ได้เวลาสำรวจตัวเอง ‘หรือตอนนี้เรากำลังคิดมากไป’
โดย : imnat
‘งานเยอะ เรียนหนัก พักผ่อนน้อย’
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทั้งนั้น
มาเช็กสัญญาณเตือนกัน
ว่าเรากำลังเข้าข่ายคิดมากอยู่ไหม?
‘ความเครียด’ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างร่างกายต่อเหตุการณ์หรือความคิดที่ทำให้คนๆ นึงรู้สึกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย และเมื่อกระบวนการทางร่างกายรับรู้ถึงความผิดปกติแล้ว ก็จะทำการตอบสนองด้วยการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกอย่างก้าวร้าว หรืออารมณ์ที่ฉุนเฉียว ซึ่งถ้ามากไปอาจจะส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นเรามาเช็กกันดีกว่าว่าตอนนี้เรากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับความเครียดกันอยู่ไหม แล้วเราจะรับมือกับมันยังไง ปันโปรมีคำตอบมาให้แล้วจ้าา…
สัญญาณเตือนที่ 1 : ร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ อารมณ์ไม่คงที่ ไม่มีเรี่ยวแรง
เป็นธรรมดาที่เรามักจะเจอกับเรื่องราวที่กระทบกระเทือนจิตใจกันอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าอารมณ์ของเราเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลา อันนี้เริ่มผิดปกติแล้วนะ แถมถ้าพ่วงด้วยอาการหมดแรง จะขยับร่างกายทีก็เหนื่อยไปหมด รู้กันเอาไว้เลยว่าตอนนี้คุณกำลังประสบปัญหาทางความเครียดกันแล้ว หรือใครที่เข้าข่ายแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไหม แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาเลยจ้า อย่าได้กลัวหรืออายกันน้า
สัญญาณเตือนที่ 2 : มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง และทางเดินอาหาร
ในคนที่เครียดมากๆ ปัญหาอาจส่งผลกระทบมาถึงผิวพรรณได้ อย่างที่เราเคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆ ว่า ‘อย่าเครียดมาก เดี๋ยวหน้าแก่’ อันนี้เห็นจะจริงนะ เพราะถ้าเราคิดมากจนเกินไป ฮอร์โมนจะทำงานผิดปกติ ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอย รวมถึงผิวพรรณที่หมองคล้ำลงได้ ในบางรายอาจจะมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงท้องผูก ท้องเสียร่วมได้
สัญญาณเตือนที่ 3 : วิตกกังวลมากเป็นพิเศษ
พอเราคิดมากเกินไป ไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นกังวลมันไปซะหมด จะตัดสินใจอะไรทีก็ทำได้ยาก หรือแม้แต่สิ่งที่ยังมาไม่ถึงก็กังวลนำไปก่อนซะแล้ว แบบนี้ไม่ดีเลยนะ
สัญญาณเตือนที่ 4 : มีอารมณ์ฉุนเฉียว และหงุดหงิดง่าย
อันนี้ลองสังเกตกันดูว่าเดี๋ยวนี้เราหงุดหงิดกับอะไรที่ไม่น่าหงุดหงิดกันหรือเปล่า ใครขวางหูขวางตาเรานิดหน่อยก็พลอยหัวเสีย นี่แหละคือสัญญาณเตือน! เพราะความเครียดส่งผลทำให้เรามีความอดทนน้อยลง รอคอยอะไรนานๆ ไม่ได้ ใจร้อน อยากได้อะไรก็ต้องได้ ผลกระทบที่เลวร้ายอาจทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบตัวเป็นไปในทิศทางที่แย่ลง รวมถึงสภาพจิตใจข้างในของเราด้วย
สัญญาณเตือนที่ 5 : ผิดหวัง และเศร้าเกินกว่าที่เคยรู้สึกมาก่อน
หรือเรียกง่ายๆ ว่า Sensitive นั่นแหละจ่ะ เพราะอย่างที่เราพอจะรู้กันว่า เมื่อความเครียดก่อตัวขึ้น อารมณ์ของเราก็สามารถดิ่งลงหรือพุ่งขึ้นเกินกว่าที่จะควบคุม ส่งผลให้เวลาดีก็ดีมากๆ เวลาเศร้าก็เศร้ามากๆ เช่นกัน ใครที่รู้ตัวว่ากำลังมีอาการแบบนี้ต้องไปปรึกษาจิตแพทย์กันแล้วนะ!
สัญญาณเตือนที่ 6 : ปฏิเสธการเข้าสังคม อยู่คนเดียวมากขึ้น
เครียดมากไป ส่งผลทำให้คุณกลายเป็นคนเหงาได้ และยิ่งเราอยู่คนเดียวมากเท่าไป ปฏิสัมพันธ์รวมถึงความเชื่อใจต่อคนอื่นยิ่งกลับมีน้อยลง เวลาเกิดปัญหาอะไรคุณจะไม่ฟังพวกเขาเหมือนอย่างที่เคยอีกต่อไป ในบางรายยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่ พออยู่คนเดียวมากขึ้น ความคิดร้ายๆ ก็ก่อตัวขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างก็มีให้เห็นออกจะบ่อยในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรให้รีบไปปรึกษาคนใกล้ตัว อย่าปฏิเสธพวกเขาเหล่านั้นเด็ดขาดน้า
สัญญาณเตือนที่ 7 : มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
อันนี้เห็นจะพบกันได้บ่อย พอคิดมากก็นอนไม่หลับ เพราะในหัวมัวแต่คิดเรื่องนั้นซ้ำไปซ้ำมา คิดจนกว่าจะหาทางออกได้ ผลสุดท้ายก็คือคิดจนไม่ได้นอนกันไปเลยจ้า ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้น ร่างกายก็จะอ่อนเพลีย ร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้ากันได้เลยนะ
สัญญาณเตือนที่ 8 : ความต้องการทางเพศลดลง
คู่สามี-ภรรยาลองสังเกตกันดูซิ ว่าพักนี้คู่ของคุณขยันทำการบ้านหรือเปล่า เพราะปัญหาส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความเครียดที่มีมากจนเกินไป แต่ถ้าความเครียดลดลง ความต้องการทางเพศก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ความเครียดทำร้ายความสุขของชีวิตคู่กันเด้อออ
ถ้ารู้ตัวว่ากำลังคิดมาก เราจะมีวิธีรับมือยังไง?
เรื่องของความคิดและทัศนคติเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้ความคิดทำร้ายตัวเองกันอยู่เรื่อยๆ สิ่งสำคัญที่สุดของการรับมือนั้นอยู่ที่เรา เพราะถ้าสามารถปรับเปลี่ยนวิธีคิด และแสดงออกเวลาที่เครียดได้ บอกเลยว่าจะสบายใจขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะ โดยวิธีการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการแสดงออกนั้นมีดังนี้…
1. พูดคุยกับคนใกล้ตัว
การปรึกษาหรือระบายปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับคนใกล้ตัวฟังนั้น นอกจากมันจะทำให้เราได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจแล้ว คำแนะนำจากพวกเค้าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีๆ รวมถึงพลังในแง่บวกให้เกิดขึ้นกับตัวของคุณด้วย
2. หากิจกรรมอื่นทำ เพื่อหลีกหนีการคิดมาก
ซึ่งกิจกรรมที่ว่านั้นจะต้องเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ อะไรที่คิดว่าจะทำให้คุณหัวร้อนยิ่งกว่าเดิมทางเราขอให้ผ่านมันไปก่อน นอกจากการทำกิจกรรมแล้ว การพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่ผ่อนคลาย หรือการฟังเพลงก็ช่วยทำให้คุณมีอารมณ์ที่ดีขึ้นได้ด้วยนะ
3. ปรับความคิดตัวเองใหม่
ข้อนี้รู้ว่ายากแต่ก็อยากให้ทำได้ เพราะถ้าเราทำได้ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะไม่ว่าความเครียดจะถาโถมคุณมามากแค่ไหน รับรองว่าจะผ่านมันไปได้แน่ๆ ขั้นตอนก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ลดความจริงจังของตัวเองลง มองโลกในแง่ดีมากขึ้น อะไรๆ มันก็จะดีขึ้นอีกเยอะ~
🍏 สรุปให้ก่อนไปจัดการความเครียด 🍎
- ความเครียดเป็นอะไรที่ใกล้ตัวทุกคนมาก ถ้าเรายอมให้ความเครียดเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมากเกินไป สภาพร่างกายและจิตใจของเราจะพังกันเลยนะ
- โรคซึมเศร้าเองก็มีสาเหตุมาจากความเครียด แถมผลกระทบนั้นเลวร้ายมากจนถึงขั้นทำให้หลายคนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองมาแล้ว ดังนั้นหมั่นสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ถ้ารู้สึกว่าตอนนี้เรากำลังคิดมากเกินไป ก็ให้รีบพบแพทย์กันด่วนๆ เลย
โดย imnat
เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)