👀 เปิดเงื่อนไข! Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 68 สูงสุด 50,000.-❗️

avatar writer
โดย : JINFEB
avatar writer25 ธ.ค. 2567 avatar writer8.7 K
👀 เปิดเงื่อนไข! Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 68 สูงสุด 50,000.-❗️

🔥 เปิดเงื่อนไข! Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 68 สูงสุด 50,000.-

 

💬 เพื่อน ๆ หลายคนคงกำลังรอคอย, มองหาแนวทางหรือมาตรการตัวช่วยดี ๆ จากรัฐในการลดหย่อนภาษีอยู่แน่ ๆ ซึ่งในรอบนี้ทางรัฐเขาก็ได้เอามาตรการเดิมที่คุ้นเคยอย่าง Easy E-Receipt กลับมาแล้ว! ถูกใจขาช็อปแบบสุด ๆ มีวงเงินลดหย่อนภาษีให้สูงสุดถึง 50,000 บาท ว่าแต่รายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ จะเป็นยังไงบ้าง ตามมาดูไปด้วยกันเลย~


 

Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 68

 

 

🧐 Easy E-Receipt คืออะไร ?

 

Easy E-Receipt เป็นอีกหนึ่งมาตรการใหม่ที่ออกมาทดแทนมาตรการ ช้อปดีมีคืน จากของปีก่อน มีมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายการซื้อสินค้าและบริการตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 50,000.-  และออกเป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice & e-Receipt เท่านั้น เพื่อเอามาใช้หักลดหย่อนภาษีได้นั่นเอง

 


 

🤔 e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร ?

 

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายหน่อยทั้งสองอย่างนี้มันก็คือ ใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือออนไลน์นั่นแหละ ซึ่งมีไว้ใช้แทนการใช้กระดาษตามแบบเก่า โดยการที่มีทั้ง e-Tax Invoice และ e-Receipt ออกมานั้นก็ทำให้สะดวกมากขึ้นและกรมสรรพากรสามารถเช็ครายรับรวมไปถึงรายจ่ายหรือการเงินต่าง ๆ ของแต่ละร้านค้า แต่ละเจ้าได้อีกด้วย

 


 

🙋🏻‍♀️ ใครจะได้สิทธิบ้างนะ ?

 

  • ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
  • ผู้มีสิทธิได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็สามารถใช้สิทธิเข้าร่วม Easy E-Receipt ได้

📣 ในรอบนี้แบ่งการใช้จ่ายออกเป็น 2 ส่วน

 

  • วงเงิน 30,000.- สำหรับซื้อสินค้าและบริการที่กำหนด
  • วงเงิน 20,000.- สำหรับใช้จ่ายที่ร้านวิสาหกิจชุมชน SMEs และร้านค้า OTOP ที่อยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
  • ซื้อสินค้าทั่วไปตามเงื่อนไขที่กำหนด 30,000.- เพื่อใช้ลดหย่อนในส่วนแรก ส่วนอีก 20,000.- ต้องซื้อสินค้า OTOP ต่าง ๆ หรืออีกทางเลือกนึง คือ ซื้อสินค้า OTOP ให้ครบ 50,000.- ไปเลยทีเดียว

💥 เงื่อนไข

 

  • เริ่มใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
  • ผู้มีเงินได้และมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล)
  • ซื้อสินค้าและบริการในไทยที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่เกิน 50,000.-
  • ต้องเป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ที่ออกผ่านระบบของกรมสรรพากรเท่านั้น! (แบบกระดาษใช้ไม่ได้นะ)

 

📱 ขั้นตอนการทำใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์

 

  • ส่วนใหญ่หลาย ๆ ร้านจะจัดการทำให้เราเสร็จสรรพเรียบร้อยทั้งหมด เราแค่หยิบบัตรประชาชนของเราให้และแจ้งอีเมลล์ที่จะเอาไว้รับใบกำกับแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปด้วย หลังจากนั้นก็รอรับทางอีเมลล์ได้เลย 
  • บางร้านก็อาจจะมีเอามาให้เรากรอกข้อมูลเอง เพื่อป้องกันข้อมูลของลูกค้าผิดเพี้ยนไป อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านเขาด้วยนะ

 

 


 

⏰ แล้วต้องรอใบกำกับแบบอิเล็กทรอนิกส์นานแค่ไหน ?

 

อันนี้ต้องขอบอกเลยว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละร้านนะ อย่างบางร้านที่บ้านเราเจอมาก็คือขอแล้วได้เลยในทันที ไม่ต้องรอนาน บางร้านอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมงหน่อย แต่ก็ได้ภายในวันที่ขอก็มี หรือบางร้านที่บ้านเราเคยเจอก็ใช้เวลานานกว่า ประมาณ 2 - 3 วัน ถึงจะได้รับทางอีเมลล์ 

 


 

👀 ขั้นตอนนำไปยื่นต้นปี 69

 

  1. ยื่นภาษีในรูปแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ใกล้บ้าน
  2. ยื่นภาษีในรูปแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th

 


 

✅ ซื้ออะไรได้บ้าง ?

 

  • ร้านค้าทั่วไป
  • ร้านค้าออนไลน์
  • ค่าที่พักและโรงแรม
  • ค่าอาหารในโรงแรม
  • ค่าหนังสือ, หนังสือพิมพ์และนิตยสาร
  • E-BOOK
  • ซื้อทองรูปพรรณ
  • ค่าซ่อมรถ
  • สินค้า OTOP (ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง)
  • ทัวร์เที่ยวในประเทศ

 

❌ ซื้ออะไรแล้วลดหย่อนไม่ได้บ้าง ?

 

  • ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่ายาสูบ
  • ค่าน้ำมัน, ก๊าซและค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่ารถยนต์, มอเตอร์ไซค์ และเรือ
  • ค่าสาธารณูปโภค : ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย, ประกันชีวิต, ประกันรถยนต์ และประกันสุขภาพ
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว, ค่าที่พักโรงแรม, ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม

 

🤑 อัตราคืนภาษี (กรณีช้อป/ใช้จ่าย 50,000.-)

 

  • รายได้สุทธิต่อปี ไม่เกิน 150,000.- ยกเว้นภาษี ไม่ได้เงินภาษีคืน
  • รายได้สุทธิต่อปี 150,001 - 300,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 2,500.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 300,001 - 500,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 5,000.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 500,001 - 750,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 7,500.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 750,001 - 1,000,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 10,000.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 1,000,001 - 2,000,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 12,500.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 2,000,001 - 5,000,000.- เงินภาษีคืนสูงสุด 15,000.-
  • รายได้สุทธิต่อปี 5,000,001.- ขึ้นไป เงินภาษีคืนสูงสุด 17,500.-

4


🧚🏻‍♀️ ไขข้อสงสัย

 

  • ถาม : ถ้าซื้อหลายร้าน มีใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์หลายใบเอามารวมกันได้ไหม ?
  • ตอบ : ได้เลย แต่ต้องไม่เกิน 50,000.- นะ

 

  • ถาม : แล้วถ้าซื้อเกิน 50,000.- ในครั้งเดียวล่ะ จะเอามาใช้ได้ไหม ? 
  • ตอบ : ใช้ได้แน่นอน ขอแค่อย่าลืมใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องก็พอ แต่จะนำมาใช้ลดหย่อนได้เฉพาะในวงเงิน 50,000.- เท่านั้น (ส่วนเกินไม่เกี่ยวนะ)

 

  • ถาม : ใบกำกับแบบกระดาษใช้ได้ไหม ?
  • ตอบ : **ไม่สามารถใช้ได้เลยนะ** ถึงแม้จะเป็นแบบเต็มรูปแบบหรือแบบไหนก็ตาม จะสามารถใช้ได้แค่ใบกำกับแบบ อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นนะ ระวังด้วย ต้องย้ำพนักงานหลายรอบหน่อยก็จะดี~

 

  • ถาม : ช็อปออนไลน์ทำด้วยได้ไหม ?
  • ตอบ : ทำได้หมดเลยทั้งช็อปออนไลน์และหน้าร้าน ขอแค่มีใบกำกับแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็พอแล้ว

 

  • ถาม : ถ้าซื้อของเมื่อวานแต่ลืมออกใบกำกับแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำย้อนหลังหรือขอย้อนหลังได้ไหม ?
  • ตอบ : ไม่ได้นะ ต้องเป็นวันต่อวันเท่านั้น ซื้อวันไหนก็ต้องทำใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์ให้เสร็จเรียบร้อยในวันนั้น รักษาสิทธิ    ตัวเองกันด้วย~

 

👇🏻อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่👇🏻

 

แสดงความคิดเห็น