600.-) โดยจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ ซึ่งลงะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ทั้งหมดกว่า 8 แสนคน และเงินจะเข้ากระเป๋า E-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 24 ส.ค. และ 9 ก.ย. 62
มาตรการนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 480 ล้านบาท
(300 บาท x 2 เดือน x 8 แสนคน)
เงินที่เข้ากระเป๋า E-Money สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง?
- ถ้าใครอยากได้เงินสดมาใช้จ่ายเลย ก็สามารถไปกดถอนเงินได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย ทุกจุด ทั่วประเทศ
- สามารถเอาไปซื้อสินค้าอุปโภคหรือบริโภค ได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ทุกแห่งทั่วประเทศ
- นำไปใช้ซื้อสินค้าที่ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองที่รับชำระเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และ Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ
- นอกจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการประชารัฐแล้ว ก็ยังนำไปใช้ที่ร้านค้าทั่วไป ซึ่งรองรับการชำระเงินผ่านเครื่อง EDC แบบพร้อมการ์ด (Prompt Card) ก็นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปรูดใช้จ่ายได้นั่นเอง
- หากยังไม่รีบใช้งาน ก็สะสมไว้ใช้จ่ายเมื่อจำเป็นไว้ได้ เพราะทางภาครัฐไม่ได้กำหนดวันหมดเขตการใช้เงินดังกล่าว จะใช้ตอนไหนก็แล้วแต่เลยนะ
ภาพที่ประชาชนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าร่วมรายการ
ทำไมรัฐต้องแจกเงินเพิ่มอีก?
จากสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้ ก็ถือว่าค่อนข้างเงียบๆ ไม่ได้ดีมาก ทุกคนต่างใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เรียกว่ารัดเข็มขัดกันเต็มที่เลย ทั้ง 2 ฝั่ง คือ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ การจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ทางภาครัฐเลยจำเป็นอัดฉีดเงินเข้าในระบบให้มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีที่ง่ายและถึงมือประชาชนโดยตรงก็คือ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สำหรับกลุ่มคนมีรายได้น้อย ซึ่งตอนนี้มีมากถึง 1 ใน 4 ของประชาชนทั้งประเทศ และได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั่นเอง การให้เงินไป พอคนเอาเงินนั้นมาจับจ่ายใช้สอย ก็ทำให้มีเงินในระบบมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่บางคนก็อาจจะมองว่าการแจกเงินให้แบบนี้ เป็นนโยบายประชานิยม ทำให้ประชาชนชื่นชอบรัฐบาลมากขึ้น
🌈 ปันโปรสรุปให้ 🌈
- ถ้าใครที่อยู่ในข่ายสามารถเข้าร่วมได้ทั้ง 3 มาตรการที่ออกมาเพิ่มเติมนี้ ก็จะได้รับเงินทั้ง 3 รายการ รวมแล้วนี่ก็เดือนละ 1,300.- หรือทั้งหมดก็จะได้ 2,600.- เลยนะ
- สำหรับเงินที่จะเข้ากระเป๋า E-Money ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะเป็นไปตามวันที่กำหนดเลยนะ คือช่วงปลายเดือนสิงหาคม และต้นเดือนกันยายน รวม 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้ไม่พร้อมกัน
- พอได้เงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาแล้ว ก็ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะ เพราะเงินทุกบาทที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ก็มาจากเงินภาษีของประชาชนทุกคนนั่นเองงง
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 หรือ กรมบัญชีกลาง โทร. 02-270-6400 กด 7
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ