รวมรถ SUV ใช้ชีวิตได้แบบเต็มสมรรถนะ งบไม่ถึงล้าน ก็เป็นเจ้าของได้!
โดย : MilD
รถ SUV กำลังได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย
มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ต้องจัดสักคันแล้วล่ะ!
รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง รวมมาให้แล้วจ้า
รถครอบครัว หลายคนคงเรียกว่ารถ SUV กันจนติดปาก แต่รู้หรือไม่ว่าชื่อเต็มๆ ของรถ SUV ก็คือ Sport Utility Vehicle ถ้าแปลกันแบบตรงตัวก็คือ "รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูง" นั่นเอง มีความโดดเด่นในแง่ของความโฉบเฉี่ยว และมีความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ใช้งานได้อเนกประสงค์เหมาะใช้งานทั้งในเมือง จะขับไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ได้หมด ทำให้ได้รับความนิยมจากคนใช้รถเยอะ
คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ ก็หันมาใช้รถ SUV กันไม่น้อยเลย เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคากับคุณสมบัติของรถที่ได้มาใช้งาน ถือว่าตอบโจทย์มากเลยล่ะ เพราะตัวเองก็ใช้งานรถ SUV มาได้ 2-3 ปีแล้วเหมือนกัน ส่วนตัวมองว่าขับแล้วสนุกกว่า ได้ความคล่องตัวกว่ารถเก๋งธรรมดา เอ๊ะ! หรือเราจะกลายเป็นสาวก SUV ไปแล้วหว่า 555
เราจะเห็นว่ารถ SUV ในตลาดเมืองไทย มีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้างที่เดียว เริ่มตั้งแต่หลักแสนปลายๆ จนถึงราคาหลายล้านก็มี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยต่างๆ ทั้งแบรนด์ เครื่องยนต์ ขนาดตัวรถ รวมถึงเทคโนโลยีด้วย น่าจะเริ่มเห็นรถ SUV ใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ได้ทยอยปล่อยออกมาแล้ว
สำหรับภายในคอนเทนต์นี้ เราตั้งงบประมาณเอาไว้ที่ 1 ล้านบาท ว่าจะสามารถซื้อรถ SUV รุ่นไหนได้บ้างนะ งั้นลองมาดูกันหน่อย กระซิบบอกเลยว่าเริ่มต้นแค่ 6 แสนปลายๆ เอง ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว! ถึงแม้บางรุ่นดูเหมือนจะไม่ใช่ SUV แต่เค้าบอกว่าใช่ ก็ถือว่าเป็นรถ SUV แล้วกันเนอะ
Toyota Corolla Cross
ราคาเริ่มต้น 959,000 บาท
ถือเป็น Talk of the Town อย่างมาก ในช่วงก่อนจะถึงงาน Motor Show 2020 เพราะได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 63 สำหรับรถยนต์ "Toyota Corolla Cross" มาพร้อมกับสโลแกน A New Journey หลายคนสงสัยว่าแตกต่างจาก Toyota CH-R ยังไง เพราะราคาเปิดตัวใกล้เคียงกันมากๆ เลย เจ้าคันนี้จะมีขนาดที่กว้างและยาวกว่า CH-R ดีไซน์ภายนอกจะดูมีความโตกว่า (ความเห็นส่วนตัวนะ) เทียบกับ CH-R แล้วจะมีความวัยรุ่น ทำให้ทั้งสองรุ่นมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่เหมือนกัน
จุดเด่นของ Toyota Corolla Cross
• เครื่องยนต์ Hybrid 2ZR-FXE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ทำให้มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ส่วนเครื่องยนต์เบนซินเป็นแบบ 2ZR-FBE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว
• ไฟหน้า LED Projector แบบ Hybrid พร้อมมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้ารถแบบอัตโนมัติ
• หลังคา Sunroof เปิดรับแสงหรือลมได้อย่างเต็มที่
• ภายในมีโทนสีแดง Terra Rossa ซึ่งทำให้ดูสวยมากๆ แต่จะมีเฉพาะ 2 รุ่น Top เท่านั้น และขึ้นอยู่กับสีภายนอกรถที่เลือก
• หน้าจอขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อความบันเทิงและรองรับการนำทางได้แบบสบายใจเลย
• พื้นที่บรรจุสัมภาระบริเวณท้ายรถจุได้ถึง 487 ลิตร
• ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แค่เอาเท้าแตะบริเวณด้านล่างของรถ
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
Toyota Corolla Cross มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 9.59 แสนบาท
• 1.8 Sport ราคา 959,000 บาท (ราคาโปรโมชั่น)
• Hybrid Smart ราคา 1.019,000 บาท
• Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
• Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/3eUgnZp
Honda HR-V
ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท
Honda HR-V เรียกว่าครองใจคนใช้รถ SUV มาพักใหญ่แล้ว ถือเป็นรุ่นเชิดหน้าชูตาให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายที่ถล่มทลาย รถสวยอ่าเนาะ ไม่ว่าใครก็อยากใช้ทั้งนั้น เลยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดนี้ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากดีไซน์แล้ว เรื่องระบบความปลอดภัยก็ไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน
จุดเด่นของ Honda HR-V
• มีให้เลือกถึง 5 สี คือ Passion Red Pearl, Platinum White Pearl, Lunar Silver Metallic, Crystal Black Pearl และ Modern Steel Metallic
• เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC 141 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมัน พร้อมเร่งได้ดั่งใจ
• รองรับการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 และมี ECON Mode ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้ประหยัดยิ่งกว่าเดิมอีก
• ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Daytime Running Light
• ภายในห้องโดยสารมีให้เลือกหลากหลายโทนสีตามใจชอบ ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกซื้อ
• หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch
• หน้าจอแสดงผลแบบ ECO Coaching โชว์การขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน จะล้ำไปไหนอะเนี่ย
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
Honda HR-V มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 9.49 แสนบาท
• E ราคา 949,000 บาท
• EL ราคา 1,059,000 บาท
• RS ราคา 1,119,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/2E60d2j
MG ZS
ราคาเริ่มต้น 679,000 บาท
ใครที่มีงบประมาณไม่เยอะมาก แต่อยากขับรถ SUV ก็ต้องเล็งมาที่คันนี้เลยแหละ "MG ZS" ถือเป็นน้องเล็กสุดของ MG ดีไซน์ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ โฉบเฉี่ยวสวยงามเลย แต่พอเห็นราคาก็คือเร้าใจเหลือเกิน เริ่มต้นแค่ไม่ถึง 7 แสนบาทเอง โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีจัดเต็มสไตล์ MG และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นเคย มีให้เลือกถึง 5 สี ก็คือ Scarlet Red, Marina Blue, Arctic White, Black Knight และ Silver Metallic
จุดเด่นของ MG ZS
• เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 15S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi – TECH
• หลังคาแบบ Sunroof เปิดรับลมและแสงแดด แบบไม่มีอะไรมากั้นเลย
• หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth
• ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งสามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย, ผ่านหน้าจอสัมผัส และสมาร์ทโฟน สะดวกสบายแบบขั้นสุด
• ไฟหน้าแบบ Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
• ระบบความปลอดภัยแบบไม่มีกั๊ก ทำให้ทุกการขับขี่สบายใจหายห่วงได้เลย
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
MG ZS มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 6.79 แสนบาท
• 1.5 C ราคา 679,000 บาท
• 1.5 D ราคา 729,000 บาท
• 1.5 X ราคา 789,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/2ZTdgwE
Toyota CH-R
ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
รุ่นนี้เวลาขับไปไหนใครก็ต้องเหลียวมอง ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวเหลือเกิน ถูกใจวัยรุ่นมากๆ เป็นกระแสมาตั้งแต่ก่อนเปิดตัววางขายในไทยแล้ว และยังคงได้รับความนิยมมาถึงทุกวันนี้ ด้วยสีของตัวรถที่แปลกแตกต่างไม่เหมือนใคร และรูปลักษณ์ภายนอกที่สะดุดตา ทำให้มียอดขายสูงสุดในตลาดรถ SUV หลายเดือนทีเดียว มีให้เลือกทั้งรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร และรุ่น Hybrid แต่ข่าวแว่วๆ มาว่า Minorchange ช่วงต้นปี 2021 จะไม่มีรุ่นเบนซิน 1.8 แล้วด้วยนะ เหลือแค่ Hybrid อย่างเดียวเลย
จุดเด่นของ Toyota CH-R
• มีให้เลือกเยอะถึง 7 สีตามใจชอบเลย ได้แก่ Metal Stream Metallic, White Pearl Crystal, Blue Metallic, Radiant Green Metallic, White Pearl Crystal, Attitue Black Mica และ Metal Stream Metallic ขับไปไหนก็ต้องสะดุดตาแน่นอน
• เครื่องยนต์ Hybrid 2ZR-FXE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ ส่วนเครื่องยนต์เบนซินแบบ 2ZR-FBE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เหมือนกับรุ่น Corolla Cross เลย
• หน้าจอมาตรวัดแบบ Optitron แสดงผลได้อย่างสวยงาม
• หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการนำทางและ T-Connect
• สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 ให้ความโฉบเฉี่ยว ทันสมัยยิ่งกว่าเดิม
• ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Full LED พร้อม Daytime Running Light และไฟเลี้ยวแบบ Sequential
• มีระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร ขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค
• EV Mode สำหรับรุ่น Hybrid ใช้พลังงานไฟฟ้า ขับเคลื่อนได้อย่างเงียบสนิท
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
Toyota CH-R มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย เริ่มต้น 9.79 แสนบาท
• 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
• 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
• HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
• HV Hi ราคา 1,159,000 บาท
• HV Hi (KARL LAGERFELD) ราคา 1,219,000 บาท เป็นรุ่น Limited Edition พร้อมชุดแต่งอย่างสวยงาม เพิ่มความโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก จำนวนจำกัดด้วยแหละ บอกเลยว่าโคตรเท่
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/2ONNOlU
Suzuki XL7
ราคาเริ่มต้น 779,000 บาท
Suzuki XL7 ถือเป็นรถ Multi–Dynamic Crossover ที่ทางแบรนด์ตั้งใจมาเจาะตลาด SUV โดยเฉพาะเลย ตอบโจทย์ในแง่ของการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ โดยนำรถรุ่น Ertiga เดิมมายกสูง และปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัยมากกว่าเดิม แต่ขายในราคาที่คุ้มค่ากว่า
จุดเด่นของ Suzuki XL7
• สามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V จำนวน 3 ตำแหน่ง
• เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร K15B 4 สูบ 16 วาล์ว ประหยัดน้ำมันเหมือนเคย
• หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
• คอนโซลหน้ารถสไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วย Carbon Fiber
• ไฟหน้า LED พร้อมระบบ Daytime Running Light ส่วนไฟท้าย LED แบบ Light Guides สวยงามกว่าเดิม
Suzuki XL7 ราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเพียง 779,000 บาท โดยมีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว ไม่มีรุ่นย่อย เลือกได้ง่ายๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบให้เหนื่อย
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/3eWLC6j
Mitsubishi Xpander
ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท
Mitsubishi Xpander ตามสเปคแล้วคาบเกี่ยวว่าจะเป็นรถ MPV หรือ Crossover SUV กันแน่ แต่ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วยแล้วกัน และได้เปิดตัวรุ่นย่อยล่าสุด Xpander Cross โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเดิม และมีปรับดีไซน์บางส่วน และถือเป็นประเภท Urban SUV ขนาด 7 ที่นั่ง สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ ราคาเบาๆ ไม่ได้แรงมาก คำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่อย่างดี มั่นใจพร้อมลุยไปได้ทุกที่ ตอบโจทย์รถอเนกประสงค์ได้ดีมากๆ
จุดเด่นของ Mitsubishi Xpander
• Advanced Dynamic Shield Design ดีไซน์ช่วงหน้ารถที่เป็นเอกลักษณ์ มองเห็นได้กว้างกว่า ทำให้ปลอดภัยมากขึ้นเวลาขับขี่บนท้องถนน
• เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.5 ลิตร 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ช่วยประหยัดน้ำมันกว่าเดิม
• สามารถนั่งได้สูงสุดถึง 7 ที่นั่ง ปรับเบาะได้แบบอเนกประสงค์ อยากบรรทุกสัมภาระมากกว่าเดิมก็ทำได้
• มี Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
• ไฟหรี่แบบคริสตัล LED พร้อมไฟตัดหมอก ส่วนด้านท้ายรถ สปอยเลอร์หลังมาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เพิ่มความโฉบเฉี่ยว
• หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 6.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Bluetooth)
• มีแผงควบคุมปรับอากาศแยก สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แยกจากส่วนหน้ารถได้เลย อยากปรับยังไงก็แล้วแต่เลยจ้า
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
Mitsubishi Xpander มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 7.89 แสนบาท
• GLS-LTD ราคา 789,000 บาท
• GT ราคา 859,000 บาท
• Cross ราคา 899,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/2ZTVr0f
MG HS
ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท
ถือเป็นรุ่นกลางของ MG จะว่าไป MG HS ก็มีความคล้ายคลึงกับ MG ZS อยู่ไม่น้อยเลย พูดถึงภาพรวมของดีไซน์ด้านนอกอ่านะ แต่ความสามารถต้องยกให้นาง เพราะราคาเริ่มต้น 9 แสนกว่า จะธรรมดาไม่ได้เด็ดขาด รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ Scarlet Red, Arctic White, Black Knight และ Silver Metallic คล้ายกับ MG ZS เลย เพราะว่ารถสีฟ้า เฉพาะรุ่น EV เท่านั้น
จุดเด่นของ MG HS
• เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI 5,600 รอบต่อนาที
• คอนโซลหน้ารถเล่นระดับ พร้อมไฟ Interactive Ambient Light ภายในห้องโดยสาร เพื่อสีสันให้มากขึ้น
• ไฟหน้าแบบ LED Projector และ Daytime Running Light ส่วนไฟท้าย Space Light Field และไฟเลี้ยวแบบ Sequential
• ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า Electric Liftgate ใช้งานได้สะดวกสุดๆ
• ดีไซน์ภายในรถแบบ Sport Bucket Seat หนังสีดํา-แดง. หรูหรา สวยงามถูกใจเหลือเกิน
• หน้าจอ Touch Screen ขนาด 10 นิ้ว ใหญ่สะใจ พร้อมรองรับระบบสั่งงาน i-SMART
• หลังคาแบบ Sunroof เปิดรับลมธรรมชาติได้เต็มที่
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
MG HS มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 9.19 แสนบาท โดยราคาในแต่ละรุ่นย่อย จะแตกต่างกัน 1 แสนบาทพอดีเป๊ะ
• MG HS Turbo รุ่น C ราคา 919,000 บาท
• MG HS Turbo รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
• MG HS Turbo รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/32PC7n1
Mazda CX-3
ราคาเริ่มต้น 768,000 บาท
Mazda CX-3 เพิ่งจะเปิดตัวโฉมใหม่ไปเมื่อไม่นานนี่เอง ซึ่งถือว่าเป็นการปรับราคาลดลงเยอะทีเดียว มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว ไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอีกแล้ว สไตล์ก็ยังคงเป็น Mazda อยู่เหมือนเดิม มาพร้อมกับเทคโนโลยี Skyactiv และคงความโฉบเฉี่ยวเอาไว้ไม่เปลี่ยนไป เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าเดิม ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
จุดเด่นของ Mazda CX-3
• เครื่องยนต์ Skyactiv แบบเบนซิน ความจุ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 204 นิวตันเมตร มาพร้อมกับ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด
• ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่าง Daytime Running Light แบบ LED Signature
• หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อผ่าน Mazda Connect พร้อมรองรับ Apple CarPlay
• หลังคา Sunroof แบบไฟฟ้า เปิดได้ง่ายมากๆ (เฉพาะรุ่น 2.0 Style)
• แสดงภาพรอบคันแบบ 360 องศา ไม่ว่ามุมไหนก็เห็นได้หมด พร้อมเซ็นเซอร์แจ้งเตือนด้านหน้าและด้านหลัง
• ให้ความปลอดภัยแบบขั้นสุด ด้วยเทคโนโลยี I-ACTIVSENSE แจ้งเตือนระหว่างขับขี่ให้ระมัดระวังกว่าเดิม
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
Mazda CX-3 มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 7.68 แสนบาท
• 2.0 Base ราคา 768,000 บาท
• 2.0 Comfort ราคา 848,000 บาท
• 2.0 Proactive ราคา 948,000 บาท
• 2.0 Style ราคา 1,048,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/30Gy89A
NISSAN KICKS e-POWER
ราคาเริ่มต้น 889,000 บาท
เป็นรถ Compact SUV ที่น่าจับตามองอย่างมาก สำหรับ NISSAN KICKS e-POWER ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องชาร์จไฟ ล้ำไปอีกจริงๆ คือต้องยอมใจรุ่นนี้เลย แถมราคาก็ถือว่าน่าสนใจเลยสำหรับเจ้าคันนี้ เริ่มต้นไม่ถึง 9 แสนบาท เทียบกับเทคโนโลยีล้ำๆ ที่มาพร้อมกับคันนี้ถือว่าตอบโจทย์ชีวิตในวันนี้ และอนาคตข้างหน้าอีกด้วย
จุดเด่นของ NISSAN KICKS e-POWER
• เครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบแถวเรียง DOHC ขนาด 1.2 ลิตร มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ ขนาด 17 นิ้ว
• ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อม LED Signature Light รองรับการทำงาน Daytime Running Light
• EV Mode รองรับการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า
• หน้าจอแสดงผลการขับขี่ ขนาด 7 นิ้ว พร้อมมาตรวัดแบบเรืองแสง
• หน้าจอความบันเทิง ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Bluetooth) และ Apple CarPlay
• ระบบความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ (Nissan Intelligent Mobility)
• ดีไซน์ภายในสีสันถูกใจ แบบสีทูโทนตัดกันแล้ว สวยงามสุดพลัง ปังมากๆ
*อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันออกไป
NISSAN KICKS e-POWER มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 8.89 แสนบาท
• e-POWER S ราคา 889,000 บาท
• e-POWER E ราคา 949,000 บาท
• e-POWER V ราคา 999,000 บาท
• e-POWER VL ราคา 1,049,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://ppro.pro/2CI4U25
🌈 สรุปให้ก่อนออกรถ 🌈
• รถ SUV มีให้เลือกหลายประเภทเลย ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป เริ่มต้นด้วยการจำกัดงบประมาณที่ต้องการซื้อก่อน ก็จะช่วยให้ตัดสินใจรถที่ชอบ รุ่นที่ใช่ ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่งั้นงบบานปลายแน่นอน
• ลองเปรียบเทียบรถที่สนใจสัก 3 รุ่น แล้วทดลองขับจริง เพราะเวลาใช้งานจริงอาจจะไม่เหมือนที่คิดเอาไว้ก็ได้ ได้ขับเพียงไม่กี่นาทีจะรู้เลยนะว่าคันนี้ตอบโจทย์การขับขี่ของตัวเองมั้ย ราคาคันนึงไม่น้อยเลย ตัดสินใจให้ดีๆ นะจ๊ะ
• ช่วงนี้โปรโมชั่นเยอะทีเดียว ลองดูข้อเสนอของแต่ละค่ายรถ "ลด แลก แจก แถม" แบบไม่มีใครยอมใคร ดอกเบี้ยขาลงอีก จนอาจทำให้ลังเลใจ หวั่นไหวไม่น้อย คนที่มีรถใช้อยู่แล้วยังหวั่นๆ คิดดู ถ้าพร้อมก็ถอยมาใช้ได้เลย
โดย MilD
รักที่จะเรียนรู้ อยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพราะไม่ว่าโปรโมชั่นจะอยู่ที่ไหน เราต้องตามหามันให้เจอ <3
บทความ ที่คุณอาจจะสนใจ